1. แบ่งโดยระดับชั้นคุณภาพ (Class A/Class B) Show เครื่องแก้ววัดปริมาตร (volumetric glassware) สามารถแบ่งได้ตามระดับชั้นคุณภาพ (Class) ได้ 2 ระดับชั้นคุณภาพตามความแม่น (accuracy) คือ Class A และ Class B ซึ่งถูกกำหนดด้วย ค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ (tolerance)
จากเปรียบเทียบค่าความคลาดเคลื่อน (Tolerance) ของกระบอกตวง (volumetric cylinder, Class A ตามมาตรฐาน DIN 12681/ISO 6706 จะเห็นได้ว่ากระบอกตวงที่มีความจุมาก (high capacity) จะมีค่าความคลาดเคลื่อนที่สามารถยอมรับได้มากกว่ากระบอกตวงที่มีความจุน้อย (low capacity) ค่าความคลาดเคลื่อนสูงสุดที่สามารถยอมรับได้ (tolerance limit) "กระบอกตวง ขนาดปริมาตร 250 mL บรรจุสารละลาย 240 mL มีค่า Tolerance แสดงบนเครื่องแก้ว ±1.0 นั้น หมายความว่า มีค่าความคลาดเคลื่อนที่สามารถยอมรับได้อยู่ในช่วง 239-241 mL" อย่างไรก็ตาม เครื่องแก้วแต่ละประเภทมีค่าของความคลาดเคลื่อนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้เครื่องแก้วให้เหมาะสมกับงานหรือการทดลอง เช่น หากต้องการตวงน้ำกลั่น 50 mL โดยเลือกใช้กระบอกตวง 50 mL ที่มีค่า tolerance ±1.0 กับปิเปตวัดปริมาตร (volumetric pipette) ขนาด 50 mL ที่มีค่า tolerance ±0.05 โดยในกรณีนี้ หากการทดสอบมีความจำเป็นต้องใช้ความแม่นสูง ก็ควรเลือกใช้เป็น volumetric pipette เพราะมีค่า tolerance ที่ต่ำ จึงมีความแม่นสูงกว่า แต่หากเป็นการทดลองทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ต้องการความแม่นสูงก็สามารถที่จะเลือกใช้เป็นกระบอกตวงแทนได้ 2. แบ่งตามวิธีการสอบเทียบ
เครื่องแก้วบางประเภทมีทั้งชนิด To contain และ To deliver เช่น กระบอกตวง ขวดกำหนดปริมาตร หรือเครื่องแก้วบางชิ้น ผู้ผลิตออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งชนิด To contain และ To deliver ดังนั้น ผู้ใช้งานต้องสังเกตดูให้แน่ใจก่อนนำไปใช้หากเราเลือกใช้เครื่องแก้วให้เหมาะสมกับหลักการใช้งาน ก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น หลักสูตรการเรียนรู้ของซายเอนเทียออกแบบให้เด็ก ๆ ได้ฝึกฝนกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นในการใช้ชีวิตอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะทักษะการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ที่มีความสำคัญต่อการทดลองของเด็ก การที่เด็ก ๆ จะลงมือทำการทดลองได้
ก็ต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลการทดลองที่ถูกต้องและแม่นยำ การคนสาร
การใช้ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์
ข้อควรระวังในการใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ การใช้ไม้หนีบหรือที่จับหลอดทดลอง
การใช้สอนตักสาร
การให้ความร้อนแก่ของเหลว
เทคนิคการใช้เครื่องมือวัด การวัดอุณหภูมิ
การวัดความยาว การชั่งมวล การที่เด็กได้มีโอกาสใช้อุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ชนิด ตั้งแต่เด็ก ๆ จะทำให้เกิดความคุ้นเคยและสามารถใช้งานได้ตามจุดประสงค์ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในภายภาคหน้า ในเวลาที่ต้องใช้งานจริง นอกจากจะสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและเต็มประสิทธิภาพแล้ว
ยังได้เรียนรู้และตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย อุปกรณ์วิทยาศาสตร์พื้นฐานมีอะไรบ้างเช็กลิสต์ อุปกรณ์ในห้องแล็ปมีอะไรบ้าง. อุปกรณ์จำเป็นในห้องแล็ป ที่คุณต้องรู้จัก. บีกเกอร์ (Beaker). กระบอกตวง (Cylinder). ขวดรูปชมพู่ (Erlenmeyer Flask). หลอดหยด (Dropper). แท่งแก้วคน (Glass Rod). หลอดทดลอง (Test Tube). ตะเกียงบุนเสน (Bunsen Burner). อุปกรณ์วิทยาศาสตร์มีประโยชน์อย่างไรในกระบวนการหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยในการสังเกตและเก็บข้อมูล จึงจะทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ เพราะการสังเกตโดยใช้อวัยวะของร่างกาย เช่น ใช้สายตาในการดู ใช้หูในการฟัง ใช้ผิวหนังสัมผัสรับรู้ความร้อนเย็น ไม่สามารถเชื่อถือได้เสมอไป
บีกเกอร์ใช้ยังไงขั้นตอนการใช้งาน
1. เลือกขนาดของบีกเกอร์ให้เหมาะสมกับงาน โดยคำนึงถึงปริมาณของเหลวที่บรรจุ 2. จับแท่งแก้วแตะกับปากบีกเกอร์ 3. เอียงบีกเกอร์ให้ของเหลวไหลตามแท่งแก้วลงสู่ภาชนะที่รองรับ
อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์มีกี่ประเภทมีอะไรบ้างมารู้จักกับอุปกรณ์วิทยาศาสตร์กัน (กับ 3 ประเภท ตามการใช้งาน). ประเภททั่วไป มักจะผลิตมาจากแก้ว ช่วยป้องกันการทำปฏิกิริยากับสารเคมี ซึ่งได้แก่ บีกเกอร์ แท่งแก้วคนสาร หลอดทดลอง หลอดหยดสาร บิวเรต ปิเปตต์ กระบอกตวง เครื่องชั่ง. ประเภทเครื่องมือช่าง ... . ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง. |