เคยเป็นกันไหม เวลาที่ต้องพูดคุยกับฝรั่ง เรามักจะพูดขึ้นต้นบทสนทนาด้วยประโยค My English is no good. เพื่อเป็นการบอกคู่สนทนาของเราให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะเผื่อคุยแล้วไม่เข้าใจที่เราพูด เพราะภาษาอังกฤษของฉันไม่ดีหรือเราพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง Show แต่จริงๆ แล้ว เราไม่ควรใช้ประโยค My English is no good เพราะผิดแกรมม่าเต็มๆ ประโยคที่ถูกต้อง คือ “My English isn’t good.” ภาษาอังกฤษฉันไม่ดี อยู่ในระดับปานกลาง พูดได้บางคำ แต่งประโยคไม่ค่อยได้ รู้คำศัพท์ไม่เยอะ ให้ใช้ 2 ประโยคนี้ได้เลย My English isn’t that good หรือ My English isn’t so great. ภาษาอังกฤษของฉันไม่ค่อยดี (อยู่ในระดับแค่พอสื่อสารได้นิดหน่อย) แต่แทนที่เราจะใช้ประโยคข้างต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น ให้เราเปลี่ยนมาใช้ประโยคเหล่านี้ดีกว่าเพื่อแสดงว่าฉันอยากคุยกับคุณนะถึงภาษาอังกฤษของฉันจะไม่ค่อยดีแต่ฉันจะพยายาม เราจะใช้ประโยคเหล่านี้ My English isn’t so great but I’ll try. ภาษาอังกฤษของฉันไม่ดีมาก แต่ฉันจะพยายามนะ I’m still learning English I may make a few mistakes. ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่นะ ฉันอาจจะพูดผิดบ้างเล็กน้อย I’m not good at speaking English, please forgive me if I make a few mistakes. ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ขอโทษนะฉันอาจจะพูดผิดๆ ถูกๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง แต่ถ้าพยายามหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา รับรองว่าเราจะไม่ต้องใช้ประโยคเหล่านี้แน่นอนค่ะ 🙂 หลายคนอาจจะเคยเป็น ที่เมื่อต้องพูดคุยกับชาวต่างชาติแต่ไม่มั่นใจในสกิลภาษาของตนเอง เลยทำให้เกิดประโยค “My English is no good” เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้เผื่อคุยแล้วไม่เข้าใจที่พูด แต่ความจริงในประโยคนี้ดันผิดหลักแกรมม่า เพราะที่ถูกต้องนั้นต้องพูดว่า “My English is not/isn’t good. (ภาษาอังกฤษของฉันไม่ดี)” ถึงจะเป็นประโยคที่ทำให้เข้าใจง่ายขึ้น นอกจากประโยค “My English isn’t good” แล้วนั้น ยังมีหลายประโยคที่นำมาใช้ แทนที่จะบอกว่าระดับภาษาของผู้พูดอยู่ในระดับไหน เพราะบางทีผู้พูดอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่ออธิบายว่าภาษาอังกฤษของตัวเองนั้น isn’t good, bad หรือ terrible เพื่อที่จะได้สื่อออกมาให้น่าสนใจมากขึ้น จึงควรสื่อสารให้ผู้ฟังรู้ว่าถึงแม้เราจะจะพูดไม่เก่ง อยากจะที่พูดและเรียนรู้เพิ่มเติมเหมือนกันนะ ตัวอย่าง I’m working on improving my English. (ฉันกำลังพยายามที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษของฉัน) English is not my first language, so please excuse any mistakes. (ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรกของฉัน ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วย) I’m not fluent in English, but I will keep practicing. (ฉันพูดภาษาอังกฤษยังไม่คล่อง แต่ฉันจะไม่หยุดฝึกฝน) หรือถ้าหากไม่เข้าใจในสิ่งที่คู่สนทนาสื่อสารออกมา หรือต้องการให้อีกฝ่ายพยายามทำความเข้าใจกับเรามากขึ้น สามารถใช้ประโยคเหล่านี้ได้เลย ตัวอย่าง Could you say that again? / Could you repeat that? (รบกวนคุณพูดอีกครั้งได้ไหม?) Could you speak a little slower? I couldn’t quite catch it. (รบกวนคุณพูดช้าๆได้ไหม? ฉันฟังไม่ค่อยทันเท่าไร) Could you tell me what this means? (รบกวนคุณบอกความหมายของสิ่งนี้หน่อยได้ไหม?) แทนที่เราจะโฟกัสว่าภาษาอังกฤษเราไม่เก่งนั้น จะทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเลย เพราะฉะนั้น อย่า ยึดติดกับความจำที่ว่าภาษาอังกฤษเราไม่ดี หรือ เราพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ควรพูดว่า จะพยายามตั้งใจเรียนรู้ให้มากขึ้น และ ให้เข้าใจถ้าอาจจะพูดผิดไปบ้าง หรือ อย่ากลัวที่เรียนรู้และตั้งคำถามเมื่อสงสัย เพราะจะทำให้เราเรียนรู้เพิ่มเติมจากคนอื่นได้มากขึ้นนั่นเอง
ถ้าคนที่สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่ว สำนวนนี้อาจไม่ต้องใช้ แต่ถ้าพูดได้นิดหน่อย อยากจะบอกฝรั่งว่า ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง จะพูดบอกเขาว่าอย่างไรดี ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งสำนวนที่จะบอกว่าฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง หรือพูดได้นิดหน่อย มีหลายสำนวนที่สามารถเลือกนำไปใช้ได้ดังนี้ ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง
ฉันพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย
ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น
ถ้าเราบอกเขาว่า “ฉันพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย” เราก็จะบอกให้คู่สนทนาพูดช้าๆ เพื่อเราจะได้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้สำนวนดังนี้ ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง I don’t speak English that well. ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเท่าไหร่ I speak English well. / He speaks English well. My English isn’t that good. ภาษาอังกฤษฉันไม่ค่อยดี I’m still practicing. ฉันยังฝึกอยู่ Slow down, please. โปรดพูดช้าลงหน่อย Could you please speak more slowly? Could you please speak slower? คุณพูดให้ช้าลงหน่อยได้มั้ย I can’t keep up with what you’re saying. ฉันฟังที่คุณกำลังพูดไม่ทัน You’re speaking too fast. คุณกำลังพูดเร็วเกินไป |