วันนั้นของเดือนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของผู้หญิงเราอ่อนแอกว่าปกติ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเป็นไข้ไม่สบายในช่วงมีประจำเดือน ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้ดี เพราะอาหารบางประเภทอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง Show 1.ไอศครีมและหวานเย็น ขนมหวานที่แสนอร่อยเหล่านี้มีความเย็นจัด เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง ทำให้เสียสมดุลส่งผลให้อาการป่วยทรุดหนักลง 2.ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น สับปะรดและแตงโมมีฤทธิ์เย็น ไม่ควรรับประทานในช่วงที่มีประจำเดือน การรับประทานมากเกินไปจะทำให้ประจำเดือนมามากขึ้น ส่งผลให้อาการป่วยหายช้าลงอีกด้วย 3.แอลกอฮอล์ แม้ว่าแอลกอฮอล์อาจช่วยระงับอาการปวดประจำเดือนได้ แต่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติและยังเพิ่มระดับฮอโมนเอสโตรเจนให้เพิ่มขึ้นด้วยทำให้อาการปวดประจำเดือนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้แอลกอฮอล์จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ทำให้อาการป่วยหายช้าลงไปอีก 4.เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ชา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน จะทำให้ความดันเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ ในช่วงที่มีอาการควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทนี้จะดีกว่า 5.อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ฟาสต์ฟู้ด เบค่อน ของหมักดอง มีส่วนผสมของวัตถุกันเสียและสารเคมีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สิ่งเหล่านี้จะรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนให้ทำงานผิดปกติ ในช่วงเวลานี้ควรหลีกเลี่ยงไปรับประทานอาหารทำเองที่บ้าน โดยเน้นผักสดผลไม้สดที่มีวิตามินและเกลือแร่ เพื่อช่วยรักษาอาการเจ็บให้หายเร็วยิ่งขึ้น 6.อาหารทอด อาหารทอดและขนมกรุบกรอบทั้งหลาย เต็มไปด้วยไขมันทรานส์หรือน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน ซึ่งไปเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้อารมณ์แปรปรวนและทำให้เกิดอาการไม่สบายตัวมากยิ่งขึ้น 7.ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำนม ครีม และชีสเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอะราคิโดนิกสูงซึ่งกระตุ้นให้ปวดประจำเดือนมากขึ้น ในขณะมีประจำเดือนสามารถเลี่ยงไปดื่มนมอัลมอนด์ หรือบัตเตอร์มิลค์แทนได้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ 8.อาหารที่มีโซเดียมสูง โซเดียมอยู่ในรูปของเกลือแกง หรือแม้แต่ผงชูรสก็มีโซเดียมสูงเช่นกัน การบริโภคอาหารประเภทนี้เป็นประจำจะส่งผลให้การควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกายผิดปกติ รวมถึงประจำเดือนไม่ปกติเพราะระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ร่างกายกักเก็บน้ำมากเกินไปทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ไม่สบายตัวมากขึ้น ในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน ควรให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ นอกจากหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารต้องห้ามแล้ว ก็ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยให้หายเร็วขึ้น ในระหว่างเป็นประจำเดือน ร่างกายของเพศหญิงมักเกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เช่น อารมณ์แปรปรวน ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้อง หิวบ่อย จึงอาจเกิดข้อสงสัยว่า เป็นประจำเดือนห้ามกินอะไร และควรกินอะไร เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ โดยปกติ เมื่อเป็นประจำเดือน ผู้หญิงควรงดการบริโภคอาหารรสเค็ม อาหารรสจัด ของหวาน และเนื้อแดง เนื่องจากอาจทำให้อาการระหว่างมีประจำเดือนแย่ลงได้ แต่ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทปลา ผลไม้ ดาร์กช็อกโกแลต และผักใบเขียวแทน เพื่อชดเชยธาตุเหล็กที่ร่างกายสูญเสียไปและเพื่อช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ระหว่างเป็นประจำเดือน เป็นประจำเดือนห้ามกินอะไรเมื่อเป็นประจำเดือน ผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจส่งผลให้อาการต่าง ๆ ระหว่างมีประจำเดือนแย่ลง เช่น ปวดประจำเดือน ท้องอืด ปวดหัว ท้องเสีย อารมณ์แปรปรวน โดยอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง อาจมีดังนี้
อาหารที่ควรกินในช่วงเป็นประจำเดือนเป็นประจำเดือนห้ามกินอะไร เมื่อเป็นประจำเดือน ควรบริโภคอาหารต่อไปนี้ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่เกิดจากการมีประจำเดือน ผักต่างผักต่าง ๆ การเสียเลือดประจำเดือน ทำให้ระดับธาตุเหล็กในร่างกายลดลง ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ หรือสับสน ช่วงที่เป็นประจำเดือนจึงควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เช่นผักโขม ถั่วแขก กะหล่ำปลี บร็อกโคลี จากงานวิจัยในหัวข้อ การรับประทานธาตเหล็กเสริมจะช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กระหว่างมีประจำเดือนได้หรือไม่ ตีพิมพ์ในวารสาร Asia Pacific Journal of Clinical Nutrition (APJCN) พ.ศ.2545 การวิจัยแบ่งกลุ่มทดลองซึ่งเป็นนักศึกษาเพศหญิงวัยมีประจำเดือนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกจำนวน 48 คน รับประทานยาหลอกทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลา 16 สัปดาห์ กลุ่ที่สองจำนวน 48 คน รับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กทุกสัปดาห์เป็นระยะเวลา 16 สัปดาห์ และกลุ่มที่สามจำนวน 41 คน รับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กเป็นระยะเวลา 4 วันระหว่างมีประจำเดือน พบว่ากลุ่มที่สองมีระดับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นสูงกว่ากลุ่มที่สาม สรุปได้ว่า การรับประทานธาตุเหล็กเป็นประจำทุกสัปดาห์อาจจำเป็นต่อหญิงวัยมีประจำเดือน นอกจากนี้ หากปวดท้องระหว่างเป็นประจำเดือน ควรรับประทานผักซึ่งอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี เช่น เห็ดชิตาเกะ ถั่วลันเตา บร็อกโคลี ข้าวโพดหวาน เนื่องจากสังกะสีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ โดยผลการศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของสังกะสีในการป้องกันอาการปวดประจำเดือน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Medical Hypotheses ปี พ.ศ. 2550 ระบุว่า การบริโภคสังกะสีวันละ 3 ครั้ง ในช่วง 1-4 วันก่อนมีประเดือน อาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ ปลาทะเลปลาทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า มีกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนได้ ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโอเมกา 3 และความรุนแรงของการปวดประจำเดือน ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร International Journal of Gynecology & Obstetrics ปี พ.ศ. 2555 ได้ทำการทดสอบคุณสมบัติของโอเกมา 3 โดยแบ่งกลุ่มทดลองเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานโอเมกา 3 ในรูปแบบอาหารเสริม ขณะที่อีกกลุ่มให้รับประทานยาหลอก เป็นเวลา 3 เดือนเท่า ๆ กัน แล้วนำผลลัพธ์หลังรับประทานอย่างต่อเนื่องมาเปรียบเทียบ สรุปผลการศึกษานี้ได้ ว่าโอเมกา3 อาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนรุนแรงได้และอาจช่วยลดปริมาณการรับประทานยาแก้ปวดประจำเดือน ดาร์กช็อกโกแลตดาร์กช็อกโกแลต เหมาะสำหรับการบริโภคในช่วงมีประจำเดือน เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตเป็นแหล่งธาตุเหล็ก จึงอาจช่วยชดเชยธาตุเหล็กที่ร่างกายสูญเสียไปได้ นอกจากนี้ ดาร์กช็อกโกแลตยังเต็มไปด้วยธาตุแมกนีเซียม ซึ่งอาจช่วย บรรเทาอาการทางกายภาพในกลุ่มอาการ PMS (Premenstrual Syndrome) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติทางร่างกายและอารมณ์ที่แปรปรวน อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย พบในช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน สอดคล้องกับรายงานการวิจัยเกี่ยวกับคุณสมับติของแมกนีเซียม ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Iranian Journal of Nursing and Midwifery Research ปี พ.ศ. 2553 นักวิจัยแบ่งกลุ่มศึกษาเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้รับประทานแมกซีเนียมเม็ดทุกวัน กลุ่มที่ 2 ให้รับประทานแมกนีเซียมเม็ดทุกวันร่วมกับวิตามินบี 6 และกลุ่มสุดท้ายให้รับประทานยาหลอกทุกวัน ระยะเวลาทดลอง 3 เดือนเท่ากันทุกกลุ่ม จากการทดลองนี้ นักวิจัยพบว่า การรับประทานแมกนีเซียมร่วมกับวิตามินบี 6 อาจให้ผลดีสุด ในการรักษากลุ่มอาการ PMS จึงอาจสรุปได้ว่า การบริโภคแมกซีเนียมร่วมกับวิตามินบี 6 อาจเป็นวิธีรักษากลุ่มอาการ PMS ที่ได้ผลค่อนข้างชัดเจน น้ำเปล่าการดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม หรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวันจำเป็นอย่างมากต่อร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเป็นประจำเดือน การดื่มน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอาจช่วยลดอาการท้องอืด บวมน้ำ ปวดหัว และอาการปวดประจำเดือน รวมทั้งช่วยทดแทนปริมาณของเหลวที่ร่างกายสูญเสียไป จากผลการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของการดื่มน้ำเพื่อบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ซึ่งเผยแพร่ในวารสาร BMC Women’s Health ปี พ.ศ. 2564 โดยทดลองให้ผู้หญิง 77 คน ซึ่งมีประวัติปวดประจำเดือน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งดื่มน้ำมากกว่าปกติ ส่วนอีกกลุ่มดื่มน้ำตามปกติ พบว่า การดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน รวมถึงช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวด เมนมาห้ามกินผลไม้อะไรบ้างสับปะรดและแตงโมมีฤทธิ์เย็น ไม่ควรรับประทานในช่วงที่มีประจำเดือน การรับประทานมากเกินไปจะทำให้ประจำเดือนมามากขึ้น ส่งผลให้อาการป่วยหายช้าลงอีกด้วย
เป็นประจำเดือนกินผลไม้ได้ไหมช่วงมีประจำเดือนความอยากน้ำตาลของสาว ๆ จะพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด แนะนำให้หนุ่ม ๆ ปรนนิบัติแฟนสาวด้วย “ผลไม้” เช่น แอปเปิล กีวี กล้วย ส้ม ที่มีน้ำตาลจากธรรมชาติ และช่วยลดความอยากน้ำตาลจากขนมหวานน้ำตาลเยอะ อย่าง เค้กหรือโดนัท ที่อาจทำให้อ้วนได้ นอกจากนี้ผลไม้ยังมีกากใยไฟเบอร์สูง กินง่ายขับถ่ายคล่องด้วยนะจะบอกให้
เป็นประจําเดือนกินส้มได้ไหมส้มคงเป็นที่โปรดปรานของสาวๆ หลายคนเลยก็ว่าได้ ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวอมหวาน ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น และมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์สร้างความสดชื่นคูณสอง แต่รู้หรือไม่คะ ว่าส้มเองก็มีประโยชน์ต่อสาวๆ เมื่อประจำเดือนมาเยือนด้วย เนื่องจากส้มมีสารฟลาโวนอยด์ เจ้าสารนี้ดี๊ดีค่ะ ช่วยควบคุมฮอร์โมนเพศหญิงของสาวๆ ให้คงที่และมีส่วนช่วย ...
ประจําเดือนกินอะไรไม่ได้บ้างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงมีประจำเดือน. อาหารเค็ม / เกลือ การกินเกลือหรืออาหารเค็มมากเกินไปทำให้น้ำในร่างกายคั่ง ตัวบวม และท้องอืดได้. ของหวาน / อาหารน้ำตาลสูง หากทานมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งและทำให้อารมณ์แปรปรวน. คาเฟอีน / ชา / กาแฟ ... . แอลกอฮอล์ ... . อาหารรสจัด / เผ็ด ... . เนื้อสัตว์ / เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู. |