สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ผิวของเราก็จะยิ่งจะแก่และแห้งเหี่ยวมากขึ้นเท่านั้น นั่นเป็นเพราะ ความเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ที่เกิดจากการถูกทำร้ายโดยสารอนุมูลอิสระ (Free-Radical) แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถจัดการได้ด้วยการเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของผิวลงได้นั่นเอง

Show

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จำเป็นต่อผิวของเราอย่างไร

เพราะเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิวหนังถูกทำร้ายจากสารอนุมูลอิสระอยู่ตลอดเวลา ทั้งสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากปัจจัยภายนอก (แสงแดด ฝุ่น/ควัน มลพิษในอากาศ การรับประทานยาบางประเภท) และปัจจัยภายใน (กระบวนการเผาผลาญอาหาร การหายใจ อาการอักเสบในร่างกาย) เมื่อเซลล์ผิวหนังถูกทำร้ายจากสารอนุมูลอิสระจึงเกิดความเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาผิวแห้งเหี่ยว ริ้วรอย และผิวไม่กระชับตามมา

สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  1. มีส่วนช่วยชะลอความแก่ชราของเซลล์ผิวหนัง ด้วยการเข้ามาช่วยหยุดกระบวนการลูกโซ่ของการแย่งชิงอิเลกตรอนโดย สารอนุมูลอิสระ เมื่อเซลล์ผิวไม่ถูกรบกวน จึงเสื่อมสภาพได้ช้ากว่า ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้ยาวนาน

  2. มีส่วนช่วยยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกในร่างกาย

  3. ช่วยปรับผิวให้แข็งแรง และทนทานต่อการถุกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก เช่น มลพิษ ฝุ่น หรือควันต่างๆ

สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  1. วิตามินซี (Vitamin C)

    มีชื่อเต็มว่า กรดแอสคอบิก (Ascobic Acid) โดยวิตามินซีมีประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง อีกทั้งยังช่วยปกป้องร่างกายจากการถูกทำลายจากมลภาวะต่างๆได้ค่อนข้างไว  นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน (Collagen) เพิ่มมากขึ้น และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย ทำให้ผิวพรรรเปล่งปลั่ง สดใส ริ้วรอยและปัญหาผิวแห่งวัยเกิดขึ้นได้ช้าลง

    สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  2. เรสเวอราทรอล (Resveratol)

    เรสเวอราทรอล จัดเป็นสารพฤกษเคมี ในกลุ่มโพลีฟีนอล (Polyphenols) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยมีประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระสูง พบได้มากในผักไผ่ญี่ปุ่น พืชตระกูลเบอร์รี่ (บลูเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ แครเบอร์รี่) และองุ่น มีส่วนช่วยยับยั้งกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) ซึ่งก่อให้เกิดอาการอักเสบในเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี  

    สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  3. วิตามินบี 3 (Niacinamide)

    มีส่วนช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยลดกระบวนการออกซิเดชั่นในชั้นเซลล์ผิวได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบ เติมความชุ่มชื้นในชั้นผิว และมีส่วนช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้อีกด้วย
    สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน
  4. วิตามินอี โทโคไตรอีนอลส์ (Tocotrienols)

    วิตามินอี โทโคไตรอีนอล ออกฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีทั่วไปสูงถึง 40-60 เท่า จึงช่วยจัดการกับสารอนุมูลอิสระที่อยู่ในเซลล์ผิวได้ดีและทรงพลังยิ่งกว่า (เมื่อเทียบกับวิตามินอี โทโคฟีรอล) และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย พบวิตามินอีชนิดนี้ได้ในผลปาล์มแดง รำข้าว ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ฯลฯ

    สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  5. สารสกัดจากชาเขียว (EGCG)

    เป็นสารที่สกัดได้จากใบชา อุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลที่ชื่อว่า EGCG (Epigallocatechin Gallate) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงสูง (Super powerful antioxidants) จึงช่วยป้องกันการก่อตัวของสารอนุมูลอิสระภายในร่างกายและเซลล์ผิว จึช่วยชะลอปัญหาผิวแห่งวัยได้

    สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

  6. สารสกัดจากถั่วเหลือง (Soy Extract)

    ในถั่วเหลืองนั้นอุดมไปด้วยสารกลุ่มไอโซฟลาโวน (Isoflavones) เช่น เจนีสทีน (genistein) เดดซีน (daidzein) และไกลซิทีน (glycitein) ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมี ที่มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญในเพศหญิง มีส่วนทำให้ผิวพรรณเต่งตึง กระชับ สวยสมวัย และยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระได้เช่นเดียวกัน 

เพราะผิวของเราต้องการการดูแลเอาใจใส่ในทุกช่วงอายุ ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ สภาพผิวของเราก็จะเสื่อมถอยมากยิ่งขึ้น การปกป้องและชะลอความร่วงโรยให้กับผิวด้วยการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลักในกลุ่ม สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, E (Tocopherol, Tocotrienols) วิตามิน B3 สารสกัดจากชาเขียว (EGCG) สารสกัดจากถั่วเหลือง ก็จะช่วยให้ผิวของเราคงความอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดใหม่ของริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้

สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คืออะไร ?

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คือ สารที่สามารถยับยั้ง หรือชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระ (Free Radical) เช่น การเกิดออกซิเดชันของลิพิด (Lipid Oxidation)
สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน

“antioxidant” สามารถแบ่งตามกลไกการยับยั้งได้เป็น 3 ชนิด คือ

  1. Preventive antioxidant ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ
  2. Scavenging antioxidant ทำลายหรือยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น
  3. Chain breaking antioxidant ทำให้ลูกโซ่ของการเกิดอนุมูลอิสระสิ้นสุดลง หรือการช่วยชะลอการเกิด “ออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นตัวทำให้เราแก่เร็ว ริ้วรอยมากขึ้น และเจ็บป่วยได้ง่าย
สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน
ทั้งนี้ “อนุมูลอิสระ” คือ สารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย รวมถึงจากมลพิษต่างๆ จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ โอโซน โลหะหนัก ซึ่งอนุมูลอิสระเหล่านี้ จะเข้ามาทำลายโครงสร้าง และหน้าที่ของผนังเซลล์ ก่อเกิดความผิดปกติ เซลล์ถูกทำลาย และเสื่อมได้เร็ว เกิดเป็นโรคชรา หรือแก่ก่อนวัย โรคภัยต่างๆ สามารถเกิดได้ง่ายขึ้น อาทิ โรคหลอดเลือด และหัวใจขาดเลือด ร่วมถึงโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังสามารถ เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่ ที่พัฒนาไปสู่เซลล์มะเร็งได้
ที่สำคัญ คือ ร่างกายของเราสร้าง อนุมูลอิสระนี้ตลอดเวลา เซลล์ต่างๆ จะเสื่อมลงเรื่อยๆแบบไม่มีวันหยุด เราจึงแก่ลงทุกวัน ร่างกายก็จะเสื่อมสภาพถดถอยลง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีกลไกในการควบคุมสารนี้ เพื่อให้ลุกลามได้ช้าลง ทำร้ายร่างกายของเราช้าลง

7 ประโยชน์สำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ1.ชะลอกระบวนการแก่ชรา2.ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง3.ลดภาวะอาการอัลไซเมอร์4.ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย5.ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ6.ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบ7.ช่วยเป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม

สารต้านอนุมูลอิสระได้รับจากไหน และควรปรึกษาใคร     สารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถหาได้จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งอาจเพียงพอสำหรับบางคน แต่ในรายที่ต้องเผชิญกับฝุ่นควัน บางคนสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า พักผ่อนน้อย ขาดการออกกำลังกาย ไม่ได้พิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหาร เครียดสะสม โดนแดดบ่อย  คนเหล่านี้ต้องการวิตามินเสริม เพื่อเป็นการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าคนที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดี