เฉลย สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป. 2 พ ว หน้า 202

............................................................................................................................. .............................

ดว้ ยข้าพเจา้ นางสมพงษ์ นาคสงั ข์ ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ได้รับมอบหมายใหส้ อนในรายวชิ า
สังคมศึกษา รหัสวชิ า ส ๑๒๑๐๑ จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๒ ชวั่ โมง / สัปดาห์ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง/
ภาคเรยี น ได้จดั ทำแผนการจดั การเรียนรู้ ในรายวิชาดังกล่าว เพื่อใช้ในการประกอบการจดั กิจกรรมการเรียน
การสอนในระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ เปน็ ทเี่ รยี บรอ้ ยแลว้

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดอนุมตั ิ
ลงชอื่ .............................................
(นางสมพงษ์ นาคสงั ข์)

............................................................................................................................. ...............................................
ความเห็นของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ / ผูท้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย

ไดต้ รวจสอบองคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรูร้ ายวิชาดงั กล่าวแล้ว พบวา่
ครบถว้ น ครอบคลมุ และสอดคล้องตามหวั ข้อ เน้ือหา สาระมาตรฐานตวั ชวี้ ดั / ผลการเรียนรู้
ควรปรับปรุง เพิ่มเตมิ หรอื แก้ไข ดังนี้
…………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ ..............................................

( นายชาญยทุ ธ สทุ ธิธรานนท์ )
รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ

............/............./.............

............................................................................................................................. .................................

เรยี นเสนอเพื่อโปรดพิจารณา

อนมุ ตั ติ ามเสนอ ไมอ่ นมุ ัติ เนอื่ งจาก ......................................................................

ลงชือ่ .....................................................

( นายวรี ะ แกว้ กลั ยา )

ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวดั เพชรบรุ ี

คำอธิบายรายวิชา
รายวิชา สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส ๑๒๑๐๑
กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒

ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕
เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ( ตลอดภาคเรยี น ) จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ

คำอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษา ความหมาย ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา ศาสดา คมั ภีรข์ องศาสนาทตี่ นนับถอื

เคารพในพระรัตนตรัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา มรรยาทของชาวพุทธ ศาสนพิธี พิธกี รรมและ
วันสำคัญทางศาสนา ช่ืนชมการทำความดีของตนเอง บุคคลในครอบครัว และในโรงเรียนตามหลักศาสนา
รวมท้ังเห็นคุณค่าของการสวดมนต์แผ่เมตตา พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตนตาม
ข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบ และหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติในชีวิตประจำวัน มารยาทไทย ยอมรับความคิด
ความเชื่อการปฏิบัติของผู้อื่นที่แตกต่างโดยปราศจากอคคิ เคารพในสิทธิเสรีภาพของตนเองและผู้อื่น ศึกษา
ความสัมพันธ์ของตนเองละสมาชิกในครอบคัวในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน บทบาท อำนาจในการ
ตัดสินใจในโรงเรียนและชุมชน ทรัพยากรท่ีนำมาผลิตสินค้าและบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่มาของรายได้
และรายจ่ายของตนเองและครอบครัว การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการโดยวิธีต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้
ซ้ือและผู้ขาย บันทึกรายรับรายจ่ายของตนเอง รวมทั้งสรุปผลดีของการใช้จ่ายท่ีเหมาะสมกับรายได้และการ
ออม ระบุสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างข้ึน ตำแหน่งและลักษณะทางกายภาพของสิ่งต่างๆ
สังเกตและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ อธิบาย
ความสำคญั ของส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างข้ึน ความสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาลกับการดำรงชีวิต
ของมนุษย์ มีส่วนร่วมในการจัดการส่ิงแวดล้อมในโรงเรียน พร้อมท้ังจำแนกและใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้
แล้วไมห่ มดไป ที่ใชแ้ ลว้ หมดไปและสร้างทดแทนข้ึนใหมไ่ ด้อยา่ งคุม้ คา่

โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสงั คม
กระบวนการกลุ่ม กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์
ในการสืบค้นและสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไป
ปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีความสามารถทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ทักษะทางภูมิศาสตร์
ทักษะในศตวรรษท่ี 21 คุณ ธรรมจริยธรรม คุณ ลักษณ ะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์มีหลักธรรมในการดำเนินชีวิต รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และสามารถดำเนินชีวิตใน
สงั คมไดอ้ ย่างสันติสุข

สาระ / มาตรฐาน / ตัวช้วี ัด

สาระ / มาตรฐาน / ตัวช้วี ดั

สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทีต่ น

นับถอื และศาสนาอนื่ มีศรทั ธาท่ีถูกต้อง ยดึ มน่ั และปฏิบตั ิตามหลักธรรมเพือ่ อยรู่ ่วมกนั
อย่างสันติสขุ
ส 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5 ป.2/6 ป.2/7
มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนักและปฏิบตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนทดี่ ี และธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาหรือ
ศาสนาที่ตนนบั ถอื
ส 1.2 ป.2/1 ป.2/2
สาระที่ ๒ หน้าทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เข้าใจและปฏบิ ัตติ นตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมอื งดี มีคา่ นยิ มทดี่ งี ามและธำรงรักษา
ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยูร่ ่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสันตสิ ขุ
ส 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จุบัน ยดึ ม่ัน ศรทั ธาและธำรงรกั ษาไว้ซงึ่ การ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ
ส 2.2 ป.2/1 ป.2/2
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบรโิ ภค การใช้ทรพั ยากร ท่ี
มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อการดำรงชวี ิตอยา่ งมีดุลยภาพ
ส 3.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและความจำเป็น
ของการร่วมมอื กนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก
ส 3.2 ป.2/1 ป.2/2
สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผลต่อกันและกัน ใน
ระบของธรรมชาติ ใช้แผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุป
และใชข้ อ้ มลู ภูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
ส 5.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3
มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสมั พันธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีกอ่ ให้เกดิ การสร้างสรรค์
วฒั นธรรม มจี ิตสำนึกและมสี ่วนร่วมในการอนุรกั ษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื การ
พฒั นาที่ยั่งยนื
ส 5.2 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4

รวม 28 ตัวช้ีวดั

ผังมโนทศั น์รายวชิ าสังคมศ
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ เวลา

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑
เรอ่ื งศาสนาของเรา

วิชาสังคมศ
ช้นั ประถมศึก

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3
เรือ่ งเศรษฐศาสตรน์ า่ รู้

ศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑
๒ ช่ัวโมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกิต

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2
เรอื่ งคนดขี องชุมชน

ศกึ ษา
กษาปีท่ี ๒

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4
เรอ่ื งรอบรภู้ มู ิศาสตร์

โครงสร้างรายวชิ า สังคมศึกษา ชื่อวชิ า สังค
รหสั วชิ า ส ๑๒๑๐๑ รายวิชา สังคมศกึ ษา
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา แ
เวลาเรียน ๒ ชวั่ โมง / สัปดาห์ จำนวน ๘๐

หน่วย ชื่อหน่วยการ แผนการจัดการเรียนรู้ท่.ี ........ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้
ที่ เรยี นรู้ เร่ือง......... ตัวชวี้ ัด / ผลการเรยี นรู้

1. เร่อื งศาสนา ๑. เรียนรศู้ าสนา -
ของเรา
1.๑ เรื่องพระพทุ ธศาสนาเป็น ส 1.1 ป.2/1
เอกลกั ษณ์ของชาติไทย

๑.2 เร่ืองศาสนาในประเทศไทย ส 1.1 ป.2/๒
(พระพทุ ธศาสนา)
๑.3 เรอ่ื งศาสนาในประเทศไทย ส 1.1 ป.2/๗
(ศาสนาอ่นื ๆ)
๒. เรื่องหลกั ธรรมนำความสุข -
ส 1.1 ป.2/4
๑.๔ เรอ่ื งการไมท่ ำความช่วั ส 1.1 ป.2/4
ส 1.1 ป.2/4
๑.๕ เรอ่ื ง การทำความดี ส 1.1 ป.2/4

๑.๖ เรือ่ งกตญั ญแู ละมงคล 38 ส 1.1 ป.2/4
ส 1.1 ป.2/4
๑.๗ เรอ่ื งการทำจติ ใจให้ผอ่ งใส
บรสิ ทุ ธิ์
๑.๘ เรื่องศรัทธาในพระรตั นตรยั

๑.๙ เรื่องพุทธศาสนสภุ าษิต

คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ( พ้นื ฐาน )
ศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศึกษา 256๕
และวฒั นธรรม ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒
๐ ช่วั โมง / ภาคเรยี น จำนวน ๒.๐ หน่วยกิต

/ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั คะแนน
(ชม.) K A P รวม
๒๑๒ ๕
ศาสนาทุกศาสนาล้วนแตม่ ีความสำคญั และเป็น (๔)
เครื่องยดึ เหน่ียวจติ ใจให้กระทำความดี ซึ่งศาสนิกชน ๑ -
ทกุ คนพึงศึกษาประวตั ศิ าสดาของศาสนาท่ีตนนบั ถอื
และนำแบบอย่างทีด่ ไี ปเป็นแนวปฏิบตั ติ น ๒

๑-

การเคารพพระรัตนตรัย ปฏบิ ัตติ ามหลักธรรมโอวาท (๘) ๒ ๑ ๒ ๕

3 ดว้ ยการไมท่ ำชวั่ ทำความดี ทำจติ ใจให้ผ่องใส ๑ -
บริสทุ ธิ์ ยอ่ มทำให้ผ้ปู ฏิบัติดำเนินชีวติ ไปในทางท่ี ๒ -
ถูกต้อง ๒

๑-

๑-
๑-

หน่วย ชอ่ื หน่วยการ แผนการจดั การเรยี นรู้ที.่ ........ สาระ / มาตรฐานการเรียนร
ที่ เรยี นรู้ เร่ือง......... ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้

1. เรอ่ื งศาสนา ๓. เรือ่ งเราทำความดี -
ของเรา
๑.๑๐ เรือ่ งแบบอยา่ งของการทำ ส 1.1 ป.2/3
ความดี : (ประวตั พิ ุทธสาวก)

๑.1๑ เร่ืองแบบอย่างของการทำ ส 1.1 ป.2/3

ความดี : (ชาดก)

๑.๑๒ เร่ืองแบบอย่างของการทำ ส 1.1 ป.2/3

ความดี : ชาวพุทธตัวอย่าง

๑.๑๓ เรือ่ งการทำความดขี อง ส 1.1 ป.2/๕
ตนเอง บคุ คลในครอบครวั และ
บคุ คลในโรงเรยี น

๔. เร่ืองชาวพุทธทีด่ ี -

๑๔.เรือ่ งการฝกึ ปฏบิ ัติตามมารยาท ส 1.1 ป.2/๑

ชาวพทุ ธและวันสำคญั ทางศาสนา

๑๕.เรอ่ื งการปฏิบัตติ นในสนพิธีฯ ส 1.2 ป.2/2

๑๖.เรอื่ งการฝกึ สตแิ ละสมาธิ ส 1.1 ป.๒/๖

๒. คนดขี องชุมชน ๑. กฎของการอยู่รว่ มกัน -

๑.เรอื่ งข้อตกลงของครอบครัว ส 1.1 ป.2/๑
๒.เร่ืองกฎระเบยี บในโรงเรยี น ส 1.1 ป.2/๑

๓.เรอ่ื งกฎระเบยี บในการใชส้ ถานท่ี ส 1.1 ป.2/๑
สาธารณะ

รู้ / สาระสำคญั เวลา น้ำหนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม

การปฏบิ ตั ิตนตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่ (๔) ๒ ๑ ๒ ๕

ตนนบั ถอื และการศึกษาการทำความดีของบุคคล -
จากตัวอย่างต่างๆ รวมทั้งเหน็ คณุ คา่ ของการทำ ๑

ความดีเหลา่ นัน้ ช่วยให้พัฒนาตนเพื่อการอยู่

ร่วมกันได้อยา่ งสงบสขุ ๑-

๑-

๑-

ชาวพุทธที่ดีพึงปฏบิ ตั ติ นตามมรรยาทชาวพุทธ (๔) ๒ ๑ ๒ ๕
ศาสนพิธี พธี กี รรม และวนั สำคัญทางศาสนาได้ ๒-
ถกู ต้อง และสวด-มนต์ แผ่เมตตา มสี ติท่ีเปน็
พ้นื ฐานของสมาธิ ๑

๑-

ข้อตกลง กฎระเบียบ กฎหมาย เป็นสิ่งที่กำหนดขึ้น (๘) ๒ ๒ ๒ ๖

เป็ น ข้ อ ป ฏิ บั ติ ห รื อ ข้ อ บั ง คั บ ใ น ก า ร อ ยู่ ร่ ว ม กั น ๑ -
เพ่ือให้คนจำนวนมากสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ ๒ -
ขัดแย้งกัน โดยจะต้องยอมรับความคิด ความเชื่อ ๑ -
และการปฏิบัติของบุคคลอื่นท่ีแตกต่างกันโดย

ปราศจากอคติ ตลอดทั้งต้องเคารพในสิทธเิ สรีภาพ
ของตนเองและผู้อืน่

หน่วย ชื่อหน่วยการ แผนการจัดการเรยี นรทู้ .ี่ ........ สาระ / มาตรฐานการเรยี นร
ท่ี เรยี นรู้ เร่อื ง......... ตัวชีว้ ัด / ผลการเรยี นรู้

๒. คนดขี องชุมชน ๔.เรื่องหนา้ ท่ที ่ีต้องปฏิบัติใน ส 2.1 ป.2/1

ชีวิตประจำวัน

๕.เรื่องสิทธแิ ละเสรีภาพของตนเอง ส ๒.1 ป.2/๔

และผอู้ ่นื

๖.เรอ่ื งการยอมรับความแตกต่าง ส ๒.1 ป.2/๓

ของคนในสงั คม

๒. เด็กดีมมี ารยาท -

๗.เรอ่ื งการแสดงความเคารพ ส 2.1 ป.2/2

๘.เรื่องการยนื การเดิน การนั่ง ส 2.1 ป.2/2
การทักทาย และการพูด
๙.เรอื่ งการแต่งกาย ส 2.1 ป.2/2
-
๓. ชมุ ชนของเรา

๑๐.เรอ่ื งชุมชนและการมสี ่วนรว่ ม ส 2.2 ป.2/1

๑๑.เรอ่ื งการมสี ว่ นรว่ มในชมุ ชน ส 2.2 ป.2/1
ของฉัน ส 2.2 ป.2/๒
ส 2.2 ป.2/๒
๑๒.เรอื่ งผู้มีบทบาท อำนาจในการ
ตัดสนิ ใจในโรงเรยี น

๑๓.เรือ่ งผมู้ ีบทบาท อำนาจในการ
ตัดสินใจในชมุ ชน

รู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั คะแนน
(ชม.) K A P รวม

ข้อตกลง กฎระเบยี บ กฎหมาย เป็นสง่ิ ทก่ี ำหนดขนึ้ ๑ -
เปน็ ขอ้ ปฏบิ ตั ิหรือข้อบงั คับในการอยรู่ ่วมกนั ๒
เพื่อใหค้ นจำนวนมากสามารถอยู่รว่ มกนั ได้โดยไม่ ๑ -
ขัดแยง้ กนั โดยจะตอ้ งยอมรับความคดิ ความเช่ือ
และการปฏิบตั ิของบุคคลอ่ืนทแ่ี ตกต่างกนั โดย (๖) -
ปราศจากอคติ ตลอดทัง้ ต้องเคารพในสิทธิเสรภี าพ ๒
ของตนเองและผู้อ่นื ๒ ๒๑๒ ๕
-
การปฏิบัติตนตามมรรยาทไทยเกย่ี วกบั ความ
เคารพ การยนื การเดิน การฟัง การทักทาย การ -
พดู การแต่งกายอย่างเหมาะสม ยอ่ มทำให้เปน็ ผทู้ ี่
มบี ุคลิก- ภาพท่ีดี เปน็ ท่ียอมรับของสังคม

๒-

สมาชกิ ทุกคนในชุมชนมคี วามสมั พนั ธ์ท่ีดตี ่อกัน มี (๖) ๒ ๑ ๒ ๕

การชว่ ยเหลอื ในกจิ กรรมของชมุ ชน การดำเนนิ งาน ๒ -
ในโรงเรยี นและชมุ ชนจะเป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิ-

ภาพ โดยผู้มอี ำนาจในการตดั สินใจ ๒ -

๑-

๑-

หน่วย ช่อื หน่วยการ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่.ี ........ สาระ / มาตรฐานการเรียนร
ที่ เรยี นรู้ ตัวชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้
เรอ่ื ง......... -
๓. เร่อื ง
เศรษฐศาสตร์ ๑. สนิ ค้าและบริการกับการใช้ ส 3.1 ป.2/1
น่ารู้ จา่ ยอยา่ งเหมาะสม ส 3.1 ป.2/1

๑.๑ เรื่อง:ทรพั ยากรทน่ี ำมาผลิต ส 3.1 ป.2/๒
สนิ ค้าและบริการในชวี ติ ประจำวนั
๑.๒ เรอ่ื งผลของการใชท้ รัพยากร ส 3.1 ป.2/๒
ในการผลิตท่ีหลากหลาย ส 3.1 ป.2/๔

๑.๓ เรื่องการประกอบอาชีพท่ี ส 3.1 ป.2/๓
สจุ ริตของครอบครวั ส 3.1 ป.2/๔
-
๑.๔ เรอ่ื งรายไดแ้ ละรายจ่ายของ
ครอบครวั และตนเอง ส 3.2 ป.2/1
๑.๕ เร่อื งการใช้จา่ ยท่ีเหมาะสม
และไมเ่ หมาะสมและผลดีของการ
ใชจ้ า่ ยทีเ่ หมาะสม
๑.๖ เรื่องการทำบัญชีรายรับและ
รายจ่ายของตนเอง
๑.๗ เร่ืองการออมเงนิ
๒. การแลกเปลย่ี นสินคา้ และ
บรกิ าร

๑.๘ เรื่องการแลกเปล่ยี นสินค้า
และบรกิ ารโดยไม่ใชเ้ งินเปน็
สื่อกลาง

รู้ / สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั คะแนน
(ชม.) K A P รวม

สินค้าและบรกิ ารลว้ นมาจากทรัพยากรจึงควรใช้ให้ (๑๔) ๓ ๒ ๒ ๗

เกิดประโยชน์ที่คุ้มค่ามากที่สุด การรู้ที่มาของ

รายได้และรู้จักบันทึกรายรับและรายจ่ายของ ๒ -
ครอบครัว ทำให้วางแผนการใช้จ่ายได้อย่าง

เหมาะสมกับรายได้ รวมทั้งสามารถเก็บออมเงิน ๒ -
เพ่อื ใช้จา่ ยในยามจำเป็น

๒-

๒-

๒-

๒-

การแลกเปลย่ี นสินค้าและบริการสามารถทำได้ทัง้ (๖) ๒ ๑ ๒ ๕

ใช้เงนิ เปน็ สอ่ื กลางและไมใ่ ช้เงิน ทัง้ ผู้ซื้อและผู้ขาย

ต่างกม็ บี ทบาทสำคัญ และมคี วามสมั พนั ธ์กนั ๑ -

หน่วย ชือ่ หน่วยการ แผนการจดั การเรียนรู้ที่......... สาระ / มาตรฐานการเรยี นร
ท่ี เรยี นรู้ เรอื่ ง......... ตัวชว้ี ดั / ผลการเรียนรู้

๓ เร่ือง ๑.๙ เรื่องการแลกเปลย่ี นสนิ ค้า ส 3.2 ป.2/1
เศรษฐศาสตร์ และบริการโดยใชเ้ งินเป็นสื่อกลาง
นา่ รู้ ๑.๑๐ เรือ่ งผูซ้ ื้อกับผูข้ าย ส 3.2 ป.2/1

๑.๑๑ เรอ่ื งความสมั พันธร์ ะหวา่ งผู้ ส 3.2 ป.2/๒

ซอ้ื กับผู้ขาย

๔. เรื่องรอบรู้ ๑ ส่งิ แวดลอ้ มรอบตัว -
ภมู ิศาสตร์
๑.เร่อื งส่งิ แวดลอ้ มซ่ึงปรากฏ ส 5.1 ป.2/1
ระหวา่ งบา้ นกบั โรงเรยี น
๒.เรื่องความสำคญั ของสง่ิ แวดลอ้ ม ส ๕.2 ป.2/1
ตอ่ การดำเนินชวี ติ
๓.เรื่องทรพั ยากรธรรมชาติ ส ๕.2 ป.2/๒
ส ๕.2 ป.2/๔
๔.เรอ่ื งการมีสว่ นรว่ มจดั การ
สิง่ แวดลอ้ มในโรงเรียน -
๒. เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ ส 5.1 ป.2/2
ส 5.1 ป.2/2
๕.เรอ่ื งแผนผงั

๖.เรอื่ งลกู โลก แผนท่ี และรูปถา่ ย

รู้ / สาระสำคญั เวลา น้ำหนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม

การแลกเปล่ียนสินค้าและบริการสามารถทำได้ทั้ง ๒ -

ใช้เงินเป็นสื่อกลางและไม่ใช้เงิน ทั้งผู้ซ้ือและผู้ขาย -

ตา่ งกม็ บี ทบาทสำคัญ และมคี วามสัมพนั ธก์ นั ๑

๒-

สิ่งแวดล้อมระหว่างบ้านกับโรงเรียนประกอบด้วย (๘) ๒ ๑ ๒ ๗

สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีมนุษย์ -
สร้างข้ึน ส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒

ที่มนุษย์สร้างข้ึนมีผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ -
มนุษย์ต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ๒

เน่ืองจากมีอยู่อย่างจำกัดการมีส่วนร่วมในการ

จดั การสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรียนเป็นหนา้ ที่ของทกุ คน ๒ -

๒-

ลูกโลก แผนผัง แผนท่ี และรูปถ่าย สามารถใช้ (๖) ๒ ๑ ๒ ๕

แสดงตำแหน่งและลักษณะทางกายภาพของสิ่ง ๓ -
ตา่ งๆ ได้ -

หน่วย ชือ่ หน่วยการ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่.ี ........ สาระ / มาตรฐานการเรยี นร
ท่ี เรียนรู้ เรื่อง......... ตัวชี้วัด / ผลการเรยี นรู้

๔. เรือ่ งรอบรู้ ๓.ความสมั พนั ธร์ ะหว่างโลก ดวง -
ภูมศิ าสตร์ อาทติ ย์ และดวงจันทร์ ส 5.1 ป.2/๓

๗.เร่อื งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งโลก
ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ กับ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

๘.ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งฤดูกาลกับ ส 5.2 ป.2/๓
การดำเนินชีวติ ของมนุษย์

รวมเวลา / คะแนน หนว่ ยการเรียน

รวมเวลา / คะแนนกลางปี

รวมเวลา / คะแนนปลายปี

รวมเวลาเรียน / คะแนน ตลอดปี

หมายเหตุ....เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง / สัปดาห์ = 0.5 หนว่ ยกติ เวล
เวลาเรียน 3 ชวั่ โมง / สัปดาห์ = 1.5 หน่วยกติ เวล

เกณฑ์การวดั และประเมินผล
1. อัตราสว่ นคะแนน หนว่ ยการเรียน : กลางปี : ปลายปกี ารศกึ ษา

1.1. รายละเอียดของการให้คะแนน
- ๗๐ คะแนน
- ๓๐ คะแนน

1.2. ๗๐ คะแนน คอื ทำแบบทดสอบ, ตรวจชิ้นงาน, สงั เกตพฤติกรรม

1.3. ๓๐ คะแนน คะแนนสอบปลายปี

รู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม
๒๑๒ ๕
โลก ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์มีความ สัมพันธ์กัน (๔)
ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ เช่น ๓ -
กลางวัน-กลางคืน ข้างข้ึน-ข้างแรม น้ำขึ้น-น้ำลง
ฤดูกาล เป็นต้น ซ่ึงปรากฏการณ์ดังกล่าวล้วนมีผล
ตอ่ การดำเนนิ ชีวิตของมนษุ ย์

๑-

๗๘ ๗๐
๑ ๑๕
๑ ๑๕
๘๐ ๑๐๐

ลาเรียน 2 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ = 1.0 หนว่ ยกติ
ลาเรียน 4 ชว่ั โมง / สปั ดาห์ = 2.0 หนว่ ยกิต

การวิเคราะหม์ าตรฐานแล
รายวชิ าสงั คมศึกษา ระดับช้ันปรถมศึกษาปีท่ี ๒

หนว่ ยการ ตวั ช้ีวดั ท่ี ร้อู ะไร / ทำอะไร ภาระงาน / ชน้ิ งา

เรยี นร้ทู ี่ /เรือ่ ง ส 1.1 ป.2/1 รอู้ ะไร 1. สมุดบันทึกความร
ป.2/2 ป.2/3
๑. เรอ่ื งศาสนา ป.2/4 ป.2/5 - ศาสนาทุกศาสนาล้วนแต่มี เร่ืองศาสนาทฉ่ี ันนับถ
ของเรา ป.2/6 ป.2/7
ส 1.2 ป.2/1
ป.2/2 ความสำคัญ และเปน็ เครื่องยึด (ชิน้ งานที่ 1)

เหนย่ี วจติ ใจ 2.รายงานผลการปฏ

- การเคารพพระรตั นตรยั ตนตามหลักธรรมขอ

ปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมโอวาท 3 พระพทุ ธศาสนา (ช้นิ

- ประวัติศาสดาของศาสนาท่ีตน ท่ี 2)

นับถอื 3.แผน่ พบั เรือ่ งเราต้อ

- วนั สำคญั ทางศาสนา ทำดี (ชิ้นงานท่ี 3)

ทำอะไร 4.การสาธิตการปฏิบ

- ทำความดี ละเวน้ ความชั่ว ตนตามมรรยาทชาวพ
ทำจติ ใจใหผ้ ่องใสบริสทุ ธ์ิ (ชิ้นงานท่ี 4)
- การปฏิบตั ติ นตามหลักธรรม 5.การสาธติ การปฏบิ
คำสอนของศาสนาที่ตนนบั ถือ ตนในศาสนพิธีในโอก
- เป็นชาวพทุ ธที่ดพี ึงปฏิบัติตน ทีเ่ หมาะสม (ชิน้ งานท
6. การฝึกสติและทำ
ตามมรรยาทชาวพุทธ
สมาธเิ บอ้ื งต้น (ช้นิ งา

6)

๑๐

ละตัวช้ีวดั / ผลการเรียนรู้
จำนวน ๒.๐ หน่วยกิต ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕

าน สมรรถนะสำคัญ คณุ ลกั ษณะของวิชา คุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์
รู้ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1.รกั ชาติ ศาสน์
คุณลกั ษณะอันพึง
ถือ 1. ความสามารถในการคดิ กษตั รยิ ์ ประสงค์
๑.มีวินัย
1) ทักษะการสำรวจคน้ หา 2.ซ่อื สัตย์สุจรติ ๒.ใฝ่เรียนรู้
๓.มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
ฏิบตั ิ 2) ทักษะการสรปุ ย่อ ๓.ใฝ่เรียนรู้ ๔.รักความเปน็ ไทย

อง 3) ทกั ษะการสรปุ ลงความเห็น ๔.อยูอ่ ยา่ งพอเพียง กระบวนการสร้างความต

นงาน 4) ทกั ษะการทำให้กระจ่าง ๕.รกั ความเป็นไทย

5) ทักษะการตีความ

อง 6) ทกั ษะการแปลความ

7) ทกั ษะการหาแบบแผน

บัติ 8) ทักษะการหาความเชือ่ พนื้ ฐาน

พุทธ 9) ทกั ษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้

10) ทักษะการนำความรไู้ ปใช้

บัติ 2. ความสามารถในการใช้ทักษะ

กาส ชวี ิต -
ที่ 5)

านท่ี

ผงั มโนทศั น์หน่ว
เรื่อง เรอ่ื งศาสนาและหลักธ
ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาป่ีท่ี ๒ เวลา

เรือ่ งเรยี นรูศ้ าสนา
เวลา ๔ ชว่ั โมง

หน่วยกา
เร่ืองศาส

เร่อื งเราทำความดี
เวลา ๕ ชวั่ โมง

๑๑

วยการเรียนรทู้ ี่ ๑
ธรรม รายวิชา สังคมศึกษา
า ๒ ช่วั โมง จำนวน ๒.๐ หนว่ ยกติ

เรอื่ งหลักธรรมนำความสขุ
เวลา ๘ ชวั่ โมง

ารเรยี นรทู้ ี่ ๑
สนาของเรา

เร่อื งชาวพุทธท่ีดี
เวลา ๓ ชัว่ โมง

๑๒

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เร่ือง ศาสนาของเรา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ปีการศกึ ษา 256๕

รายวิชาสงั คมศึกษา รหัสวชิ า ส ๑๒๑๐๑ ครูผู้สอน นางสมพงษ์ นาคสังข์

_________________________________________________________

สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)

ศาสนาทุกศาสนาล้วนแต่มีความสำคัญ และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กระทำความดี ซ่ึงศาสนิกชนทุก
คนพึงศึกษาประวตั ิศาสดาของศาสนาทีต่ นนับถือ และนำแบบอยา่ งท่ดี ไี ปเปน็ แนวปฏิบตั ติ น

การเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ด้วยการไม่ทำช่ัว ทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส
บรสิ ุทธ์ิ ซง่ึ ทำใหผ้ ้ปู ฏิบัติดำเนนิ ชีวิตไปในทางที่ถกู ตอ้ ง

การปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ และการศึกษาการทำความดีของบุคคลจาก
ตัวอยา่ งต่างๆ รวมทัง้ เห็นคณุ คา่ ของการทำความดเี หล่านน้ั ชว่ ยให้พัฒนาตนเพ่ือการอยูร่ ่วมกันได้อย่างสงบสขุ

ชาวพุทธที่ดีพึงปฏิบัติตนตามมรรยาทชาวพุทธ ศาสนพิธี พีธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาได้ถูกต้อง
และสวดมนต์ แผ่เมตตา มีสตทิ ่เี ปน็ พ้นื ฐานของสมาธิ
สาระที่ ส 1.๑ ป.2/1 บอกความสำคญั ของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ

ป.2/2 สรปุ พทุ ธประวัติต้ังแตป่ ระสตู ิจนถึงการออกผนวชหรอื ประวัตศิ าสดาทต่ี นนับถือตามทีก่ ำหนด
ป.2/3 ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดำเนินชีวติ และข้อคดิ จากประวตั ิสาวก ชาดก เร่อื งเล่า

และศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ีกำหนด
ป. 2/4 บอกความหมาย ความสำคญั และเคารพพระรัตนตรัย ปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมโอวาท 3 ใน

พระพทุ ธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามท่ีกำหนด
ป.2/5 ชนื่ ชมการทำความดีของตนเอง บคุ คลในครอบครัวและในโรงเรียนตามหลกั ศาสนา
ป.2/6 เห็นคณุ ค่าและสวดมนต์ แผเ่ มตตา มีสตทิ ่ีเป็นพ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนาหรือการ

พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนับถือตามที่กำหนด
ป.2/7 บอกชื่อศาสนา ศาสดา และความสำคญั ของคัมภรี ์ของศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอื่นๆ
สาระท่ี ส 1.2 ป.2/1 ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาทต่ี นนับถือตามทก่ี ำหนดไดถ้ ูกต้อง
ป.2/2 ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรม และวันสำคัญทางศาสนาตามท่ีกำหนดได้ถูกต้อง

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Desired Characteristics )

สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการคิด ๑. มวี ินัย
1) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา ๒. ใฝ่เรยี นรู้
2) ทักษะการสรปุ ย่อ ๓. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
3) ทักษะการสรุปลงความเห็น ๔. รกั ความเปน็ ไทย
4) ทักษะการทำให้กระจ่าง
5) ทกั ษะการตีความ
6) ทกั ษะการแปลความ
7) ทกั ษะการหาแบบแผน
8) ทักษะการหาความเช่ือพน้ื ฐาน
9) ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
10) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

๑๓

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process )

ทักษะเฉพาะวิชา ทกั ษะการคิด

- วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิค - ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
เล่าเรือ่ งรอบวง
- วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ 1. ทกั ษะการสรปุ ย่อ

คูค่ ดิ สี่สหาย 2. ทกั ษะการสรุปลงความเห็น

- วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิค - ทกั ษะการทำให้กระจ่าง

ร่วมกนั คดิ

ความเขา้ ใจท่ียง่ั ยนื
ศาสนาทกุ ศาสนาล้วนแต่มีความสำคัญ และเป็นเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจใหก้ ระทำความดี ซึ่งศาสนกิ ชนทุกคนพึง

ศึกษาประวัติศาสดาของศาสนาที่ตนนับถือ และนำแบบอย่างที่ดีไปเป็นแนวปฏิบตั ติ น
การเคารพพระรตั นตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรมโอวาท 3 ด้วยการไมท่ ำชวั่ ทำความดี ทำจติ ใจให้ผ่องใสบรสิ ุทธ์ิ

ซง่ึ ทำให้ผูป้ ฏบิ ัตดิ ำเนนิ ชวี ิตไปในทางท่ีถกู ต้อง
การปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรมคำสอนของศาสนาท่ตี นนับถือ และการศึกษาการทำความดขี องบุคคลจากตวั อย่าง

ต่างๆ รวมทั้งเห็นคุณค่าของการทำความดเี หล่านนั้ ช่วยให้พฒั นาตนเพื่อการอยรู่ ่วมกันได้อย่างสงบสุข
ชาวพทุ ธท่ีดีพงึ ปฏิบตั ิตนตามมรรยาทชาวพุทธ ศาสนพธิ ี พีธีกรรม และวนั สำคัญทางศาสนาได้ถกู ต้อง และ

สวดมนต์ แผ่เมตตา มีสติท่เี ป็นพื้นฐานของสมาธิ

ความสัมพันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ื่น
๑. การทักทายด้วยการสวัสดี พดู จาไพเราะ มีมรรยาททด่ี ี และมนษุ ย์สัมพนั ธ์ท่ีดตี ่อกนั
๒. การพัฒนาตนเองเพือ่ การอยรู่ ว่ มกนั ได้อย่างสงบสุข

๑๔

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑

เร่อื งเรยี นรศู้ าสนา เวลา ๔ ชว่ั โมง ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒
_____________________________________________________________________
1. เป้าหมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวัดและการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรู้และ สงิ่ ทต่ี ้องรแู้ ละปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงาน / ชิ้นงาน การวดั ผลและการประเมนิ ผล
ตวั ชวี้ ดั

ส 1.๑ ป.2/1 - ศาสนาทุกศาสนาลว้ นแต่มี ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. การประเมินกอ่ นเรยี น
ส 1.1 ป.2/๒ ความสำคญั และเปน็ เครื่อง 1. สมดุ บันทึกความรู้ เร่อื ง - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
ส 1.1 ป.2/๗ ยดึ เหนย่ี วจิตใจ ศาสนาท่ีฉันนับถอื (ช้ินงาน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง
- การเคารพพระรัตนตรยั ท่ี 1) ศาสนาของเรา (K)
ปฏิบตั ติ ามหลักธรรมโอวาท 2. รายงานผลการปฏบิ ตั ติ น 2. การประเมินระหวา่ งการจดั
3 ตามหลักธรรมของ กิจกรรมการเรียนรู้
- ประวัติศาสดาของศาสนาท่ี พระพุทธศาสนา (ชนิ้ งานที่ 2) 3. การประเมนิ หลงั เรียน
ตนนับถอื 3. แผ่นพบั เรือ่ ง เราต้องทำดี - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- วนั สำคญั ทางศาสนา (ชิน้ งานที่ 3) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง
- ทำความดี ละเว้นความชัว่ 4. การสาธติ การปฏบิ ัตติ นตาม ศาสนาของเรา (K)
มรรยาทชาวพทุ ธ (ช้นิ งานที่ 4) 4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระ
ทำจติ ใจใหผ้ อ่ งใสบริสทุ ธิ์ 5. การสาธติ การปฏบิ ตั ิตน งาน (รวบยอด)
ในศาสนพธิ ีในโอกาสที่ ๑) ตรวจสมดุ บนั ทกึ ความรู้
- การปฏิบัตติ นตาม เหมาะสม (ชน้ิ งานท่ี 5) เรือ่ ง ศาสนาที่ฉนั นบั ถือ
6. การฝึกสตแิ ละทำสมาธิ (ชิน้ งานที่ 1) (K, P)
หลักธรรมคำสอนของศาสนา เบื้องต้น (ช้ินงานที่ 6) 2) ตรวจรายงานผลการปฏบิ ตั ิ
ตนตามหลกั ธรรมของ
ทตี่ นนบั ถือ พระพทุ ธศาสนา (ชน้ิ งานที่ 2)
(P, A)
- เป็นชาวพุทธทีด่ พี ึงปฏบิ ัติ
ตนตามมรรยาทชาวพุทธ

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

๑. ความรู้ ( Knowledge)

๑.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1) พระพทุ ธศาสนาเป็นเอกลกั ษณข์ องชาติไทย

2) สรปุ พุทธประวตั ิ

- ประสูติ - เหตกุ ารณห์ ลังประสตู ิ - แรกนาขวญั
- เทวทูต 4
- การศกึ ษา - การอภเิ ษกสมรส

- การออกผนวช

3) ชอื่ ศาสนา ศาสดา และคัมภีร์ของศาสนาต่างๆ

(1) พระพทุ ธศาสนา

- ศาสดา : พระพทุ ธเจา้ - คัมภีร์ : พระไตรปิฎก

(2) ศาสนาอสิ ลาม

๑๕

- ศาสดา : มฮุ ัมมดั - คัมภรี ์ : อลั กุรอาน
(3) ศริสต์ศาสนา

- ศาสดา : พระเยซู - คัมภีร์ : ไบเบิล
(4) ศาสนาฮินดู

- ศาสดา : ไม่มศี าสดา - คัมภรี ์ : พระเวท พราหมณะ อปุ นิษัท อารัณยกะ

3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ
(พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)

ทกั ษะเฉพาะวชิ า ทกั ษะการคิด

- วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมอื : เทคนคิ - ทักษะการสำรวจค้นหา

เลา่ เร่อื งรอบวง

- วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิค 1. ทักษะการสรุปย่อ

คู่คิดสี่สหาย 2. ทกั ษะการสรปุ ลงความเหน็

- วิธสี อนโดยการจดั การเรยี นร้แู บบรว่ มมือ : เทคนิค - ทกั ษะการทำใหก้ ระจ่าง
ร่วมกันคิด

๓. สมรรถนะ (Competency)

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
๓.1 ความสามารถในการคิด
1) ทักษะการสำรวจค้นหา
2) ทักษะการสรุปย่อ
3) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น
4) ทักษะการทำให้กระจา่ ง
5) ทกั ษะการตีความ
6) ทกั ษะการแปลความ
7) ทักษะการหาแบบแผน
8) ทักษะการหาความเชอื่ พน้ื ฐาน
9) ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
10) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
๓.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
3. หลักฐานการเรยี นรู้ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (Work)

1) ตรวจสมุดบันทึกความรู้ เรื่อง ศาสนาท่ฉี นั นับถอื (ชิ้นงานที่ 1) (K, P)
2) ตรวจรายงานผลการปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา (ช้ินงานท่ี 2) (P, A)
3) ตรวจแผน่ พับ เร่ือง เราต้องทำดี (ช้ินงานท่ี 3) (P, A)
4) สังเกตการสาธิตการปฏิบตั ิตนตามมรรยาทชาวพุทธ (ช้ินงานที่ 4) (P)
5) สังเกตการสาธติ การปฏิบตั ติ นในศาสนพิธใี นโอกาสที่เหมาะสม (ชิ้นงานที่ 5) (P)
6) สงั เกตการฝึกสติและทำสมาธิเบือ้ งต้น (ชิ้นงานที่ 6) (P)

๑๖

4. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ที่วัดผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์
๔.๑ การประเมนิ กอ่ นเรียน ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - (ประเมินตามสภาพจริง)
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 (K)
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง 1) ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ความสำคัญ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ศาสนาของเรา - ตรวจใบงานท่ี 1.1 (K, P) ของพระพทุ ธศาสนา (K, A, P)
๔.๒ ประเมนิ ระหว่างการ - ตรวจใบงานที่ 1.2 (K, P,A) 2) ใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง สรปุ พุทธ - ระดบั คุณภาพ 2
จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - ตรวจใบงานที่ 1.3 (K) ประวตั ิ (K, P,A) ผา่ นเกณฑ์
1) ความสำคัญ ของพระ 3) ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ศาสนาอ่ืนๆ
พุทธ-ศาสนา - ประเมนิ การนำเสนอผลงาน (K) - ระดับคุณภาพ 2
(P, A) - ผลงานทน่ี ำเสนอ ผา่ นเกณฑ์
2) การนำเสนอ - สังเกตพฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล (P, A) - แบบสงั เกตพฤติกรรม
3) พฤตกิ รรม การทำงานรายบุคคล

5. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจัดกิจกรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสริมแรงหรอื ช่วยเหลอื นกั เรยี น
- วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคเลา่ เรอื่ งรอบวง
- วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคคู่คิดส่สี หาย
- วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคร่วมกันคิด

6. กจิ กรรมการเรียนการสอน

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรยี นรู้ศาสนา : พระพทุ ธศาสนาเป็นเอกลกั ษณข์ องชาตไิ ทย (ช่ัวโมงท่ี ๑)

๑. ขัน้ นำ
ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพกิจกรรมต่างๆ ของชาวพุทธ แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็นว่า พธิ กี รรมดงั กลา่ ว
มีความสอดคลอ้ งและแสดงถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาอยา่ งไร

๒. ขนั้ สอน
1. ครแู บ่งนกั เรยี นเปน็ กลุม่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ ครูอธิบายให้นักเรยี นเหน็ ความสำคญั ของ
การทำงานร่วมกนั การช่วยเหลือกัน การมคี วามรบั ผดิ ชอบ และมปี ฏสิ ัมพันธ์ทดี่ ตี ่อกัน
2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรเู้ รื่อง พระพุทธศาสนาเป็นเอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทย
จากหนงั สือเรียนและแหล่งเรียนรู้อืน่ ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง
3. สมาชกิ แต่ละกลุม่ รว่ มกันอภิปรายสาระสำคญั ที่ได้จากการศึกษา
4. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา และผลัดกนั อธิบายคำตอบใน
ใบงานใหส้ มาชิกคนอน่ื ในกลุ่มฟัง

๑๗

5. ตัวแทนกลุม่ ออกมานำเสนอใบงานที่ 1.1 หน้าช้ันเรียน ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
๓. ขน้ั สรุป

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนากอ่ ให้เกิดเอกลกั ษณ์ของชาตไิ ทย แลว้ ชว่ ยกนั เสนอ
แนวทางการรว่ มมือกนั รักษาเอกลักษณ์ของชาติไทยท่เี ก่ียวข้องกบั พระพุทธศาสนา
๔. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
๔.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.2
2) บตั รภาพ กจิ กรรมตา่ งๆ ของชาวพุทธ
3) ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ความสำคัญของพระพุทธศาสนา
๔.2 แหลง่ การเรียนรู้

- เวบ็ ไซต์
- หอ้ งสมุด

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เรียนรู้ศาสนา : ศาสนาในประเทศไทย (พระพุทธศาสนา) (ช่ัวโมงท่ี ๒-๓)

๑. ขน้ั นำ

๑. ครูนำภาพพทุ ธประวัตติ อนประสูติ ตรสั รู้ และปรนิ ิพพาน มาให้นักเรียนดู แล้วร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ถึง
ความสำคัญของเหตุการณใ์ นภาพ

๒. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงให้นกั เรยี นเหน็ ถึงความสำคัญของการศึกษาพทุ ธประวัติ
๒. ขั้นสอน
1. ครูให้นักเรียนกลุ่มเดมิ ศกึ ษาความรเู้ รือ่ ง พระพุทธศาสนา จากหนังสือเรยี น ภาพยนตร์สน้ั แล้วผลัดกันอธบิ าย

ความรใู้ นประเด็นสำคัญ
2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ จับคู่กนั แล้วให้แตล่ ะคู่ชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง สรปุ พทุ ธประวตั ิ
3. สมาชกิ แต่ละคผู่ ลัดกนั อธบิ ายคำตอบในใบงานที่ 1.2 ให้เพ่ือนสมาชกิ อกี คูห่ น่ึงภายในกลุ่มฟงั
4. ตวั แทนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอใบงานท่ี 1.2 หน้าช้ันเรียน โดยมคี รูตรวจสอบความถูกต้อง
๓. ข้นั สรปุ

ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรปุ พุทธประวตั ิ และข้อคดิ อนั เป็นแนวทางในการดำเนินชวี ิต
๔. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

๔.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.2
2) บัตรภาพ กิจกรรมต่างๆ ของชาวพุทธ
3) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง สรุปพทุ ธประวัติ
4) ภาพยนตรส์ นั้

๔.2 แหลง่ การเรยี นรู้
- เวบ็ ไซต์
- ห้องสมดุ

๑๘

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ เรียนร้ศู าสนา : ศาสนาในประเทศไทย (ศาสนาอน่ื ๆ) (ชั่วโมงท่ี ๔)

๑. ขน้ั นำ

ครใู หน้ ักเรียนดูภาพสญั ลกั ษณ์ วดี ิทัศน์หรอื ภาพทีส่ อ่ื ความหมายถึงศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดู แล้วชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นถึงความสำคญั ของสัญลักษณ์ดังกล่าว
๒. ข้นั สอน
1. นกั เรยี นรวมกลุม่ เดิม แลว้ ร่วมกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอสิ ลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดู จากหนังสือ

เรียนและแหลง่ เรียนรอู้ ่นื ๆ จากน้นั ครูอธิบายความรู้เพม่ิ เติม
๓. สมาชิกทกุ คนในกลมุ่ รว่ มกันทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง ศาสนาอืน่ ๆ เม่ือทำใบงานเสรจ็ แล้ว ใหส้ มาชิกผลัดกนั

อธิบายคำตอบให้เพื่อนคนอนื่ ในกลุ่มมีความเขา้ ใจอยา่ งกระจ่างชัดเจน
๔. ครสู มุ่ นักเรียนในแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 1.3 หน้าชัน้ เรียน

๓. ขน้ั สรปุ
นักเรยี นและครชู ่วยกนั สรปุ สาระสำคญั เกีย่ วกบั ศาสดาของศาสนาอื่น

4. สื่อการสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๔.๑ ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.2
2) บตั รภาพ กิจกรรมต่างๆ ของชาวพุทธ
3) ใบงานที่ 1.๓ เรอ่ื ง ศาสดาของศาสนาอน่ื
๔) วดี ิทัศน์เก่ียวกบั ศาสนาอ่ืน ๆ ในประเทศไทย
๕) เอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง
๔.2 แหล่งการเรียนรู้
- ห้องสมุด
- เว็บไซต์ทเ่ี กี่ยวข้อง

7. บันทกึ ผลหลังแผนการจดั การเรยี นรู้

1. ผลการเรียนรู้

1.1 ดา้ นความรู้ (K)

ตารางท่ี 1 แสดงค่าร้อยละระดับผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน เร่ือง ...................................................

ระดบั ผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางท่ี 1 พบว่านักเรยี นผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ร้อยละ................อยู่ในระดบั ..........และรองลงมาร้อย
ละ.................อยูใ่ นระดับ...............และพบวา่ นกั เรียน.............................................................................
............................................................................................................................. ....................................

๑๙

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )

ตารางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรอื่ ง ..................................................

ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางท่ี 2 พบวา่ นกั เรียนผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ร้อยละ................อยใู่ นระดับ..........และรองลงมา
ร้อยละ.................อยู่ในระดบั ................และพบวา่ นักเรยี น.......................................................................
............................................................................................................................... ...................................

1.3 ด้านเจตคติ / คุณลักษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชอ่ื มโยงกบั มาตรฐานหลักสูตร

ตารางท่ี 3 แสดงคา่ ร้อยละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เร่อื ง ............................................

ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรียน ร้อยละ

ดีมาก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางท่ี 3 พบวา่ นกั เรยี นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ร้อยละ..............อยใู่ นระดบั ............และรองลงมา
ร้อยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบวา่ นกั เรยี น............................................................................
.......................................................................................................................................................................

สรปุ ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ …………………………..

1) นักเรียนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นอยูใ่ นระดับ...................

2) นักเรียนมที ักษะในระดบั ..................

3) นกั เรียนมคี ุณลกั ษณะในระดับ...............

2. บรรยากาศการเรยี นรู้

............................................................................................................................. ...............................................................

3. การปรับเปล่ยี นแผนการจัดการเรยี นรู้ (ถ้ามี)

............................................................................................................................. ..............................................................

4. ข้อค้นพบด้านพฤติกรรมการจัดการเรยี นรู้

............................................................................................................................. ...............................................................

5. อื่นๆ

............................................................................................................................. .................................................

๒๐

( หลังจากจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนจบ 1 หน่วยการเรียนรู้)

ปัญหา/สิ่งท่ีพัฒนา / แนวทางแกป้ ัญหา / แนวทางการพัฒนา

ปญั หา/สิง่ ท่พี ัฒนา สาเหตุของปญั หา/ แนวทางแกไ้ ข/ วิธีแก้ไข/พฒั นา ผลการแก้ไข/พฒั นา
ส่งิ ทพ่ี ัฒนา พฒั นา

ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน
( นางสมพงษ์ นาคสังข์ )

รบั ทราบผลการดำเนินการ

ลงชอ่ื .........................................................
( นายกณั ฑ์ชยวฒั น์ ไสยจติ ต์ )
หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้

ลงชือ่ ...................................................
( นายชาญยทุ ธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ลงชื่อ....................................................
( นายวรี ะ แก้วกลั ยา )

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวดั เพชรบุรี

๒๑

8. ความคดิ เหน็ (ผูบ้ ริหาร / หรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย)
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ.............................................................................แล้วมคี วามเห็นดงั น้ี
8.1 เป็นแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่
ดมี าก ดี
พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรุง
8.2 การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
ทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ ใช้กระบวนการสอนได้อย่างเหมาะสม
ทีย่ ังไมเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป
8.3 เปน็ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี
นำไปใช้สอนได้
ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้
8.4 ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ

.................................................................................. ..........................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

ลงช่อื ....................................................................
( นายกัณฑ์ชยวฒั น์ ไสยจติ ต์ )
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้

ความคดิ เห็นของรองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................... .......................................................

ลงชอ่ื .................................................
( นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์ )

รองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวชิ าการ
ความคดิ เห็นของผู้อำนวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.............................................
( นายวรี ะ แก้วกลั ยา )

ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวดั เพชรบุรี

๒๒

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒
เร่ือง หลักธรรมนำความสขุ เวลา ๘ ชั่วโมง ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒

1. เปา้ หมายการเรียนรู้ / หลักฐานการเรียนรู้ / การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละ ส่ิงทีต่ ้องรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวัดผลและการประเมินผล
ตวั ชี้วัด

ส 1.1 ป.2/4 การเคารพพระรตั นตรยั ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. การประเมนิ ก่อนเรียน
ปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมโอวาท 1. สมุดบนั ทึกความรู้ เร่อื ง - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน

3 ด้วยการไมท่ ำชั่ว ทำความ ศาสนาทฉ่ี นั นับถอื (ชน้ิ งาน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง
ดี ทำจิตใจให้ผอ่ งใสบริสทุ ธ์ิ ที่ 1) ศาสนาของเรา (K)
ยอ่ มทำใหผ้ ้ปู ฏบิ ตั ิดำเนินชีวิต 2. รายงานผลการปฏิบัตติ น 2. การประเมนิ ระหวา่ งการจัด

ไปในทางท่ถี ูกตอ้ ง ตามหลักธรรมของ กจิ กรรมการเรยี นรู้

พระพุทธศาสนา (ชิ้นงานท่ี 2) 3. การประเมินหลังเรยี น

3. แผ่นพับ เร่ือง เราต้องทำดี - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน

(ชิ้นงานที่ 3) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง

4. การสาธิตการปฏบิ ัตติ นตาม ศาสนาของเรา (K)

มรรยาทชาวพุทธ (ช้นิ งานท่ี 4) 4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระ

5. การสาธิตการปฏบิ ตั ิตน งาน (รวบยอด)

ในศาสนพธิ ีในโอกาสที่ ๑)ตรวจสมดุ บันทกึ ความรู้ เร่ือง

เหมาะสม (ช้ินงานที่ 5) ศาสนาท่ีฉันนับถอื (ชิ้นงานที่
6. การฝกึ สตแิ ละทำสมาธิ 1) (K, P)
เบื้องตน้ (ชนิ้ งานท่ี 6) 2) ตรวจรายงานผลการปฏิบตั ิ

ตนตามหลกั ธรรมของ
พระพุทธศาสนา (ชนิ้ งานที่ 2)
(P, A)

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ ( Knowledge)
๑.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๑) โอวาท ๓
(1) การไม่ทำช่วั : เบญจศีล
(2) ทำความดี : เบญจธรรม - หิริ-โอตตปั ปะ - สังคหวตั ถุ 4 - ฆราวาสธรรม 4
(๓) มงคล 38 : ความกตัญญู - สงเคราะหญ์ าตพิ นี่ ้อง - กตัญญกู ตเวทีต่อครู อาจารย์ และโรงเรียน
(๔) ทำจติ ใหผ้ อ่ งใสบรสิ ุทธิ์ (บริหารจิตและเจริญปัญญา)
(๕) พระรัตนตรยั : ศรทั ธา
๒) พุทธศาสนสุภาษิต
(1) นิมติ ฺตํ สาธรุ ูปานํ กตญญฺ ูกตเวทติ า : ความกตัญญกู ตเวที เปน็ เครื่องหมายของคนดี
(2) พรฺ หฺมาติ มาตาปติ โร : มารดาบิดาเป็นพรหมของบุตร

๒๓

๑.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ

(พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)

2. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)

- ทักษะการตีความ - วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนกั

- ทกั ษะการแปลความ - วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก

- ทกั ษะการใหค้ ำจำกดั ความ - วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5 Es Instructional Model)

- ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ - วธิ สี อนแบบธรรมสากจั ฉา

- ทกั ษะการตคี วาม - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏบิ ตั ิ

- ทกั ษะการแปลความ - วธิ ีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนิคคคู่ ิดสี่สหาย

๓. สมรรถนะ (Competency)

4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทักษะการสำรวจคน้ หา
2) ทกั ษะการสรปุ ย่อ
3) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น
4) ทักษะการทำให้กระจ่าง
5) ทักษะการตีความ
6) ทักษะการแปลความ
7) ทกั ษะการหาแบบแผน
8) ทกั ษะการหาความเช่ือพน้ื ฐาน
9) ทักษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
10) ทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้
4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

3. หลกั ฐานการเรียนรชู้ ิน้ งานหรอื ภาระงาน (Work)
1) ตรวจสมุดบนั ทกึ ความรู้ เรื่อง ศาสนาที่ฉนั นับถือ (ชิน้ งานที่ 1) (K, P)
2) ตรวจรายงานผลการปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา (ชิ้นงานท่ี 2) (P, A)
3) ตรวจแผน่ พบั เรอ่ื ง เราต้องทำดี (ช้นิ งานท่ี 3) (P, A)
4) สงั เกตการสาธิตการปฏบิ ตั ติ นตามมรรยาทชาวพุทธ (ช้นิ งานที่ 4) (P)
5) สังเกตการสาธติ การปฏิบตั ติ นในศาสนพธิ ใี นโอกาสท่ีเหมาะสม (ช้ินงานท่ี 5) (P)
6) สงั เกตการฝึกสติและทำสมาธิเบ้ืองตน้ (ช้ินงานที่ 6) (P)

๒๔

4. การวัดและการประเมินผล ( Evaluation )

สิ่งท่ีวัดผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์
๑) ใบงานที่ 1.4 เรื่อง การละเว้น - รอ้ ยละ 60 ผา่ น
๑) ประเมนิ ระหวา่ งการจดั ความช่วั (K, P) เกณฑ์
๒) ใบงานที่ 1.5 เรื่อง การทำ
กิจกรรมการเรยี นรู้ ความดี (K, P) - ระดับคุณภาพ 2
๓) ใบงานที่ 1.6 เรื่อง ความ ผ่านเกณฑ์
1) การไม่ทำความชัว่ - ตรวจใบงานท่ี 1.4 (K, P) กตญั ญูและสงเคราะหญ์ าติ (P) - ระดบั คุณภาพ 2
๔) ใบงานที่ 1.7 เรื่อง พระ ผา่ นเกณฑ์
2) การทำความดี - ตรวจใบงานท่ี 1.5 (K, P) รตั นตรัย (K) - ระดบั คุณภาพ 2
๕) ใบงานที่ 1.8 เรอ่ื ง พุทธศาสน ผ่านเกณฑ์
๓) กตญั ญแู ละมงคล - ตรวจใบงานท่ี 1.6 (P) สุภาษติ (K)
- ผลงานที่นำเสนอ
38 (P) - ตรวจใบงานที่ 1.7 (K)
- แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน
๔) พทุ ธศาสน - สุภาษติ - ตรวจใบงานท่ี 1.8 (K) รายบคุ คล
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ กลมุ่
ผลงาน (P, A)
๓) พฤติกรรมการทำงาน
รายบุคคล (P,A) - สังเกตพฤติกรรมการทำงาน
๔) พฤติกรรมการทำงาน รายบคุ คล
กลุ่ม
- สังเกตพฤติกรรมการทำงาน
กลมุ่ (P,A)

๕) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ - สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง - ระดบั คุณภาพ 2
ประสงค์
และมุง่ มัน่ ในการทำงาน (A) ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

5. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจัดกจิ กรรม ( Learning Process )
การจัดกิจกรรมการเรียนร้/ู แนวทางการเสรมิ แรงหรือช่วยเหลอื นกั เรียน
- วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนกั
- วธิ ีสอนแบบธรรมสากจั ฉา
- วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ
- วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิคคู่คิดส่สี หาย
- วิธสี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5 Es Instructional Model)

6. กจิ กรรมการเรียนการสอน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 หลักธรรมนำความสุข : การไม่ทำความช่ัว (ช่ัวโมงที่ ๑)

๑. ขั้นนำ
ข้นั ที่ 1 สังเกต

ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันรอ้ งเพลงทำดีไดด้ ี จากน้ันใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ และขอ้ คิดท่ีได้จาก
บทเพลง

๒๕

๒. ขั้นสอน
ขัน้ ที่ 2 วเิ คราะหว์ จิ ารณ์

1. ครใู ห้นกั เรียนรวมกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ช้ีแจงวิธกี ารทำงานกลุ่มร่วมกันด้วยความ
รบั ผดิ ชอบและชว่ ยเหลอื กนั

๒. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรเู้ รื่อง เบญจศลี แล้วครอู ธิบายความร้เู พ่ิมเติม
๓. สมาชกิ แต่ละคนในกล่มุ ร่วมกันทำใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง การละเวน้ ความช่ัว
๔. ครเู ฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.4 โดยให้สมาชิกแต่ละกลมุ่ ตรวจสอบความถูกต้องและแก้ไขในส่วนทบี่ กพร่อง
๓. ขั้นสรุป

ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ แนวทางการปฏบิ ัตติ นในการทำความดี ละเวน้ ความชั่ว แล้วใหน้ ักเรยี นนำไป
ปฏบิ ตั ิ
๔. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
๔.๑ ส่ือการเรียนรู้

1) หนงั สือเรยี น สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
2) เพลง ทำดีได้ดี
3) ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง การละเวน้ ความช่ัว
4) เอกสารเกยี่ วกับการละเวน้ ความชั่ว
๔.2 แหล่งการเรยี นรู้
- เวปไซต์

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ หลกั ธรรมนำความสุข : การทำความดี (ช่ัวโมงที่ ๒-๓)

๑.ขน้ั นำ
ครูให้นักเรยี นผลัดกนั เลา่ ถึงการทำความดีของตนเองและดูภาพยนตร์สนั้ เก่ียวกับการทำความดี แล้วครูอธบิ าย
เช่ือมโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจวา่ การทำความดดี ังกลา่ วนั้นสอดคล้องกับหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา คอื โอวาท 3
๒. ขัน้ สอน
ขนั้ ท่ี 1 แสวงหาความรู้

ครูใหน้ กั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เก่ยี วกบั หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา
เรอื่ ง โอวาท 3 ข้อท่ี 2 การทำความดี จากหนงั สือเรียนหรือแหล่งเรียนรอู้ นื่ ๆ เช่น เว็บไซต์ เอกสาร ข่าวการทำดีจาก
หนังสอื พมิ พต์ ามประเดน็ ทก่ี ำหนด

ขั้นท่ี 2 คน้ พบความรู้/สนทนาแลกเปลย่ี นความรู้
นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสนทนาแลกเปลยี่ นความรเู้ ก่ียวกบั หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรื่อง โอวาท 3 ข้อที่ 2

การทำความดี ตามประเด็นท่ีกำหนด

ขนั้ ที่ 3 วิเคราะห์และประเมินคา่ ความรู้
1. สมาชิกแต่ละกลมุ่ จบั คู่กันเปน็ 2 คู่ รว่ มกันทำใบงานที่ 1.5 เรื่อง การทำความดี ดงั น้ี
• คทู่ ี่ 1 ตอบคำถามในกรณีศกึ ษาที่ 1
• คทู่ ี่ 2 ตอบคำถามในกรณีศกึ ษาท่ี 2
• ค่ทู ่ี 3 ตอบคำถามในกรณศี ึกษาท่ี 3
ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.5

๒๖

ขั้นที่ 4 พสิ ูจนค์ วามรหู้ รอื ปฏบิ ัติ
ครูและนกั เรียนช่วยกันวางแผนปฏบิ ัตคิ วามดจี ากใบงานที่ 1.5 และมอบหมายให้นักเรียนนำไปปฏิบตั ิ และบันทึก
ผลการปฏิบัตลิ งในสมุด เสร็จแล้วนำส่งครตู รวจ

๓. ขน้ั สรุป
ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปผลของการทำความดี และการพฒั นาตนเองเพ่ือเปน็ คนดี

๔. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
๔.๑ ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
3) ใบงานที่ 1.๕ เรอ่ื ง การทำความดี
3) เอกสารการทำความความดี
4) ข่าวการทำความดใี นหนงั สือพิมพ์
5) ภาพยนตร์ส้นั
๔.2 แหลง่ การเรียนรู้
- เวปไซต์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๖ หลกั ธรรมนำความสุข : กตัญญแู ละมงคล 38 (ชั่วโมงท่ี ๔-๕)

๑. ขัน้ นำ
1. ครเู ล่านทิ านที่มีเรื่องราวที่แสดงถงึ ความกตญั ญใู หน้ ักเรยี นฟงั เชน่ นทิ านเร่อื งนกกระสา หนูกบั ราชสหี ์
2. ครูให้นกั เรียนช่วยกันวิเคราะหข์ อ้ คิดท่ไี ด้จากการฟงั นิทาน แล้วอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ของ
ความกตัญญู

๒. ขน้ั สอน

ข้นั ที่ 1 แสวงหาความรู้
ครใู หน้ กั เรียนรวมกลุ่มเดิม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่อง

กตัญญูกตเวทีต่อครู อาจารย์ และโรงเรียน และเร่ือง มงคล 38

ข้นั ท่ี 2 คน้ พบความรู้/สนทนาแลกเปลย่ี นความรู้
สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ นำความรูท้ ไ่ี ด้จากการศึกษามาสนทนากนั ในหวั ข้อ ความหมาย ตวั อยา่ งการกระทำ และผล
ทไี่ ด้รบั จากการปฏบิ ัติ

ขัน้ ที่ 3 วเิ คราะห์และประเมินคา่ ความรู้
1. นักเรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันวิเคราะห์กรณีศกึ ษาในใบงานท่ี 1.6 เรอ่ื ง ความกตัญญแู ละสงเคราะหญ์ าติ
2. ครูเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 1.6 โดยให้สมาชิกแต่ละกล่มุ ตรวจสอบความถกู ต้องของใบงาน

ข้ันที่ 4 พสิ ูจนค์ วามรู้หรือปฏบิ ตั ิ
นกั เรยี นรว่ มกันเสนอแนวทางการปฏิบัติตนในเร่ือง ความกตัญญตู อ่ ครู อาจารย์ และโรงเรยี น ผูม้ พี ระคุณ และ
การสงเคราะหญ์ าติ โดยมีครชู ว่ ยเสนอแนะ

๓. ข้ันสรปุ
ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรุปผลของการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ที่มีความกตญั ญู และการมสี ่วนร่วมในการสงเคราะหญ์ าติ

๒๗

๔. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้
๔.๑ สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี น สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ป.2
2) นทิ านเรื่อง ราชสีหก์ บั หนู
3) ใบงานที่ 1.6 เรอื่ ง ความกตัญญูและสงเคราะห์ญาติ
๔.2 แหล่งการเรียนรู้
-

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๗ หลกั ธรรมนำความสุข : การทำจติ ใจให้ผ่องใสบริสทุ ธ์ิ (ชั่วโมงท่ี ๖)

๑. ขั้นนำ
ครใู หน้ กั เรียนนัง่ สมาธกิ ่อนเริ่มเรยี นเปน็ เวลา 5-10 นาที

๒. ข้นั สอน
ขัน้ ที่ 1 สงั เกต รับรู้
ครูใหน้ กั เรียนเล่าถึงความรู้สกึ ของนักเรียนขณะนั่งสมาธิ แล้วครอู ธบิ ายเช่อื มโยงให้นักเรียนเข้าใจวา่ การทำจิตใจให้

บรสิ ุทธ์ินน้ั จะต้องใช้วธิ กี ารฝึกปฏิบัตหิ ลายวิธีการ
ข้นั ท่ี 2 ทำตามแบบ
1. ครสู นทนากับนักเรียนถึงความสำคญั ของพระรตั นตรัยและการแสดงความศรทั ธาต่อพระรัตนครัยดว้ ยการ
กราบไหว้บูชา ระลกึ ถึงคุณของพระรัตนตรยั
2. นักเรียนฝกึ จติ ให้เป็นสมาธดิ ว้ ยการกำหนดลมหายใจเขา้ ออกตามวีดิทัศน์
3. นกั เรยี นฝึกจติ ให้มสี ติกำกับอยู่ตลอดเวลา เมือ่ คิดถงึ สง่ิ ใดก็มสี ติกำหนดรู้เทา่ ทนั
ข้ันท่ี 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ
นกั เรียนแต่ละคนฝกึ ปฏิบัติในการกำหนดจิตใหเ้ ปน็ สมาธิดว้ ยการกำหนดลมหายใจเข้าออกด้วยตนเอง
ขน้ั ที่ 4 ฝึกทำใหช้ ำนาญ
นักเรียนฝกึ ปฏิบัติในการทำจติ ใหส้ งบ ไม่ขนุ่ มวั จนเกิดความชำนาญ
๓. ข้นั สรุป
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ประโยขน์ของการน่ังสมาธิ
2. ครแู นะนำนักเรียนนกั เรยี นนำการนง่ั สมาธไิ ปใช้ในชีวติ ประจำวนั เพือ่ ใหเ้ กดิ สตใิ นการทำกิจกรรมตา่ งๆ
๔. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
๔.๑ สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
2) แผน่ เสยี งสวดมนต์
3) วดี ิทศั น์
๔.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-

๒๘

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๘ หลกั ธรรมนำความสุข : ศรัทธาในพระรัตนตรัย (ชั่วโมงที่ ๗)

๑. ขนั้ นำ

1. ครซู กั ถามนกั เรียน แล้วใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้

⚫ พระรตั นตรัยหมายถึงอะไร และประกอบไปด้วยอะไรบา้ ง

(พระรัตนตรัย หมายถึง พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ พระรัตนตรัยเปน็ องค์ประกอบสำคญั ของ

พระพุทธศาสนา)

2. ครูถามคำถามกระตุน้ ความคิด แลว้ ใหเนกั เรยี นตอบคำถาม

 นักเรียนคดิ ว่าเพราะเหตุใดจึงมีคำกลา่ ววา่ “พระรตั นตรัย คือ หัวใจของพระพุทธศาสนา”

(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

 นักเรยี นคิดวา่ เพราะเหตุใดชาวพุทธจงึ ควรมีศรัทธาต่อพระรตั นตรัย

(พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)

๒. ขน้ั สอน

1. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ

2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ศึกษาความรูเ้ ร่ือง ศรัทธาในพระรัตนตรยั จากหนงั สือเรียน และช่วยกันทำ

ใบงานที่ 1.7 เรอื่ ง พระรัตนตรยั

3. นักเรยี นแตล่ ะครู่ วมกล่มุ เดิม (4 คน) แล้วนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษามาเล่าใหเ้ พ่ือนอีกคู่หน่งึ ฟัง พร้อมทั้ง

เฉลยคำตอบของใบงาน

4. ครอู ธิบายความรเู้ กย่ี วกบั พระรตั นตรัยใหน้ ักเรียนฟังเพิ่มเติมในประเด็นต่อไปนี้

1) คณุ ของพระรตั นตรัย 2) การปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อพระรัตนตรยั

๓. ขัน้ สรุป

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เร่อื ง ศรทั ธาในพระรัตนตรยั

๔. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

๔.๑ สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สือเรยี น สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.๑

2) ใบงานที่ ๑.๗ เร่ืองพระรัตนตรัย

๔.2 แหลง่ การเรยี นรู้

-

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๙ หลกั ธรรมนำความสุข : พทุ ธศาสนสุภาษิต (ชั่วโมงท่ี ๘)

๑. ขน้ั นำ
ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. นกั เรยี นดภู าพยนตร์ส้นั เกี่ยวกับความกตัญญูแลว้ สนทนาเกยี่ วกบั เร่อื งที่ดู
2. ครใู ห้นักเรยี นเล่าการกระทำของตนที่แสดงวา่ มีความกตญั ญู พร้อมทั้งบอกเหตุผลของการกระทำดังกล่าว
3. ครอู ธิบายเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเข้าใจว่าการกระทำท่ีแสดงถึงความกตัญญนู ้ันสอดคลอ้ งกบั พทุ ธศาสนสภุ าษติ
นมิ ติ ตฺ ํ สาธรุ ูปานํ กตญญฺ ูกตเวทติ า
๒. ข้ันสอน
ขนั้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore)

๒๙

ครใู หน้ กั เรยี นรวมกลุ่มเดิม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ รว่ มกันศกึ ษาความรู้เกีย่ วกบั พทุ ธศาสนสุภาษิต จากหนงั สือเรียนและ
แหลง่ เรียนรู้อน่ื ๆ ดังน้ี

1) นมิ ติ ฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทติ า 2) พฺรหมฺ าติ มาตาปิตโร

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)

นกั เรียนแตล่ ะคนในกลุ่มนำความรทู้ ไี่ ด้จากการศกึ ษาเกย่ี วกบั พทุ ธศาสนสุภาษติ มาอธบิ ายร่วมกันในสาระสำคัญ

เก่ยี วกับความหมาย และแนวทางการปฏบิ ัตติ นตามพุทธศาสนสภุ าษิต
ข้นั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand)

นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มมือกันทำใบงานท่ี 1.8 เรอ่ื ง พทุ ธศาสนสุภาษติ

๓. ขนั้ สรุป
ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบ (Evaluate)

ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอใบงานท่ี 1.8 หน้าชนั้ เรยี น แลว้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง

4. สือ่ การสอน / แหล่งเรียนรู้

๔.๑ สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรียน สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
2) ใบงานท่ี 1.8 เรอ่ื ง พุทธศาสนสภุ าษิต

3) ภาพยนตรส์ นั้ เรื่องความกตญั ญู
๔.2 แหลง่ การเรยี นรู้

- ห้องสมดุ

- อนิ เทอรเ์ น็ต

7. บนั ทกึ ผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้
1. ผลการเรียนรู้

1.1 ด้านความรู้ (K)
ตารางท่ี 1 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน เรื่อง ...................................................

ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น รอ้ ยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางท่ี 1 พบว่านักเรยี นผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน รอ้ ยละ................อยู่ในระดับ..........และรองลงมาร้อยละ
.................อยใู่ นระดับ...............และพบว่านักเรียน...................................................................................
............................................................................................................................. .....................................

๓๐

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน เรื่อง ..................................................

ระดบั ผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนักเรียน รอ้ ยละ
ดีมาก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบวา่ นักเรยี นผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน รอ้ ยละ................อยู่ในระดับ..........และรองลงมา
ร้อยละ.................อยใู่ นระดับ................และพบวา่ นักเรยี น.......................................................................
............................................................................................................................. .....................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คุณลักษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชือ่ มโยงกับมาตรฐานหลกั สูตร
ตารางท่ี 3 แสดงค่าร้อยละคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เร่ือง ............................................

ระดับผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนักเรียน ร้อยละ
ดมี าก (80-100 คะแนน)
ดี (70-79 คะแนน)
พอใช้ (60-69 คะแนน)
ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางท่ี 3 พบวา่ นักเรยี นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ..............อยใู่ นระดับ............และรองลงมา
ร้อยละ.................อยู่ในระดับ...............และพบวา่ นกั เรียน............................................................................
.................................................................................... ...................................................................................
สรุป ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ …………………………..

๑) นักเรียนมผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนอย่ใู นระดับ...................

๒) นักเรียนมที ักษะในระดบั ..................

๓) นักเรียนมีคุณลักษณะในระดบั ...............

2. บรรยากาศการเรยี นรู้

........................................................................................ ....................................................................................................

3. การปรบั เปลี่ยนแผนการจดั การเรียนรู้ (ถา้ ม)ี

.......................................................................................................... ..................................................................................

4. ขอ้ ค้นพบด้านพฤตกิ รรมการจัดการเรยี นรู้

............................................................................................................................. ...............................................................

5. อืน่ ๆ............................................................................................................................. ...............................................

๓๑

( หลังจากจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนจบ 1 หน่วยการเรยี นรู้)

ปัญหา/สิ่งท่พี ัฒนา / แนวทางแกป้ ญั หา / แนวทางการพฒั นา

ปัญหา/ส่ิงที่พฒั นา สาเหตุของปญั หา/ แนวทางแก้ไข/ วิธแี ก้ไข/พัฒนา ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
สง่ิ ทพ่ี ัฒนา พฒั นา

ลงชือ่ ......................................................ผ้สู อน
( นางสมพงษ์ นาคสังข์ )

รับทราบผลการดำเนินการ

ลงชอื่ ...................................................
( นายกณั ฑ์ชยวัฒน์ ไสยจิตต์ )
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

ลงชอื่ ..................................................
( นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์ )

รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ

ลงชื่อ...................................................
( นายวรี ะ แกว้ กลั ยา )

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวดั เพชรบุรี

๓๒

8. ความคิดเหน็ (ผบู้ ริหาร / หรอื ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย)
ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนรขู้ อง.................................................แลว้ มีความเห็นดังน้ี
8.1 เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี
ดมี าก ดี
พอใช้ ต้องปรับปรงุ
8.2 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้
ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญ ใชก้ ระบวนการสอนได้อย่างเหมาะสม
ท่ียงั ไม่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป
8.3 เป็นแผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี
นำไปใชส้ อนได้
ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้
8.4 ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ

...................................................... ............................................................................................................................. .........
.......................................................................................................................... .................................................................

ลงชื่อ...........................................................
( นายกณั ฑ์ชยวฒั น์ ไสยจติ ต์ )
หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

ความคดิ เหน็ ของรองผูอ้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

ลงชอ่ื .................................................
( นายชาญยทุ ธ สุทธิธรานนท์ )

รองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...............................................................
...................................................................................................................................... ......................................................

ลงช่ือ.............................................
( นายวรี ะ แก้วกัลยา )

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี

๓๓

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓
เรือ่ ง เราทำความดี เวลา ๔ ช่ัวโมง ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๒

1. เป้าหมายการเรียนรู้ / หลกั ฐานการเรียนรู้ / การวดั และการประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ที่ต้องรแู้ ละปฏิบตั ิได้ ผลงาน / ชิน้ งาน การวัดผลและการประเมนิ ผล
ตัวชวี้ ัด

ส 1.1 ป.2/3 ป.2/5 ศาสนาทกุ ศาสนาล้วนแตม่ ี ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1. การประเมินก่อนเรยี น
ความสำคญั และเปน็ เครื่องยึด
เหน่ียวจติ ใจใหก้ ระทำความดี 1. สมดุ บนั ทกึ ความรู้ เรอื่ ง - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
ซึง่ ศาสนกิ ชนทุกคนพงึ ศึกษา
ประวัตศิ าสดาของศาสนาทต่ี น ศาสนาทฉ่ี ันนบั ถือ (ชิ้นงาน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง
นบั ถือและนำแบบอยา่ งท่ดี ีไป
เปน็ แนวปฏบิ ตั ิตน ท่ี 1) ศาสนาของเรา (K)

2. รายงานผลการปฏิบตั ิตน 2. การประเมินระหวา่ งการจัด

ตามหลักธรรมของ กจิ กรรมการเรยี นรู้

พระพทุ ธศาสนา (ช้นิ งานท่ี 2) 3. การประเมินหลังเรียน

3. แผ่นพบั เร่ือง เราต้องทำดี - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

(ช้นิ งานท่ี 3) หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง

4. การสาธติ การปฏบิ ัตติ นตาม ศาสนาของเรา (K)

มรรยาทชาวพทุ ธ (ชน้ิ งานท่ี 4) 4 การประเมินช้ินงาน/ภาระ

5. การสาธติ การปฏบิ ัตติ น งาน (รวบยอด)

ในศาสนพิธใี นโอกาสที่ ๑)ตรวจสมุดบนั ทกึ ความรู้ เรื่อง

เหมาะสม (ชนิ้ งานท่ี 5) ศาสนาท่ฉี ันนบั ถอื (ชน้ิ งานท่ี

6. การฝกึ สตแิ ละทำสมาธิ 1) (K, P)

เบื้องต้น (ชิ้นงานท่ี 6) 2) ตรวจรายงานผลการปฏบิ ตั ิ

ตนตามหลกั ธรรมของ

พระพุทธศาสนา (ช้นิ งานท่ี 2)

(P, A)

2. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ ( Knowledge)
๑.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

๑) พุทธสาวก พุทธสาวิกา : สามเณรราหลุ
๒) ชาดก : วรณุ ชาดก - วานรินทชาดก
๓) ศาสนกิ ชนตวั อย่าง

- สมเด็จพระอรยิ วงษญาณ สมเดจ็ พระสงั ฆราช (ศุข ไก่เถ่ือน)
- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน)

๔) ตวั อย่างการกระทำความดขี องตนเอง และบุคคลในครอบครัวและในโรงเรียน

๑.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
(พิจารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา)

๓๔

2. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)

- วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคค่คู ิดสสี่ หาย
- วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบร่วมมอื : เทคนิคเล่าเร่ืองรอบวง

- วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคการเรียนรว่ มกนั

- วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

๓. สมรรถนะ (Competency)

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
๓.1 ความสามารถในการคิด
1) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา
2) ทกั ษะการสรุปย่อ
3) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น
4) ทักษะการทำให้กระจา่ ง
5) ทักษะการตีความ
6) ทักษะการแปลความ
7) ทกั ษะการหาแบบแผน
8) ทกั ษะการหาความเชื่อพ้ืนฐาน
9) ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
10) ทกั ษะการนำความรไู้ ปใช้
๓.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

3. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ ิ้นงานหรอื ภาระงาน (Work)
1) ตรวจสมดุ บันทกึ ความรู้ เรื่อง ศาสนาท่ีฉันนับถือ (ชนิ้ งานท่ี 1) (K, P)
2) ตรวจรายงานผลการปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา (ช้ินงานที่ 2) (P, A)
3) ตรวจแผน่ พบั เร่ือง เราต้องทำดี (ชนิ้ งานท่ี 3) (P, A)
4) สงั เกตการสาธิตการปฏบิ ัตติ นตามมรรยาทชาวพุทธ (ชน้ิ งานท่ี 4) (P)
5) สงั เกตการสาธติ การปฏบิ ตั ติ นในศาสนพิธใี นโอกาสทีเ่ หมาะสม (ช้ินงานที่ 5) (P)
6) สังเกตการฝึกสติและทำสมาธิเบือ้ งตน้ (ช้นิ งานที่ 6) (P)

๓๕

4. การวัดและการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ที่วดั ผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์

๔.1 ประเมนิ ระหว่างการจดั - ใบงานที่ 1.9 - ร้อยละ 60 ผา่ น
- ใบงานที่ 1.10 เกณฑ์
กจิ กรรมการเรยี นรู้ - ใบงานที่ 1.11
- ใบงานท่ี 1.12 - ระดับคุณภาพ 2
1) ประวตั ิพุทธสาวก - ตรวจใบงานที่ 1.9 (K, P) - ผลงานทีน่ ำเสนอ ผา่ นเกณฑ์
- ระดับคุณภาพ 2
๒) ชาดก - ตรวจใบงานท่ี 1.10 (K, P) - แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ 2
๓) ชาวพทุ ธตัวอยา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 1.11 (K, P) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน ผ่านเกณฑ์
กลุ่ม - ระดบั คุณภาพ 2
๔) การทำความดี - ตรวจใบงานท่ี 1.12 (P, A) - แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์
ประสงค์
๕) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
(P, A)
๖) พฤติกรรมการทำงาน
รายบคุ คล - สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน
๗) พฤติกรรมการทำงาน รายบคุ คล (P, A)
กลุ่ม
๘) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ - สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน
ประสงค์ กลมุ่ (P,A)

- สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้
และมุง่ ม่ันในการทำงาน (A)

5. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กิจกรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสริมแรงหรือชว่ ยเหลือนกั เรียน
- วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคคูค่ ิดสส่ี หาย
- วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคเล่าเรือ่ งรอบวง
- วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคการเรยี นร่วมกัน

6. กจิ กรรมการเรียนการสอน

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ เรอ่ื งเราทำความดี : แบบอย่างของการทำความดี (ประวตั ิพุทธสาวก) (ช่ัวโมงที่ ๑)

๑. ขน้ั นำ

1. ใหน้ กั เรยี นทเี่ คยบวชสามเณรภาคฤดูร้อนเล่าความรู้สกึ ที่ได้บวชให้นักเรยี นในหอ้ งฟงั แลว้ ซกั ถาม
2. ครูนำภาพกิจกรรมตา่ งๆ ของสามเณรทเี่ กี่ยวข้องกับพิธกี รรมและการศกึ ษาพระธรรมของพระพุทธศาสนา

มาใหน้ กั เรียนดู

3. ครูใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ผลดีหรอื ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการบรรพชาเปน็ สามเณร
4. ครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงใหน้ กั เรียนมีความรเู้ ก่ยี วกับสามเณรองค์แรกของพระพทุ ธศาสนา
5. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความคิด แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม

⚫ การบรรพชาเป็นสามเณรมีผลดีอย่างไร
๒. ขัน้ สอน

1.ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปาน
กลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น แลว้ ชนี้ ำใหน้ กั เรียนเหน็ ความสำคัญของการทำงานร่วมกัน ปฏิบัติตามกติกา
ของการเรยี นรู้แบบร่วมมือ เช่น

๓๖

1) มกี ารช่วยเหลือกนั

2) ทุกคนต้องมีความรับผดิ ชอบในภาระหรือหน้าท่ีของตน

3) สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทเทา่ เทียมกนั

4) สมาชกิ ทกุ คนต้องมีปฏสิ ัมพนั ธท์ ีด่ ีต่อกันอยา่ งต่อเนื่อง

ผู้สอนใหส้ มาชกิ ทุกคนในกลมุ่ มีความกระตอื รือร้นและตัง้ ใจทำงานร่วมกนั ให้ประสบความสำเร็จอยา่ งมี

คณุ ภาพ

2. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ จบั คู่กนั เปน็ 2 คู่ แล้วใหแ้ ต่ละครู่ ่วมกนั อา่ นประวตั ิพุทธสาวก คอื สามเณรราหุล

จากหนังสือเรยี น

3. สมาชิกแต่ละคผู่ ลัดกนั อธิบายประวัติของสามเณรราหลุ แล้วครชู ่วยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ในสว่ นที่บกพร่อง

4. สมาชกิ แตล่ ะค่ชู ว่ ยกันตอบคำถามในใบงานที่ 1.9 เร่ือง สามเณรราหุล

5. สมาชกิ แต่ละคูผ่ ลัดกนั อธิบายความร้แู ละคำตอบในใบงานที่ 1.9 ให้เพอ่ื นอีกคูห่ นึง่ ภายในกลมุ่ ฟงั และ

ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นเพื่อปรบั ปรุงคำตอบในใบงานใหถ้ ูกตอ้ ง แล้วสรุปเป็นผลงานของกลมุ่

6. ครูเฉลยคำตอบในใบงานท่ี 1.9 นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน

7. ครถู ามคำถามกระตุน้ ความคิด แล้วใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถาม

⚫ นกั เรยี นได้ขอ้ คดิ และคณุ ธรรมอันเปน็ แบบอยา่ งของสามเณรราหลุ อยา่ งไรบ้าง

(1. การเรยี นรู้ 2. การวา่ นอนสอนงา่ ย 3. ความอดทน 4. ความขยันหมัน่ เพียร)

๓. ขัน้ สรปุ
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปข้อคดิ และคุณธรรมที่ไดจ้ ากการศึกษาประวัตสิ ามเณรราหุล

๔. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
๔.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
2) บัตรภาพ กิจกรรมต่างๆ ของสามเณร
3) ใบงานท่ี 1.9 เร่อื ง สามเณรราหุล
4) นกั เรยี นทีเ่ คยบวชสามเณรภาคฤดรู อ้ น
๔.2 แหล่งการเรยี นรู้

-

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๑ เรอ่ื งเราทำความดี : แบบอย่างของการทำความดี (ชาดก) (ช่วั โมงที่ ๒)

๑. ขน้ั นำ
1. ครใู ห้นักเรียนร้องเพลงอย่าเกียจครา้ น แลว้ ให้ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ ถึงข้อคิดทไ่ี ด้จากบทเพลง
2. ครูอธิบายเชอื่ มโยงให้นักเรยี นเข้าใจวา่ ขอ้ คดิ ท่ีได้จากเรอื่ งความเกียจครา้ นคล้ายกบั ข้อคิดทไ่ี ด้จากเรอื่ งวรณุ
ชาดก

๒. ขน้ั สอน
1. ครใู หน้ กั เรยี นรวมกลุ่มตามความเหมาะสม กล่มุ ละเท่าๆ กัน แลว้ รว่ มกันศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ชาดก โดยเลอื ก
ศกึ ษากลุ่มละ 1 เร่ือง ดังน้ี
1) วรณุ ชาดก
2) วานรนิ ทชาดก
2. สมาชิกแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ศกึ ษาทำความเขา้ ใจเก่ียวกบั ชาดกทเ่ี ลือกศึกษา จากหนังสือเรียน หากมขี ้อสงสัยให้
สอบถามครู
3. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มผลัดกันเล่าเรอื่ งชาดกที่ได้ศกึ ษา โดยเลา่ เรอ่ื งรอบวงเรียงตามลำดับทีละคน

๓๗

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั สรปุ สาระสำคัญท่ีได้จากการศึกษาเรอ่ื งชาดก
5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานทหี่ นา้ ชน้ั เรยี นในเร่อื งท่ีกลุ่มของตนไดศ้ ึกษา

ซึ่งตวั แทนกลุ่มจะผลดั กนั เลา่ เรือ่ งทลี ะคนใหเ้ หตุการณต์ ่อเน่ืองกันไปจนจบ โดยมีครคู อยใหค้ ำแนะนำในการ
ทำกิจกรรมดังกลา่ ว
6. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 1.10 เร่ือง ชาดก
7. ครเู ฉลยคำตอบในใบงานท่ี 1.10 แลว้ ใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มจบั คู่กนั และแลกเปล่ยี นกันตรวจสอบความถูก
ต้องของใบงาน
8. ครูถามคำถามกระตุ้นความคิด แล้วใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบคำถาม

⚫ นักเรียนได้ขอ้ คดิ หรือคติธรรมจากการศกึ ษาเรื่อง วรุณชาดก อยา่ งไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)

⚫ นักเรียนไดข้ ้อคิดหรอื คตธิ รรมจากการศกึ ษาเร่อื ง วานรินทชาดก อย่างไรบ้าง
(พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)

⚫ ผลดที ไี่ ด้ศกึ ษาข้อคดิ จากชาดกคอื อะไร
(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี นโดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)

๓. ข้ันสรปุ
ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ คุณธรรมอนั เปน็ แบบอย่างทไ่ี ด้จากการศึกษาชาดกเรื่องวรณุ ชาดกและวานรนิ ท
ชาดก พรอ้ มกับเสนอแนวทางการนำหลักคุณธรรมอันเปน็ แบบอย่างไปประยุกตป์ ฏบิ ัติ

๔. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
๔.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี น สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.2
2) เพลง อย่าเกยี จครา้ น
3) ใบงานที่ 1.10 เรื่อง ชาดก
๔.2 แหล่งการเรียนรู้
-

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑๒ เร่อื งเราทำความดี : แบบอย่างของการทำความดี (ชาวพุทธตวั อย่าง) (ชั่วโมงที่ ๓)

๑. ข้ันนำ
1. ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันเล่าถงึ พระสงฆ์ที่นักเรียนรจู้ กั และบอกคณุ ความดขี องท่าน
2.ครูใหน้ ักเรียนดภู าพของสมเด็จพระอรยิ วงษญาณ สมเดจ็ พระสังฆราช (ศุข ไก่เถ่ือน) และสมเด็จพระญาณ
สังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก (เจริญ สวุ ฑฺฒโน) แล้วอธิบายให้นักเรียนเขา้ ใจในประวตั ิที่
สำคัญของทา่ น

๒. ขัน้ สอน
1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มตามความเหมาะสม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั แล้วร่วมกนั อ่านประวตั ขิ องสมเด็จพระอรยิ วงษ
ญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ศุข ไกเ่ ถ่อื น) และสมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ า
ยก (เจริญ สวุ ฑฒฺ โน) จากหนังสือเรยี น แล้วชว่ ยกันสรปุ ประเด็นสำคัญ
2. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มมือกันทำใบงานที่ 1.11 เร่ือง ชาวพุทธตัวอยา่ ง โดยให้สมาชกิ แตล่ ะคนใน

๓๘

กลมุ่ ทำหนา้ ท่ี ดังนี้

- สมาชิกคนที่ 1 มหี น้าที่อ่านข้อความ แยกแยะให้ชัดเจน

- สมาชิกคนท่ี 2 รวบรวมขอ้ มลู เชื่อมโยงขอ้ ความใหส้ อดคล้องกบั ประวตั ิ หาแนวทางตอบคำถาม

- สมาชิกคนท่ี 3 ตอบคำถาม

- สมาชกิ คนท่ี 4 ตรวจสอบความถูกต้อง

3. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มหมนุ เวียนเปลยี่ นหนา้ ทีก่ นั ตอบคำถามขอ้ ต่อไปใหเ้ สรจ็ ทุกข้อ แลว้ นำส่งครตู รวจ

4. ครูตรวจคำตอบดว้ ยตนเอง หรืออาจให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ผลดั กันตรวจคำตอ โดยมีแนวเฉลยคำตอบให้

จากนัน้ ประกาศผลคะแนนสงู สุด

5. ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิด แล้วให้นกั เรียนตอบรว่ มกันตอบคำถาม

⚫ นกั เรียนได้ข้อคดิ หรอื คตธิ รรมจากการศึกษาประวตั ขิ องสมเดจ็ พระอรยิ วงษญาณ สมเด็จพระสงั ฆราช (ศขุ

ไกเ่ ถอ่ื น) และสมเดจ็ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก (เจรญิ สวุ ฑฺฒโน) อยา่ งไรบ้าง