Lets go ป.3เป นอ งกฤษหล กหร อเสร ม

จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ออกมาพดู รายงานขอ้ มลู ทต่ี นเองสมั ภาษณม์ าไดใ้ ห้เพอื่ นในช้นั ฟัง

ครูคอยช่วยเหลอื นกั เรียนทอ่ี อกเสียงไมถ่ ูกตอ้ ง

3. ตอ่ มาให้นกั เรียนจบั คู่กนั จากน้นั ใหแ้ ต่ละคผู่ ลดั กนั ถาม-ตอบเก่ียวกบั ขอ้ มลู ส่วนตวั ของเพอ่ื น

ตามประโยคที่ครูให้มา

A: What’s your name?

B: My name is … หรือ I am …

A: Where are you from?

B: I’m from …

A: What’s your favourite subject?

B: My favourite subject is …

A: What’s your favourite food?

B: My favourite food is … etc.

ข้นั Practice

หนงั สือเรียน หน้า 2 Ex. 1 ครูพดู คาสงั่ Open your book to page 2. ให้นกั เรียนทาตามคาสง่ั จากน้นั ให้นกั เรียนผลดั กนั อา่ นออกเสียงประโยคคาถามทีละคน หรือพร้อมกนั ท้งั ช้นั ก็ได้ แลว้ ให้นกั เรียน จบั คู่กนั สนทนาถาม-ตอบตามประโยคท่กี าหนดให้ในหนงั สือเรียน

1. A: What’s your name? B: My name’s Carlos. Where are you from? 2. A: I’m from Spain. B: What colour are your eyes? They’re brown. 3. A: Have you got any brothers or sisters? B: I’ve got one brother.

4. A: 4 B:

5. A: Have you got any pets? What are their names? B: I’ve got a dog. Its name is Zoro. What’s your favourite subject? 6. A: My favourite subject is science. B: Who’s your best friend? My best friend is Mario. 7. A: What’s your best friend like? B: He’s nice. What’s your favourite song? 8. A: My favourite song is Just Dance. B: What’s your favourite food? My favourite food is pizza. 9. A: What colour is your hair? B: My hair is brown. What time do you usually go to bed? 10. A: I usually go to bed at eleven o’clock. B: What do you like doing in your free time? I like playing computer games. 11. A: What’s your lucky number? B: My lucky number is 10. What’s your favourite season? 12. A: My favourite season is summer. B: What can you do well? I can swim and play football. 13. A: B:

14. A: B:

15. A: B:

16. A: B:

ครูเดินไปรอบ ๆ ช้นั ขณะท่ีนกั เรียนสนทนากนั เม่อื สงั เกตว่า นกั เรียนฝึกสนทนาจนคล่องแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั

5

ข้นั Production

ใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั พดู ถาม-ตอบเป็นทอด ๆ เก่ียวกบั สิ่งที่ชอบ โดยครูเขยี นหัวขอ้ ท่ีจะให้นกั เรียนพดู

ถาม-ตอบบนกระดาน เช่น colour/toy/day/singer จากน้นั ครูสาธิตการพูดถาม-ตอบใหน้ กั เรียนในช้นั

ฟังกบั นกั เรียนท่ีครูไดซ้ อ้ มไวแ้ ลว้ ดงั น้ี

T: My favourite colour is green.

What’s your favourite colour?

S: Red. etc.

ครูเดินไปรอบ ๆ ช้นั ขณะทนี่ กั เรียนกาลงั สนทนากนั เม่อื สังเกตวา่ นกั เรียนฝึกสนทนาจนคลอ่ งแลว้

ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั ตามหัวขอ้ ทคี่ รูกาหนด

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm Up

ใหน้ กั เรียนจบั ค่กู นั พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั กิจกรรมทท่ี าในแต่ละวนั โดยเขียนประโยคคาถาม คนละ

5 คาถาม สาหรับถามเพอื่ นลงในกระดาษของตนเอง แลว้ นาไปถามเพอื่ นทเ่ี ป็นค่ขู องตน เช่น

S1: What do you do in the evenings?

S2: I watch TV. etc.

ครูเดินไปรอบ ๆ ช้นั ขณะทนี่ กั เรียนกาลงั สนทนากนั เม่ือสงั เกตว่านกั เรียนฝึกสนทนาจนคลอ่ งแลว้

ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ช้นั ตามหัวขอ้ ท่ีครูกาหนด

ข้นั Presentation 1. ครูทบทวนคาศพั ทต์ ามหมวดหมู่ ดงั น้ี colours (green, red, blue, purple,…), toys (robot, doll, toy car, yo-yo,…), animals (fish, parrot, cat, turtle,…), food (pizza, burger, fried rice, crisps,…), days (Sunday, Monday, Tuesday, Wednesday,...), subjects (science, maths, history, PE), etc. ครูชูบตั รคา หรือบตั รภาพทีละใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทต์ ามคาหรือภาพทคี่ รูแสดง จนครบทกุ ภาพ ครูคอยแกไ้ ขคาศพั ทท์ ่นี กั เรียนออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ ง 2. ครูให้นกั เรียนทบทวนรูปประโยค โดยใชแ้ ถบประโยคประกอบการสอน โดยให้นกั เรียน 1 คน ออกมาพดู ถาม-ตอบกบั ครูหนา้ ช้นั เพื่อเป็นตวั อยา่ งแก่นกั เรียนในช้นั ทีเ่ หลือ

6

A: What are they? (แสดงภาพปลา) B: They are fish. A: What’s the weather like today? B: It’s sunny. A: What are they doing? (แสดงภาพเด็กๆ เล่นฟตุ บอล) B: They are playing football. A: What does she like doing? (แสดงภาพเดก็ หญงิ ขี่จกั รยาน) B: She likes riding a bike. A: What day is it today? B: Today is Monday. A: What time is it? (แสดงภาพนาฬกิ า เวลา 6.00 น.) B: It’s six o’clock. A: What time do you go to bed? B: I go to bed at 9 pm. A: What time do you have breakfast? B: I have breakfast at 7 am. A: What’s she doing? B: She’s swimming. จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ฝึกพูดถาม-ตอบตามแถบประโยคท่คี รูแสดง ครูเดินสงั เกตรอบ ๆ ช้นั ขณะนกั เรียนทากิจกรรม

ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 3 Ex. 2 ครูพดู ว่า Open your book to page 3. ใหน้ กั เรียนทาตามคาสั่ง แลว้ ครูให้ นกั เรียนอา่ นประโยคคาส่ังในหนงั สือพร้อมกนั จากน้นั ให้อาสาสมคั ร 1 คน อธิบายกิจกรรมน้ีให้เพ่ือน ในช้นั ฟัง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนคร้งั ละ 1 คน ใหอ้ ่านประโยคคาถาม คนละ 1 ขอ้ และประโยค คาตอบ คนละ 1 ขอ้ แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ประโยคคาถามกบั คาตอบทมี่ ีความหมายสัมพนั ธก์ นั ลงใน สมดุ ของตนเอง เสร็จแลว้ ใหช้ ่วยกนั เฉลยคาตอบ

7

1. e 2. i 3. g 4. j 5. h 6. d 7. a 8. c 9. f 10. b

2. หนงั สือเรียน หน้า 3 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคคาสัง่ ใน Ex. 3 พร้อมกนั จากน้นั ให้อาสาสมคั ร 1 คน อธิบายกิจกรรมน้ีให้เพื่อนในช้นั ฟัง ครูให้แต่ละคนทากิจกรรมน้ี โดยจบั ค่คู าศพั ทท์ อ่ี ยใู่ นกรอบ A และ B ทสี่ อดคลอ้ งกนั มาไวด้ ว้ ยกนั ให้นกั เรียนทาลงในสมดุ ของตนเอง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนพดู เฉลยคาตอบกนั เป็นคู่ ๆ

ghost – scary jam – yoghurt science – music fly – jump one o’clock – five o’clock twenty – forty farmer – postman one penny – two pence quiet – noisy greengrocer’s – baker’s trick or treat? – make a lantern

ข้นั Production 1. ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั ถาม-ตอบเก่ียวกบั ขอ้ มลู ส่วนตวั ของเพ่อื น และบนั ทกึ ขอ้ มลู ท่ถี ามลงในกระดาษ แลว้ ออกมารายงานขอ้ มลู ท่ีตนสมั ภาษณม์ าให้เพอ่ื นฟังหนา้ ช้นั 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 2-3 Exs. 1-3 เป็นการบา้ น

8

Ex. 1 2. no 3. yes 4. yes 5. no 6. no 7. yes 8. no Ex. 2

Ex. 3 (ตวั อยา่ ง) by Kelly

I get up at quarter past seven. I have breakfast. Then I go to school at quarter to eight. I have lunch at half past two. I do my homework at four o’clock. I watch TV at seven o’clock. I go to bed at half past nine.

(ข้นึ อยกู่ บั ดลุ ยพินิจของผูส้ อน)

9

7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์ แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์ วธิ กี ารวดั ประเมนิ การพดู ทกั ทาย, แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ พดู ถาม-ตอบตามทกี่ าหนด แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ และพดู ขอและให้ขอ้ มลู ส่วนตวั ประสงค์ ของตนเองและเพ่ือน ประเมนิ การทาชิ้นงาน สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการ ทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน EXTRA and Friends 6 ป. 6 8.2 แบบฝึกหัด EXTRA and Friends 6 ป. 6 8.3 บตั รภาพ/บตั รคา

10

1 A Surprise Party!

ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 เวลาเรียน 12 ชั่วโมง

1 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็

อย่างมีเหตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/1 ปฏิบตั ิตามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนาที่ฟังและอา่ น

ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น

ต 1.1 ป. 6/3 เลือก/ระบุประโยค หรือขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย

ที่อ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานงา่ ย ๆ

และเรื่องเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชี้วัด

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขยี นใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

ต 1.3 ป. 6/2 เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มูลต่าง ๆ ทีฟ่ ังหรืออ่าน

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

11

ตวั ชี้วัด

ต 2.1 ป. 6/2 ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ

ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม

ตัวชีว้ ดั

ต 2.2 ป. 6/2 เปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง และประเพณี

ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น และเป็ น

พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตัวชีว้ ัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหลง่ การเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสังคมโลก

ตัวชี้วดั

ต 4.2 ป. 6/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ และประโยคทีใ่ ชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง และสมาชิกในครอบครวั เกี่ยวกบั ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เช่น อายุ วนั เกิด เป็นการเรียนรู้เพือ่ การสื่อสาร รวมท้งั การเขียนประโยคบอกวนั ท่ี บตั รเชิญงานวนั เกิด อวยพรวนั เกิด และจดั งานวนั เกิด ช่วยให้นาภาษาไปใช้ในการส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และเขา้ ใจความเหมือนและต่างของการจดั งานฉลองวนั เกิดของเจา้ ของภาษากบั ไทย ทาให้ ทราบเก่ียวกบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาดว้ ย

12

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

  1. Language Features and Functions Vocabulary: (Family members) grandma, grandpa, uncle, aunt, mum, dad, sister, brother, cousin this, that, these, those (Ordinal numbers) 1st-30th candle, fantastic, switch off/on, hide, light, look out invitation, address, hope, lovely, blow out, shout invite, decorate, banner, try, make a wish, guest, slice festival, culture, celebrate, take place, jasmine garland, splash, floral shirts, hometown, relatives, value, seaweed, oyster, abalone long, short, high, low, slow, fast, loud, soft Structure: Who’s this? It’s my aunt, Caroline. Who’s that? It’s my cousin, Daniel. I’m going to my cousin’s house. It’s his birthday today! Really? How old is he? He’s fourteen! What’s the date today? It’s the fifteenth of November. Where is your sister? At school. When is her birthday? It’s on the fourth of May. Come to my grandmother’s house. We’re having a surprise party for her. She’s seventy today. Dear Jodie, It’s my … birthday on the … of July. Please come to my party at … My address is … North Road. I hope you can come. This is your special day, so we all want to say, have a lovely day. In Britain, children invite their friends to a birthday party when it’s their birthday.

13

When Songkran comes, people like to return to their hometown to

spend time with their families.

In Singapore, the family comes together in February during Chinese

New Year.

It makes a (long) sound.

Pronunciation: Final sound of “th” at the end of ordinal numbers

Stress and intonation

Blend (cluster) /gr/

Linking sound

Function: Talking about fanilly members, age, dates and birthday parties

Identifying ordinal numbers

Asking for and giving personal information

Inviting someone to a birthday party

Describing festivals in Thailand and Singapore

  1. Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

เขียนเน้ือเพลงตามทฟี่ ัง

แยกประเภทของเสียงตามที่ฟัง

Speaking: พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครวั อายุ วนั เกิดของผอู้ ืน่

และวนั ท่ี

พดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามแบบ Wh-questions

บอกวนั สาคญั ตา่ ง ๆ

พูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษและไทย

พูดบรรยายภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองทอ่ี ่าน

แสดงบทบาทสมมติ

ขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาลของไทยและสิงคโปร์

พูดบอกเกี่ยวกบั ลกั ษณะของเสียงที่ไดย้ นิ

Reading: ตอบคาถามจากการอา่ น

วาดภาพเก่ียวกบั เรื่องท่อี า่ น

14

Writing: เขียนประโยคโดยใช้ this, that, these, those

  1. Culture: เขยี นถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษและไทย เขียนบตั รเชิญงานวนั เกิด แต่งเพลงอวยพรวนั เกิด เขยี นรายงานเก่ียวกบั การฉลองวนั เกิดของไทย เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั กิจกรรมทที่ าร่วมกบั ครอบครวั ในวนั สงกรานต์ เขยี นประโยคงา่ ย ๆ เพือ่ บอกลกั ษณะเสียงของส่ิงต่าง ๆ วนั สาคญั ต่าง ๆ เช่น วนั ปี ใหม่ วนั ฮาโลวนี การจดั งานฉลองวนั เกิดในประเทศองั กฤษ

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

5.1 ใฝ่เรียนรู้ 5.2 ม่งุ มนั่ ในการทางาน

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1. ประเมนิ การพูดเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั 2. ประเมินการถาม-ตอบเกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครัว อายขุ องผอู้ ่นื วนั เกิด และวนั ที่ 3. ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามแบบ Wh-questions 4. ประเมนิ การตอบคาถามจากการฟังและอา่ น 5. ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ 6. ประเมินการเขยี นบตั รเชิญเกี่ยวกบั งานวนั เกิด รายงานเก่ียวกบั การฉลองวนั เกิดของไทย

และใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั กิจกรรมทท่ี าร่วมกบั ครอบครวั ในวนั สงกรานต์ 7. ประเมินการพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษและไทย 8. ประเมินการขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั เทศกาลของประเทศไทยและสิงคโปร์ 9. ประเมินการพดู บอกเก่ียวกบั ลกั ษณะของเสียงทไี่ ดย้ ิน

15

10. ประเมนิ ชิ้นงานเกี่ยวกบั บตั รวนั ที่ วนั สาคญั ขององั กฤษและไทย การแต่งเพลงอวยพรวนั เกิด วาดภาพเกี่ยวกบั เรื่องท่อี ่าน และเขยี นบอกลกั ษณะเสียงของสิ่งต่าง ๆ

11. สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ ประโยค เลน่ เกม ร้องเพลง และพดู อวยพรวนั เกิด 12. สงั เกตการเปรียบเทียบการจดั งานวนั เกิดของไทยกบั เจา้ ของภาษา 13. ตรวจการเขียนประโยคโดยใช้ this, that, these, those 14. ตรวจสมดุ คาศพั ท์ และแบบฝึกหดั 15. สังเกตพฤตกิ รรมบ่งช้ีดา้ นใฝ่ เรียนรู้ และมุง่ มนั่ ในการทางาน

7 การวัดและประเมินผล 7.1 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ - ทาแบบฝึกหัดในหนงั สือเรียน หนา้ 4-15 - ทาแบบฝึกหดั ใน Workbook หนา้ 2-13 7.2 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินช้ินงานตามหวั ขอ้ ทกี่ าหนด

8 สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6 8.2 แบบฝึกหดั Extra and Friends 6 ป. 6 8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6 8.4 บตั รภาพ บตั รคาศพั ท์ บตั รประโยค 8.5 บตั ร Story Cutouts 8.6 พจนานุกรมภาษาองั กฤษ 8.7 กระดาษขนาด A4 8.8 ปฏิทิน 8.9 อนิ เทอร์เน็ต

16

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 Who’s this? เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives) - ออกเสียง สะกด และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สมาชิกในครอบครัวได้ - พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั ได้ - รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เรียนได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล

ตวั ชี้วัด

ต 1.1 ป. 6/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วัด

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน

ตวั ชีว้ ัด

ต 3.1 ป. 6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่นจากแหล่งการเรียนรู้

และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน

สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ ่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศกึ ษา

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพืน้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลย่ี นเรียนรู้กับสังคมโลก

17

ตวั ชีว้ ัด ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ต่าง ๆ

ต 4.2 ป. 6/1

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั และประโยคแนะนาสมาชิกในครอบครัว

ช่วยให้ใชภ้ าษาในการส่ือสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

  1. Language Features and Functions

Vocabulary: (Family members) grandma, grandpa, uncle, aunt, mum, dad, sister,

brother, cousin

Structure: Who’s this? It’s my aunt, Caroline.

Who’s that? It’s my cousin, Daniel.

Function: Talking about family members

  1. Language Skills

Speaking: พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั

โดยใช้ Who’s that/this? It’s my …

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน

18

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm Up

1. ครูทกั ทายนกั เรียนในช้นั เพ่ือถามสารทุกขส์ ุกดิบตามประโยค ดงั น้ี T: How are you? Ss: I’m fine.

แลว้ ให้นกั เรียนในช้นั ทกั ทายเพอื่ น ๆ ในหอ้ งบา้ ง โดยให้ทกั ทายกบั เพอื่ นที่นงั่ ทางขวามือ 2. ทบทวนประโยคพดู แนะนาตนเอง โดยใหน้ กั เรียนยนื กระจายไปทว่ั บริเวณห้องเรียน จากน้นั

ใหน้ กั เรียนเดินไปจบั คู่กนั แลว้ สนทนาแนะนาตนเอง ตามโครงสร้างประโยค ดงั น้ี S1: Hello, my name is ... What’s your name? S2: My name’s ... Nice to meet you. S1: Nice to meet you too.

ข้นั Presentation 1. ให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน โดยครูพดู วา่ Close your book, please. จากน้นั ให้นกั เรียนดูภาพ ครอบครวั ที่ครูเตรียมมา หรืออาจเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 4 ให้นกั เรียนดูกไ็ ด้ พร้อมกบั พูดวา่ This is Oscar’s family. ให้นกั เรียนพดู คาศพั ทต์ ามทค่ี รูออกเสียง ดงั น้ี grandma (ยา่ , ยาย), grandpa (ป่ ู, ตา), uncle (ลุง, นา้ , อา), aunt (ป้า, นา้ , อา), mum (แม)่ , dad (พอ่ ), sister (พ่สี าว, นอ้ งสาว), brother (พ่ีชาย, นอ้ งชาย), cousin (ลกู พี่ลกู นอ้ ง) โดยให้นกั เรียนออกเสียงทีละคน หรือพร้อมกนั ท้งั ช้นั กไ็ ด้ 2. หนงั สือเรยี น หน้า 4 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน โดยพูดว่า Open your book to page 4. แลว้ ครูอ่านและอธิบายคาส่งั ในกิจกรรมแกน่ กั เรียน จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและพูด คาศพั ทต์ าม พร้อมกบั ช้ีทภี่ าพตามไปดว้ ย ครูเปิ ด CD ให้ฟังคาศพั ทอ์ กี คร้ัง และหยดุ หลงั คาศพั ท์ แตล่ ะคา เพือ่ ใหน้ กั เรียนฟังและพูดตาม ขณะทนี่ กั เรียนพูด ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งดว้ ยว่า นกั เรียน ลงเสียงหนกั เบาไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่

Grandpa Uncle Simon Aunt Caroline Mum Dad Grandma Katrina Cousin Daniel Cousin Brother Sister

19

การลงเสียงหนกั ในคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ครอบครวั

grandma grandpa uncle sister

brother cousin

*ขอ้ สังเกต คาทม่ี ีการสะกดดว้ ยตวั อกั ษร s ทอี่ ยรู่ ะหวา่ งสระ เช่น cousin ตอ้ งออกเสียง

s เป็นเสียง /z/

ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ครอบครัวเพ่ิมเตมิ จากเวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=FHaObkHEkHQ&t=73s

การเน้นเสียงในภาษาองั กฤษ (Stress) ลกั ษณะสาคญั ของภาษาองั กฤษ คอื มกี ารออกเสียงเนน้ หนกั เบา ซ่ึงเป็นปัญหาสาคญั

สาหรับผพู้ ดู ภาษาองั กฤษท่ีไม่ใช่เจา้ ของภาษา เพราะถา้ ออกเสียงเนน้ หนกั ผิดพยางค์ อาจทาให้ การส่ือสารเกิดความเขา้ ใจผดิ ได้ เพราะฉะน้นั เราตอ้ งออกเสียงเนน้ หนกั เบาให้ถกู ตอ้ ง

เสียงเนน้ หนกั ในคา (word stress) คอื การเนน้ เสียงหนกั ในพยางคห์ น่ึงของคา โดยที่ ผูพ้ ดู จะออกเสียงพยางคน์ ้นั ดงั กว่าพยางคอ์ นื่ ๆ ในคาเดียวกนั เช่น paper, continue เป็นตน้ คาในภาษาองั กฤษทุกคาจะมีพยางคห์ น่ึงเทา่ น้นั ท่ไี ดล้ งเสียงหนกั สุด (primary stress) ผูเ้ รียนจึงจาเป็นจะตอ้ งเรียนรู้ถึงการออกเสียงเนน้ หนกั ในแต่ละคาให้ถูกตอ้ งเสียกอ่ น ทม่ี า: http://wantongnoon.blogspot.com/2012/09/stress.html

การใช้ capital letter กับคาศัพท์เก่ยี วกบั สมาชิกในครอบครัว การกลา่ วแนะนาสมาชิกในครอบครวั เช่น

This is my aunt, Caroline. เราใช้ comma เพ่อื ให้ขอ้ มูลเพ่ิมเติมวา่ my aunt ช่ือวา่ Caroline

20

ส่วนการเรียกสมาชิกในครอบครวั เจา้ ของภาษามกั จะเรียกโดยใช้

คาบอกลาดบั ในครอบครัว + ชื่อ เหมือนอยา่ งทคี่ นไทยเรียก เช่น ตาชยั ยายอ่า ลงุ เหมือน

ป้าแดง ในการเรียกเช่นน้ี คาบอกลาดบั จะตอ้ งข้นึ ตน้ ดว้ ยตวั ใหญ่ (capital letter) เสมอ

เพราะทาหนา้ ท่เี ป็นส่วนหน่ึงของชื่อเฉพาะ เช่น

Aunt Caroline lives in London. หรือ My aunt, Caroline, lives in London.

Uncle Simon loves gardening. หรือ My uncle, Simon, loves gardening.

บางคร้งั ในการเรียกสมาชิกในครอบครวั เราอาจไมร่ ะบชุ ่ือ แต่ใชค้ าบอกลาดบั เรียกแทนช่ือ

เลย ในกรณีทีม่ ีบริบทท่ีชดั เจนอยแู่ ลว้ เช่น

Happy Birthday, Grandma! I love you, Dad.

Mum, can I go over to Lisa’s house?

คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั เหล่าน้ี จะทาหนา้ ทเี่ หมอื นเป็นช่ือเฉพาะ จึงตอ้ งข้นึ ตน้

ดว้ ยตวั ใหญ่ (capital letter) เสมอ

3. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยใหด้ ูภาพครอบครวั ใน Ex.1 และระบวุ า่ เป็นใคร เช่น T: Who’s this? (ช้ีทีภ่ าพป้า) Class: Aunt. T: Spell the word, please. Class: a-u-n-t T: Good etc.

4. ครูสอนประโยคถาม-ตอบเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั โดยเขยี นประโยคให้ดบู นกระดาน ดงั น้ี A: Who’s this? B: It’s my (คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ญาติ), (ช่ือ). A: Who’s that? B: It’s my (คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ญาต)ิ , (ชื่อ).

ใหน้ กั เรียนดูและช่วยกนั บอกความแตกตา่ งของประโยคท่ีครูเขียน จากน้นั อธิบายให้นกั เรียนฟังวา่ this ใชก้ ลา่ วถงึ บุคคลทอี่ ยใู่ กล้ ส่วน that ใชก้ ลา่ วถงึ บคุ คลที่อยไู่ กล จากน้นั ครูสาธิตการพูด ถาม-ตอบกบั นกั เรียนท่ฝี ึกซ้อมไวแ้ ลว้ ใหน้ กั เรียนในช้นั ฟัง โดยครูสาธิตดว้ ยการตดิ ภาพญาติของ นกั เรียน ในระยะใกลแ้ ละไกล พร้อมกบั สนทนาให้นกั เรียนฟัง เช่น

T: Who’s this? (ช้ีทภ่ี าพบุคคลที่อยใู่ กลค้ รู) S1: It’s my mum, Malinee. T: Who’s that? (ช้ีทีภ่ าพบุคคลทอ่ี ยไู่ กลครู) S1: It’s my sister, Pimmada. ครูสนทนาให้นกั เรียนฟัง 2-3 คร้ัง ให้นกั เรียนในช้นั ต้งั ใจฟังและออกเสียงตาม

21

ข้นั Practice 1. ครูตรวจสอบว่า นกั เรียนเขา้ ใจความแตกต่างของคาวา่ this และ that หรือไม่ โดยครูหยบิ หนงั สือ ข้ึนมา 1 เล่ม พร้อมกบั ถามวา่ This is a book. หรือ That is a book. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบว่า This is a book. จากน้นั ครูช้ีไปทีห่ นา้ ตา่ ง ซ่ึงอยหู่ ่างจากครู พร้อมกบั ถามวา่ This is a window. หรือ That is a window. ให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบว่า That is a window. ตอ่ มาครูอาจใหน้ กั เรียนทากิจกรรมน้ีกบั เพ่ือนทนี่ ง่ั ขา้ ง ๆ เพ่อื ฝึกการใช้ this และ that จนคลอ่ ง 2. ให้นกั เรียนจบั กลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน ครูให้นกั เรียนตกลงกนั ว่า มี 1 คน ในกลมุ่ จะตอ้ งวิ่งออกไปยืนใน ระยะไกล และอีกคนยนื ในระยะใกล้ ๆ จากน้นั ให้นกั เรียนอกี 2 คน พดู สนทนาโตต้ อบกนั หลงั จาก สนทนาเสร็จแลว้ ให้สลบั กนั ทากิจกรรม โดยคนทีส่ นทนาออกไปยนื แทน และคนยืนมาพูดสนทนา กนั บา้ ง ให้นกั เรียนไดท้ ากิจกรรมน้ีจนครบทกุ คน S1: Who’s this? S2: It’s my friend, Kanokwan. S1: Who’s that? S2: It’s my friend, Natthaporn. 3. หนังสือเรียน หน้า 4 Ex. 2 ครูพูดวา่ Open your book to page 4. ใหน้ กั เรียนทาตามคาสัง่ ทคี่ รูพดู จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูบทสนทนาในภาพ และดคู วามแตกตา่ งของบทสนทนาท้งั 2 เสร็จแลว้ ให้ นกั เรียนจบั คกู่ นั พูดถาม-ตอบตามขอ้ มลู ท่ีให้มา ครูเดินรอบ ๆ ช้นั ขณะนกั เรียนทากิจกรรม แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4 คู่ ออกมาพูดสนทนาหนา้ ช้นั S1: Who’s this? S2: It’s my grandmother, Alice. S1: Who’s that? S2: It’s my brother, James. S1: Who’s that? S2: It’s my cousin, Katrina. S1: Who’s this? S2: It’s my uncle, Simon.

ข้นั Production 1. ใหน้ กั เรียนเตรียมภาพบคุ คลในครอบครวั และบคุ คลท่ีมชี ื่อเสียง โดยนามาจากนิตยสารตา่ ง ๆ อยา่ งละ 2 ภาพ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั นาภาพมาวางเรียงในตาแหน่งระยะใกลแ้ ละไกล แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบกบั เพ่ือน เช่น

22

S1: Who’s this? S2: It’s my sister, Kanokwan. S1: Who’s that? S2: It’s my favourite singer, Bird Thongchai. etc. ครูใหน้ กั เรียนสลบั ค่อู ีก 2-3 คร้ัง จนนกั เรียนฝึกพูดไดค้ ลอ่ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนนาภาพมาติด ลงในกระดาษ และเขียนบรรยายเป็นการบา้ น โดยครูเขียนตวั อยา่ งใหด้ ูบนกระดาน ดงั น้ี

Who’s this?

 It’s my sister, Kanokwan.

Who’s that?

 It’s my favourite singer, Bird Thongchai. 2. ครูให้นกั เรียนทาสมุดคาศพั ทค์ นละ 1 เล่ม โดยครูบอกนกั เรียนวา่ ในแตล่ ะชว่ั โมงนกั เรียนตอ้ ง บนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมุด ถา้ ในชว่ั โมงน้นั เรียนคาศพั ทใ์ หมใ่ ห้นกั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทใ์ หมท่ ีเ่ รียน โดยให้บอกความหมายลงในสมุดคาศพั ท์ แตถ่ า้ ไม่ไดเ้ รียนคาศพั ทใ์ หม่ ครูให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ท์ ตามหมวดที่เรียนในบทน้นั เพ่มิ เตมิ อกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ให้นกั เรียนบนั ทึก คาศพั ทท์ ีเ่ รียนในชวั่ โมงน้ี กจิ กรรมเพม่ิ เติม ครูให้ทาแผนผงั ตน้ ไมข้ องครอบครวั ตนเองใส่กระดาษ A4 เพอ่ื นาเสนอในคาบเรียนตอ่ ไป 3. ให้นกั เรียนทากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 4 Exs. 1-2 เป็นการบา้ น

23

Ex.1

Ex.2 2. I have, Caroline 1. Simon 4. I have, James 3. Two, Katrina and Daniel

7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์ วธิ กี ารวดั แบบประเมินการพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ ประเมนิ การพูดถาม-ตอบ แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั ได้ สมดุ คาศพั ท์ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบฝึ กหดั แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ตรวจสมดุ คาศพั ท์ ประสงค์ สังเกตพฤตกิ รรมบง่ ช้ีดา้ น ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการ ทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6 8.2 แบบฝึกหัด Extra and Friends 6 ป. 6 8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6 8.4 บตั รภาพ บตั รประโยค 24

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 This is my aunt. เวลา 1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์ (Objectives) - พูดเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัวได้ - ถามและตอบเกี่ยวกบั อายไุ ด้ - เขยี นประโยคโดยใช้ this, that, these, those ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 เสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ

พูดและการเขยี น

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพ่ือน และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์เกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครัว การแนะนาสมาชิกภายในครอบครวั การถาม-

ตอบเก่ียวกบั อายขุ องผอู้ น่ื และการใช้ this, that, these, those ประกอบประโยค เป็นการเรียนรู้พ้ืนฐาน เพื่อใชใ้ นการส่ือสาร

25

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

  1. Language Features and Functions

Vocabulary: (Family members) grandma, grandpa, uncle, aunt, mum, dad, sister,

brother, cousin

this, that, these, those

Structure: I’m going to my cousin’s house. It’s his birthday today!

Really? How old is he? He’s fourteen!

Function: Talking about family members

Talking about age

  1. Language Skills

Speaking: พดู เก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั

ถามและตอบเกี่ยวกบั อายุ

Writing เขยี นประโยคโดยใช้ this, that, these, those

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.1 ใฝ่ เรียนรู้ 5.2 มุง่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั Warm Up

1. ครูทกั ทายและถามสารทุกขส์ ุกดิบนกั เรียนในช้นั เช่น T: Good morning, Class. How are you today? Ss: Good morning. I’m fine.

26

2. ทบทวนประโยคคาส่ัง โดยให้นกั เรียน 1 คน อาสาออกมาพดู ส่งั และใหน้ กั เรียนท่ีเหลือในช้นั แสดงท่าทางตามคาส่งั น้นั เช่น S1: Stand up. Ss: นกั เรียนทกุ คนยืนข้ึน S1: Open your book. Ss: นกั เรียนทกุ คนเปิ ดหนงั สือ เป็นตน้

3. ทบทวนประโยค Who’s this/that? โดยใหแ้ ต่ละคนนาภาพครอบครัวที่ครูให้เตรียมมาสาหรบั พดู ถาม-ตอบกบั เพ่อื นในช้นั โดยให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพือ่ นที่นง่ั ขา้ ง ๆ และถาม-ตอบกนั เช่น S1: Who’s this? S2: It’s my brother, Pongsak. S1: Who is that? S2: It’s my grandpa, Preecha. etc.

4. ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 2-3 คน ออกมาหนา้ ช้นั เพือ่ แนะนาครอบครวั ของตนเอง โดยใชภ้ าพครอบครวั ท่ีเตรียมมา จากน้นั ครูพดู ถาม-ตอบกบั นกั เรียน ดงั น้ี T: Who’s this? S1: It’s my brother, Sak. ให้นกั เรียนทากิจกรรมน้ีไปเรื่อย ๆ จนนกั เรียนตอบคาถามไดค้ ลอ่ ง และครูอาจใหน้ กั เรียนออกมา เป็นคนถามคาถามแทนครูกไ็ ด้ ครูย้าให้นกั เรียนเห็นว่า การลอ้ เลยี นช่ือพอ่ แม่ของบคุ คลอืน่ เป็นเรื่องท่ีไมค่ วรปฏบิ ตั ิ เพราะคนไทย ใหค้ วามสาคญั กบั ชื่อของพอ่ แมแ่ ละผใู้ หญ่ เราจึงไม่ควรนาช่ือของผใู้ หญม่ าลอ้ เลน่

ข้นั Presentation 1. ครูนาเสนอการใช้ this, that, these, those ซ่ึงเป็นคาบ่งช้ีระยะใกล-้ ไกลของสิ่งของ และครูอธิบาย เพิ่มเตมิ วา่ - this, these ใชก้ บั ส่ิงของทอี่ ยใู่ นระยะใกล้ แตใ่ ชต้ า่ งกนั ท่ี this ใชก้ บั ของส่ิงเดียว ส่วน these ใช้กบั สิ่งของมากกวา่ 1 ช้ิน - that, those ใชก้ บั ส่ิงของท่ีอยใู่ นระยะไกล แต่ใชต้ า่ งกนั ที่ that ใชก้ บั ของส่ิงเดียว ส่วน those ใช้กบั สิ่งของมากกว่า 1 ชิ้น

27

ใกล้ ไกล

เอกพจน์ this that พหูพจน์ these those

2. ตอ่ มาครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยใหอ้ าสาสมคั ร 1 คน นาส่ิงของไปวางท่ีระยะใกล้

และไกล ท้งั ท่ีเป็นจานวน 1 ช้ิน และมากกว่า 1 ชิ้น ต่อมาให้นกั เรียนยกมอื ข้ึน เพ่อื แตง่ ประโยค

บรรยายสิ่งของท่ีอาสาสมคั รนาไปวางไว้ (สมมตวิ า่ สิ่งของน้นั เป็นของนกั เรียนเอง) ให้ทากิจกรรม

น้ีซ้า 3-4 คร้งั เช่น

This is my book. These are my pencils.

That is my eraser. Those are my pens.

กิจกรรมเพม่ิ เติม

ครูแนะนาเวบ็ ไซตใ์ ห้นกั เรียนเขา้ ไปศึกษาการใช้ this, that, these, those เพม่ิ เติมไดท้ ี่

https://www.youtube.com/watch?v=BcxmWhY-zx8

เราใช้ this และ these ทาหนา้ ที่แทนคานาม หรือเรียกว่า คาสรรพนามแทนสิ่งของหรือบคุ คล ดงั น้ี

1. เพ่ือกล่าวถงึ สิ่งของหรือบคุ คลทอ่ี ยใู่ กล้

This is a nice cup of tea.

2. เพือ่ แนะนาบุคคล

This is Janet.

3. ตอ้ งระวงั วา่ เราจะไม่พูดว่า These are John and Michael. แตจ่ ะใชว้ ่า This is John and this is

Michael. คอื จะตอ้ งแนะนาทีละคน

เราใช้ that (เอกพจน์) และ those (พหูพจน์) เพ่อื ทาหนา้ ที่แทนคานาม หรือเรียกว่าคาสรรพนาม

แทนสิ่งของหรือบคุ คลทีอ่ ยไู่ กล ดงั น้ี

1. เพื่อกลา่ วถึงส่ิงของ หรือบคุ คลทอ่ี ยไู่ กล

What’s that?

2. ใช้ that เพื่ออา้ งองิ กลบั ไปในสิ่งทีพ่ ดู หรือทาไปแลว้

I’ve got a new job. That’s great.

ทมี่ า: http://learnenglish.britishcouncil.org/en/english-grammar/pronouns/that-these-and-those

28

3. ครูนาเสนอประโยค This is my … โดยครูเขียน family tree ของครูบนกระดาน ครูยนื ใกล้ ๆ กบั กระดานและพูดแนะนาสมาชิกในครอบครวั ให้นกั เรียนฟัง ดงั น้ี T: This is my family. This is my father, (ชื่อ). This is my mother, (ช่ือ). This is my grandfather, (ชื่อ). This is my grandmother, (ชื่อ). จากน้นั ครูนาเสนอประโยค That is my … โดยครูยนื ระยะห่างออกจากกระดาน และพดู แนะนา สมาชิกในครอบครัวให้นกั เรียนฟัง ดงั น้ี T: That is my family. That is my father, (ชื่อ). That is my mother, (ช่ือ). That is my grandfather, (ช่ือ). That is my grandmother, (ช่ือ). ครูย้าเร่ืองการออกเสียงคาว่า this, that, these, those ใหถ้ กู ตอ้ ง แลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาทากิจกรรม เช่นเดียวกบั ครู โดยเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียน 4-5 คน ออกมาทากิจกรรม ครูคอยช่วยเหลอื และ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของประโยคทแี่ ต่ละคนพดู ดว้ ย กจิ กรรมเพมิ่ เติม ครูอาจให้นกั เรียนเปล่ียนคาแสดงความเป็นเจา้ ของ my เป็น his (ถา้ เจา้ ของเป็นผชู้ าย) หรือ her (ถา้ เจา้ ของเป็นผหู้ ญิง) และเปลี่ยนคาศพั ทค์ รอบครัวเป็นคาศพั ทส์ ่ิงของแทนกไ็ ด้

4. ให้นกั เรียนทบทวนเก่ียวกบั การพูดถาม-ตอบอายุ โดยครูเขยี นตวั เลขต่อไปน้ีบนกระดาน 20 30 40 50 60 11 22 33 44 55 66 77 88 99 ครูใหน้ กั เรียนอ่านตวั เลขเหล่าน้ีตามครูและดว้ ยตนเอง จากน้นั ครูเขยี นตวั เลขลงในตาราง 9 ช่อง แลว้ ให้นกั เรียนเล่นเกม Noughts and Crosses หรือ OX ดว้ ยการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกบั อายุ โดยใช้ ตวั เลขในตาราง

29

14 55 43 เช่น How old is your grandma? 25 71 99 Team 1 S1: She is 71 years old. 33 64 88 Team 1 S2:

ถา้ ทมี ใดพูดถาม-ตอบอายไุ ดถ้ กู ตอ้ ง จะมสี ิทธ์ิทาเครื่องหมาย O หรือ X ของทีมตนเอง ทมี ที่สามารถทาเคร่ืองหมายไดค้ รบ 3 ช่องตดิ กนั ก่อนในแนวใดกไ็ ดเ้ ป็นทมี ท่ีชนะ 5. ครูเขียนประโยคต่อไปน้ีบนกระดาน

… is my pen. (ตดิ ภาพปากกา 1 ดา้ มอยใู่ กล้ ๆ) … is her cat. (ติดภาพแมว 1 ตวั อยไู่ กล ๆ) … are my pens. (ติดภาพปากกาหลายดา้ มอยไู่ กล ๆ) … are her cats. (ตดิ ภาพแมวหลายตวั อยไู่ กล ๆ) เมอื่ ครูตดิ ภาพประกอบประโยคแลว้ ใหน้ กั เรียนพูดเตมิ ประโยคน้นั ใหส้ มบูรณ์ เสร็จแลว้ เฉลย คาตอบ แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงประโยคพร้อม ๆ กนั

ครูสามารถดาวน์โหลดบตั รภาพคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั การใช้ this/that/these/those จากเวบ็ ไซต์ https://www.pinterest.com/pin/332844228689060342/

6. หนังสือเรยี น หน้า 5 Ex. 3 ครูพูดสัง่ วา่ Open your book to page 5. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคในกรอบ Grammar พร้อมกนั แลว้ ให้นกั เรียนดกู ิจกรรมใน Ex.3 และอ่านคาส่งั พร้อมกนั ครูให้นกั เรียน ช่วยกนั อธิบายคาสง่ั น้นั และใหแ้ ตล่ ะคนดูภาพและเติมคาตอบทม่ี คี วามหมายสมั พนั ธก์ บั ภาพ จากน้นั ครูรวบรวมคาตอบจากนกั เรียนและเฉลยคาตอบบนกระดาน

2. Those 3. That 4. These 5. This 6. Those

30

ข้นั Practice

1. ครูเขียนขอ้ มูลต่อไปน้ีบนกระดาน

mum 35 dad 40

grandma 50 grandpa 55

ครูอธิบายว่า ตวั เลขท่ใี หม้ า คือ อายุ ครูใหน้ กั เรียนอ่านตวั เลขตามครู จากน้นั ครูถามอายขุ องสมาชิก

ในครอบครัวทใี่ หม้ าบนกระดานกบั นกั เรียน 1 คน แลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั

อายุ โดยให้สมมติว่า เป็นอายขุ องสมาชิกในครอบครวั ของตนเอง เช่น

S1: How old is your mum?

S2: She’s thirty-five!

จากน้นั ให้นกั เรียนเปลย่ี นคพู่ ูดถาม-ตอบกบั เพ่อื นคนอนื่ ๆ ในช้นั ให้ครบ 5 คน

มารยาทในการถามอายุ เมอื่ พบปะกบั บุคคลใดบุคคลหน่ึงเป็นคร้ังแรก ไม่ควรถามถึงเรื่องส่วนตวั ของบุคคลน้นั เช่น อายุ ความเช่ือทางการเมือง และรายได้ เพราะถือว่าเป็นการไมเ่ คารพสิทธิส่วนบคุ คล ควรหลกี เล่ียงการสนทนาเก่ียวกบั เร่ืองเหลา่ น้ี ทีม่ า: http://www.educationuk.org/thailand/articles/uk-etiquette/

2. หนังสือเรยี น หน้า 5 Ex. 4 ครูพดู ส่งั วา่ Open your book to page 5. แลว้ ครูแบง่ นกั เรียนในช้นั ออกเป็น 2 กล่มุ คอื กลมุ่ ผชู้ าย และกลมุ่ ผหู้ ญงิ ให้กล่มุ ผชู้ ายอ่านประโยคในกรอบคาพดู ของเดก็ ชาย และกลมุ่ ผหู้ ญงิ อ่านประโยคในกรอบคาพูดของเด็กหญิง จากน้นั ใหน้ กั เรียนดูขอ้ มลู ท่ใี หม้ า แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่สนทนาโดยใชข้ อ้ มูลทกี่ าหนดให้ในกรอบสีน้าเงิน เช่น S1: I’m going to my aunt’s house. It’s her birthday today! S2: Really? How old is she? S1: She’s fifty-five!

S3: I’m going to my uncle’s house. It’s his birthday today! S4: Really? How old is he? S3: He’s forty-three! etc. ครูเดินรอบ ๆ ช้นั ขณะนกั เรียนทากิจกรรม แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ ออกมาพดู สนทนา ใหเ้ พื่อนฟัง ครูคอยช่วยเหลือนกั เรียนที่ออกเสียงคาศพั ทไ์ มถ่ กู ตอ้ ง

31

Present continuous นอกจากจะใชบ้ อกถงึ ส่ิงท่ีกาลงั เกิดข้นึ แลว้ ยงั ใชบ้ อกถงึ ส่ิงทีจ่ ะเกิดข้ึน

ในอนาคต ซ่ึงมีการเตรียมการไวแ้ ลว้ เช่น

I’m visiting my friend tomorrow. ฉนั จะไปเย่ียมเพ่อื นของฉันวนั พรุ่งน้ี

I’m going to the cinema at the weekend. ฉันจะไปดูภาพยนตร์สุดสัปดาหน์ ้ี

They are coming to our house on Saturday. พวกเขาจะมาบา้ นของเราในวนั เสาร์

What are you doing tonight? เธอจะทาอะไรคืนน้ี

3. หนังสือเรียน หน้า 5 Go Green ให้นกั เรียนคิดถึงวนั เกิดของเพื่อนสนิทของตนเอง และคิดวา่ จะประดิษฐ์ของขวญั จากธรรมชาติอะไรให้กบั เพ่ือนสนิทของตนเอง โดยครูบอกว่า ให้นกั เรียนคิด ตามหัวขอ้ ทก่ี าหนด ดงั น้ี - ประดิษฐข์ องขวญั อะไรใหเ้ พื่อนสนิท - ของขวญั ชิ้นน้นั ทาจากวสั ดธุ รรมชาติอะไร ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ตอบ เพอื่ ใหไ้ ดค้ าตอบที่หลากหลาย และเพ่อื แลกเปล่ียนประสบการณก์ นั เสร็จแลว้ ครูถามว่า การนาวสั ดุธรรมชาตมิ าใช้ในการประดิษฐข์ องขวญั ใหเ้ พ่อื น มขี อ้ ดีหรือไม่ อยา่ งไร ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ

ข้นั Production 1. ให้นกั เรียนแตง่ บทสนทนาโดยใชบ้ ทสนทนาใน Ex. 4 เป็นตน้ แบบ แต่เปลย่ี นสถานท่ีจากบา้ น ลกู พีล่ ูกนอ้ งเป็นบา้ นเพื่อนแทน จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คสู่ นทนากนั ครูกาหนดใหน้ กั เรียนสนทนา กบั เพอ่ื นจานวน 4-5 คน เช่น S1: I’m going to Ken’s house. It’s his birthday today! S2: Really? S1: How old is he? S2: He’s fourteen! 2. ครูให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดทเ่ี รียนในบทน้ีเพิ่มเติมอกี 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมดุ คาศพั ท์ 3. ใหท้ ากิจกรรมในแบบฝึ กหดั หน้า 5 Exs. 3-4 เป็นการบา้ น

32

Ex. 3 3. Those are Mike’s socks. 2. Those are Sue’s rings. 4. These are my pens. 4. What are these? They’re balloons. Ex. 4 3. What is that? 6. What is this? It’s a car. It’s a cat. 5. What are those?

They’re hats.

7. การวดั และประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ วธิ ีการวดั ประเมนิ การพูดเก่ียวกบั สมาชิก แบบประเมินการพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ในครอบครวั ประเมินการถามและตอบ แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เก่ียวกบั อายุ ตรวจการเขียนประโยค แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ โดยใช้ this, that, these, those แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบฝึ กหัด ประสงค์ สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการ ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6 8.2 แบบฝึกหัด Extra and Friends 6 ป. 6 8.3 Class Audio CD ประกอบสื่อฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6 8.4 บตั รภาพ บตั รคาศพั ท์ 8.5 อนิ เทอร์เน็ต

33

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 What’s the date today?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives) - ออกเสียงคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เลขลาดบั ได้ - พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ท่ีได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น

อย่างมเี หตุผล

ตัวชีว้ ดั

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ตวั ชี้วดั

ต 1.2 ป. 6/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ วั

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ชี้วัด

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เลขลาดบั (Ordinal numbers) และการใชโ้ ครงสร้างประโยคบอกวนั ท่ี เป็นการ

เรียนรู้พ้ืนฐานเพือ่ ใชใ้ นการสื่อสาร

34

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

  1. Language Features and Functions

Vocabulary: (Ordinal numbers) 1st-30th

Structure: What’s the date today? It’s the fifteenth of November.

Pronunciation: Final sound of “th” at the end of ordinal numbers

Function: Identifying ordinal numbers

Talking about dates

  1. Language Skills

Speaking: พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ที่

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน 5.1 ใฝ่ เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up 1. ครูทกั ทายและถามสารทุกขส์ ุกดิบนกั เรียน 2. ครูให้ทบทวนประโยค This is my... เพอ่ื พดู แนะนาสมาชิกในครอบครวั โดยครูนาบตั รคาศพั ท์ เกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครวั มาวางบนโตะ๊ ครู จากน้นั ใหน้ กั เรียนทีละคนหยิบบตั รคาศพั ทข์ ้ึนมา 1 ใบ และพดู แนะนาสมาชิกในครอบครัว ครูให้ทากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีไปเรื่อย ๆ จนสงั เกตว่า นกั เรียนพดู ไดค้ ล่อง S1: This is my aunt. S2: This is my uncle. S3: This is my dad. 3. ครูทบทวนการพดู บทสนทนาท่ีไดเ้ รียนไปแลว้ โดยให้นกั เรียน 1 คู่ ออกมาพูดสนทนา ดงั น้ี S1: I’m going to my cousin’s house. It’s his birthday today! S2: Really? How old is he? S1: He’s fourteen!

35

4. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั ชื่อเดือน โดยครูแสดงบตั รคาศพั ทช์ ่ือเดือนให้นกั เรียนดู คร้งั ละ 1 คา ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงคาศพั ทต์ ามบตั รคาท่คี รูแสดง หรืออาจใหน้ กั เรียน ออกเสียงพร้อมกนั กไ็ ด้ ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมน้ีจนครบคาศพั ทท์ ุกคา

ข้นั Presentation

1. ครูสอนการออกเสียงจานวนนบั ท่ลี งทา้ ยดว้ ย -teen และ -ty โดยเขียนตวั เลขต่อไปน้ีบนกระดาน

13 14 15 16

30 40 50 60

ครูออกเสียง ให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม แลว้ อา่ นเองในคร้งั ท่ี 2 โดยเนน้ ให้นกั เรียนออกเสียง

เนน้ หนกั ในคาทลี่ งทา้ ยดว้ ย -teen ท่ีพยางคส์ ุดทา้ ย และคาที่ลงทา้ ยดว้ ย -ty ทพี่ ยางคแ์ รก เช่น

thirteen thirty

fourteen forty

fifteen fifty

sixteen sixty

ครูชมเชยนกั เรียนทีอ่ อกเสียงไดถ้ กู ตอ้ ง และแกไ้ ขการออกเสียงที่ไมถ่ ูกตอ้ ง

2. ครูนาเสนอคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เลขลาดบั ต้งั แต่ 1st-30th โดยแสดงบตั รคาให้นกั เรียนดูตามลาดบั

พร้อมกบั ออกเสียงคาศพั ทใ์ หน้ กั เรียนฟัง และฝึกออกเสียงตามครูซ้าหลาย ๆ คร้ัง ครูช่วยอธิบาย

การออกเสียงคาที่ลงทา้ ยดว้ ย th ให้นกั เรียนฟังเพิ่มเติม

การออกเสียงคาทล่ี งท้ายด้วย th

ฝึกให้นกั เรียนออกเสียงคาท่ลี งทา้ ยดว้ ย th หรือเสียง /θ/ ให้ชดั เจน เพราะเป็นเสียงที่ไม่มใี น

ภาษาไทย และมกั จะอ่านผิดเป็นตวั สะกด แมก่ ด ซ่ึงอาจทาให้ความหมายของคาผิดเพ้ียนไป

การออกเสียง /θ/ ทาไดโ้ ดยการนาลิน้ มาอยรู่ ะหวา่ งปลายฟันหนา้ บนและล่าง และใหล้ มจาก

ลาคอลอดผ่านไรฟันออกมาพร้อมกบั ดึงปลายลน้ิ เขา้

ตวั อยา่ งคาศพั ท์ teeth breath bath mouth

path earth with both

ครูอาจเปิ ดคลิปวดิ ีโอใหน้ กั เรียนฝึกการออกเสียง /θ/ เพิ่มเติมที่

https://www.youtube.com/watch?v=7ivTDJIxRW0

หรือใหฝ้ ึกดว้ ยตนเอง โดยครูบอกคาสาคญั ในการคน้ หา เช่น th pronunciation หรือช่ือคลิป

Pronunciation - TH - through, weather, lethal, breath, breathe

ให้นกั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดดู ว้ ยตนเองที่ www.youtube.com

36

แลว้ ครูอธิบายเพม่ิ เติมเก่ียวกบั เลขลาดบั แกน่ กั เรียน

การเปลี่ยนจานวนนับเป็ นเลขลาดบั

การใชเ้ ลขลาดบั จะใชเ้ หมือนจานวนนบั แตจ่ ะเตมิ th ทา้ ยคา ยกเวน้ 1-3 ทเ่ี ปลี่ยนรูป

และ 5, 8, 9, 12 จะแตกตา่ งจากเลขจานวนนบั เลก็ นอ้ ย

จานวนนบั เลขลาดับ

one (หน่ึง)  first (ทีห่ น่ึง)

two (สอง)  second (ที่สอง)

three (สาม)  third (ท่ีสาม)

four (สี่)  fourth (ท่ีสี่)

five (ห้า)  fifth (ท่หี ้า)

six (หก)  sixth (ทหี่ ก)

seven (เจ็ด)  seventh (ท่ีเจด็ )

eight (แปด)  eighth (ที่แปด)

nine (เกา้ )  ninth (ที่เกา้ )

ten (สิบ)  tenth (ที่สิบ)

eleven (สิบเอด็ )  eleventh (ที่สิบเอ็ด)

twelve (สิบสอง)  twelfth (ท่ีสิบสอง)

ส่วนตวั ท่ีลงทา้ ยดว้ ยหลกั สิบ ให้เปลย่ี น ty เป็น tie แลว้ จึงเติม th เช่น

twenty (ย่ีสิบ)  twentieth (ท่ยี ีส่ ิบ)

thirty (สามสิบ)  thirtieth (ท่สี ามสิบ)

forty (ส่ีสิบ)  fortieth (ที่สี่สิบ)

fifty (หา้ สิบ)  fiftieth (ท่หี า้ สิบ) เป็ นตน้

3. ครูนาเสนอประโยคทใ่ี ชถ้ าม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ท่ี โดยครูตดิ ปฏิทินใหน้ กั เรียนดูบนกระดานและพูด กบั นกั เรียนว่า Look at this calendar. What’s the date today? (ครูให้นกั เรียนเดาความหมายของคาวา่ calendar เอง) ครูพูดประโยคเดิมซ้าอีก 2 คร้งั แลว้ ครูเขียนคาตอบให้นกั เรียนดบู นกระดาน It’s the eighteenth of March. แลว้ ครูสรุปการถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ท่ใี หน้ กั เรียนดูบนกระดาน

A: What’s the date today? B: It’s the (เลขลาดบั ) of (ช่ือเดือน).

37

ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า เม่ือนกั เรียนใชเ้ ลขลาดบั นกั เรียนตอ้ งใส่ the หนา้ เลขลาดบั เสมอ เช่น the fifth, the eighth, the ninth เป็นตน้ เมือ่ ครูอธิบายจบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่กู นั สนทนาถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ท่ี โดยใหน้ กั เรียนสมมติ วนั ที่เอง ครูเดินสงั เกตขณะนกั เรียนสนทนากนั และสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ออกมาพดู สนทนา ทหี่ นา้ ช้นั เช่น

S1: What’s the date today? (ช้ีที่วนั ที่ 5 สิงหาคม) S2: It’s the fifth of August. ในการทากิจกรรมน้ี ครูอาจใหน้ กั เรียนเตรียมปฏทิ ินมาจากบา้ น เพ่อื ใชท้ ากิจกรรม

ข้นั Practice 1. หนังสือเรียน หน้า 6 Ex. 5 ให้นกั เรียนอา่ นประโยคคาสั่งพร้อมกนั และครูอธิบายภาระงาน ใหน้ กั เรียนฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD 1-2 คร้ัง คร้งั แรกใหน้ กั เรียนฟังและช้ีภาพตาม คร้ังที่ 2 ให้ฟัง ช้ีภาพ และออกเสียงตาม CD ดว้ ย ต่อมาครูเปิ ด CD อกี คร้ัง และหยดุ CD หลงั จบคาศพั ทแ์ ต่ละคา และสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียงตาม เป็นรายบคุ คล แลว้ ให้เวลานกั เรียนฝึกออกเสียงคาศพั ทท์ ้งั หมดอีกคร้ัง โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียง /θ/ ทา้ ยคาให้ถกู ตอ้ ง

1st first 2nd second 3rd third 4th fourth 5th fifth 6th sixth 7th seventh 8th eighth 9th ninth 10th tenth 11th eleventh 12th twelfth 13th thirteenth 14th fourteenth 15th fifteenth 16th sixteenth 17th seventeenth 18th eighteenth 19th nineteenth 20th twentieth 21st twenty-first 22nd twenty-second 23rd twenty-third 24th twenty-fourth 25th twenty-fifth 26th twenty-sixth 27th twenty-seventh 28th twenty-eighth 29th twenty-ninth 30th thirtieth 31st thirty-first

38

2. หนังสือเรยี น หน้า 6 Ex. 6 ครูพูดสงั่ ว่า Open your book to page 6. ให้นกั เรียนทาตามคาสง่ั แลว้ ดูภาพ และประโยคในกรอบคาพดู จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน อ่านประโยคในกรอบ คาพดู ให้เพื่อนในช้นั ฟัง เสร็จแลว้ ครูถามว่า เป็นประโยคถาม-ตอบเก่ียวกบั เร่ืองอะไร ใหน้ กั เรียน ช่วยกนั ตอบ

3. ครูใหน้ กั เรียนในช้นั อ่านประโยคในกรอบคาพูดพร้อมกนั อกี คร้ัง แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กนั พดู ประโยคถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ที่ โดยให้นกั เรียนใชข้ อ้ มูลที่กาหนดให้ใน Ex. 6 ครูเดินสงั เกต ขณะนกั เรียนทากิจกรรม จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ช้นั เช่น S1: What’s the date today? S2: It’s the fifteenth of November. S1: What’s the date today? S2: It’s the twelfth of February. S1: What’s the date today? S2: It’s the twenty-second of March. S1: What’s the date today? S2: It’s the fourth of July. S1: What’s the date today? S2: It’s the thirty-first of October. S1: What’s the date today? S2: It’s the eleventh of January.

4. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แลว้ ครูแจกปฏทิ นิ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม กล่มุ ละ 1 เดือน โดยให้ ผลดั กนั สมมตวิ นั ที่ของวนั น้ี แลว้ ให้ผลดั กนั ถาม-ตอบตามวนั ทท่ี ่สี มมตขิ ้ึน ครูใหน้ กั เรียนสลบั ปฏิทินกบั เพอ่ื นกลมุ่ อน่ื ดว้ ย เพ่อื จะฝึกพูดถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ทีต่ ่าง ๆ จนคลอ่ ง กจิ กรรมเพม่ิ เติม ให้นกั เรียนฝึกร้องเพลงทบทวนประโยคถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ที่ เพมิ่ เติมที่ https://www.youtube.com/watch?v=LXWSYplahKY โดยครูบอกคาสาคญั ในการคน้ หา คอื What’s the date today? หรือชื่อคลิป Bài hát “What’s the date today?”- Tiếng Anh lớp 4 ใหน้ กั เรียนเขา้ ไปเปิ ดดูดว้ ยตนเองท่ี www.youtube.com

39

ข้นั Production 1. ครูใหน้ กั เรียนทาช้ินงานเก่ียวกบั บตั รวนั ที่ เพื่อนามาใชใ้ นการสนทนากนั โดยครูแจกกระดาษขนาด คร่ึงหน่ึงของ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผ่น เพื่อนาไปเขียนวนั ที่ทแี่ ต่ละคนชอบ ให้เขียนตวั อกั ษร ขนาดใหญ่ อ่านง่าย เสร็จแลว้ ครูรวบรวมบตั รวนั ที่ เพื่อให้คะแนน ดงั ตวั อยา่ ง

1st March 23rd August 14th November

2. ครูนาบตั รวนั ที่ท้งั หมดมารวมไวท้ ี่โตะ๊ ครู จากน้นั นกั เรียนทีละคู่ออกมาหยิบบตั รวนั ทบี่ นโตะ๊ ครู 2 ใบ และถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ที่

3. ครูให้นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทต์ ามหมวดท่ีเรียนในบทน้ีเพิ่มเติมอีก 4 คา และบอกความหมายดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ คาศพั ทล์ งในสมดุ คาศพั ท์

4. ให้ทากิจกรรมในแบบฝึ กหัด หน้า 6 Exs. 5-7 เป็นการบา้ น

Ex. 5

40

Ex. 6 4. May 5. February 2. December 3. October 3. the fifth of November

Ex. 7 2. the thirty-first of October

7. การวัดและประเมินผล

วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตการออกเสียงคาศพั ท์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

ประเมินการพดู ถาม-ตอบ แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์

เกี่ยวกบั วนั ที่ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ผา่ นเกณฑ์ ประเมินช้ินงานเก่ียวกบั แบบประเมนิ ช้ินงาน

บตั รวนั ท่ี

ตรวจแบบฝึ กหดั แบบฝึกหดั (Workbook)

สังเกตพฤติกรรมบง่ ช้ีดา้ น แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการ ประสงค์

ทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 หนงั สือเรียน Extra and Friends 6 ป. 6 8.2 แบบฝึกหดั Extra and Friends 6 ป. 6 8.3 Class Audio CD ประกอบส่ือฯ ชุด Extra and Friends 6 ป. 6 8.4 บตั รภาพ บตั รคาศพั ท์ 8.5 กระดาษขนาด A4 8.6 ปฏิทิน

41

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 When is your birthday?

เวลา 1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์ (Objectives) - พดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามแบบ Wh-questions ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม - ตอบคาถามจากการฟังได้ - พดู /เขียนถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษและของไทยได้ - เล่นเกมทางภาษาตามทก่ี าหนดได้

1. สาระมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ตัวชีว้ ัด

ต 1.1 ป. 6/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

ต 1.1 ป. 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่าย ๆ

และเร่ืองเลา่

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก

และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ตัวชีว้ ัด

ต 1.2 ป. 6/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ครอบครัว และเรื่องใกลต้ วั

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ

พดู และการเขียน

ตวั ชี้วัด

ต 1.3 ป. 6/1 พูด/เขยี นใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น และสิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ตวั ชี้วดั

ต 2.1 ป. 6/2 ให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล/วนั สาคญั /งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา

42

ต 2.1 ป. 6/3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตัวชีว้ ดั

ต 4.1 ป. 6/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การรู้และเขา้ ใจการบอกวนั ท่ี ประโยคคาถามแบบ Wh-questions ช่วยให้พูดสื่อสารใน

ชีวิตประจาวนั

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

  1. Language Features and Functions

Vocabulary: (Ordinal numbers) 1st-30th

Structure: Where is your sister? At school.

When is her birthday? It’s on the fourth of May.

Pronunciation: Stress and intonation

Function: Asking for and giving personal information

Talking about dates

  1. Language Skills

Listening: ตอบคาถามจากการฟัง

Speaking: พดู ถาม-ตอบโดยใชค้ าถามแบบ Wh-questions

บอกวนั สาคญั ตา่ ง ๆ

Writing: เขยี นถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั สาคญั ขององั กฤษและของไทย

  1. Culture: วนั สาคญั ตา่ ง ๆ เช่น วนั ปี ใหม่ วนั ฮาโลวนี

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด

43

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน 5.1 ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm Up

1. ครูทกั ทาย พร้อมกบั ถามสารทกุ ขส์ ุกดิบของนกั เรียนดว้ ย

2. ให้นกั เรียนทบทวนการพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ที่ โดยให้นกั เรียนเขยี นวนั ทลี่ งในกระดาษ

คนละ 1 แผน่ ครูสมมตวิ ่า วนั ที่ที่นกั เรียนเขียน คือวนั น้ี จากน้นั ครูถามนกั เรียนทนี่ ง่ั หนา้ สุด

ทางขวามอื เม่ือนกั เรียนตอบคาถามแลว้ ให้นกั เรียนคนน้นั ถามเพอ่ื นคนถดั ไป เช่น

T: What’s the date today?

S1: It’s the (เลขลาดบั ) of (ช่ือเดือน). What’s the date today?

S2: It’s the (เลขลาดบั ) of (ชื่อเดือน). What’s the date today?

S3: It’s the (เลขลาดบั ) of (ชื่อเดือน). What’s the date today?

ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเช่นน้ีตอ่ ไปเร่ือย ๆ จนนกั เรียนไดพ้ ดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วนั ท่คี รบทุกคน

3. ครูเปิ ด CD จากหนงั สือเรียน หนา้ 6 Ex. 5 ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั เพ่ือทบทวนการออกเสียงเลขลาดบั

1st-30th โดยครูย้าให้นกั เรียนออกเสียง /θ/ ทา้ ยคาทล่ี งทา้ ยดว้ ย th และลงเสียงหนกั ในคาให้ถกู ตอ้ ง

ดว้ ย โดยคาท่ลี งทา้ ยดว้ ย -teenth จะลงเสียงหนกั ท่ี -teenth แต่คาทล่ี งทา้ ยดว้ ย -tieth จะลงเสียงหนกั

ทพี่ ยางคแ์ รก เช่น

sixteenth sixtieth

จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกมาหนา้ ช้นั คร้ังละ 1 คน เพอ่ื จบั ฉลากเลขลาดบั และอา่ นออกเสียง

ให้นกั เรียนที่เหลอื ในช้นั พดู ตาม

4. ครูใหน้ กั เรียนเขยี นตามคาบอกเลขลาดบั 1st-20th ลงในสมดุ โดยครูอา่ นเลขลาดบั ชา้ ๆ ทีละคา

คาละ 2 คร้ัง เสร็จแลว้ เฉลยคาตอบร่วมกนั

ข้นั Presentation

1. ครูเขยี นประโยคคาถามและคาตอบเหลา่ น้ีบนกระดาน

Why is Kelly crying? Because she’s sad.

When is your birthday? It’s on the second of April.

How old are you? I’m eleven years old.

How are you? I’m fine, thanks.

Where is your pencil? It’s on my desk.

44

Who is he? He’s my friend.

Whose birthday is it? It’s Grandma’s.

What is George doing? He’s reading a book.

ให้นกั เรียนออกเสียงประโยคเหลา่ น้ีพร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนคร้งั ละ 1 คน ออกมา

ขดี เสน้ ใตค้ าทีเ่ ป็นคาถามกบั คาทเ่ี ป็นคาตอบท่สี มั พนั ธก์ นั โดยครูทาใหด้ ูเป็นตวั อยา่ งกอ่ น เช่น