“เล่นกีฬา แล้วดีอย่างไร?” หลายคนคงสงสัยว่า "การเล่นกีฬาดีอย่างไร" แล้วทำไมเราจึงควรเล่นกีฬา ซึ่งจริงๆ แล้วออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาไม่ได้เพียงทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงเท่านั้น
ยังช่วยพัฒนาด้านจิตใจอีกด้วย วันนี้เราจะมาบอกว่าออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาจริงๆ นั้นมีประโยชน์อย่างไร เพื่อไขข้อสงสัยให้กับทุกคน กีฬา หมายถึง การเล่นเพื่อความแข็งแรงของร่างกายหรือเพื่อความสนุกสนาน รวมถึงกิจกรรมการเล่นทั้งที่ต้องออกแรงเพื่อประโยชน์ของร่าง กายและจิตใจ ต้องใช้สมอง กีฬาเป็นการเล่นที่มักใช้แข่งขันกันจึงต้องมีกฎ และกติกาในการเล่น
กีฬาบางชนิดต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่น และมีสถานที่ที่ใช้เล่น เป็นการเล่นที่ใช้ฝึกร่างกายให้แข็งแรง ฝึกให้รู้จักการยอมรับกฎ ยอมรับกติกาในการเล่น ฝึกให้มีวินัย ฝึกให้รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และฝึกให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา การเล่นกีฬา มีประโยชน์ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ทั้งยังช่วยพัฒนาการด้านต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย ซึ่งหากจะให้อธิบายประโยชน์ของการเล่นเล่นกีฬานั้นสามารถอธิบายได้ดังนี้ 1. ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพที่ดี ระบบการทำงานของร่างกายดีขึ้น การเล่นกีฬาทำให้ร่างกายทุกส่วนมีการเคลื่อนไหว ได้รับการออกกำลังซึ่งจะช่วยปรับความสมดุลของระบบภายในให้ทำงานเป็นปกติ ระบบและกล้ามเนื้อภายในแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ร่างกายมีการสูบฉีดเลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถป้องกัน และรักษาโรคต่าง ๆ ได้มากมาย 2. ช่วยให้การพักผ่อนมีประสิทธิภาพดี ความเหนื่อยล้าและรู้สึกเพลียหลังกานเล่นกีฬาและออกกำลังกาย ทำให้นอนหลับง่ายสบายและสนิทมากขึ้น เพราะร่างกายเสียพลังงานจากการเผาผลาญนั่นเอง 3. สร้างความมั่นใจ การเล่นกีฬาและออกกำลังกายทำให้ร่างกายเผาพลาญพลังงาน ซึ่งช่วยลดระดับไขมัน คอเรสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีสัดส่วนกระชับมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น 4. ช่วยควบคุมอารมณ์ การเล่นกีฬาและการออกกำลังทำให้มีการหลั่งของสาร Endorphin และสาร Serotonin ในสมองช่วยปรับอารมณ์ ช่วยให้ผ่อนคลายมากลดความเครียด 5. ช่วยพัฒนาสติปัญญา การเล่นกีฬาช่วยพัฒนาสมอง เพราะการเล่นกีฬาต้องมีการตัดสินใจและควบคุมการเคลื่อนไหว อีกทั้งการเล่นกีฬาและออกกำลังกายจะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังสมองดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สมองมีการพัฒนาเป็นอย่างดี 6. ช่วยเสริมสร้างวินัย และฝึกให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา การเล่นกีฬามีกฎและระเบียบในการเล่น ทำให้เราต้องมีวินัยและเล่นกีฬาอย่างมีวินัย การเล่นกีฬามีแพ้ มีชนะ ซึ่งจะฝึกให้มีน้ำใจนักกีฬา ต้องรู้จักแพ้ รู้จักชนะ และต้องรู้การให้อภัยด้วย "เป็นอย่างไรบ้างกับประโยชน์ของกีฬา เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนหันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายกันเยอะๆ เพื่อรักษาสุขภาพและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น อย่าลืมมาเล่นกีฬากันนะ" ในการออกกำลังกายนั้น หากออกกำลังกายไม่ถูกวิธี ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้เล่น หรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ตั้งแต่เกิดจากบาดเจ็บเล็กน้อยถึงบาดเจ็บที่รุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต แต่หากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นความรุนแรงไม่มากนัก ประชาชนก็ควรที่จะสามารถดูแลตนเองได้ ดังนั้นการให้ความรู้ในการดูแลตนเองสำหรับประชาชนเมื่อเกิดการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นที่ประชาชนควรจะรู้ไว้ การดูแลตนเองเมื่อได้รับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาจะได้ผลดีต้องกระทำอย่างถูกวิธีและถูกเวลา โดยขึ้นกับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง ประสบการณ์ และอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งจากแพทย์ ผู้ฝึกสอน นักกายภาพบำบัด รวมทั้งตัวผู้เล่นเอง การบาดเจ็บจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬา โดยทั่วไปมักเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก คือ
สำหรับการดูแลผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาเบื้องต้น จะดูแลในส่วนการบาดเจ็บที่เกิดทันทีในสนามเป็นส่วนใหญ่ ความรุนแรงของการบาดเจ็บสามารถแบ่งได้หลายระดับ ดังนี้
การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬานั้นมีความรุนแรงแตกต่างกันตามขนาดของกำลัง อัตราความเร็ว ความแข็ง ความอ่อน ความทื่อ หรือคมของสิ่งของที่มากระทบ ทำให้อวัยวะและเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นอันตรายต่อนักกีฬา อาจทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที การตัดสินใจว่าจะนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลหรือไม่นั้น จะต้องทำโดยเร็วที่สุด อย่าลองปฐมพยาบาลอยู่นาน เพราะอาจสายเกินแก้หรือมาช้าเกินไป อุบัติเหตุจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่ต้องนำส่งสถานพยาบาลหรือโรงพยาบาล มีดังนี้
หลักสำคัญในการปฐมพยาบาลเมื่อได้รับบาดเจ็บ ควรปฏิบัติดังนี้
หลักการปฐมพยาบาลการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬา รายละเอียดของการปฏิบัติตามแนวทาง RICE มีดังนี้
อย่างไรก็ตาม บางหลักปฏิบัติอาจเพิ่มการป้องกันการบาดเจ็บเพิ่ม (Protection) ด้วย ซึ่งอาจจะพบได้ในบางตำรา ทำให้หลักการปฏิบัติเพิ่มจาก "RICE" เป็น "PRICE" เช่น ในกรณีบาดเจ็บรุนแรงที่สงสัยว่ามีอันตรายต่อข้อต่อหรือกระดูกควรดาม (splint) ด้วยอุปกรณ์ที่แข็งและขนาดเหมาะสมกับอวัยวะที่ได้รับการบาดเจ็บซึ่งหาได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อประคองอวัยวะและป้องกันไม่ให้มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อเพิ่มเติม ข้อควรหลีกเลี่ยง ที่มา : "หนังสือข้อแนะนำการดูแลการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายและเล่นกีฬา สำหรับประชาชน" |