ช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยได้พลิกจากเรื่อง “ข้าวยากหมากแพง” ไปเป็นเรื่องของ “ค่าเงินบาทอ่อน” กันแล้ว ซึ่งอาจทำให้ใครหลายคนงงว่า ค่าเงินบาทอ่อนคืออะไร หรือมีความหมายอย่างไร และใครบ้างที่ได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าลงบ้าง ไทยรัฐออนไลน์สรุปคำตอบมาให้ Show ค่าเงินบาทอ่อนคืออะไรค่าเงินบาทอ่อน หรือ เงินบาทอ่อนค่า คือ การที่เงินบาทไทยสามารถแลกเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่เป็นสกุลหลัก เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาได้น้อยลง ในทางกลับกันเงินดอลลาร์สหรัฐก็สามารถแลกเป็นเงินบาทไทยได้มากขึ้น หรือเงินบาทไทยมีมูลค่าน้อยลงเมื่อเทียบกับเงินต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น จากเดิมเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 เราต้องใช้เงิน 33.43 บาท ก็สามารถแลกเป็นเงินดอลลาร์ได้ 1 ดอลลาร์ แต่ผ่านมาปีนี้ในวันที่ 24 กันยายน 2565 ต้องใช้เงินบาทถึง 37.54 บาท ถึงจะสามารถแลกเงินได้ 1 ดอลลาร์ เท่ากับต้องใช้เงินเพิ่มถึง 4.11 บาทในการแลก 1 เงินดอลลาร์นั่นเอง เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นอีกคือ หากเราต้องเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เราจะแลกเงินดอลลาร์ไปใช้ 1,000 ดอลลาร์ ถ้าค่าเงินบาทเท่ากับปีที่แล้ว เราก็จะใช้เงินเพียง 33,430 บาท แต่หากแลกตอนนี้ที่ค่าเงินบาทอ่อนลงมามาก เราต้องใช้เงินถึง 37,540 บาท สาเหตุค่าเงินอ่อนเกิดจากอะไรสาเหตุค่าเงินบาทอ่อนค่าลงนั้นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยในปี 2022 นี้สรุปได้ว่ามาจากเหตุหลักๆ ดังนี้
นี่เป็นแค่สาเหตุหลัก จนทำให้ผู้คนหันมาถือเงินดอลลาร์ และซื้อพันธบัตรมากขึ้น เนื่องจากมองเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จนทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หรือก็คือทำให้ค่าเงินสกุลอื่น รวมทั้งเงินบาทอ่อนลง ถือเป็นวัฏจักรความเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่ต้องยอมรับ เพราะประเทศไทยใช้ระบบลอยตัวค่าเงินบาทมาตั้งแต่ปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง จึงทำให้ค่าเงินบาทปรับเปลี่ยนตามความเป็นจริงในการซื้อขายตลาดอัตราแลกเปลี่ยน จากที่ใช้ระบบตะกร้าเงินนั่นเอง “ค่าเงินบาท” ที่อ่อนค่าลงเวลานี้ ก็ต้องบอกว่า มีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ซึ่งก็เป็นขั้วตรงข้ามของผู้ที่ได้ประโยชน์จากตอน “ค่าเงินบาท” แข็งค่าขึ้นเช่นกัน ค่าเงินบาทอ่อน ใครได้ประโยชน์
ค่าเงินบาทอ่อน ใครเสียประโยชน์เมื่อมีผู้ได้ประโยชน์ก็ย่อมมีผู้เสียประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน ใครบ้างที่กำลังได้รับผลกระทบในเวลานี้บ้าง
ดังนั้นนักลงทุนทั้งหลายในช่วงนี้ควรเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน อาหาร เพราะได้ประโยชน์จากการค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งจะทำให้มีเงินในมือมากขึ้น และหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากมีการกู้เงินสกุลเงินดอลลาร์มาใช้ งานนี้เราจึงเห็นได้ว่าไม่ว่าค่าเงินบาทอ่อน หรือแข็งก็ย่อมมีผลกระทบทั้งนั้น เปรียบเหมือนเหรียญสองด้าน หรือช่วงนี้อาจต้องย้อนกลับสู่ยุค ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ หากไม่อยากแบกภาระและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในปัจจุบัน |