Show Written by : Nattapol Klanwari เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมานับว่ามีส่วนช่วยในการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้นโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่ช่วยให้การติดต่อสื่อสารสะดวกและรวดเร็วได้มากขึ้น ทุกคนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างทันที หนำซ้ำยังมีราคาที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ไม่ยากนัก แต่บางกิจกรรมเจ้าของโทรศัพท์มือถือนี้ก็ก่อให้เกิดปัญหาในการให้บริการได้เช่นเดียวกัน ปัจจุบันในสังคมต่างๆ จะเห็นว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่ใครก็มีสิทธิจะใช้ได้ จนเกิดมีคำพูดล้อเลียนสภาพสังคมดังกล่าวว่า สังคมก้มหน้า เพราะโทรศัพท์มือถือมิใช่เป็นเพียงแค่การโทรออกหรือรับสายเรียกเข้าเท่านั้น แต่ยังสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้เทียบเท่ากับการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เลยที่เดียว ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกส์ ส่ง-รับข้อความ แต่งรูป พิมพ์งาน เช็ค-อ่าน-ดู ข้อมูลต่างๆ ส่ง-อ่านอีเมล์ อัปโหลด ดาวน์โหลดภาพหรือข้อมูล และทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกมากมาย แต่กิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น กลายเป็นว่าพนักงานที่ให้บริการก็มักจะใช้เวลาในขณะทำงานให้ริการใช้โทรศัพท์มือถือด้วย ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านก็น่าจะพบกับภาพหรือสภาพต่างๆ ดังนี้
จากตัวอย่างเหตุการณ์ที่กล่าวมาในภาพรวมเชื่อว่าในฐานะผู้ใช้บริการคงจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรในการใช้บริการกับสภาพที่พนักงานทำเช่นนั้น ที่พนักงานทำเช่นนั้นก็คงติดมาจากการที่ใช้อยู่เป็นประจำในเวลาว่างที่ไม่ใช่ขณะปฏิบัติงาน ก็รู้สึกเคยชินและเสมือนขาดไม่ได้ ซึ่งพนักงานจะทราบหรือไม่ว่ามีผลกระทบต่อการให้บริการโดยตรง เช่น
การปฏิบัติตนของพนักงานเรียกง่ายๆ ว่าข้อห้ามขณะปฏิบัติหน้าที่ ปกติก็จะมีอยู่มากมาย เช่น ห้ามรับประทานอาหารหรือเคี้ยวหมากฝรั่งขณะให้บริการ ห้ามแต่งหน้าทำผมขณะให้บริการโดยเฉพาะต่อหน้าลูกค้าขณะให้บริการ ฯลฯ สถานประกอบการหลายแห่งก็จะกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือไว้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารว่าจะมีนโยบายออกมาเป็นเช่นไร หลายๆ สถานประกอบการจะกำหนดให้พนักงานในระดับปฏิบัติการห้ามพกโทรศัพท์มือถือเข้ามาในบริเวณที่ทำงาน กล่าวคือต้องเก็บไว้ที่ห้องล็อกเกอร์ที่เปลี่ยนชุดทำงาน เวลาพักเบรกหรือทานอาหารจึงจะสามารถนำมาเปิดดูได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีการลักลอบแอบพกติดเข้าไปยังบริเวณที่ทำงานจนได้ จนบางครั้งหัวหน้าก็เอีอมระอาไปเหมือนกัน เพราะพนักงานรู้สึกว่าขาดไม่ได้เสียแล้ว ท่านผู้อ่านที่เป็นผู้บริหารในองค์กรต่างๆ ก็คงต้องมีมาตรการต่างๆ ที่แข็งขันมีประสิทธิภาพ มิเช่นนั้น ปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือก็จะค่อยๆ ลุกลามจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปทีเดียวเลยเชียว ซึ่งท้ายสุดลูกค้าจะเป็นผู้ตัดสินว่าใช้บริการที่ไหนแล้วได้รับการบริการที่ดีกว่ากันและสมควรจะไปใช้บริการอีก ติดต่อเรานัฐพล กลั่นวารี
สุนันทา
ติดตามเราการอบรมพร้อมกับการสนับสนุนการอบรมเป็นวิธีการหนึ่งที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้ง ความรู้ ทักษะและทัศนคติ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะได้ผลมากยิ่งขึ้น ถ้าปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องเกื้อหนุนด้วย ปัจจัยที่มีผลมากที่สุดคือผู้บริหารหรือผู้นำที่จะก่อให้เกิดปัจจัยเกื้อหนุนเหล่านั้นคลิ๊กเพื่อดูหลักสูตรทั้งหมดพร้อมรายละเอียดสถิติการเข้าชม (Since June 20, 2019)927068 Today Yesterday This Week Last Week This Month Last Month All days 590 985 1575 917946 2460 31284 927068 Your IP: 132.145.101.69 2022-10-03 09:16 samart anantrakritunread, Aug 30, 2013, 5:56:11 AM8/30/13 to สวัสดีครับทุกท่าน เนื่องจากในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน ได้แพร่หลาย จึงอยากขอแชร์แนวทางการควบคุมของทุกท่านครับ ตอนนี้ทางบริษัทฯ ยังอนุญาตให้นำเข้าไปในไลน์อยู่ แต่ในทาง ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ ธนาภรณ์ เจริญสุขunread, Aug 30, 2013, 8:29:42 AM8/30/13 to ปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือในที่ทำงานประเภทสมาร์ทโฟน คิดว่ามีเกิดขึ้นในทุกองค์กรค่ะ ควบคุมยาก จุดที่เห็นใช้แยะมากคือพนักงาน office และหัวหน้างาน พนักงานในไลน์ผลิตไม่ค่อย ใช้เท่าไหร่ ที่ทำงานดูจากผลกระทบของงานในแต่ละส่วน ถ้าในไลน์ผลิตจะห้ามถ้าหากเจอก็จะยึด เครื่อง และให้มารับกลับตอนเลิกงาน แต่ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉินได้แจ้งให้พนักงานทราบแล้วว่าให้ญาติ ติดต่อเข้ามาที่บริษัท ทางบริษัทก็จะแจ้งให้พนักงานทราบอีกที ต้องใช้เหตุผลในการคุยและทำความ เข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการทำงาน Watchareeporn Nuutongunread, Aug 30, 2013, 11:18:16 PM8/30/13 to HR Group ที่บริษัทปฏิบัติเช่นเดียวกับบริษัทของคุณธนาภรณ์ค่ะ และจะเพิ่มเติมตอนอบรมปฐมนิเทศชี้แจงถึงกฏระเบียบการใช้โทรศัพท์ การเล่นไลน์ การเล่นfbค่ะ hpt_hrunread, Sep 1, 2013, 10:26:47 PM9/1/13 to ที่บริษัทของเรา มีหลักปฏิบัติคล้ายๆ กับของคุณ ธนาภรณ์ค่ะ..เริ่มจากผู้บริหารต้องให้นโยบายมาเลยค่ะ และฝ่ายบุคคลก็ออกเป็นระเบียบปฏิบัติ ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้ามาในไลน์การผลิต รวมถึงพนักงานสำนักงานของเราเองด้วยค่ะ ..แต่ก่อนประกาศก็ได้มีการทำความชี้แจงให้เข้าใจกันก่อนประมาณ 2-3 เดือน คือที่บริษัทฯ เรามีตู้ล็อคเกอร์ 1 คน 1 ตู้อยู่แล้ว พร้อมกุญแจล็อคแน่นหน้า ..ให้ออกมาโทรเฉพาะเวลาพักซึ่งเป็นเวลาของคุณอยุ่แล้ว..ส่วนมีกรณีฉุกเฉินให้โทรเข้าเบอร์บริษัทฯ หรือเบอร์มือถือหัวหน้างานที่เป็นของบริษัทกำหนดเท่านั้น..ช่วงแรกๆ ก็มียังแอบบ้างโดยเฉพาะกะดึก..แต่หัวหน้าไลน์ก็ได้ทำการตักเตือนจริงๆ จากนั้นก็ค่อยๆ หายไปในที่สุดค่ะ..ส่วนพนักงานใหม่ เราก็แจ้งกันเลยตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ว่าที่บริษัทฯของเรามีกฎระเบียบแบบนี้ รับได้หรือไม่ เพราะหากไม่สามารถปฏิบัติตามได้จะเกิดผลเสียกับตัวคุณเอง มีผลกับการประเมินผลการปฏิบัติงาน..คือทุกอย่างต้องทำความเข้าใจกันหมดทุกฝ่ายค่ะ... __________ Information from ESET NOD32 Antivirus, version of virus signature database 7952 (20130131) __________ The message was checked by ESET NOD32 Antivirus. http://www.eset.com LukrOyuunread, Aug 30, 2013, 9:58:57 PM8/30/13 to hrm. ที่โรงงานเก่าจะมีตู้ล็อคเกอร์ให้ค่ะ มีระเบียบชัดเจนว่าห้าม และบอกว่าใครบ้างที่มีสิทธิ์ใช้และใช้ได้เฉพาะโทรศัท์ที่บริษัทซื้อให้ โทรหากันจะฟรีหรือถูกหน่อย (ไม่แน่ใจว่าซิมSEMหรืออะไรทำนองนี้) ก่อนเข้าโรงงาน รปภ.ก็ตรวจอีกรอบ ถ้ายังลักลอบเอาเข้าไปก็ยึด 7 วัน กรณีฉุกเฉินสำหรับพนักงานให้ติดต่อหัวหน้างานเท่านั้นค่ะ ถ้ายังพบอีก (พบซ้ำคนเดิม) ก็เตือนค่ะ ถึงจะเข้มงวดเพียงใดก็ยังมีเล็ดลอดได้อยู่ดีค่ะ พี่ฝ่ายบุคคลแกเข้าตรวจไลน์ทุกวันคะ แต่ออกจากที่เดิมมานานแล้วค่ะ อะไรที่ดีๆ ก็ยังจำไว้อยู่ แชร์ประสบการณ์ค่ะ ขอบคุณค่ะ Lukroyu |