Htttp kruchiangrai เทคโนโลย เพ อการส อสาร ม.2

Htttp kruchiangrai เทคโนโลย เพ อการส อสาร ม.2

  • หน้าแรก
  • * ผังข้อมูลเว็บไซต์
    • เกี่ยวกับ สพป.ชร. ๑
    • คณะผู้บริหาร
    • ก.ต.ป.น.
    • โครงสร้างการบริหาร
    • อำนาจหน้าที่
    • แผนยุทธศาสตร์
    • * กลุ่มอำนวยการ
      • กลุ่มนโยบายและแผน
      • กลุ่มบริหารงานบุคคล
      • กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา
      • กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
      • กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์
      • หน่วยตรวจสอบภายใน
      • กลุ่มส่งเสริมการศึกษาทางไกลเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
      • กลุ่มพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา
      • กลุ่มกฏหมายและคดี
  • * ข่าวประชาสัมพันธ์
    • ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
    • ข่าวบริหารงานบุคคล
    • KM&E-Clip
    • การเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
    • ผลงาน / นวัตกรรมพัฒนาความสามารถในการอ่านและการเขียนที่ประสบความสำเร็จ สพป.เชียงราย เขต 1
    • ข่าวประชาสัมพันธ์จากโรงเรียน
    • ข่าวประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานอื่น
  • E-learning
  • Smart office
  • ติดต่อเรา
  • เว็บไซต์โรงเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 1

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

กดกลับไปที่สารบัญ 2

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

ค ำน ำ

หนังสือ e-book แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ภาค ข วิชาการศึกษา ฉบับ

นี้ ผู้จัดท าได้ท าการวิเคราะห์ข้อสอบไว้อย่างครอบคลุม และตรงประเด็น

ตรงตามหลักสูตรการสอบครูผู้ช่วย

ผู้จัดท าหวังว่า หนังสือ e-book แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ภาค ข วิชา

การศึกษา ฉบับนี้ จะช่วยให้ท่านผู้อ่าน ท าข้อสอบได้และได้บรรจุเป็น

ข้าราชการครูตามที่ได้มุ่งหวังไว้ทุกประการ

แอดมินครูเชียงราย

https://www.facebook.com/kruchiangrai

http://www.kruchiangrai.net

[email protected]

กดกลับไปที่สารบัญ 3

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

สำรบัญ

เรื่อง หน้ำ

1. หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร 4

2. หลักการสอนที่เน้นการสอนคิดวิเคราะห์และการจัดการเรียนรู้

ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ 15

3. จิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว 25

4. การพัฒนาผู้เรียน 38

5. การบริหารจัดการชั้นเรียน 52

6. การวิจัยทางการศึกษา 62

7. สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา 72

8. การวัดและประเมินผลการศึกษา 79

กดกลับไปที่สารบัญ 4

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ หลักสูตรและกำรพัฒนำหลักสูตร

(30 ข้อ)

1. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่องค์ประกอบของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้น

พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. โครงสร้างเวลาเรียน ข. ค าอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค. มาตรฐานการเรียนรู้ ง. เกณฑ์การจบหลักสูตร

2. ข้อใดเป็นเป้ำหมำยส ำคัญ ของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้น

พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. หลักการของหลักสูตร ข. สาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ

ค. มาตรฐานการเรียนรู้ ง. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง

3. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ

ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 มีจุดมุ่งหมำยตรงกับข้อใด มำกที่สุด

ก. เพื่อเน้นการปฏิบัติ ข. เพื่อพัฒนาการเรียนรู้

ค. เพื่อตัดสินผลการเรียน ง. เพื่อพัฒนาการเรียนรู้และตัดสิน

ผลการเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 5

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

4. ข้อใดไม่ใช่สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. ความสามารถในการสื่อสาร ข. ความสามารถในการคิด

ค. ความสามารถในการใช้ชีวิต ง. ความสามารถในการแก้ปัญหา

5. ข้อใดไม่ใช่คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ข. มุ่งมั่นในการเรียน

ค. มีวินัย ง. รักความเป็นไทย

6. หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 คำดหวัง

สิ่งใดให้เกิดกับผู้เรียนมำกที่สุด

ก. คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้

ข. การบูรณาการการเรียนรู้

ค. การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

ง. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กดกลับไปที่สารบัญ 6

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

7. มำตฐำนกำรเรียนรู้ มีองค์ประกอบทั้งหมดกี่ส่วน

ก. 1 ส่วน (K) ความรู้

ข. 2 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม

ค. 3 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม, (A) กระบวนการ

ง. 4 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม, (A) กระบวนการ,

(N) ความรู้

8. ข้อใดคือควำมหมำยของกำรเรียนรู้แบบ BBL (Brain Based

Learning)

ก. การเรียนรู้ที่ใช้ครูเป็นศูนย์กลาง เพื่อกระตุ้นสมอง

ข. การเรียนรู้โดยใช้สมองซีกซ้าย เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นสมอง

ค. การเรียนรู้โดยใช้สมองซีกขวา เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นสมอง

ง. การเรียนรู้ที่ใช้โครงสร้าง และหน้าที่ของสมองเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้

9. สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฎิบัติได้ตรงกับข้อใด

ก. สาระการเรียนรู้

ข. มาตรฐานการเรียนรู้

ค. ตัวชี้วัด

ง. หลักสูตรแกนกลางการศึกษา

กดกลับไปที่สารบัญ 7

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

10. ระดับกำรศึกษำภำคบังคับ ชั้นประถมศึกษำปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษำ

ปีที่ 3 ใช้ตัวชี้วัดใดเป็นเป้ำหมำย

ก. ตัวชี้วัดชั้นปี ข. ตัวชี้วัดช่วงชั้น

ค. ตัวชี้วัดช่วงชั้นปี ง. ตัวชี้วัดชั้นปีช่วงชั้น

11. กำรศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนปลำย ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4-6

ใช้ตัวชี้วัดใดเป็นเป้ำหมำย

ก. ตัวชี้วัดชั้นปี ข. ตัวชี้วัดช่วงชั้น

ค. ตัวชี้วัดช่วงชั้นปี ง. ตัวชี้วัดชั้นปีช่วงชั้น

12. สำระกำรเรียนรู้ มีองค์ประกอบทั้งหมดกี่ส่วน

ก. 1 ส่วน (K) ความรู้

ข. 2 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม

ค. 3 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม, (A) กระบวนการ

ง. 4 ส่วน (K) สิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้, (P) คุณธรรม จริยธรรม, (A) กระบวนการ,

(N) ความรู้

กดกลับไปที่สารบัญ 8

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

13. ข้อใดไม่ใช่กิจกรรมพัฒนำผู้เรียน หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้น

พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. กิจกรรมแนะแนว

ข. กิจกรรมนักเรียน

ค. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

ง. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด

14. ข้อใดไม่ใช่กำรจัดระดับกำรศึกษำตำม หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ

ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. ระดับก่อนประถมศึกษา ข. ระดับประถมศึกษา

ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ง. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

15. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรจัดเวลำเรียน ตำมหลักสูตร

แกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. ระดับชั้นประถมศึกษาจัดเวลาเรียนเป็นรายปี

ข. ระดับชั้นประถมศึกษาจัดเวลาเรียนเป็นเทอม

ค. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค

ง. ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จัดเวลาเรียนเป็นรายภาค

กดกลับไปที่สารบัญ 9

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

16. ผู้เรียนอำศัยกระบวนกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำย เป็นเครื่องมือที่น ำพำ

ตนเองไปสู่เป้ำหมำย เป็นกำรจัดกำรเรียนกำรสอนตรงกับข้อใด

ก. เป็นการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นที่ครูเป็นศูนย์กลาง

ข. เป็นการจัดการเรียนรู้ โดยมีโรงเรียนเป็นฐาน

ค. เป็นการจัดการเรียนรู้ ที่น าชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม

ง. เป็นการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ

17. เครื่องมือส ำคัญในข้อใด ที่ส่งเสริมสนับสนุนกำรจัดกระบวนกำร

เรียนรู้ให้ผู้เรียนเข้ำถึงควำมรู้ทักษะกระบวนกำร และคุณลักษณะตำม

มำตรฐำนของหลักสูตร

ก. สื่อการเรียนรู้

ข. ผู้ปกครองและชุมชน

ค. การวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพ

ง. เทคนิคและวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้

กดกลับไปที่สารบัญ 10

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

18. “ผู้สอนศึกษำหลักสูตรสถำนศึกษำ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัด

สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ พิจำรณำ

ออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ โดยเลือกใช้สื่อให้ผู้เรียนได้เกิดกำรพัฒนำกำร

เรียนรู้” ข้อควำมข้ำงต้นนี้ตรงกับข้อใด

ก. กระบวนการออกแบบสื่อการเรียนรู้

ข. กระบวนการเรียนรู้

ค. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ง. การออกแบบการจัดการเรียนรู้

19. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ แบ่งออกเป็นกี่ระดับ มีอะไรบ้ำง

ก. 2 ระดับ ระดับชั้นเรียน, ระดับสถานศึกษา

ค. 3 ระดับ ระดับชั้นเรียน, ระดับกลุ่มสาระ, ระดับสถานศึกษา

ข. 4 ระดับ ระดับชั้นเรียน, ระดับสถานศึกษา, ระดับเขตพื้นที่การศึกษา,

ระดับชาติ

ง. 5 ระดับ ระดับอ าเภอ, ระดับจังหวัด, ระดับชาติ, ระดับโลก

กดกลับไปที่สารบัญ 11

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

20. กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ อยู่บนหลักกำรพื้นฐำนใด

ก. ประเมินเพื่อประกอบพิจารณาความดีความชอบของครู

ข. ประเมินเพื่อการตัดเกรด

ค. ประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน และตัดสินผลการเรียน

ง. ประเมินเพื่อวางแผนท าวิจัยในชั้นเรียน

21. กำรประเมินที่สอดคล้องกับมำตรฐำนกำรเรียนรู้ และตัวชี้วัดเป็นกำร

ประเมินในระดับใด

ก. ระดับชั้นเรียน

ข. ระดับสถานศึกษา

ค. ระดับเขตพื้นที่การศึกษา

ง. ระดับชาติ

22. เครื่องมือวัดผลที่ดีจะต้องเขียนขึ้นโดยอำศัยสิ่งใด

ก. กิจกรรมการเรียนการสอน

ข. เนื้อหา

ค. จุดประสงค์

ง. เนื้อหาของบทเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 12

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

23. ระดับผลกำรเรียน “2” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า ข. ผลการเรียนต้องปรับปรุง

ค. ผลการเรียนพอใช้ ง. ผลการเรียนปานกลาง

24. กำรวัดประเมินผลระดับใด ด ำเนินกำรเพื่อกำรตัดสินผลกำรเรียนรู้

ของผู้เรียน เป็นรำยปีและรำยภำค

ก. ระดับชั้นเรียน ข. ระดับสถานศึกษา

ค. ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ง. ระดับชาติ

25. ข้อใดไม่ถูกต้องในกำรตัดสินผลกำรเรียน

ก. ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินทุกรายวิชา

ข. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด

ค. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินเฉพาะ ในด้านการอ่านคิดวิเคราะห์ และ

เขียน

ง. ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด

26. คุณภำพของแบบทดสอบข้อใดส ำคัญที่สุด

ก. ความยากง่าย ข. ค่าอ านาจจ าแนก

ค. จ านวนข้อสอบ ง. ความตรงและความเที่ยง

กดกลับไปที่สารบัญ 13

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

27. เอกสำรใด ไม่ใช่เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำที่กระทรวงศึกษำธิกำร

ก ำหนด

ก. ระเบียนแสดงผลการเรียน ข. ประกาศนียบัตร

ค. แบบรายงานผู้ส าเร็จการศึกษา ง. แบบรายงานประจ าตัวนักเรียน

28. เอกสำรใด ไม่ใช่เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำที่สถำนศึกษำก ำหนด

ก. ประกาศนียบัตร

ข. แบบรายงานประจ าตัวนักเรียน

ค. แบบบันทึกผลการเรียนประจ ารายวิชา

ง. ระเบียนสะสมใบรับรองผลการเรียน

29. ง22103 ตรงกับข้อใด

ก. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 2

ข. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาศึกษาปีที่ 3

ค. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ง. การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

กดกลับไปที่สารบัญ 14

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

30. ง22103 หมำยเลขล ำดับแรก ที่ขีดเส้นใต้ มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. กลุ่มสาระการเรียนรู้

ข. ระดับการศึกษา

ค. ปีในระดับการศึกษา

ง. ประเภทรายวิชา

กดกลับไปที่สารบัญ 15

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ หลักกำรสอนที่เน้นกำรสอนคิดวิเครำะห์

และกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส ำคัญ (30 ข้อ)

1. ข้อใดไม่ถือว่ำเป็นกำรจัดกำรศึกษำ ตำม พรบ.กำรศึกษำแห่งชำติ

ก. การศึกษาในระบบ ข. การศึกษานอกระบบ

ค. การศึกษาตามอัธยาศัย ง. การศึกษาตลอดชีวิต

2. ตำม พรบ.กำรศึกษำแห่งชำติ กำรจัดกำรศึกษำต้องยึดหลักในข้อใด

ก. ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ถือว่าผู้เรียน

ส าคัญที่สุด

ข. ผู้เรียนสามารถเรียนรู้โดยใช้สื่อการสอนเพียงชิ้นเดียว ได้อย่างมีความสุข

ค. ผู้สอนเป็นศูนย์กลางให้ข้อมูลผู้เรียนจัดการเรียนรู้ได้หลากหลาย

ง. ผู้สอนสามารถใช้สื่อการสอนเพียงชิ้นเดียวจัดการเรียนรู้ได้หลากหลายชั้น

3. ข้อใดไม่เป็นกำรจัดกำรเรียนรู้ที่เอื้อต่อกำรพัฒนำผู้เรียน

ก. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นการสอนของครูเป็นส าคัญ

ข. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ

ค. การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องต่อการพัฒนาการทางสมอง

ง. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นด้านจริยธรรม คุณธรรม

กดกลับไปที่สารบัญ 16

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

4. เหตุใด ครูต้องออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ ที่ตอบสนองควำมแตกต่ำง

ระหว่ำงบุคคล

ก. เพื่อความท้าทายของการจัดการเรียนรู้ของครู

ข. เพื่อตัดเกรด

ค. เพื่อน าผู้เรียนไปสู่เป้าหมาย

ง. เพื่อการตัดสินผลการเรียน

5. ฝึกกำรปฏิบัติให้ท ำได้ คิดเป็น ท ำเป็น รักกำรอ่ำนและเกิดกำรใฝ่รู้

อย่ำงต่อเนื่อง เป็นกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ ตรงกับข้อใด

ก. การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากบทเรียน

ข. การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากแบบฝึกหัด

ค. การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากผู้เรียนด้วยกัน

ง. การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง

6. กำรจัดประสบกำรณ์ให้ผู้เรียน โดยกำรผสมผสำนหลักสูตรควำมรู้ใน

สำขำวิชำต่ำงๆ เข้ำด้วยกันมีควำมหมำย ตรงกับข้อใด

ก. กระบวนการเรียนรู้แบบรวมมิตร ข. กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ

ค. กระบวนการเรียนรู้แบบคู่ขนาน ง. กระบวนการเรียนรู้แบบสอดแทรก

กดกลับไปที่สารบัญ 17

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

7. ข้อใด ไม่ใช่รูปแบบของกำรบูรณำกำร

ก. บูรณาการแบบสอดแทรก ข. บูรณาการแบบคู่ขนาน

ค. บูรณาการแบบสหวิทยาการ ง. บูรณาการแบบเดี่ยว

8. ครูวิชำภำษำไทยสอนเรื่องกำรเขียนเรียงควำม ครูวิชำคอมพิวเตอร์

สอนเรื่องกำรพิมพ์เอกสำร ครูทั้งสองท่ำนนี้สำมำรถจัดกำรเรียนรู้แบบ

บูรณำกำรในแบบใดให้ผู้เรียนได้

ก. บูรณาการแบบสอดแทรก ข. บูรณาการแบบคู่ขนาน

ค. บูรณาการแบบสหวิทยาการ ง. บูรณาการแบบเดี่ยว

9. ครูวิชำสังคมสอนเรื่องธรรมชำติ ครูวิชำภำษำไทยสอนเรื่องค ำศัพท์

ธรรมชำติ ครูวิชำคอมพิวเตอร์น ำคลิปวีดีโอวิธีกำรรักษำธรรมชำติมำให้

นักเรียนดู ครูทั้งสำมท่ำนนี้สำมำรถจัดกำรเรียนรู้แบบบูรณำกำรในแบบ

ใดให้ผู้เรียนได้

ก. บูรณาการแบบสอดแทรก

ข. บูรณาการแบบคู่ขนาน

ค. บูรณาการแบบสหวิทยาการ

ง. บูรณาการแบบเดี่ยว

กดกลับไปที่สารบัญ 18

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

9. ผู้ที่คิดค้น วิธีสอนแบบแก้ปัญหำ คือ

ก. จอห์น ดิวอี้ ข. รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี

ค. ซิกมันด์ ฟรอยด์ ง. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน

10. Learning by doing เป็นวำทะของนักจิตวิทยำคนใด

ก. จอห์น ดิวอี้ ข. รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี

ค. ซิกมันด์ ฟรอยด์ ง. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน

11. ผู้ที่คิดค้น วิธีสอนแบบ CIPPA MODEL คือ

ก. จอห์น ดิวอี้ ข. รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี

ค. ซิกมันด์ ฟรอยด์ ง. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน

12. วิธีสอนแบบ CIPPA MODEL อักษร C หมำยถึงข้อใด

ก. C = ผู้เรียนน าความรู้ไปประยุกต์ใช้

ข. C = ผู้เรียนมีปฎิสัมพันธ์ต่อกัน

ค. C = ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตัวเอง

ง. C = ผู้เรียนมีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกายในการท ากิจกรรม

กดกลับไปที่สารบัญ 19

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

13. ข้อใดไม่เป็นกำรจัดกำรเรียนรู้แบบเน้นประสบกำรณ์

ก. การเรียนรู้แบบแสดงบทบาทสมมุติ

ข. การเรียนรู้แบบแสดงละคร

ค. การเรียนรู้แบบสถานการณ์จ าลอง

ง. การเรียนรู้แบบใช้ครูเป็นฐาน

14. ครูสมพงษ์ให้นักเรียนชั้น ป.6 เข้ำไปอยู่ในสถำนกำรณ์ที่สร้ำงขึ้นมำ

เพื่อฝึกกำรแก้ปัญหำตัดสินใจ ตำมสถำนกำรณ์ที่เผชิญอยู่ ครูสมพงษ์ได้

จัดกำรเรียนรู้แบบใด

ก. การเรียนรู้แบบแสดงบทบาทสมมุติ

ข. การเรียนรู้แบบแสดงละคร

ค. การเรียนรู้แบบสถานการณ์จ าลอง

ง. การเรียนรู้แบบใช้เกม

15. ข้อใดไม่เป็นกำรจัดกำรเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี

ก. ศูนย์การเรียน

ข. ชุดการสอน

ค. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ง. E-Commerce

กดกลับไปที่สารบัญ 20

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

16. ครูสมหญิงใช้สื่อกำรเรียนกำรสอนทำงคอมพิวเตอร์(Computer –

Assisted Instruction) จัดกำรเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ครูสมหญิงได้จัดกำร

เรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีแบบใด

ก. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ข. E-Learning

ค. ศูนย์การเรียน

ง. ชุดการสอน

17. ผู้ใดที่คิดค้นวิธีสอนแบบหมวก 6 ใบ (Six Thinking Hats)

ก. จอห์น ดิวอี้ ข. รศ.ดร.ทิศนา แขมมณี

ค. ซิกมันด์ ฟรอยด์ ง. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน

18. หมวกสีใดไม่อยู่ในวิธีสอนแบบหมวก 6 ใบ (Six Thinking Hats)

ก. หมวกสีชมพู ข. หมวกสีขาว

ค. หมวกสีแดง ง. หมวกสีเขียว

กดกลับไปที่สารบัญ 21

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

19. ครูธวัชชัยจัดกำรเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนได้มีประสบกำรณ์โดยตรง ได้

เรียนรู้วิธีแก้ปัญหำ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิทยำศำสตร์ ได้ท ำกำรทดลองและ

พิสูจน์รู้จักวิธีแก้ปัญหำท ำงำนอย่ำงมีขั้นตอน รู้จักวำงแผนกำรท ำงำน

ฝึกคิดวิเครำะห์ เป็นผู้น ำผู้ตำม ครูธวัชชัยได้จัดกำรเรียนรู้แบบใด

ก. จัดการเรียนรู้แบบครูเป็นฐาน ข. จัดการเรียนรู้แบบเทคโนโลยี

ค. จัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ง. จัดการเรียนรู้แบบพหุปัญญา

20. กำรจัดกำรเรียนรู้แบบโครงงำนมีทั้งหมดกี่ประเภท

ก. 1 ประเภท โครงงานวิทยาศาสตร์

ข. 2 ประเภท โครงงานวิทยาศาสตร์, โครงงานอาชีพ

ค. 3 ประเภท โครงงานวิทยาศาสตร์, โครงงานอาชีพ, โครงงานครู

ง. 4 ประเภท โครงงานวิทยาศาสตร์, โครงงานอาชีพ, โครงงานครู,

โครงงานนักเรียน

21. ผู้ใดได้กล่ำวเกี่ยวกับแนวคิด พหุปัญญำ ที่ว่ำ “คนเรำทุกคนล้วนมี

ควำมฉลำด แต่ควำมฉลำดของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย”

ก. เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ข. โฮเวิรด์ การ์ดเนอร์

ค. จอห์น ดิวอี้ ง. ซิกมันด์ ฟรอยด์

กดกลับไปที่สารบัญ 22

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

22. พหุปัญญำ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อใด

ก. ความเก่งความฉลาดของบุคคล ข. ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนา

ค. ความมีสติ ความรู้ตัว ง. ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์

23. ควำมสำมำรถทำงปัญญำของมนุษย์ตำม ทฤษฎีพหุปัญญำ แบ่ง

ออกเป็นทั้งหมดกี่ด้ำน

ก. แบ่งออกเป็น 4 ด้าน

ข. แบ่งออกเป็น 8 ด้าน

ค. แบ่งออกเป็น 12 ด้าน

ง. แบ่งออกเป็น 16 ด้าน

24. กำรออกแบบกำรเรียนรู้แบบย้อนกลับ ตรงกับข้อใด

ก. BBL (Brain Based Learning)

ข. PBL (Problem Based Learning)

ค. Backward Design

ง. Individual Development Plan

กดกลับไปที่สารบัญ 23

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

25. ข้อใดเป็นกำรเรียนรู้ที่ใช้โครงสร้ำงและหน้ำที่ของสมองเป็นเครื่องมือ

ในกำรเรียนรู้

ก. BBL (Brain Based Learning)

ข. PBL (Problem Based Learning)

ค. Backward Design

ง. Individual Development Plan

26. ข้อใดเป็นกำรเรียนรู้โดยใช้ปัญหำเป็นฐำน เป็นตัวกระตุ้นเน้น

กิจกรรมของผู้เรียนเป็นหลัก

ก. BBL (Brain Based Learning)

ข. PBL (Problem Based Learning)

ค. Backward Design

ง. Individual Development Plan

27. สมองที่ท ำหน้ำที่ รับรส ดมกลิ่น ได้ยินเสียง คือข้อใด

ก. เซรีเบลลัม

ข. เซรีบรัม

ค. เมดัลลา ออบลองกาตา

ง. ไขสันหลัง

กดกลับไปที่สารบัญ 24

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

28. สมองที่ควบคุมกำรเคลื่อนไหว และทรงตัว คือข้อใด

ก. เซรีเบลลัม

ข. เซรีบรัม

ค. เมดัลลา ออบลองกาตา

ง. ไขสันหลัง

29. Experiential Activities Planning มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. การเรียนรู้โดยการจัดประสบการณ์

ข. การเรียนรู้โดยความเก่งความฉลาดของบุคคล

ค. การเรียนรู้โดยการมีสติ ความรู้ตัว

ง. การเรียนรู้โดยมีผู้เรียนและผู้สอนเป็นฐาน

30. “กำรเรียนรู้ที่มีควำมหมำยแก่ผู้เรียน” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. การน าความรู้ไปต่อยอดเรียนต่อในระดับชั้นต่อไปได้

ข. การเรียนรู้ที่มีชุมชนสังคมมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ค. การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือในการแสวงหาความรู้

ง. การเรียนที่ผู้เรียนค้นพบด้วยตนเอง มีส่วนท าให้เกิดความเข้าใจอย่าง

ลึกซึ้งและจดจ าได้ดี

กดกลับไปที่สารบัญ 25

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ จิตวิทยำกำรศึกษำและกำรแนะแนว

(35 ข้อ)

1. Psychology มีรำกศัพท์มำจำกภำษำใด

ก. ภาษากรีก (Psyche + Logos)

ข. ภาษาสเปน (Psycho + Logy)

ค. ภาษารัสเซีย (Psyche + Logos)

ง. ภาษาบาลี (Psycho + Logy)

2. ในปัจจุบันควำมหมำยของ “จิตวิทยำ” หมำยถึงข้อใด

ก. วิชาการศึกษาที่เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ

ข. วิชาที่ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ และสัตว์ด้วยกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร์

ค. วิชาการศึกษาที่เกี่ยวความคิดของคนยุคโบราณ

ง. วิชาที่ศึกษาพฤติกรรมของพืชและสัตว์

กดกลับไปที่สารบัญ 26

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

3. พฤติกรรม (Behavior) หมำยถึงข้อใด

ก. การกระท าหรือกิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์

ข. การกระท าหรือกิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์ โดยรู้ตัว

ค. การกระท าหรือกิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์ โดยไม่รู้ตัว

ง. การกระท าหรือกิจกรรมทุกอย่างของมนุษย์ โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

4. พฤติกรรม (Behavior) แบ่งได้เป็นสองประเภท ตรงกับข้อใด

ก. พฤติกรรมภายใน (Behavior Overt)

พฤติกรรมภายนอก (Behavior Covert)

ข. พฤติกรรมภายนอกจิตใจ (Behavior Overt)

พฤติกรรมภายในจิตใจ (Behavior Covert)

ค. พฤติกรรมภายในจิตใจ (Overt Behavior)

พฤติกรรมภายนอกจิตใจ (Covert Behavior)

ง. พฤติกรรมภายนอก (Overt Behavior)

พฤติกรรมภายใน (Covert Behavior)

กดกลับไปที่สารบัญ 27

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

5. พฤติกรรมที่สังเกตได้วัดได้อย่ำงชัดเจน ตรงกับพฤติกรรมใด

ก. พฤติกรรมภายใน (Behavior Overt)

ข. พฤติกรรมภายนอกจิตใจ (Behavior Overt)

ค. พฤติกรรมภายในจิตใจ (Overt Behavior)

ง. พฤติกรรมภายนอก (Overt Behavior)

6. พฤติกรรมที่ไม่สำมำรถสังเกตเห็นหรือวัดได้โดยตรง ถ้ำไม่แสดงออก

ไม่มีใครรู้ ตรงกับพฤติกรรมใด

ก. พฤติกรรมภายใน (Behavior Overt)

ข. พฤติกรรมภายนอกจิตใจ (Behavior Overt)

ค. พฤติกรรมภายในจิตใจ (Overt Behavior)

ง. พฤติกรรมภายใน (Covert Behavior)

7. ผู้ใดได้รับยกย่องให้เป็น บิดำแห่งจิตวิทยำกำรทดลอง ในกลุ่ม

โครงสร้ำงทำงจิต (Structuralism)

ก. วิลเฮล์ม วุ้นต์

ข. จอห์น ดิวอี้

ค. โฮเวิรด์ การ์ดเนอร์

ง. ซิกมันด์ ฟรอยด์

กดกลับไปที่สารบัญ 28

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

8. นักจิตวิทยำกลุ่มหน้ำที่ทำงจิต (Functionalism) ผู้ที่ริเริ่มแนวคิด

ที่ว่ำ “วิธีกำรทำงวิทยำศำสตร์เป็นวิธีกำรเรียนรู้” มีใครบ้ำง

ก. วิลเลี่ยม เจมส์, จอห์น ดิวอี้

ข. วิลเฮล์ม วุ้นต์, โฮเวิรด์ การ์ดเนอร์

ค. โฮเวิรด์ การ์ดเนอร์, ซิกมันด์ ฟรอยด์

ง. วิลเฮล์ม วุ้นต์, ซิกมันด์ ฟรอยด์

9. ครูสมหมำยจัดประสบกำรณ์กำรเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้ลงมือปฎิบัติ

เอง เป็นกำรเรียนรู้ในแบบใด

ก. การเรียนรู้แบบร่วมมือ

ข. การเรียนรู้แบบศูนย์กลาง

ค. การเรียนรู้แบบ Learning by doing

ง. การเรียนรู้แบบ E-learning

10. ผู้น ำคนส ำคัญของนักจิตวิทยำ กลุ่มจิตวิเครำะห์ (Psychoanalysis)

คือใคร

ก. วิลเลี่ยม เจมส์ ข. ซิกมันด์ ฟรอยด์

ค. โฮเวิรด์ การ์ดเนอร์ ง. วิลเฮล์ม วุ้นต์

กดกลับไปที่สารบัญ 29

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

11. อีโก้(Ego) หมำยถึงข้อใด

ก. เป็นมโนธรรมที่คอยเตือน Ego ว่าสิ่งนั้นผิดจงอย่าท า

ข. เป็นส่วนประกอบ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์

ค. เป็นส่วนที่ท าหน้าที่ควบคุมพฤติกรรม อันเกิดจากความต้องการพื้นฐาน

ของมนุษย์ ให้แสดงออกในทางที่เหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม

ง. เป็นตัวที่มีหน้าที่สร้างอุดมคติที่พึงปรารถนาของสังคมเป็นมโนธรรมที่

คอยเตือน Ego ว่าสิ่งนั้นผิดจงอย่าท า

12. ซุปเปอร์อีโก้(SuperEgo) หมำยถึงข้อใด

ก. ซุปเปอร์อีโก้ (SuperEgo) เป็นมโนธรรม ที่บอกถึงความต้องการพื้นฐาน

ของมนุษย์

ข. ซุปเปอร์อีโก้(SuperEgo) เป็นส่วนประกอบ ความต้องการพื้นฐานของ

มนุษย์

ค. ซุปเปอร์อีโก้(SuperEgo) เป็นส่วนที่ท าหน้าที่ควบคุมพฤติกรรม อันเกิด

จากความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ให้แสดงออกในทางที่เหมาะสม เป็นที่

ยอมรับของสังคม

ง. ซุปเปอร์อีโก้(SuperEgo) เป็นตัวที่มีหน้าที่สร้างอุดมคติที่พึงปรารถนา

ของสังคมเป็นมโนธรรมที่คอยเตือน Ego ว่าสิ่งนั้นผิดจงอย่าท า

กดกลับไปที่สารบัญ 30

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

13. แนวคิดที่ว่ำ “พฤติกรรมจะต้องมีสำเหตุมำกระตุ้น” เป็นแนวคิดของ

กลุ่มนักจิตวิทยำกลุ่มใด

ก. กลุ่มโครงสร้างทางจิต (Structuralism)

ข. กลุ่มหน้าที่ทางจิต (Functionalism)

ค. กลุ่มจิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis)

ง. กลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism)

14. นักจิตวิทยำกลุ่มมนุษย์นิยม (Humanism) เชื่อว่ำ

ก. มนุษย์ทุกคนวิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นวิธีการเรียนรู้

ข. มนุษย์ทุกคนพยายามปรับปรุงตัวเองให้เป็นผู้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่

จะท าได้ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของผู้เรียนมากที่สุดก็คือ กรรมวิธี

แสวงหาความรู้

ค. มนุษย์มีส่วนที่จะท าการควบคุมพฤติกรรม ของตนเองอันเกิดจากความ

ต้องการพื้นฐาน ให้แสดงออกในทางที่เหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม

ง. มนุษย์มีส่วนที่จะท าการควบคุมพฤติกรรม ที่สร้างอุดมคติที่พึงปรารถนา

ของสังคมเป็นมโนธรรมที่คอยเตือน ว่าสิ่งนั้นผิดจงอย่าท า

กดกลับไปที่สารบัญ 31

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

15. ผู้น ำในกลุ่มมนุษย์นิยม (Humanism) คือ นักจิตวิทยำคนใด

ก. จอห์น บี วัตสัน, วิลเฮล์ม วุ้นต์ ข. โรเจอร์ส, มาสโลว์

ค. มาสโลว์, วิลเฮล์ม วุ้นต์ ง. วิลเฮล์ม วุ้นต์, โรเจอร์ส

16. ผู้น ำในกลุ่มพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) คือ นักจิตวิทยำคนใด

ก. จอห์น บี วัตสัน

ข. โรเจอร์ส

ค. มาสโลว์

ง. วิลเฮล์ม วุ้นต์

17. ทฤษฎีกำรเรียนรู้กลุ่มปัญญำนิยม (Cognitive Theory) เน้นใน

เรื่องใด

ก. เน้นกระบวนการทางปัญญา

ข. เน้นกระบวนการทางความคิด

ค. เน้นกระบวนการทางปัญญาหรือความคิด

ง. เน้นกระบวนการทางปัญญาหรือความคิดและวิทยาศาสตร์

กดกลับไปที่สารบัญ 32

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

18. กำรเรียนรู้ (Learning) มีควำมหมำยตรงกับข้อใดมำกที่สุด

ก. การเปลี่ยนแปลงจิตใจ อันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์

ข. การเปลี่ยนแปลงความคิด อันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์

ค. การเปลี่ยนแปลงความรู้สึก อันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์และการ

ฝึกหัด

ง. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อันเป็นผลเนื่องมาจากประสบการณ์และการ

ฝึกหัด เป็นการเปลี่ยนที่ถาวรหรือค่อนข้างถาวร

19. ข้อใดไม่ใช่กฎกำรเรียนรู้ที่ส ำคัญ 3 กฎ ของธอร์นไดค์ (Thorndike)

ก. กฎแห่งความพร้อม (Law of Readiness)

ข. กฎแห่งการฝึกหัด (Law of Exercise)

ค. กฎแห่งผล หรือกฎแห่งผลตอบสนอง (Law of Effect)

ง. กฎแห่งการเรียนรู้ (Law of learning )

20. ทฤษฎีเสริมแรงเป็นของนักจิตวิทยำผู้ใด

ก. ธอร์นไดค์

ข. สกินเนอร์

ค. โรเจอร์ส

ง. โคลเลอร์

กดกลับไปที่สารบัญ 33

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

21. กลุ่ม เกสตัลท์ (Gestalt Psychology) มีกฎกำรเรียนรู้ตรงกับข้อใด

ก. การเรียนรู้ที่เน้นส่วนรวมไปหาส่วนย่อย

ข. การเรียนรู้ที่เน้นส่วนย่อยไปหาส่วนรวม

ค. การเรียนรู้ด้วยการเสริมแรง

ง. การเรียนรู้แบบโปรแกรม

22. องค์ประกอบของพัฒนำกำรที่ว่ำ “ควำมเจริญเติบโตทั้งทำงด้ำน

ร่ำงกำยและจิตใจ พร้อมที่จะท ำงำนตำมหน้ำที่” หมำยถึงข้อใด

ก. ความเข้าใจ ข. การเรียนรู้

ค. วุฒิภาวะ ง. อารมณ์

23. ควำมแตกต่ำงของบุคคลเกิดจำก 2 สิ่ง คือข้อใด

ก. 1.การเรียนรู้, 2.วุฒิภาวะ ข. 1.พันธุกรรม, 2.สิ่งแวดล้อม

ค. 1.อารมณ์, 2.สติปัญญา ง. 1.หัวใจ, 2.สมอง

24. ทฤษฎีบุคลิคภำพ เป็นของนักจิตวิทยำผู้ใด

ก. ธอร์นไดค์ ข. พาฟลอฟ

ค. สกินเนอร์ ง. ซิกมันด์ ฟรอยด์

กดกลับไปที่สารบัญ 34

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

25. บิดำแห่งกำรแนะแนวอำชีพคือใคร

ก. ธอร์นไดค์

ข. พาฟลอฟ

ค. แฟรงค์ พาร์สัน

ง. ซิกมันด์ ฟรอยด์

26. ข้อใดคือควำมหมำยของค ำว่ำ “จิตวิทยำแนะแนว”

ก. เป็นการน าจิตวิทยาเข้ามาใช้เพื่อการแนะแนว เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักรักคน

รอบข้าง

ข. เป็นการน าจิตวิทยาเข้ามาใช้เพื่อการแนะแนว เป็นเครื่องมือแนะน า

วิธีการเรียนในโรงเรียนให้ได้เกรดสูงๆ

ค. เป็นการน าจิตวิทยาเข้ามาใช้เพื่อการแนะแนว เป็นเครื่องมือที่สร้าง

ค่านิยมความส าเร็จทางสังคมให้กับผู้เรียน

ง. เป็นการน าเอาหลักจิตวิทยาเข้ามาใช้เพื่อการแนะแนว เป็นเครื่องมือทาง

จิตวิทยาเข้ามาช่วยให้ครูได้เข้าใจเด็ก และช่วยให้เด็กเข้าใจตนเองเป็น

ส าคัญ

กดกลับไปที่สารบัญ 35

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

27. ข้อใดเป็นเป้ำหมำยหลักของกำรแนะแนวในสถำนศึกษำ

ก. ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักรักและเห็นคุณค่าในตนเอง

ข. แนะน าวิธีการเรียนในโรงเรียนให้ได้เกรดสูงๆ

ค. สร้างค่านิยมความส าเร็จทางสังคมให้กับผู้เรียน

ง. เพิ่มโอกาสให้ผู้เรียนในการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย

28. หลักของกำรแนะแนวในโรงเรียน จัดตั้งขึ้นเพื่อใคร

ก. เพื่อผู้ปกครอง

ข. เพื่อสถานศึกษา

ค. เพื่อนักเรียนทุกคน

ง. เพื่อครูน าไปพัฒนาผลงานทางวิชาการและวิจัย

29. กำรป้องกันปัญหำ กำรแก้ปัญหำ กำรส่งเสริมและพัฒนำ เป็นสิ่งใด

ของกำรแนะแนว

ก. ปรัชญาของการแนะแนว

ข. หลักของการแนะแนว

ค. เป้าหมายของการแนะแนว

ง. ขอบข่ายของการแนะแนว

กดกลับไปที่สารบัญ 36

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

30. ข้อใดไม่ใช่ขอบข่ำยของกำรแนะแนว

ก. การแนะแนวครูผู้สอน ข. การแนะแนวการศึกษา

ค. การแนะแนวอาชีพ ง. การแนะแนวส่วนตัวและสังคม

31. ข้อใดคือหัวใจหลัก ของกำรบริกำรแนะแนว

ก. การบริการให้ค าปรึกษา ข. การบริการวางตัวบุคคล

ค. การบริการติดตามประเมินผล ง. การบริการรวมรวมข้อมูล

32. กำรประเมินพฤติกรรมนักเรียน (SDQ) ถือว่ำเป็นขั้นตอนใด

ในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ก. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ข. การคัดกรองนักเรียน

ค. การส่งเสริมนักเรียน ง. การป้องกันและแก้ไขปัญหา

33. กำรเยี่ยมบ้ำนนักเรียน ถือว่ำเป็นขั้นตอนใด ในระบบดูแลช่วยเหลือ

นักเรียน

ก. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ข. การคัดกรองนักเรียน

ค. การส่งเสริมนักเรียน ง. การป้องกันและแก้ไขปัญหา

กดกลับไปที่สารบัญ 37

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

34. ล ำดับขั้นตอนกระบวนกำรด ำเนินงำน ตำมระบบกำรดูแลช่วยเหลือ

นักเรียน มีองค์ประกอบส ำคัญ 5 ประกำร ดังนี้

ก. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล > การคัดกรองนักเรียน > การส่งเสริม

นักเรียน > การส่งต่อ > การป้องกันและแก้ไขปัญหา

ข. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล > การคัดกรองนักเรียน > การส่งเสริม

นักเรียน > การป้องกันและแก้ไขปัญหา > การส่งต่อ

ค. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล > การคัดกรองนักเรียน > การป้องกัน

และแก้ไขปัญหา > การส่งต่อ > การส่งเสริมนักเรียน

ง. การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล > การป้องกันและแก้ไขปัญหา > การคัด

กรองนักเรียน > การส่งเสริมนักเรียน > การส่งต่อ

35. กำรคัดกรองนักเรียน ในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ต้องแบ่ง

ออกเป็นกี่กลุ่ม

ก. แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มพิเศษ กลุ่มปกติ

ข. แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มพิเศษ กลุ่มปกติ กลุ่มมีปัญหา

ค. แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มพิเศษ กลุ่มปกติ กลุ่มมีปัญหา กลุ่มเสี่ยง

ง. แบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มพิเศษ กลุ่มปกติ กลุ่มมีปัญหา กลุ่มเสี่ยง กลุ่ม

ยากจน

กดกลับไปที่สารบัญ 38

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ กำรพัฒนำผู้เรียน (35 ข้อ)

1. ข้อใดคือควำมหมำยของกำรพัฒนำผู้เรียน

ก. พัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต ความเป็นประชาธิปไตย ความภูมิใจ

ในความเป็นไทยเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ

ข. การปลูกฝังภูมิใจในความเป็นไทย การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน

เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ

ค. พัฒนาทักษะชีวิต การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียน

ให้มีคุณภาพ

ง. ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม พัฒนาทักษะชีวิต สุขภาพกายและสุขภาพจิต

ความเป็นประชาธิปไตย ความภูมิใจในความเป็นไทย จัดระบบดูแล

ช่วยเหลือผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ

2. กำรพัฒนำผู้เรียนอยู่ในสมรรถนะครู ส ำนักงำนคณะกรรมกำร

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ในข้อใด

ก. สมรรถนะหลัก ข. สมรรถนะประจ าสายงาน

ค. สมรรถนะอันพึงประสงค์ ง. สมรรถนะประจ าต าแหน่ง

กดกลับไปที่สารบัญ 39

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

3. สมรรถนะครู ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มีทั้งหมด

สองสมรรถนะ ตรงกับข้อใด

ก. สมรรถนะหลัก, สมรรถนะประจ าสายงาน

ข. สมรรถนะหลัก, สมรรถนะอันพึงประสงค์

ค. สมรรถนะประจ าสายงาน, สมรรถนะประจ าต าแหน่ง

ง. สมรรถนะประจ าสายงาน, สมรรถนะอันพึงประสงค์

4. กำรก ำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 มุ่งให้เกิดสิ่งใด

ก. ให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข

ข. ให้เกิดความสมานฉันท์ในชาติ

ค. ให้ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข

ง. ให้สังคมเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้

5. ข้อใด ไม่ใช่คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. รักความเป็นไทย ข. มีคุณธรรมจริยธรรม

ค. ใฝ่เรียนรู้ ง. มุ่งมั่นในการท างาน

กดกลับไปที่สารบัญ 40

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

6. เด็กชำยมำนะ ยืนตรงเคำรพธงชำติร้องเพลงชำติ และอธิบำย

ควำมหมำยของเพลงชำติได้ถูกต้อง เด็กชำยมำนะมีคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช

2551 ตำมข้อใด

ก. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข. รักความเป็นไทย

ค. มีวินัย ง. ซื่อสัตย์สุจริต

7. เด็กชำยสมคิด ให้ข้อมูลถูกต้องที่เป็นจริง เด็กชำยสมคิดมีคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช

2551 ตำมข้อใด

ก. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข. รักความเป็นไทย

ค. มีวินัย ง. ซื่อสัตย์สุจริต

8. เด็กหญิงมำนี ปฎิบัติตนตำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ

ของครอบครัว โรงเรียนและสังคม ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น เด็กหญิงมำนี มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน

พุทธศักรำช 2551 ตำมข้อใด

ก. ใฝ่เรียนรู้ ข. มุ่งมั่นในการท างาน

ค. มีวินัย ง. ซื่อสัตย์สุจริต

กดกลับไปที่สารบัญ 41

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

9. เด็กหญิงสำยใจ ตั้งใจเรียนเอำใจใส่และมีควำมเพียรพยำยำมในกำร

เรียนรู้สนใจเข้ำร่วมกิจกรรมกำรเรียนรู้ต่ำงๆ เด็กหญิงสำยใจมี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน

พุทธศักรำช 2551 ตำมข้อใด

ก. มุ่งมั่นในการท างาน ข. อยู่อย่างพอเพียง

ค. มีวินัย ง. ใฝ่เรียนรู้

10. เด็กชำยปิติใช้ทรัพย์สินของตนเองอย่ำงคุ้มค่ำและประหยัด เก็บ

รักษำดูแลอย่ำงดี รวมทั้งกำรใช้เวลำอย่ำงเหมำะสม ใช้ทรัพยำกรอย่ำง

ประหยัด รอบคอบ มีเหตุผล เด็กชำยปิติมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ตำมข้อใด

ก. มุ่งมั่นในการท างาน

ข. อยู่อย่างพอเพียง

ค. มีวินัย

ง. มีจิตสาธารณะ

กดกลับไปที่สารบัญ 42

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

11. เด็กหญิงชูใจ เอำใจใส่ต่อกำรปฎิบัติหน้ำที่ที่ได้รับมอบหมำย

รับผิดชอบในกำรท ำงำนจนส ำเร็จ ปรับปรุงพัฒนำกำรท ำงำนด้วยตนเอง

เด็กหญิงชูใจ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตำมข้อใด

ก. มุ่งมั่นในการท างาน ข. อยู่อย่างพอเพียง

ค. มีวินัย ง. มีจิตสาธารณะ

12. เด็กชำยสุรเดช แต่งกำยและมีมำรยำทงดงำมแบบไทย มีสัมมำ

คำรวะ กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี

ศิลปะและวัฒนธรรมไทย เด็กชำยสุรเดชมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ตำมข้อใด

ก. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ข. มีวินัย

ค. รักความเป็นไทย

ง. มีจิตสาธารณะ

กดกลับไปที่สารบัญ 43

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

13. เด็กชำยวีระ ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูท ำงำนด้วยควำมเต็มใจ อำสำ

ท ำงำนให้ผู้อื่นด้วยก ำลังกำยก ำลังใจ และก ำลังสติปัญญำ โดยไม่หวัง

ผลตอบแทน เด็กชำยวีระมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตำมหลักสูตร

แกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตำมข้อใด

ก. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข. มีวินัย

ค. รักความเป็นไทย ง. มีจิตสาธารณะ

14. ข้อใดไม่ใช่ กิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ

ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด

ข. กิจกรรมแนะแนว

ค. กิจกรรมนักเรียน

ง. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

15. กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนำผู้เรียนในด้ำนใด

ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง

ข. เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัยความเป็นผู้น าผู้ตามที่ดี

ค. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบ าเพ็ญตน

ง. เป็นกิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนรู้จักเพื่อนๆ

กดกลับไปที่สารบัญ 44

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

16. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนำผู้เรียนในด้ำนใด

ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง

ข. เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัยความเป็นผู้น าผู้ตามที่ดี

ค. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบ าเพ็ญตน

ง. เป็นกิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนรู้จักเพื่อนๆ

17. กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและ

พัฒนำผู้เรียนในด้ำนใด

ก. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง

ข. เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัยความเป็นผู้น าผู้ตามที่ดี

ค. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบ าเพ็ญตน

ง. เป็นกิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนรู้จักเพื่อนๆ

18. ข้อใดไม่ใช่ กิจกรรมนักเรียน

ก. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์

ข. กิจกรรมชุมนุม

ค. กิจกรรมชมรม

ง. กิจกรรมอาสาพัฒนา

กดกลับไปที่สารบัญ 45

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

20. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ กิจกรรมนักเรียน

ก. กิจกรรมเพื่อสังคม

ข. กิจกรรมพัฒนานักเรียนจิตอาสา

ค. กิจกรรมติวเพื่อเตรียมสอบ

ง. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์

21. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนำผู้เรียนให้รู้จักตนเอง คือกิจกรรมใด

ก. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

ข. กิจกรรมนักเรียน

ค. กิจกรรมแนะแนว

ง. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์

22. เป็นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนำควำมมีระเบียบวินัยควำมเป็นผู้น ำผู้ตำมที่ดี

คือกิจกรรมใด

ก. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

ข. กิจกรรมนักเรียน

ค. กิจกรรมแนะแนว

ง. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์

กดกลับไปที่สารบัญ 46

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

23. เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนบ ำเพ็ญตน คือกิจกรรมใด

ก. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

ข. กิจกรรมนักเรียน

ค. กิจกรรมแนะแนว

ง. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์

24. หลักสูตรของกิจกรรมลูกเสือ มีทั้งหมดกี่ประเภท

ก. ลูกเสือส ารอง, ลูกเสือสามัญ

ข. ลูกเสือส ารอง, ลูกเสือสามัญ, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่, ลูกเสือวิสามัญ

ค. ลูกเสือส ารอง, ลูกเสือสามัญ, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่, ลูกเสือวิสามัญ,

ลูกเสือวิสามัญรุ่นใหญ่

ง. ลูกเสือส ารอง, ลูกเสือสามัญ, ลูกเสือรุ่นใหญ่, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่,

ลูกเสือวิสามัญ, ลูกเสือวิสามัญรุ่นใหญ่

25. โครงสร้ำงกิจกรรมยุวกำชำด ระดับสมำชิกยุวกำชำด ก ำหนด

หลักสูตรเป็นกี่ระดับ

ก. 1 ระดับ ข. 2 ระดับ

ค. 3 ระดับ ง. 4 ระดับ

กดกลับไปที่สารบัญ 47

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

26. กิจกรรมผู้บ ำเพ็ญประโยชน์ มีทั้งหมดกี่รุ่น

ก. 1 รุ่น ข. 2 รุ่น

ค. 3 รุ่น ง. 4 รุ่น

27. เกณฑ์กำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ตรงกับข้อใด

ก. ผ่าน, ไม่ผ่าน

ข. ผ่าน, ไม่ผ่าน, ปรับปรุง

ค. ผ่าน, ไม่ผ่าน, ปรับปรุง, ซ่อมเสริม

ง. ผ่าน, ไม่ผ่าน, ปรับปรุง, ซ่อมเสริม, ปรับปรุงแก้ไข

28. ข้อใดไม่ใช่สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ก. ความสามารถในการใช้ชีวิต

ข. ความสามารถในการคิด

ค. ความสามารถในการแก้ปัญหา

ง. ความสามารถในการสื่อสาร

กดกลับไปที่สารบัญ 48

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

29. เด็กชำยสมจิตร ใช้ภำษำถ่ำยทอดควำมคิด ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ

ควำมรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่ำวสำรและ

ประสบกำรณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อกำรพัฒนำตนเองและสังคม รวมทั้ง

กำรเจรจำต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหำควำมขัดแย้งต่ำง ๆ กำรเลือกรับ

หรือไม่รับข้อมูลข่ำวสำรด้วยหลักเหตุผลและควำมถูกต้อง ตลอดจนกำร

เลือกใช้วิธีกำรสื่อสำรที่มีประสิทธิภำพโดยค ำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อ

ตนเองและสังคม แสดงว่ำเด็กชำยสมจิตรมีสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน

ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตรงกับ

ข้อใด

ก. ความสามารถในการใช้ชีวิต ข. ความสามารถในการคิด

ค. ความสามารถในการแก้ปัญหา ง. ความสามารถในการสื่อสาร

30. เด็กชำยวรพล รู้จักคิดวิเครำะห์ คิดสังเครำะห์ คิดอย่ำงสร้ำงสรรค์

คิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ และคิดเป็นระบบ เพื่อน ำไปสู่กำรสร้ำงองค์

ควำมรู้หรือสำรสนเทศ เพื่อกำรตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้

อย่ำงเหมำะสม แสดงว่ำเด็กชำยวรพลมีสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำม

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตรงกับข้อใด

ก. ความสามารถในการสื่อสาร ข. ความสามารถในการแก้ปัญหา

ค. ความสามารถในการคิด ง. ความสามารถในการใช้ชีวิต

กดกลับไปที่สารบัญ 49

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

31. เด็กหญิงสมพร เข้ำใจควำมสัมพันธ์และกำรเปลี่ยนแปลงของ

เหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ในสังคมแสวงหำควำมรู้ประยุกต์ควำมรู้มำใช้ในกำร

ป้องกัน และแก้ไขปัญหำได้อย่ำงถูกต้องเหมำะสมบนพื้นฐำนของหลัก

เหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสำรสนเทศ รวมทั้งตัดสินใจที่มีประสิทธิภำพ

โดยค ำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม แสดงว่ำ

เด็กหญิงสมพรมีสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำมหลักสูตรแกนกลำง

กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตรงกับข้อใด

ก. ความสามารถในการใช้ชีวิต ข. ความสามารถในการแก้ปัญหา

ค. ความสามารถในการสื่อสาร ง. ความสามารถในการคิด

32. เด็กหญิงนำรี ใช้กระบวนกำรต่ำง ๆ ในกำรด ำเนินชีวิตประจ ำวัน

เรียนรู้ด้วยตนเองต่อเนื่อง ท ำงำนและอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยกำรสร้ำง

เสริมควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงบุคคล จัดกำรปัญหำและควำมขัดแย้ง

ต่ำง ๆอย่ำงเหมำะสม รู้จักปรับตัวให้ทันกับกำรเปลี่ยนแปลงของสังคม

สภำพแวดล้อม และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อ

ตนเองและผู้อื่น แสดงว่ำเด็กหญิงนำรีมีสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำม

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ตรงกับข้อใด

ก. ความสามารถในการแก้ปัญหา ข. ความสามารถในการสื่อสาร

ค. ความสามารถในการใช้ชีวิต ง. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กดกลับไปที่สารบัญ 50

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

33. เด็กชำยภำคภูมิ รู้จักเลือกและใช้เทคโนโลยีด้ำนต่ำง ๆ ทักษะ

กระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพื่อกำรพัฒนำตนเองและสังคมในด้ำนกำร

เรียนรู้กำรสื่อสำร กำรท ำงำน กำรแก้ปัญหำอย่ำงสร้ำงสรรค์ถูกต้อง

เหมำะสมและมีคุณธรรม แสดงว่ำเด็กชำยภำคภูมิมีสมรรถนะส ำคัญของ

ผู้เรียน ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551

ตรงกับข้อใด

ก. ความสามารถในการใช้ชีวิต ข. ความสามารถในการสื่อสาร

ค. ความสามารถในการแก้ปัญหา ง. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

34. ระดับคุณภำพของกำรประเมินสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำม

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 แบ่งตำมข้อ

ใด

ก. ดีเยี่ยม, ดี

ข. ดีเยี่ยม, ดี, พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า

ค. ดีเยี่ยม, ดี, พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า, ปรับปรุง

ง. ดีเยี่ยม, ดี, พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ า, ปรับปรุง, แก้ไข

กดกลับไปที่สารบัญ 51

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

35. วัตถุประสงค์ในกำรประเมิน สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ตำม

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พ.ศ. 2551 เพื่ออะไร

ก. เพื่อได้ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะที่จ าเป็นของผู้เรียนส าหรับใช้ในการ

ปรับปรุงและพัฒนา

ผู้เรียน ให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข. เพื่อท าวิจัยในชั้นเรียน ให้ผู้เรียนมีคุณภาพ ได้ศึกษาต่อในระดับชั้นที่

สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค. เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวนักเรียน เพื่อที่ครูจะได้พัฒนาการเรียนรู้ ให้

ผู้เรียนได้มีเกรดที่ดี

ง. เพื่อครูได้ข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของผู้เรียน และใช้ในการปรับปรุงและ

พัฒนางานวิจัยของครู เพื่อน าเสนอผลงานทางวิชาการ

กดกลับไปที่สารบัญ 52

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ กำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน (30 ข้อ)

1. กำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียนอยู่ในสมรรถนะครู ส ำนักงำน

คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ในข้อใด

ก. สมรรถนะหลัก

ข. สมรรถนะประจ าสายงาน

ค. สมรรถนะอันพึงประสงค์

ง. สมรรถนะประจ าต าแหน่ง

2. กำรจัดสภำพแวดล้อมในชั้นเรียนให้เอื้ออ ำนวยต่อกำรเรียนกำรสอน

มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. การบริหารจัดการชั้นเรียน

ข. การจัดการสภาพห้องเรียน

ค. การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน

ง. การจัดโต๊ะนักเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 53

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

3. กำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. การจัดบรรยากาศการโรงเรียน การจัดท าข้อมูลสารสนเทศตาม

สมรรถนะหลัก ของส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อ

ผู้เรียน

ข. การจัดบรรยากาศสถานศึกษา การจัดท าข้อมูลสารสนเทศตามสภาพของ

สถานศึกษา เพื่อบรรยากาศในการเรียนรู้ที่ดี

ค. การจัดบรรยากาศการเรียนรู้ การจัดท าข้อมูลสารสนเทศตามบริบทของ

โรงเรียน เพื่อความสุขของครูผู้สอน และความปลอดภัยของผู้เรียน

ง. การจัดบรรยากาศการเรียนรู้ การจัดท าข้อมูลสารสนเทศและเอกสาร

ประจ าชั้นเรียน/ประจ าวิชา การก ากับดูแลชั้นเรียนรายชั้น/รายวิชา เพื่อ

ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุข และความปลอดภัยของผู้เรียน

4. ครูคนใดกำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน ได้ถูกต้องเหมำะสม

ก. ครูเดชา จัดสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆ โรงเรียนอย่างสวยงาม

ข. ครูออย ตรวจสอบสิ่งอ านวยสะดวกภายในโรงเรียนอยู่เสมอ

ค. ครูสุธี อยู่เวรยามตอนกลางคืน ภายในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด

ง. ครูนิด ประเมินการก ากับดูแลชั้นเรียน และน าผลการประเมิน ไปใช้ใน

การปรับปรุงและพัฒนาผู้เรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 54

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

5. ข้อใด ไม่เกี่ยวข้องกับกำรบริหำรจัดกำรชั้นเรียน

ก. ครูจัดสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆโรงเรียนอย่างสวยงาม

ข. ครูตรวจสอบสิ่งอ านวยสะดวกในห้องเรียน ให้พร้อมใช้และปลอดภัยอยู่

เสมอ

ค. ครูน าข้อมูลสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียนได้เต็มตามศักยภาพ

ง. ครูประเมินการก ากับดูแลชั้นเรียน และน าผลการประเมินไปใช้ในการ

ปรับปรุงและพัฒนา

6. ครูสมปอง กระตุ้นให้ก ำลังใจนักเรียนเพื่อให้ประสบผลส ำเร็จในกำร

ท ำงำน จนนักเรียนเกิดควำมเชื่อมั่นในตนเองจนท ำงำนส ำเร็จ ครูสมปอง

จัดบรรยำกำศในชั้นเรียนในลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศที่อิสระ

ค. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ ง. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น

7. ครูสุรี ให้โอกำสนักเรียนได้คิดได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่มีควำมหมำย และ

มีคุณค่ำรวมถึงโอกำสที่จะท ำผิดด้วย โดยปรำศจำกควำมกลัวควำมวิตก

กังวล ครูสุรีจัดบรรยำกำศในชั้นเรียนในลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศที่อิสระ

ค. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ ง. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น

กดกลับไปที่สารบัญ 55

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

8. ครูสำมำรถ จัดบรรยำกำศให้นักเรียนเป็นคนส ำคัญมีคุณค่ำ ส่งผลให้

นักเรียนเกิดควำมเชื่อมั่นในตนเอง ครูสำมำรถจัดบรรยำกำศในชั้นเรียน

ในลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศที่อิสระ

ค. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ ง. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น

9. ครูนิด ยอมรับและเข้ำใจนักเรียนท ำให้นักเรียนเกิดควำมอบอุ่นสบำย

ใจ รักครูรักโรงเรียน รักกำรมำเรียน ครูนิดจัดบรรยำกำศในชั้นเรียนใน

ลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศที่อิสระ

ค. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ ง. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น

10. ครูตุ๊กกี้ ฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัย ให้นักเรียนได้รู้จักใช้สิทธิหน้ำที่

ของตนเองอย่ำงมีขอบเขตในชั้นเรียน ครูตุ๊กกี้จัดบรรยำกำศในชั้นเรียน

ในลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศแห่งการควบคุม

ค. บรรยากาศแห่งความส าเร็จ ง. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ

กดกลับไปที่สารบัญ 56

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

11. ครูเท่ง พูดให้ก ำลังใจนักเรียนกล่ำวถึงรุ่นพี่ที่ประสบควำมส ำเร็จ

ส่งผลให้นักเรียนมีควำมกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ และอยำกประสบ

ผลส ำเร็จในกำรเรียน ครูเท่งจัดบรรยำกำศในชั้นเรียนตำมในลักษณะใด

ก. บรรยากาศที่ท้าทาย ข. บรรยากาศแห่งการควบคุม

ค. บรรยากาศแห่งความส าเร็จ ง. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ

12. กำรจัดโต๊ะเรียนและเก้ำอี้นักเรียน เป็นกำรจัดบรรยำกำศในทำงใด

ก. บรรยากาศทางจิตวิทยา

ข. บรรยากาศทางกายภาพ

ค. บรรยากาศทางกายภาพ, บรรยากาศทางจิตวิทยา

ง. บรรยากาศทางกายภาพ, บรรยากาศทางจิตวิทยา, บรรยากาศทางทัศนะ

13. หน้ำที่ในกำรจัดกำรห้องเรียน เป็นหน้ำที่ของใคร

ก. นักการภารโรง ข. ครู

ค. บุคลากรทางการศึกษา ง. ผู้บริหารสถานศึกษา

14. ในกำรจัดบรรยำกำศชั้นเรียนของครูข้อใดเกี่ยวข้องน้อยที่สุด

ก. ห้องเรียน ข. ครู

ค. นักเรียน ง. คณะกรรมการสถานศึกษา

กดกลับไปที่สารบัญ 57

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

15. โต๊ะครูควรจัดไว้ในต ำแหน่งใดของห้องเรียน

ก. จุดที่มองเห็นนักเรียนได้ทั่วถึง ข. มุมด้านขวาใกล้กระดานด า

ค. ใกล้ทางเข้าประตูของห้องเรียน ง. ตรงกลางด้านหลังห้องเรียน

16. พื้นที่บนโต๊ะของครูท่ำนใด มีลักษณะที่ดีที่สุด

ก. ครูโหน่ง กองสมุดการบ้านนักเรียนที่ยังไม่ได้ตรวจไว้เต็มโต๊ะ

ข. ครูเท่ง จัดโต๊ะเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด เป็นระเบียบ

ค. ครูส้ม จัดโต๊ะได้สวยงามเลิศหรู ไฮโซทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยนิดหน่อย

ง. ครูหม่ า รวมเอกสารค าสั่ง ไว้ที่มุมโต๊ะด้านหน้าเป็นชั้นๆ

17. กำรที่ครูผู้สอนสร้ำงบรรยำกำศที่ดีในชั้นเรียน มีผลต่อพฤติกรรม

นักเรียนในข้อใด

ก. มีอารมณ์ดี ข. มีความรับผิดชอบ

ค. มีความตั้งใจเรียน ง. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน

18. ข้อใดไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นกับนักเรียน จำกกำรจัดบรรยำกำศในชั้นเรียน

ก. ความสุขที่จะเรียน ข. ความรู้สึกอยากเรียน

ค. มีความกระตือรือร้น ง. มีความสงสัย

กดกลับไปที่สารบัญ 58

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

19. กำรปรับปรุงบรรยำกำศในห้องเรียน ต้องท ำควบคู่กับข้อใด

ก. การประเมินระดับชาติ ข. การจัดกิจกรรมวันส าคัญ

ค. กระบวนการเรียนรู้ ง. ผลประชุมของสถานศึกษา

20. ป้ำยแนะน ำสมำชิกในชั้นเรียน รูปภำพ แผนภูมิ บอร์ดวันส ำคัญ

ควรน ำไปจัดตกแต่งไว้ห้องเรียนใด

ก. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ข. ห้องเรียนประจ าวิชา

ค. ห้องพักครู ง. ห้องเรียนประจ าชั้น

21. กำรจัดบรรยำกำศในชั้นเรียน มีส่วนแก้ปัญหำสถำนศึกษำในข้อใด

ก. การทะเลาะวิวาทของนักเรียน ข. การเบี่ยงเบนทางเพศ

ค. วินัยนักเรียน ง. ปัญหายาเสพติดของนักเรียน

22. แถวหน้ำของโต๊ะเรียน ควรอยู่ห่ำงจำกกระดำนด ำพอสมควร ไม่น้อย

กว่ำกี่เมตร

ก. ไม่น้อยกว่า 3 เมตร ข. ไม่น้อยกว่า 5 เมตร

ค. ไม่น้อยกว่า 7 เมตร ง. ไม่น้อยกว่า 9 เมตร

กดกลับไปที่สารบัญ 59

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

23. กำรจัดโต๊ะเรียนแบบใด สำมำรถมองเห็นนักเรียนได้ทั่วถึง

ก. หน้าห้องเรียน

ข. ประตูด้านหน้าห้องเรียน

ค. ประตูด้านหลังห้องเรียน

ง. หลังห้องเรียน

24. ข้อใดไม่ใช่แนวกำรจัดป้ำยนิเทศ

ก. ก าหนดเนื้อหาที่จะจัด

ข. ก าหนดวัตถุประสงค์ในการจัด

ค. ศึกษาหาข้อมูล

ง. ซื้อวัสดุที่มีราคาสูงเพื่อความทนทานในการจัด

25. ครูคนใด ส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักกำรอ่ำน

ก. ครูโหน่ง จัดมุมคอมพิวเตอร์ไว้ในห้องเรียน

ข. ครูเท่ง จัดมุมหนังสือไว้ในห้องเรียน

ค. ครูส้ม จัดบอร์ดเรื่องดาราศาสตร์ไว้ที่บอร์ดหน้าห้องเรียน

ง. ครูหม่ า จัดท าป้ายนิเทศเรื่อง วันส าคัญทางพุทธศาสนา

กดกลับไปที่สารบัญ 60

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

26. ถ้ำครูแสดงควำมเป็นมิตรนักเรียนจะรู้สึกอย่ำงไร

ก. นักเรียนจะอบอุ่น ข. นักเรียนจะหงุดหงิด

ค. นักเรียนขาดความเคารพ ง. นักเรียนจะไม่สนใจฟัง

27. ถ้ำครูเข้มงวด นักเรียนจะรู้สึกอย่ำงไร

ก. นักเรียนจะอบอุ่น ข. นักเรียนจะหงุดหงิด

ค. นักเรียนจะขาดความเคารพ ง. นักเรียนจะไม่สนใจฟัง

28. ถ้ำครูท้อถอย นักเรียนจะรู้สึกอย่ำงไร

ก. นักเรียนจะหงอยเหงา ข. นักเรียนจะหงุดหงิด

ค. นักเรียนจะท้อแท้ ง. นักเรียนจะกลัว

29. กำรติดตั้งกระดำนด ำ ควรอยู่ในระดับใด

ก. ระดับความสูงของครู

ข. ระดับความสูงของนักเรียน

ค. ระดับสายตานักเรียน

ง. ระดับสายตาขณะนั่ง

กดกลับไปที่สารบัญ 61

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

30. ข้อใดผิดหลักกำร ใช้กระดำนด ำ

ก. เลือกเขียนเฉพาะหัวข้อและใจความส าคัญ

ข. กระดานด าที่มีความยาวมากๆ ควรขีดเส้นแบ่งเป็นสองหรือสามส่วน

ค. ควรเริ่มเขียนจากด้านบนขวาของกระดานด า แล้วไปทางซ้าย

ง. สิ่งที่เขียนหรือแสดงบนกระดานด า ควรเป็นข้อความสั้นๆ กะทัดรัด

กดกลับไปที่สารบัญ 62

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ กำรวิจัยทำงกำรศึกษำ (30 ข้อ)

1. กำรวิจัยในชั้นเรียน หมำยถึงอะไร

ก. การใช้วิธีทางไสยศาสตร์เพื่อท าให้การสอนดีขึ้น

ข. การใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ค้นคว้าเพื่อสร้างความรู้ใหม่ทางการศึกษา

ค. การค้นคว้า วิธีการเรียนโดยใช้วิธีวิทยาศาสตร์ค้นคว้า

ง. การค้นคว้าวิธีการพัฒนาการสอน

2. จุดมุ่งหมำยของกำรวิจัยในชั้นเรียน คือข้อใด

ก. เพื่อประเมินตัดสินผู้เรียน

ข. เพื่อครูจะได้ท าผลงาน

ค. เพื่อพัฒนาแก้ปัญหาผู้เรียน

ง. เพื่อพัฒนาผลงานของครูผู้สอน

3. ข้อใดไม่ใช่จุดมุ่งหมำยของกำรวิจัยในชั้นเรียน

ก. พัฒนาผู้เรียน ข. แก้ปัญหาผู้เรียน

ค. ประเมินตัดสินผู้เรียน ง. หาสาเหตุของพฤติกรรม

กดกลับไปที่สารบัญ 63

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

4. ขั้นตอนแรกในกำรท ำวิจัยในชั้นเรียนคือขั้นตอนใด

ก. รวบรวมข้อมูล ข. ก าหนดปัญหา

ค. ตั้งสมมุติฐาน ง. วิเคราะห์ปัญหา

5. กำรวิจัยในชั้นเรียนจัดเป็นกำรวิจัยรูปแบบใด

ก. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ข. การวิจัยเชิงปริมาณ

ค. การวิจัยเพื่อสร้างทฤษฎี ง. การวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องมือ

6. “กำรพัฒนำพฤติกรรมกำรเขียนของนักเรียนชั้น ป. 3” ข้อใดคือ

ตัวแปรตำม

ก. พฤติกรรมการอ่าน ข. เพศ,อายุ

ค. วิธีการพัฒนา ง. ระดับชั้น

7.“ด.ญ.สมหญิง ขำดเรียนเป็นประจ ำ” ควรตั้งค ำถำมกำรวิจัยว่ำ

อย่ำงไร จึงจะเหมำะสมที่สุด

ก. เหตุใดท าไม ด.ญ.สมหญิง ขาดเรียนจึงเป็นประจ า

ข. ทางบ้าน ด.ญ.สมหญิง มีปัญหาอะไร จึงต้องขาดเรียน

ค. โรงเรียนมีปัญหาอะไรท าไม ด.ญ.สมหญิงขาดเรียน

ง. จะแก้ปัญหาการขาดเรียนของ ด.ญ.สมหญิง อย่างไร

กดกลับไปที่สารบัญ 64

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

8. ข้อใดไม่ใช่วิธีกำรก ำหนดขนำดกลุ่มตัวอย่ำง

ก. ใช้ตารางส าเร็จรูป

ข. ใช้เกณฑ์ร้อยละ

ค. ใช้การคาดคะเน

ง. ใช้สูตรค านวณ

9. กำรวิจัยในชั้นเรียน มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. เป็นการวิจัยการศึกษาที่อยู่ทั้งในและนอกชั้นเรียน

ข. เป็นการวิจัยเฉพาะการเรียนการสอนที่อยู่ในชั้นเรียน

ค. เป็นการวิจัยของครูที่จัดการเรียนการสอนทั้งในและนอกชั้นเรียน

ง. เป็นการวิจัยของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอน

10. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของผลที่ได้จำกกำรวิจัยในชั้นเรียน

ก. ปรับปรุงพฤติกรรมนักเรียน

ข. เพิ่มความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียน

ค. ปรับปรุงการปฏิบัติจากความรู้เกี่ยวกับการเรียนการสอนที่ค้นพบ

ง. ครูได้ความดีความชอบเลื่อนขั้นเงินเดือน

กดกลับไปที่สารบัญ 65

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

11. วิธีด ำเนินงำนวิจัยในชั้นเรียน ควรเริ่มจำกข้อใดเป็นอันดับแรก

ก. ระบุปัญหาที่เกิดในชั้นเรียนที่ได้จากการสังเกต และการเก็บข้อมูลด้วยวิธี

ต่างๆ

ข. เลือกปัญหาที่ต้องการศึกษาและแก้ไข

ค. ตั้งสมมติฐานถึงสาเหตุของปัญหา

ง. ค้นหาสาเหตุของปัญหาตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

12. Classroom Action Research คือข้อใด

ก. การวิจัยปฏิบัติการทั้งในและนอกชั้นเรียน

ข. การวิจัยปฏิบัติการนอกชั้นเรียน

ค. การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน

ง. การวิจัยปฏิบัติการ

13. กำรวิจัยเชิงปฏิบัติกำร เป็นกำรวิจัยในรูปแบบใด

ก. การวิจัยสถานศึกษา

ข. การวิจัยในชั้นเรียน

ค. การวิจัยนอกชั้นเรียน

ง. การวิจัยโรงเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 66

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

14. “กำรพัฒนำพฤติกรรมกำรอ่ำนของนักเรียนชั้น ป.4” ข้อใดคือ

ตัวแปรตำม

ก. พฤติกรรมการอ่าน ข. วิธีการพัฒนา

ค. ระดับชั้น ง. เพศ

15. “นักเรียนที่ไม่แปรงฟัน มีโอกำสเป็นโรคฟันผุ มำกกว่ำนักเรียนที่

แปรงฟัน” ข้อควำมนี้อยู่ในส่วนใดของงำนวิจัย

ก. ที่มาและความส าคัญของปัญหา ข. กรอบทางทฤษฎี

ค. วัตถุประสงค์ ง. สมมติฐานทางวิจัย

16. ข้อใดไม่ใช่ชนิดของ “ตัวแปร” (Variables)

ก. ตัวแปรวิจัย ข. ตัวแปรต้น

ค. ตัวแปรตาม ง. ตัวแปรสอดแทรก

17. ส่วนหนึ่งของประชำกร ที่ผู้วิจัยสนใจ ที่ถูกเลือกมำจำกประชำกร

ด้วยวิธีกำรใดวิธีกำรหนึ่ง เพื่อเป็นตัวแทนในกำรศึกษำ และเก็บข้อมูล

คือ ข้อใด

ก. สมมติฐานทางวิจัย ข. พฤติกรรม

ค. กลุ่มตัวอย่างกลุ่ม ง. ตัวแปรวิจัย

กดกลับไปที่สารบัญ 67

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

18. “ควำมแตกต่ำงระหว่ำงข้อมูลที่มีค่ำสูงสุด กับข้อมูลที่มีค่ำต่ ำสุดของ

ข้อมูลชุดหนึ่งๆ เป็นกำรวัดข้อมูลอย่ำงหยำบๆ” คือควำมหมำยของสิ่ง

ใด ในกำรวิจัย

ก. มัธยฐาน

ข. พิสัย

ค. ฐานนิยม

ง. สหสัมพันธ์

19. ค่ำ Standard deviation = S.D. “รำกที่สองของค่ำเฉลี่ยของก ำลัง

สอง ของค่ำเบี่ยงเบนของข้อมูลแต่ละตัว จำกค่ำเฉลี่ยของข้อมูลชุดนั้น”

คือควำมหมำยของสิ่งใด ในกำรวิจัย

ก. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ข. ค่าเบี่ยงเบนเฉลี่ย

ค. ค่าวาเหรียญซ์

ง. ค่าเบี่ยงเบนควอไทล์

กดกลับไปที่สารบัญ 68

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

20. จงเรียงล ำดับ กำรเขียนรำยงำนกำรวิจัย

ก. บทน า > วิธีด าเนินการวิจัย > ผลการวิเคราะห์ข้อมูล > เอกสารและ

รายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง > สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

ข. บทน า > วิธีด าเนินการวิจัย > เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง > ผล

การวิเคราะห์ข้อมูล > สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

ค. บทน า > เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง > วิธีด าเนินการวิจัย > ผล

การวิเคราะห์ข้อมูล > สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

ง. บทน า > เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง > วิธีด าเนินการวิจัย >

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ >ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

21. ควำมเป็นมำและควำมส ำคัญของปัญหำ อยู่ในบทใดของรำยงำน

กำรวิจัย

ก. บทที่ 2 เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ข. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ค. บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย

ง. บทที่ 1 บทน า

กดกลับไปที่สารบัญ 69

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

22. เอกสำร และรำยงำนวิจัยที่เกี่ยวข้อง อยู่ในบทใดของรำยงำนกำร

วิจัย

ก. บทที่ 2 เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ข. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ค. บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย

ง. บทที่ 1 บทน า

23. ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง อยู่ในบทใดของรำยงำนกำรวิจัย

ก. บทที่ 2 เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ข. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ค. บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย

ง. บทที่ 1 บทน า

24. ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล อยู่ในบทใดของรำยงำนกำรวิจัย

ก. บทที่ 2 เอกสารและรายงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ข. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

ค. บทที่ 3 วิธีด าเนินการวิจัย

ง. บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

กดกลับไปที่สารบัญ 70

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

25. ค่ำอ ำนำจจ ำแนก ของแบบวัดควรมีค่ำเท่ำใด

ก. .05 –1.00 ข. .05-.80

ค. .20 –1.00 ง. .20-.80

26. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือในกำรวิจัย

ก. โปรแกรม SPSS ข. นวัตกรรม

ค. แผนการจัดการเรียนรู้ ง. แบบสอบถาม

27. กระบวนกำรวิจัย ตำมแนวคิดของ Kemmis and McTaggart ตรง

กับข้อใด

ก. PDCA ข. PAOR

ค. CIPP ง. PBBS

28. ใดคือวงจรคุณภำพของ Demming

ก. PDCA ข. PAOR

ค. CIPP ง. PBBS

กดกลับไปที่สารบัญ 71

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

29. ล ำดับขั้นของวงจรคุณภำพของ Demming ตรงกับข้อใด

ก. PBBS = Plan วางแผน > Best ปฎิบัติตามแผน > Do ตรวจสอบ >

Act ปรับปรุงแก้ไข

ข. PAOR = Plan วางแผน > Action ปฎิบัติตามแผน > Or ตรวจสอบ >

Nation ปรับปรุงแก้ไข

ค. CIPP = CIPP ตรวจสอบ > Inter ปฎิบัติตามแผน > Plan ตรวจสอบ >

Plan ปรับปรุงแก้ไข

ง. PDCA = Plan วางแผน > Do ปฎิบัติตามแผน > Check ตรวจสอบ >

Act ปรับปรุงแก้ไข

30. ผู้ท ำวิจัยในชั้นเรียน คือใคร

ก. ผู้บริหารสถานศึกษา

ข. คณะกรรมการสถานศึกษา

ค. บุคลากรทางการศึกษา

ง. ครู

กดกลับไปที่สารบัญ 72

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ สื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยีกำรศึกษำ (20 ข้อ)

1. ตัวกลำงที่จะท ำให้ผู้สอน บรรลุวัตถุประสงค์ในกำรส่งควำมรู้ไปยัง

ผู้เรียน โดยเน้นเนื้อหำอันเป็นควำมรู้ตำมหลักสูตรหรือกิจกรรม เพื่อ

ส่งเสริมศักยภำพของผู้เรียนอย่ำงเต็มที่ คือข้อใด

ก. ครูผู้สอน ข. ผู้เรียน

ค. สื่อการเรียนการสอน ง. หลักสูตร

2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของสื่อกำรสอนที่ดี

ก. เหมาะกับวัตถุประสงค์ ข. ใช้ง่าย สะดวก ปลอดภัย

ค. เหมาะกับวัยของผู้เรียน ง. คุ้มค่ามีราคา

3. ในกำรผลิตสื่อกำรสอน ข้อใดมีส ำคัญเป็นอันดับแรก

ก. น่าสนใจ สามารถใช้ได้จริง

ข. ชัดเจนเป็นระเบียบ สามารถใช้ได้จริง

ค. สนองจุดประสงค์ของการเรียนการสอน และสามารถใช้ได้จริง

ง. ชัดเจน เข้าใจง่าย

กดกลับไปที่สารบัญ 73

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

4. ข้อใดไม่ใช่ควำมส ำคัญของสื่อกำรสอน

ก. ช่วยให้ครูเกิดความสนใจ

ข. ช่วยแก้ปัญหาในการเรียนการสอน

ค. ช่วยให้นักเรียนมีประสบการณ์กว้างขึ้น

ง. ช่วยให้นักเรียนเกิดความสนใจที่จะเรียนรู้

5. สื่อประเภทกรำฟิกแบบใด ที่เหมำะส ำหรับเด็กเล็ก

ก. ภาพง่ายๆที่ไม่ซับซ้อน มีสีสันสวยงาม

ข. ภาพที่มีความซับซ้อน

ค. ภาพที่เป็นมากกว่าภาพธรรมดา

ง. ภาพขาวด า

6. ครูคนใดเลือกสื่อ และจัดประสบกำรณ์ในกำรเรียนกำรสอน ได้ดีที่สุด

ก. ครูปิติ จัดประสบการณ์ช่วยให้นักเรียน เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ ในการ

เรียนตลอดทั้งคาบสอน

ข. ครูมานะ เลือกสื่อและจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของ

การเรียนการสอน

ค. ครูมานี จัดประสบการณ์ช่วยให้นักเรียนมีมุมมองการใช้ชีวิต

ง. ครูชูใจ เลือกสื่อน ามาจัดประสบการณ์ช่วยให้นักเรียนสอบผ่าน

กดกลับไปที่สารบัญ 74

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

7. กำรใช้สื่อกำรสอน มีล ำดับขั้นตอนดังนี้

ก. 1.เตรียมสื่อการสอน, 2.วางแผนการใช้สื่อ,

3.น าสื่อไปใช้, 4.วัดและประเมินผลการใช้สื่อ

ข. 1.วางแผนการใช้สื่อ, 2.วัดและประเมินผลการใช้สื่อ,

3.เตรียมสื่อการสอน, 4.น าสื่อไปใช้

ค. 1.เตรียมสื่อการสอน, 2.วางแผนการใช้สื่อ,

3.วัดและประเมินผลการใช้สื่อ, 4.น าสื่อไปใช้

ง. 1.วางแผนการใช้สื่อ, 2.เตรียมสื่อการสอน,

3.น าสื่อไปใช้, 4.วัดและประเมินผลการใช้สื่อ

8. สมำคมเทคโนโลยีและสื่อสำรกำรศึกษำ (สหรัฐอเมริกำ) ได้จ ำแนก

ประเภทสื่อกำรสอน ไว้ 3 ประเภท ดังนี้

ก. 1.ผู้สอน, 2.อุปกรณ์ 3.วิธีการ

ข. 1.วัสดุ, 2.ผู้เรียน 3.ผู้สอน

ค. 1.วัสดุ, 2.อุปกรณ์ 3.วิธีการ

ง. 1.ผู้สอน, 2.ผู้เรียน 3.วิธีการ

กดกลับไปที่สารบัญ 75

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

9. ผู้ใดเป็นผู้คิดค้น ทฤษฎีกรวยประสบกำรณ์ (Cone of Experience)

ก. Peter pan

ข. Mark zuckerberg

ค. Edgar Dale

ง. Nadech

10. ข้อใดเป็นสื่อประเภทตั้งแสดง

ก. แผนภาพ

ข. กระดานชอล์ค

ค. สไลด์

ง. นาฎการ

11. ข้อใดไม่ใช่หลักเกณฑ์ในกำรเลือกภำพประกอบ ส ำหรับกำรจัดกำร

เรียนกำรสอน

ก. เลือกภาพที่ตรงเหมาะสมกับผู้ดู

ข. เลือกภาพที่ตรงเหมาะสมกับเนื้อหาวิชา

ค. เลือกภาพที่ชัดเจน

ง. เลือกภาพที่มีราคา คมชัด

กดกลับไปที่สารบัญ 76

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

12. Computer – Assisted instruction : CAI คือข้อใด

ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ข. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ค. คอมพิวเตอร์กราฟิก ง. เน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์

13. “สื่อกำรเรียนกำรสอนทำงคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้

ควำมสำมำรถของคอมพิวเตอร์ในกำรน ำเสนอสื่อประสมอันได้แก่

ข้อควำม ภำพนิ่ง กรำฟิก แผนภูมิ กรำฟ วิดีทัศน์ ภำพเคลื่อนไหว

และเสียง เพื่อถ่ำยทอดเนื้อหำบทเรียน” คือควำมหมำยของข้อใด

ก. เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ข. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ค. คอมพิวเตอร์กราฟิก ง. เน็ตเวิร์คคอมพิวเตอร์

14. “กำรจัดระบบกำรเรียนกำรสอนที่เปิดโอกำสให้ผู้เรียนประกอบ

กิจกรรมกำรเรียนด้วยตนเองตำมเนื้อหำ ซึ่งจัดไว้เป็นขั้นตอนเล็ก ๆ

ผู้เรียนมีโอกำสประเมินผลกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้วยกำรดูจำกผล

สะท้อนกลับอยู่เสมอ และบำงครั้งก็อำจจะได้รับควำมรู้เพิ่มเติมในเนื้อหำ

ที่นักเรียนยังมีควำมรู้ไม่ดีพอ ผู้เรียนจะเลือกเรียนได้ตำม ควำมสนใจ

และก้ำวไปตำมควำมสำมำรถของแต่ละคน” คือควำมหมำยของข้อใด

ก. บทเรียนแบบโมดูล ข. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ค. บทเรียนโปรแกรม ง. บทเรียนจุลภาค

กดกลับไปที่สารบัญ 77

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

15. “กำรเรียนกำรสอนถ่ำยทอดเนื้อหำผ่ำนทำงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น

เครือข่ำยอินเทอร์เน็ต อินทรำเน็ต เอ็กซทรำเน็ต” คือควำมหมำยของ

ข้อใด

ก. E-Commerce ข. E-mail

ค. E-Network ง. E-Learning

16. Educational Innovation มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. การปฏิรูปการศึกษา ข. นวัตกรรมทางการศึกษา

ค. การศึกษาทางไกล ง. การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม

17. กำรออกแบบนวัตกรรม ควรพิจำรณำในข้อใดเป็นอันดับแรก

ก. การน าไปใช้ ข. ทฤษฎีที่รองรับ

ค. ความจ าเป็นของปัญหา ง. วัตถุประสงค์

18. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์หลัก ของนวัตกรรมทำงกำรศึกษำ

ก. นักเรียนได้เรียนรู้เร็วขึ้น เข้าใจบทเรียนเป็นรูปธรรม

ข. บทเรียนน่าสนใจ สนุกสนาน

ค. ลดเวลาในการสอน ประหยัดค่าใช้จ่าย

ง. สร้างรายได้ให้กับผู้จัดท านวัตกรรมทางการศึกษา

กดกลับไปที่สารบัญ 78

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

19. นวัตกรรมในข้อใด สนองแนวคิดเรื่องควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล

(Individual Different)

ก. แบบเรียนส าเร็จรูป

ข. ศูนย์การเรียน

ค. ชุดการเรียน

ง. การเรียนทางไปรษณีย์

20. นวัตกรรมในข้อใด สนองแนวคิดเรื่องควำมพร้อม (Readiness)

ก. แบบเรียนส าเร็จรูป

ข. ศูนย์การเรียน

ค. ชุดการเรียน

ง. การเรียนทางไปรษณีย์

กดกลับไปที่สารบัญ 79

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

แนวข้อสอบ กำรวัดและประเมินผลกำรศึกษำ

(40 ข้อ)

1. กำรวัดผล (Measurement) หมำยถึงข้อใด

ก. กระบวนการก าหนดตัวเลข หรือสัญลักษณ์ให้กับบุคคล สิ่งของ หรือ

เหตุการณ์อย่างมีกฎเกณฑ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แทนปริมาณ หรือ คุณภาพของ

ลักษณะที่วัด

ข. การตัดสินคุณค่า หรือคุณภาพของผลที่ได้จากการวัดจากการเรียนการ

สอน

ค. การจัดระบบการเรียนการสอน ของครูผู้สอน

ง. กระบวนการออกแบบและจัดระบบการเรียนรู้ ก าหนดจุดมุ่งหมาย เพื่อ

เตรียมไว้ให้ผู้เรียนได้ศึกษา

2. ข้อใดไม่ใช่ควำมมุ่งหมำยของกำรวัดผล

ก. วัดผลเพื่อจัดอันดับ

ข. วัดผลเพื่อวินิจฉัย

ค. วัดเพื่อเปรียบเทียบ

ง. วัดเพื่อกระจายผล

กดกลับไปที่สารบัญ 80

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

3. ข้อใดส ำคัญที่สุดของ หลักกำรวัดผล

ก. แปรผลได้ถูกต้อง ข. มีความยุติธรรม

ค. วัดให้ตรงวัตถุประสงค์ ง. คุ้มค่า

2. กำรประเมินผล (Evaluation) หมำยถึง

ก. การจัดระบบการเรียนการสอน ของครูผู้สอน

ข. การตัดสินคุณค่า หรือคุณภาพของผลที่ได้จากการวัด โดยเปรียบเทียบ

กับผลการวัดอื่นๆ หรือเกณฑ์ที่ตั้งไว้

ค. กระบวนการก าหนดตัวเลข หรือสัญลักษณ์ให้กับบุคคล สิ่งของ หรือ

เหตุการณ์อย่างมีกฎเกณฑ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แทนปริมาณ หรือ คุณภาพของ

ลักษณะที่วัด

ง. กระบวนการออกแบบและจัดระบบการเรียนรู้ ก าหนดจุดมุ่งหมาย เพื่อ

เตรียมไว้ให้ผู้เรียนได้ศึกษา

5. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของกำรประเมินผล จ ำแนกตำมวัตถุประสงค์ของ

กำรประเมิน

ก. การประเมินก่อนเรียน ข. การประเมินระหว่างเรียน

ค. การประเมินระหว่างบุคคล ง. การประเมินผลรวมสรุป

กดกลับไปที่สารบัญ 81

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

6. จงเรียงล ำดับขั้นตอนในกำรวัดและประเมินผล

ก. ก าหนดจุดมุ่งหมายในการวัด > เลือกและสร้างเครื่องมือ > ตรวจสอบ

คุณภาพของเครื่องมือวัด >ด าเนินการวัด > ตรวจและรวบรวมผลการวัด

ข. ก าหนดจุดมุ่งหมายในการวัด > เลือกและสร้างเครื่องมือ > ตรวจสอบ

คุณภาพของเครื่องมือวัด >

ตรวจและรวบรวมผลการวัด > ประเมินผล

ค. ก าหนดจุดมุ่งหมายในการวัด > เลือกและสร้างเครื่องมือ > ตรวจสอบ

คุณภาพของเครื่องมือวัด >ด าเนินการวัด > ตรวจและรวบรวมผลการวัด >

ประเมินผล > น าเสนอผลงาน

ง. ก าหนดจุดมุ่งหมายในการวัด > เลือกและสร้างเครื่องมือ > ตรวจสอบ

คุณภาพของเครื่องมือวัด >ด าเนินการวัด > ตรวจและรวบรวมผลการวัด >

ประเมินผล

7. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมือวัดพฤติกรรมกำรเรียนรู้

ก. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

ข. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านธรรมพิสัย

ค. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย

ง. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย

กดกลับไปที่สารบัญ 82

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

8. ข้อใดไม่ใช่ พฤติกรรมกำรศึกษำ ตำมที่ บลูม (Bloom) และคณะ ได้

แบ่งไว้

ก. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

ข. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านธรรมพิสัย

ค. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านจิตพิสัย

ง. เครื่องมือวัดพฤติกรรมด้านทักษะพิสัย

9. “พฤติกรรมที่เกี่ยวกับสติปัญญำ ควำมรู้ ควำมคิด หรือพฤติกรรม

ทำงด้ำนสมองของบุคคล” คือพฤติกรรมกำรเรียนรู้ใด

ก. พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย ข. พฤติกรรมด้านธรรมพิสัย

ค. พฤติกรรมด้านจิตพิสัย ง. พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย

10. “พฤติกรรมทำงด้ำนจิตใจ ซึ่งจะเกี่ยวกับค่ำนิยม ควำมรู้สึก ควำม

ซำบซึ้ง ทัศนคติ ควำมเชื่อ ควำมสนใจ และคุณธรรม” คือพฤติกรรมกำร

เรียนรู้ใด

ก. พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

ข. พฤติกรรมด้านธรรมพิสัย

ค. พฤติกรรมด้านจิตพิสัย

ง. พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย

กดกลับไปที่สารบัญ 83

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

11. “พฤติกรรมกำรเรียนรู้ที่บ่งบอกถึงควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนได้

อย่ำงคล่องแคล่วช ำนิช ำนำญ” คือพฤติกรรมกำรเรียนรู้ใด

ก. พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย

ข. พฤติกรรมด้านธรรมพิสัย

ค. พฤติกรรมด้านจิตพิสัย

ง. พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย

12. “คุณสมบัติของเครื่องมือ ที่สำมำรถวัดได้ตำมวัตถุประสงค์ที่ต้องกำร

วัด” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. ความเชื่อมั่น ข. ความเที่ยงตรง

ค. อ านาจจ าแนก ง. ความเป็นปรนัย

13. “กำรหำควำมตรงเชิงเนื้อหำ ที่ให้ผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบควำม

สอดคล้อง แล้วน ำผลกำรตรวจสอบมำค ำนวณหำค่ำควำมสอดคล้อง

ระหว่ำงข้อค ำถำมกับวัตถุประสงค์” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด

ก. VLT : Validity

ข. RLT : Reliability

ค. IOC : item objective congruence index

ง. DRN : Discrimination

กดกลับไปที่สารบัญ 84

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

14. กำรหำควำมตรงเชิงเนื้อหำที่ให้ผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบ ต้องมี

ผู้เชี่ยวชำญอย่ำงน้อยจ ำนวนกี่คน ในกำรพิจำรณำ

ก. 2 คน ข. 3 คน

ค. 4 คน ง. 5 คน

15. ถ้ำข้อสอบข้อใดได้คะแนนเฉลี่ยตั้ง 0.50 ถึง 1.00 แสดงว่ำ

ก. ข้อสอบวัดได้ไม่ตรงจุดประสงค์

ข. ข้อสอบไม่มีความสอดคล้อง

ค. ข้อสอบวัดได้ตรงจุดประสงค์

ง. ข้อสอบต้องปรับปรุง

16. ถ้ำข้อสอบข้อใดได้คะแนนเฉลี่ยต่ ำกว่ำ 0.50 แสดงว่ำ

ก. ต้องน าข้อสอบไปปรับปรุงแก้ไข

ข. ข้อสอบไม่ต้องปรับปรุงแก้ไข

ค. ข้อสอบวัดได้ตรงจุดประสงค์

ง. ไม่ต้องน าข้อสอบไปปรับปรุงแก้ไข

กดกลับไปที่สารบัญ 85

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

17. ค่ำควำมเชื่อมั่น (Reliability) บอกให้ทรำบว่ำ

ก. เครื่องมือหาค่าความสอดคล้องระหว่างข้อค าถาม

ข. เครื่องมือวัดได้ไม่คงที่ ไม่ว่าจะใช้วัดกี่ครั้งกับกลุ่มเดิมก็ตาม

ค. เครื่องมือหาค่าความยากง่ายพอเหมาะ

ง. เครื่องมือวัดได้คงที่ ไม่ว่าจะใช้วัดกี่ครั้งกับกลุ่มเดิมก็ตาม

18. ค่ำควำมยำก (Difficulty) บอกให้ทรำบว่ำ

ก. ข้อสอบนั้นมีคนตอบถูกมาก

ข. ข้อสอบนั้นมีคนตอบถูกน้อย

ค. ข้อสอบนั้นมีคนตอบถูกมากหรือน้อย

ง. ข้อสอบนั้นมีคนตอบผิดมากหรือน้อย

19. ต้องใช้เครื่องมือวัดผลใดหำค่ำ “คนเก่งจะตอบถูก คนไม่เก่งจะตอบ

ผิด”

ก. ค่าความสอดคล้อง (IOC : item objective congruence index)

ข. ค่าความเชื่อมั่น (Reliability)

ค. ค่าความยาก (Difficulty)

ง. ค่าอ านาจจ าแนก (Discrimination)

กดกลับไปที่สารบัญ 86

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

20. “สื่อให้เห็นถึงควำมชัดเจน ควมถูกต้องตำมหลักวิชำกำร และควำม

เข้ำใจตรงกัน” คือควำมหมำยของข้อใด

ก. อ านาจจ าแนก (Discrimination)

ข. ความเชื่อมั่น (Reliability)

ค. ความเป็นปรนัย (Objectivity)

ง. ความเป็นอัตนัย (Subjectivity)

21. “ควำมยึดถือในควำมคิดเห็น ควำมรู้สึก เหตุผลของแต่ละบุคคลเป็น

ส ำคัญ” คือควำมหมำยของข้อใด

ก. อ านาจจ าแนก (Discrimination) ข. ความเชื่อมั่น (Reliability)

ค. ความเป็นปรนัย (Objectivity) ง. ความเป็นอัตนัย (Subjectivity)

22. “จ ำแนกสิ่งทั้งหลำยออกเป็นพวก เพื่อสะดวกในกำรจ ำ เช่น คนสัตว์

สิ่งของ” คือกำรวัดในข้อใด

ก. มาตรานามบัญญัติ (Nominal Scale)

ข. มาตราเรียงอันดับ (Ordinal Scale)

ค. มาตราอันตรภาค (Interval Scale)

ง. มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale)

กดกลับไปที่สารบัญ 87

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

23. “ประเมินเปรียบเทียบแล้วจัดอันดับ เช่น ดี เลว อ่อน ปำนกลำง เก่ง

สอบได้ที่ 1,2,3,” คือกำรวัดในข้อใด

ก. มาตรานามบัญญัติ (Nominal Scale)

ข. มาตราเรียงอันดับ (Ordinal Scale)

ค. มาตราอันตรภาค (Interval Scale)

ง. มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale)

24. “1 ฟุต มี 12 นิ้ว” , “1 วัน มี 24 ชั่วโมง” คือกำรวัดในข้อใด

ก. มาตรานามบัญญัติ (Nominal Scale)

ข. มาตราเรียงอันดับ (Ordinal Scale)

ค. มาตราอันตรภาค (Interval Scale)

ง. มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale)

25. “ควำมยำว ควำมกว้ำง ควำมสูง น้ ำหนัก” คือกำรวัดในข้อใด

ก. มาตรานามบัญญัติ (Nominal Scale)

ข. มาตราเรียงอันดับ (Ordinal Scale)

ค. มาตราอันตรภาค (Interval Scale)

ง. มาตราอัตราส่วน (Ratio Scale)

กดกลับไปที่สารบัญ 88

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

26. ข้อใดคือควำมหมำยของ ค่ำเฉลี่ย (Mean, X)

ก. คะแนนที่อยู่กึ่งกลางของกลุ่ม

ข. ค่าสถิติตัวหนึ่งที่ใช้บรรยายสภาพกลุ่มหรือคะแนนของกลุ่ม ซึ่งค่าเฉลี่ย

จะท าหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม โดยการน าข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน แล้ว

หารด้วยจ านวนของข้อมูล

ค. คะแนนที่มีความถี่ซ้ ากันมากที่สุด

ง. ค่าสถิติที่ใช้วัดการกระจายของคะแนนในกลุ่ม

27. ข้อใดคือควำมหมำยของ มัธยฐำน (Mediam, mdn)

ก. คะแนนที่อยู่กึ่งกลางของกลุ่ม ข. ค่าเฉลี่ยที่ท าหน้าเป็นตัวแทน

ค. คะแนนที่มีความถี่ซ้ ากันมากที่สุด ง. ค่าสถิติที่ใช้วัดการกระจายของ

28. ข้อใดคือควำมหมำยของ ฐำนนิยม (Mod)

ก. คะแนนที่อยู่กึ่งกลางของกลุ่ม

ข. ค่าสถิติตัวหนึ่งที่ใช้บรรยายสภาพกลุ่มหรือคะแนนของกลุ่ม ซึ่งค่าเฉลี่ย

จะท าหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม โดยการน าข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน แล้ว

หารด้วยจ านวนของข้อมูล

ค. คะแนนที่มีความถี่ซ้ ากันมากที่สุด

ง. ค่าสถิติที่ใช้วัดการกระจายของคะแนนในกลุ่ม

กดกลับไปที่สารบัญ 89

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

29. ข้อใดคือควำมหมำยของ ควำมเบี่ยงเบนมำตฐำน (Standard

deviation, SD)

ก. คะแนนที่อยู่กึ่งกลางของกลุ่ม

ข. ค่าสถิติตัวหนึ่งที่ใช้บรรยายสภาพกลุ่มหรือคะแนนของกลุ่ม ซึ่งค่าเฉลี่ย

จะท าหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม โดยการน าข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน

ค. คะแนนที่มีความถี่ซ้ ากันมากที่สุด

ง. ค่าสถิติที่ใช้วัดการกระจายของคะแนนในกลุ่ม

30. พฤติกรรมด้ำนสมองและสติปัญญำ คือข้อใด

ก. พุทธิพิสัย (Cognitive Domain)

ข. จิตพิสัย (Affective Domain)

ค. ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)

ง. ปฎิบัติพิสัย (Psychomotor Domain)

31. กำรเรียนรู้ทำงด้ำนจิตใจ คือข้อใด

ก. พุทธิพิสัย (Cognitive Domain)

ข. จิตพิสัย (Affective Domain)

ค. ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)

ง. ปฎิบัติพิสัย (Psychomotor Domain)

กดกลับไปที่สารบัญ 90

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

32. พฤติกรรมที่เกี่ยวกับกำรทักษะในกำรเคลื่อนไหว กำรใช้อวัยวะต่ำงๆ

คือข้อใด

ก. พุทธิพิสัย (Cognitive Domain)

ข. จิตพิสัย (Affective Domain)

ค. ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain)

ง. ปฎิบัติพิสัย (Psychomotor Domain)

33. เครื่องมือในกำรให้คะแนน ซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์ด้ำนต่ำงๆ

ของควำมส ำเร็จในกำรเรียน คือควำมหมำยของข้อใด

ก. หน่วยกิต (Credit)

ข. การทดสอบ (Testing)

ค. การประเมินรวม (Summative Assessment)

ง. รูบริค (Rubric)

34. กำรให้คะแนนแบบใดมีควำมเป็นปรนัยสูง ในกำรตรวจให้คะแนน

ก. หน่วยกิต (Credit)

ข. การทดสอบ (Testing)

ค. การประเมินรวม (Summative Assessment)

ง. รูบริค (Rubric)

กดกลับไปที่สารบัญ 91

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

35. ค่ำน้ ำหนักที่ก ำหนดให้ในหน่วยกำรเรียนแต่ละรำยวิชำ คือ

ควำมหมำยของข้อใด

ก. หน่วยกิต (Credit)

ข. การทดสอบ (Testing)

ค. การประเมินรวม (Summative Assessment)

ง. รูบริค (Rubric)

36. ข้อใดคือควำมหมำยของกำรให้คะแนนแบบ รูบริค (Rubric)

ก. การให้คะแนนแบบใดมีความเป็นอัตนัยสูง ในการตรวจให้คะแนน

ข. การให้คะแนนที่มีความเป็นปรนัยสูง ในการตรวจให้คะแนน

ค. การให้คะแนนค่าน้ าหนักที่ก าหนดให้ในหน่วยการเรียนแต่ละรายวิชา

ง. การให้คะแนนค่าน้ าหนักที่ก าหนดให้ตัวชี้วัดแต่ละรายวิชาสูง

37. ข้อใดคือควำมหมำย หน่วยกิต (Credit)

ก. ค่าน้ าหนักที่ก าหนดให้ในหน่วยการเรียนแต่ละกิจกรรม

ข. ค่าการทดสอบน้ าหนักคะแนนที่ก าหนดให้แต่ละหน่วยการเรียน

ค. ค่าน้ าหนักที่ก าหนดให้ในหน่วยการเรียนแต่ละรายวิชา

ง. ค่าการประเมินผลรวมของแบบทดสอบก่อนเรียน

กดกลับไปที่สารบัญ 92

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

38. ข้อสอบแบบใด ที่ให้นักเรียนแสดงควำมคิดเห็นในกำรตอบได้อย่ำง

อิสระ

ก. ข้อสอบแบบอัตนัย ข. ข้อสอบแบบปรนัย

ข. ข้อสอบแบบตัวเลือก ค. ข้อสอบแบบจับคู่ถูกผิด

39. ข้อสอบแบบใดที่มีค ำตอบให้นักเรียนเลือกตอบ หรือเว้นว่ำงให้

นักเรียนหำค ำตอบที่สั้น ๆ มำเติม

ก. ข้อสอบแบบอัตนัย ข. ข้อสอบแบบปรนัย

ข. ข้อสอบแบบบรรยาย ค. ข้อสอบแบบความเรียง

40. แบบทดสอบที่ก ำหนดข้อควำมให้นักเรียนพิจำรณำว่ำ ถูก หรือ ผิด,

จริง หรือ เท็จ, ใช่ หรือ ไม่ใช่ เป็นแบบทดสอบแบบใด

ก. แบบทดสอบแบบถูก-ผิด (True-false test)

ข. แบบทดสอบแบบจับคู่ (Matching test)

ค. แบบทดสอบแบบเติมค า (Completion test)

ง. แบบทดสอบแบบเขียนตอบ (Essay Test)

กดกลับไปที่สารบัญ 93

ภาค ข วิชาการศึกษา

โดย ครูเชียงรายดอทเน็ต www.kruchiangrai.net

ลิขสิทธิ์

หนังสือ e-book แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ภาค ข วิชาการศึกษา

โดยแอดมินครูเชียงราย ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์

พ.ศ. 2537

ห้ามท าซ้ าหรือดัดแปลง แจกจ่ายเผยแพร่ต่อสาธารณะชน

เสนอขาย ท าขาย ให้เช่าฯลฯ ตามที่กฎหมายก าหนด