We’ve updated our privacy policy so that we are compliant with changing global privacy regulations and to provide you with insight into the limited ways in which we use your data. Show You can read the details below. By accepting, you agree to the updated privacy policy. Thank you! View updated privacy policy We've encountered a problem, please try again. 1. ความหมายของภาษา"ภาษา" เป็นศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า กล่าว พูด บอก พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ให้ความหมายหลักๆของ "ภาษา" ว่า 1. ถ้อยคำที่ใช้พูดหรือเขียน เพื่อสื่อความของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น ภาษาไทย ภาษาจีน หรือเพื่อสื่อความเฉพาะวงการ เช่น ภาษากฎหมาย 2. เสียง ตัวหนังสือ หรือกิริยาอาการที่สื่อความได้ เช่น ภาษาท่าทาง ภาษามือ ประเภทของภาษา
1. วัจนภาษา คือ ภาษาที่ใช้ถ้อยคำในการสื่อสาร ได้แก่ ภาษาพูด และภาษาเขียน 2. อวัจนภาษา คือ ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคำในการสื่อสาร ได้แก่ ภาษามือ ภาษาท่าทาง ภาษาหน้าตา ภาษาสัญลักษณ์
1. จักษุภาษา คือ ภาษาที่อาศัยดวงตาในการรับสาร ได้แก่ ภาษาเขียน ภาษาท่าทาง ภาษาหน้าตา ภาษาสัญลักษณ์ 2. โสตภาษา คือ ภาษาที่เกิดจากการใช้หูฟังเพื่อรับสาร ได้แก่ ภาษาพูด เสียงสัญญาณ 3. สัมผัสภาษา คือ ภาษาที่เกิดจากการใช้มือสัมผัสเพื่อรับสาร มีชื่ออีกอย่างหนึ่งเรียกว่า ผัสสภาษา เป็นภาษาของผู้พิการทางสายตา ซึ่งปัจจุบัน ผู้พิการทางสายตาสามารถอ่านหนังสือได้ จากการสัมผัสอักษรเบรลล์
2. องค์ประกอบของภาษา1. เสียง เกิดจากการเปล่งเสียงแทนพยางค์และคำ 2. พยางค์และคำ เกิดจากการประสมพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ 3. ประโยค คือ การนำคำมาเรียงกันตามลักษณะ โครงสร้างของภาษา หรือเป็นระบบไวยากรณ์ของแต่ละภาษา 4. ความหมาย คือ ความหมายที่เกิดจากคำและประโยค เพื่อใช้ในการสื่อสารทำความเข้าใจกัน ความหมาย 2 ชนิด 1. ความหมายของคำ แบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ความหมายนัยตรง และความหมายนัยประหวัด 2. ความหมายของประโยค เกิดจากการนำคำมาเรียงกันตามหลักไวยากรณ์ ซึ่งประกอบด้วย ภาคประธานและภาคแสดง 3. ประวัติความเป็นมา และลักษณะสำคัญของภาษาไทย
ภาษาไทยนั้นมีวิวัฒนาการเริ่มตั้งแต่รวมกันเป็นชนชาติ ปรากฏหลักฐานในภาษาพูดที่อยู่ในตระกูลภาษาไต หรือไท ทางแถบตอนใต้ของจีน แคว้นอัสสัมของอินเดีย ตอนเหนือของเมียนมาร์ ประเทศไทย และประเทศลาว และปรากฏหลักฐานชัดเจนขึ้น เมื่อพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงคิดค้นประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นมาใช้ใน พ.ศ.1826 ซึ่งพัฒนามาจากอักษรขอมหวัด และมอญโบราณ
1. ภาษาไทยเป็นภาษาคำโดด คือ แต่ละคำมีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ใช้ได้อย่างอิสระ
โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปศัพท์ เพื่อบอกเพศ พจน์ การกระทำ และกาลเวลา
2. ระดับทางการ - ใช้ในโอกาสที่เป็นทางการโดยทั่วไป ใช้ภาษาทางการ
3. ระดับกึ่งทางการ - ใช้ในโอกาสที่เป็นทางการ แต่ลดระดับลงโดยใช้ภาษาสุภาพ ที่เป็นกันเองมากขึ้น
4. ระดับสนทนา - ใช้ในโอกาสไม่เป็นทางการ เช่น การพูดคุยทั่วไป สามารถใช้ภาษาพูดได้
แหล่งที่มา : จงชัย เจนหัตถการกิจ. หลักภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ: ธนาเพรส, 2551. ลักษณะเฉพาะของภาษาไทยคืออะไรลักษณะเฉพาะของภาษาไทยที่มีความแตกต่างไปจากภาษาอังกฤษที่ส่งผลต่อการท าความเข้าใจ และถ่ายทอดได้อย่างถูกต้องในกรณีของการแปลเอกสารทางวิชาการ ประกอบด้วย 1) ภาษาไทยไม่มี การใช้ค าน าหน้านามเพื่อบ่งชี้เฉพาะหรือกล่าวโดยทั่วไป 2) ประโยคภาษาไทยสามารถละประธานของ ประโยคได้ 3) ภาษาไทยมีค าก ากวม และ 4) ภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนรูปค า ...
ลักษณะสำคัญของภาษาไทยมีอะไรบ้าง1. เป็นคำภาษาโดด มีคำใช้โดยอิสระ ไม่ต้องเปลี่ยนรูปเพื่อบอก เพศ,พจน์,กาล เช่น พ่อ, แม่, เขย, ลุง, พระ เป็นคำแสดงเพศในตัว ฝูง,กอง,เดียว,เหล่า,เด็กๆ เป็นคำแสดงพจน์(จำนวน)ในตัว กำลัง, จะ, แล้ว, เพิ่ง, เมื่อวาน เป็นคำแสดงกาล (เวลา) ในตัว
ข้อใดเป็นลักษณะเฉพาะของภาษา4.1 ลักษณะเฉพาะที่ต่างกันของแต่ละภาษา ได้แก่ เสียง ชนิดของคำ และไวยากรณ์ 4.2 ลักษณะเฉพาะที่เหมือนกันในแต่ละภาษา เช่น เสียงสื่อความหมาย มีวิธีสร้างคำหลากหลาย มีสำนวนสุภาษิต มีคำชนิดต่างๆ ขยายประโยคได้เรื่อยๆ มีวิธีแสดงความคิดคล้ายกัน และมีการเปลี่ยนแปลง
ลักษณะของภาษาไทยมีความเป็นมาอย่างไรภาษาไทย หรือ ภาษาไทยกลาง เป็นภาษาในกลุ่มภาษาไท ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของตระกูลภาษาขร้า-ไท และเป็นภาษาราชการ และภาษาประจำชาติของประเทศไทย มีการสันนิษฐานว่าภาษาในตระกูลนี้มีถิ่นกำเนิดจากทางตอนใต้ของประเทศจีน และนักภาษาศาสตร์บางส่วนเสนอว่า ภาษาไทยน่าจะมีความเชื่อมโยงกับตระกูลภาษาออสโตร-เอเชียติก ตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน และ ...
|