พรบ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตจํานวนมาก การประกอบกิจการของประชาชนจะต้องขออนุญาตจากส่วนราชการหลายแห่ง อีกทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตบางฉบับไม่ได้กําหนดระยะเวลา เอกสารและหลักฐานที่จําเป็น รวมถึงขั้นตอนในการพิจารณาไว้ทําให้เป็นอุปสรรคต่อประชาชนในการยื่นคําขออนุญาตดําเนินการต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้มีกฎหมายกลางที่จะกําหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต และมีการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมเพื่อรับคําร้องและศูนย์รับคําขออนุญาต ณ จุดเดียว เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขออนุญาตซึ่งจะเป็นการอํานวยความสะดวกแก่ประชาชน จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินั้น ประโยชน์ของ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวก 1. ช่วยอำนวยความสะดวก ประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน 2. ลดความยุ่งยากซับซ้อนและลดระยะเวลาในการติดต่อราชการ ซึ่งเป็นการลดเงื่อนไขที่นำไปสู่การเรียกรับสินบน ของข้าราชการ จาก ประชาชน พ่อค้า นักธุรกิจ 3. ลดเงื่อนไขที่สร้างความไม่เท่าเทียมในการแข่งขันทางการค้า 4. ช่วยให้สามารถใช้ศักยภาพของระบบสารสนเทศ (IT.) ที่รัฐได้ลงทุนไปแล้วในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ประมาณ 4 พันล้านบาท อย่างคุ้มค่า 5. สร้างความน่าเชื่อถือในการติดต่อลงทุนให้กับนักลงทุนต่างชาติ ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็ปไซต์ http://www.thailocalmeet.com พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาติของทางราชการ พ.ศ.2558 กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
1) การขอรับท่อนพันธุ์หม่อน กิ่งชำหม่อน หม่อนชำถุงและไข่ไหมพันธุ์ดี หน่วยงานเจ้าของกระบวนการ : สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ : บัตรประจำตัวประชาชน ระยะเวลาบริการ : 30 นาที ค่าธรรมเนียม : 1) ท่อนพันธุ์หม่อน ค่าธรรมเนียม 1 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อ 10 ท่อน) 2) กิ่งชำ ค่าธรรมเนียม 1 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อต้น) 3) หม่อนชำถุง ค่าธรรมเนียม 3 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อถุง) 4) ไข่ไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้าน ค่าธรรมเนียม 10 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อแผ่น) 5) ไข่ไหมพันธุ์ไทยลูกผสม ค่าธรรมเนียม 30 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อแผ่น) 6) ไข่ไหมพันธุ์ลูกผสม ค่าธรรมเนียม 120 บาท หมายเหตุ (ราคาต่อแผ่น) 2) การให้บริการตรวจประเมินและให้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน (กรณีขอการรับรองครั้งแรก/ต่ออายุ) หน่วยงานเจ้าของกระบวนการ : สำนักอนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ : เอกสารยืนยันตัวตนออกโดยหน่วยงานภาครัฐ 1) บัตรประจำตัวประชาชน 2) สำเนาทะเบียนบ้าน 3) หนังสือรับรองนิติบุคคล เอกสารอื่นๆ 1) รายชื่อและเลขบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มหรือลูกไร่ 2) ภาพถ่ายแสดงสถานที่ผลิตเครือมืออุปกรณ์การผลิตผ้าไหม 3) หนังสือรับรองการผลิตและจ่ายรังไหม (แบบ กมม.07) (เฉพาะกรณี ซื้อเส้นไหมที่ผู้ขายเป็นผู้ผลิตเอง) 4) หนังสือการรับรองการจำหน่ายเส้นไหม (แบบ กมม.08) (เฉพาะกรณี ซื้อเส้นไหมที่ผู้ขายไม่ได้เป็นผู้ผลิต ) 5) ใบเสร็จรับเงินการซื้อขายเส้นไหมหรือใบส่งของ ระยะเวลาให้บริการ : 8 วันทำการ ค่าธรรมเนียม : คำขอที่ผลิตผ้าไหมแต่ละชนิดไม่เกิน 1,000 เมตร ค่าธรรมเนียม 100 บาท คำขอที่ผลิตผ้าไหมแต่ละชนิดเกินกว่า 1,000 เมตร แต่ไม่เกิน 5,000 เมตร ค่าธรรมเนียม 500 บาท คำขอที่ผลิตผ้าไหมแต่ละชนิดเกินกว่า 5,000 เมตร ค่าธรรมเนียม 1,000 บาท 3) การให้บริการตรวจประเมินและให้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน (กรณีที่ได้รับการรับรองแล้ว) หน่วยงานเจ้าของกระบวนการ : สำนักอนุรักษ์และตรวจสอบมาตรฐานหม่อนไหม รายการเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ : เอกสารยืนยันตัวตนออกโดยหน่วยงานภาครัฐ 1) บัตรประจำตัวประชาชน 2) สำเนาทะเบียนบ้าน 3) หนังสือรับรองนิติบุคคล เอกสารอื่นๆ 1) หนังสือรับรองการผลิตและจ่ายรังไหม (แบบ กมม.07) (เฉพาะกรณี ซื้อเส้นไหมที่ผู้ขายเป็นผู้ผลิตเอง) 2) หนังสือการรับรองการจำหน่ายเส้นไหม (แบบ กมม.08) (เฉพาะกรณี ซื้อเส้นไหมที่ผู้ขายไม่ได้เป็นผู้ผลิต ) 3) ใบเสร็จรับเงินการซื้อขายเส้นไหมหรือใบส่งของ ระยะเวลาให้บริการ : 6 วันทำการ ค่าธรรมเนียม : ไม่มีค่าธรรมเนียม |