กลุ่มประเทศที่อยู่ในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “อาเซียน” นั้นในอดีตแม้จะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกันทว่าการให้ความร่วมมือหรือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันนั้นยังถือว่าไม่ค่อยมีมากนัก จนกระทั่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้ยินข่าวว่าประเทศในแถบอาเซียนมีการประชุมหารือและกำหนดกันว่าจะทำการรวมตัวกันเพื่อสร้างอาณาจักรหนึ่งทางเศรษฐกิจ เป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เจริญรุดหน้าเทียบเท่ากับประเทศมหาอำนาจในทวีปเอเชีย นั่นจึงทำให้เกิด Asean Economic Community หรือแปลเป็นภาษาไทยก็คือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเมื่อมีการรวมตัวแล้วผลประโยชน์หรือข้อดีที่ประเทศแถบอาเซียนจะได้รับประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่าการรวมตัวเป็นปึกแผ่นของประเทศแถบอาเซียนนั้นสามารถสร้างประโยชน์ในนานาประเทศมากมาย จึงไม่แปลกใจที่การรวมตัวครั้งนี้จะมีแต่ข้อดีและสร้างประโยชน์มากมายมหาศาลแบบนี้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่การเป็นตลาดและเป็นฐานการผลิตเดียวที่สามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่นได้ โดยมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรี ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียน (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม หรือ CLMV) เพื่อลดช่องว่างของระดับการพัฒนา และเพื่อช่วยยกระดับศักยภาพของกลุ่มประเทศเหล่านี้ ในการเข้าสู่กระบวนการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนได้ดียิ่งขึ้น ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน(ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC) ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน มีเป้าหมายคือการยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกด้านให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ในสิ่งแวดล้อมที่ดีมีความมั่นคงทางสังคม พร้อมรับมือกับผลกระทบอันเนื่องมาจากการรวมตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน มีสำนึกความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม และมีสำนึกร่วมในอัตลักษณ์ของภูมิภาค เพื่อสร้างให้เกิดสำนึกการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มีความรับผิดชอบ อันนำไปสู่การสร้างให้ประชาคมอาเซียนเป็นสังคมแห่งความห่วงใยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยมีแผนงานที่สำคัญ(ไพรสิทธิ์ ศรีสุทธิเกิดพร , ๒๕๕๕ ; ๖๐ - ๖๒)] ได้แก่ ๑) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Development) ๒) การคุ้มครองและสวัสดิการสังคม (Social Welfare and Protection) ๓) สิทธิและความยุติธรรมทางสังคม (Social Justice and Rights) ๔) ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Ensuring Environmental Sustainability) ๕) การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน (Building ASEAN Identity) 3.ASEANมีการขยายตัวของความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ อีกหรือไม่ 3.1อาเซียน+๓ (ASEAN+3) เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศนอกกลุ่ม ๓ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออก และเพื่อนำไปสู่การจัดตั้งชุมชนเอเชียตะวันออก (East Asian Community) โดยให้อาเซียนและกระบวนการต่างๆ ภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน+๓เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือใน ๕ ด้าน ได้แก่ ๑)ด้านการเมืองและความมั่นคง ๒) ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงิน ๓)ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลกและการ พัฒนาอย่างยั่งยืน ๔)ด้านสังคม วัฒนธรรม ๕)การพัฒนาด้านการส่งเสริมกรอบการดำเนินงานในด้านต่างๆ และกลไก ต่างๆ ในการติดตามผล 3.2 อาเซียน+๖(ASEAN+6) “อาเซียน+๖” เป็นการรวมกลุ่มกันของ ๑๖ประเทศ ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ๑๐ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม, พม่า, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ลาว, สิงคโปร์, ไทย และเวียดนาม รวมกับประเทศที่อยู่นอกอาเซียนอีก ๖ประเทศ คือ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งหากนับจำนวนประชากรในกลุ่มนี้แล้ว จะพบว่า อาเซียน+๖มีประชากรรวมกันกว่า ๓ พันล้านคน หรือคิดเป็น ๕๐% ของประชากรโลกเลยทีเดียว ประโยชน์ของอาเซียน+๖ จากรายงานการศึกษาของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๑ และ พ.ศ.๒๕๕๒ พบว่า การจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศอาเซียน+๖(CEPEA) จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประเทศเอเชียตะวันออก เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๒.๑๑% หรือหากวัดเฉพาะประเทศสมาชิกอาเซียนแล้วค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จะเพิ่มขึ้น ๓.๘๓% และเมื่อดูเฉพาะของประเทศไทยแล้ว จะพบว่า ค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะเพิ่มขึ้นถึง ๔.๗๘% เลยทีเดียว ในขณะที่ประเทศ+๖มีค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้น ๒.๖% นอกจากนี้ อาเซียน+๖จะช่วยปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศสมาชิก ดังนี้ - ขยายอุปสงค์ภายในภูมิภาค (Domestic demand within the region) - เพิ่มประสิทธิผลทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเน้นความชำนาญในการผลิตสินค้าของแต่ละประเทศ (Product specialization) - พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีการเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศสมาชิก โดยเฉพาะเรื่อง Logistics ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้ จะนำไปสู่การลดช่องว่างของระดับการพัฒนาในแต่ละประเทศสมาชิก รวมถึงการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 4.อาเซียนสำคัญต่อประเทศไทยอย่างไร : สี่คำตอบสู่ประชาคมอาเซียน กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดทำคู่มือฉบับประชาชน สำหรับเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๕๕๘ (๒๕๕๖)สรุปข้อมูลบางส่วนได้ ดังนี้ 4.1 เหตุใดประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน? “ไทยเล็งเห็นความสำคัญของการรวมตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคมาตั้งแต่แรก เพื่อเสริมสร้างอำนาจต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ” โดยในปี 2535 อดีตนายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน ได้เสนอให้อาเซียนร่วมมือในการเปิดเสรีการค้าอาเซียน (AS€AN PREE TRADE Area : APTA) เพื่อส่งเสริมปริมาณการค้าในภูมิภาค ลดต้นทุนในการผลิตและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การรวมตัวทางเศรษฐกิจในอาเซียนมีความสำคัญกับประเทศไทยมากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2545 อาเซียนกลายเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของไทย (ปี 2556 ประมาณร้อยละ 26) และไทยได้เปรียบดุลการค้าตลอด การที่เข้าสู่ A€C จะกลายเป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน และการขยายการรวมตัวของอาเซียนกับประเทศนอกภูมิภาค โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งจะทำให้เกิดตลาดที่มีประชากรรวมกว่า 3 พันล้านคน หรือประมาณร้อยละ 50 ของประชากรโลกทั้งหมด นอกจากนี้ ไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนที่เอื้อให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคอันจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมกับคนไทยในส่วนต่างๆของประเทศ 4.2 เมื่อรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้วจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน ได้อย่างอิสระเสรีจริงหรือ ? “ไม่จริง”เนื่องจากในกรอบอาเซียนจะมีการเจราการเคลื่อนย้ายแรงงานประเภทวิชาชีพ (แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล วิศกร สถาปนิก บัญชี นักสำรวจและการท่องเที่ยว) และบุคลากรระดับสูง (เช่น ผู้บริหาร ผู้ชำนาญการหรือผู้เชี่ยวชาญ) ในลักษณะชั่วคราวที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการและการลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่ การให้คนงานต่างด้าวเข้ามาหางานทำขอสัญชาติหรือถิ่นที่อยู่และ ไม่ใช่ การอพยพแรงงานแบบถาวรในกิจการที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น การเกษตร หรือประมง ทั้งนี้ การเคลื่อนย้ายแรงงานประเภทวิชาชีพและบุคลากรระดับสูงดังกล่าว เป็นเพียงการยอมรับร่วมในคุณสมบัติของแต่ละวิชาชีพ (Mutual Recognition Agreement : MRA ) ไม่ได้เป็นการอนุญาตให้เข้ามาทำงานได้เลย ยังคงต้องเป็นไปตามกฎระเบียบภายในของแต่ละสภาวิชาชีพและแต่ละประเทศ แลไม่ห้ามหากประเทศใดจะมีการกำหนดมาตรการที่จำเป็นสำหรับกำกับการเข้าเมืองของบุคคลเหล่านี้ กลุ่มวิชาชีพของไทยที่อาเซียนได้มีการจัดทำข้อตกลงร่วมจะมีโอกาสมากขึ้นในการเข้าไปทำงานในประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นที่ขาดแคลนแรงงานประเภทนั้น เช่น บรูไน ฯ ขาดแรงงานวิชาชีพประเภท แพทย์ พยาบาล นักบัญชี และ IT อินโนนีเซียขาดแรงงานวิชาชีพประเภท แพทย์ ทันตแพทย์ และนักบัญชี ส่วนกัมพูชาขาดแรงงานวิชาชีพประเภท วิศกร ช่างสำรวจและITเป็นต้น
• ตลาดส่งออกเปิดกว้างมากขึ้นจากการที่อาเซียนมีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน • ส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้นจากภาษีที่ลดลง สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ข้าว น้ำตาล นมและผลิตภัณฑ์ สันสำปะหลัง ไก่แปรรูป อาหารแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร เป็นต้น • สินค้าวัตถุดิบนำเข้าราคาถูกลง ทำให้ลดต้นทุนการผลิตเสี่ยงเพื่อการส่งออก เช่น ปลา และสัตว์น้ำ • สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในประเทศ • ส่งเสริมการพัฒนาและการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตรและอาหารของไทย • เสริมสร้างโอกาสในการลงทุน เช่น การขยายกิจการ หรือการย้ายขยายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ยังคงมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าไทย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตรและอาหารของไทย • สนับสนุนเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของไทยในอาเซียน ในการกระจายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเกษตรแปรรูป • สนับสนุนการพัฒนาและเพิ่มคุณภาพบุคลากร / แรงงาน • ลดช่องว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และเพิ่มอำนาจการต่อรองของผู้บริโภค 5.ประชาคมอาเซียนผลกระทบต่อสังคมไทยอย่างไร การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน มีเป้าหมายที่จะให้ประเทศสมาชิกมีความเชื่อมโยงกันในทุกๆ ด้าน โดยให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง และสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมไทยในหลายด้าน ดังนี้ 5.1 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง 5.1.1 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาประชาคมอาเซียน จากการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถสรุปผลกระทบในด้านบวกและด้านลบของประชาคมอาเซียนทางด้านเศรษฐกิจ ดังนี้ ด้านบวก - โอกาสในการประกอบอาชีพที่เปิดกว้าง มีการจ้างงาน การขยายตัวของการลงทุน ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน - สินค้าจากต่างประเทศที่มีคุณภาพดี ราคาต่ำเข้ามาในตลาดไทยทำให้ประชาชนมีโอกาสในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น - เกิดการพัฒนาสินค้าและศักยภาพการแข่งขันในพื้นที่สูงขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการผลิตสินค้าใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาด - ก่อให้เกิดความร่วมมือทางการค้าและการบริการ ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งในด้านอำนาจการต่อรอง และการขับเคลื่อนทางการค้าและทางเศรษฐกิจ - เกิดตลาดขนาดใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งจะสร้างประโยชน์สูงสุดทางด้านการผลิต การค้า และการลงทุน - เกิดการขยายตัวทางการค้าและการลงทุน จากการยกเลิกอุปสรรคด้านภาษีหรือมาตรการทางการค้า รวมทั้งการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรร่วมกัน - ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองจากการบริโภคสินค้าและบริการ จากข้อตกลงอาเซียน - การสร้างเครือข่ายการผลิต และการถ่ายทอด แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ทันสมัยระหว่างกัน - การได้รับประโยชน์จากระบบโลจิสติกส์ที่มีสะดวกและราคาที่ถูกลง จากความร่วมมือทางการค้า และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - การพัฒนาการท่องเที่ยวจาการเดินทางที่สะดวกขึ้น และการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคของไทย ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ - การเคลื่อนย้ายฐานการผลิต ทำให้สินค้าภายในประเทศถูกตีตลาด ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานเกิดปัญหาการว่างงานการถูกเลิกจ้าง และการเปลี่ยนอาชีพ - การเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจ มากกว่าที่จะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกันของประเทศสมาชิก - การเป็นคู่แข่งทางการค้า และการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลาย นำไปสู่การกดดันราคาสินค้า และการปรับตัวของผู้ประกอบการ -นโยบายของรัฐบาลไทยด้านค่าแรงขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตในประเทศสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการย้ายฐานการผลิตในประเทศ - กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการในชุมชน จะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในชุมชนเสียเปรียบด้านเงินทุน และการแย่งการตลาด 5.1.2 ผลกระทบด้านสังคม การพัฒนาประชาคมอาเซียน จากการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถสรุป ผลกระทบในด้านบวกและด้านลบของประชาคมอาเซียนทางด้านสังคม ดังนี้ ด้านบวก - ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม เน้นความร่วมมือและการทำกิจกรรมร่วมกันของประชาชน - ชุมชนมีเกิดการเรียนรู้ในการปกป้องผลประโยชน์และสิทธิของชุมชน - เกิดองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกและองค์กรเครือข่ายต่างๆ - มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน - มีความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูลด้านการสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติจากธรรมชาติ - เกิดกระแสการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง - มีการใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น ด้านลบ - ผลกระทบด้านแรงงานข้ามชาติ ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และการ แพร่กระจายของโรคระบาด - การใช้แรงงานเด็กที่อาจเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการแข่งขันทางการค้าที่สูงขึ้น - การประท้วงของเกษตรกรจากการถูกตีตลาดสินค้า - เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ของเสียและมลพิษจากการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรม - การพัฒนาเป็นสังคมเมือง ทำให้ประชาชนเกิดความเป็นปัจเจกชน มีความรู้สึกแบ่งแยก ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจและความเอื้ออาทรต่อกัน - เกิดชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม - มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ศาสนา และเชื้อชาติ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอัตลักษณ์ร่วมกันของอาเซียน 5.1.3 ผลกระทบด้านการเมืองและความมั่นคง การพัฒนาประชาคมอาเซียน จากการสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถสรุป ผลกระทบในด้านบวกและด้านลบของประชาคมอาเซียนทางด้านการเมืองและความมั่นคง ดังนี้ ด้านบวก - สิทธิ และเสรีภาพของประชาชน และชุมชน จะได้รับการปกป้องให้ดีขึ้น เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการปกป้องผลประโยชน์ของชุมชนตนเอง -ลดข้อขัดแย้งต่างๆ ในภูมิภาค โดยการจัดทำข้อตกลงและกลไกในการแก้ปัญหาและมาตรการป้องกันความขัดแย้ง ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ - ปัญหาความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้แก่ ปัญหา แรงงานข้ามชาติ ปัญหาชุมชนชาวต่างชาติในภูมิภาคต่างๆ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด การค้าอาวุธและการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 5.2 ตัวอย่างผลกระทบต่องานพัฒนาชุมชน 5.2.1 การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากการวิเคราะห์พบว่าประชาคมอาเซียนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ดังนี้ ด้านบวก - ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงตลาด แหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ และการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับผู้ประกอบการ - การขยายความร่วมมือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันของผู้ประกอบการ OTOP - ทำให้ตลาดการค้าการขายสินค้า OTOP เกิดการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เช่น หมู่บ้าน OVP การท่องเที่ยวและบริการ, สินค้าแปรรูปทางการเกษตร และสินค้าประเภทอาหารเป็นต้น - เป็นการเผยแพร่และสืบทอดเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยโดยผ่านผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ไปสู่ภูมิภาคอาเซียนเช่น การมีตราสัญญาลักษณ์สินค้า OTOP ไทย เป็นต้น - เป็นการสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการสินค้า OTOP ให้สามารถแข่งขันในตลาดภูมิภาคอาเซียนให้มีมาตรฐานระดับสากล - ผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่กระแสตลาดกำลังต้องการบริโภค เช่น สินค้าการส่งเสริมสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ขาดการกำหนดแนวทางการเปิดตลาดสินค้า OTOP ของไทยที่ชัดเจนไปสู่ตลาดประชาคมอาเซียน -ขาดการกำหนดแนวทางความเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างเครือข่ายผู้ประกอบการ OTOP -ขาดความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายการค้าระหว่างประเทศทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการ OTOP - สินค้า OTOP ของไทย และสินค้า OTOP ของประเทศในสมาชิกประชาคมอาเซียน มีลักษณะผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงและใกล้เคียงกันมากเช่น ผ้าไหม, สินค้าทางการเกษตร เป็นต้น 5.2.2 การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากการวิเคราะห์พบว่าประชาคมอาเซียนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ ด้านบวก - เป็นโอกาสในการเป็นผู้นำหรือต้นแบบในการใช้ด้านแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในภูมิภาคอาเซียน - เป็นโอกาสในการขยายฐานการเรียนรู้ของชุมชนที่ตามเป็น Best Practice - ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสามารถเป็นภูมิคุ้มกันแก่ชุมชนในกระแสบริโภคนิยม และทุนนิยม ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ - วิถีการดำเนินชีวิตตามแนวทางทุนนิยม หลั่งไหลเข้าสู่สังคมไทยอย่างรวดเร็ว ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์จากสื่อต่างๆ ทำให้ประชาชนมีพฤติกรรมเลียนแบบ
และมีค่านิยมในการดำเนินชีวิตที่ฟุ่มเฟือย 5.2.3 การพัฒนาทุนชุมชน จากการวิเคราะห์พบว่าประชาคมอาเซียนมีผลกระทบต่อการดำเนินงานการพัฒนาทุนชุมชน ดังนี้ ด้านบวก - เป็นโอกาสของการแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำของการบริหารจัดการของทุนชุมชนในประเทศภูมิภาคประชาคมอาเซียน - มีทุนชุมชนไหลเวียนเข้าสู่ภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมาตรการเปิดตลาดเสรีการค้า - การพัฒนาทุนชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ - วิถีชีวิตแบบคนเมือง ตลอดจนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แพร่กระจายเข้าไปในชุมชน ทำให้ทุนชุมชนในชนบทซึ่งเป็นพื้นฐานความเข้มแข็งของชุมชนลดลง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชนที่เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และผูกพันกันเป็นชุมชน ลดลงตามไปด้วย - ทุนชุมชนบางประเภทอาจจะไหลออกนอกประเทศ เช่น แรงงานฝีมือด้านช่างก่อสร้าง เป็นต้น - ทุนชุมชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอาจถูกคุกครามและถูกทำลายเพิ่มขึ้น เช่น พื้นที่ทางการเกษตรลดน้อยลงกลายเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมหรือกลายเป็นชุมชนเมือง เป็นต้น การเข้าร่วมประชาคมอาเซียนส่งผลต่อสังคมไทยเป็นอย่างมาก จำเป็นที่ผู้นำชุมชนต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในส่วนของตัวผู้นำโดยตรง ตลอดจนสร้างสรรค์ชุมชนให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจะทำให้สังคมไทยได้รับประโยชน์จากงานด้านต่างๆของประชาคมอาเซียนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็สามารถปกป้องตัวเองจากผลลบที่อาจเกิดจากประชาคมอาเซียนได้อย่างดีด้วยเช่นกัน ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่าเวลานี้ ผู้นำชุมชนตระหนักและเห็นความสำคัญของการเตรียมตัวและสร้างความพร้อมให้กับตนเองและชุมชน และหาทางผลักดันให้เกิดการเตรียมความพร้อมในชุมชนแล้วหรือยัง คำตอบของคำถามนี้อยู่ที่ผู้นำชุมชนทุกคน เพราะท่านคือผู้นำคนสำคัญของชุมชน. |