ขอคนที่เล่นรจบแล้วมารีวิวหน่อยครับว่า 2 ภาคนี้อันไหนน่าเล่นกว่ากันจุดด้อยจุดดีของเกม 2ภาคนี้ครับ 0  คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้ ความคิดเห็นที่ 6 Origins จะเน้นที่เนื้อเรื่อง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Odyssey จะเด่นที่เกมเพลย์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ โดยรวม ผมชอบ Odyssey มากกว่าโดยส่วนตัว แต่ผมอยากให้เล่น Origins ก่อนเพื่อลองเชิงว่าชอบหรือเปล่า เพราะเนื้อเรื่องติดตามง่ายกว่า จบเร็วกว่า ระบบซิมเปิ้ลกว่า ถ้าชอบแล้วอยากลองอะไรที่แอดวานซ์กว่านี้ค่อยลง Odyssey ก็ได้ครับ หรือจะเล่นภาค Odyssey มาก่อนก็ได้ เพราะผมก็เริ่มจากเกมนี้เหมือนกันค่อยย้อนกลับไปเล่นภาคก่อน 555555 สวัสดีทุกท่านค่ะ เจ้าของบล็อกเองนะคะ รีวิวนี้ช้าและนานมากเลย เนื่องจากเนื้อหาและตัวเกมที่ใหญ่มาก ๆ ทำให้เจ้าของบล็อกเล่นไม่จบสักที เลยทำให้รีวิวช้า ครั้งนี้จะไม่ละเอียดเท่ากับครั้งก่อนหน้าที่เคยทำมานะคะ เนื่องจากตัวเกมรายละเอียดเยอะจน จขบ.ก็ไม่มั่นใจว่าจะเก็บหมดหรือเปล่า เอาล่ะไม่รอช้า เราไปเริ่มกันเลยค่ะ Assassin’s Creed Origins เป็นภาคที่ถือเป็นปฐมบทของ Assassin’s Creed ทุกภาค เป็นจุดเริ่มต้น จุดกำเนิดของอะไรหลาย ๆ อย่าง เป็นภาคที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเหล่า Brotherhoods และเหล่า the Orders เนื้อเรื่องจะเน้นไปที่เรื่องราวในอดีตของ Bayek นักรบแห่ง Siwa Medjay หนุ่มที่ออกตามล่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายที่ทำให้เขามีตราบาปติดตัวไปตลอดกาล เปิดเกมมาจะมีระดับความยากให้เราเลือกเล่นได้ 3 ระดับคือ ง่าย ปานกลาง และยากค่ะ จขบ. เริ่มที่ระดับปานกลางนะคะ เนื่องจากไม่ได้เล่นเกมเก่งอะไร (ขนาดเล่นปานกลางยังตายแบบง่าย ๆ แบบที่ถ้าเป็นคนอื่นเล่นคงไม่น่าจะมีใครตายแบบนี้ได้เป็นสิบ ๆ รอบแหนะ เช่น ทำไฟไหม้ตัวเอง ตกจากที่สูง โดนงูฉก ควบม้าลงจากหน้าผาสูง ทำเรือพังแล้วดันไปเจอฮิโป level สูง ๆ ใต้น้ำ และอื่น ๆ) การดำเนินเรื่องราวในภาคนี้ก็จะคล้าย ๆ กับภาคก่อน ๆ หน้านะคะคือมีเนื้อเรื่อง 2 ส่วนคือ ส่วนปัจจุบัน และส่วนอดีต จะขอเริ่มจากส่วนปัจจุบันก่อนนะคะ เนื้อเรื่องส่วนปัจจุบัน เราได้รับบทบาทให้เป็นนักวิจัยหญิงจาก Abstergo คนหนึ่งชื่อ Layla Hassan ซึ่งได้รับหน้าที่ให้มาตามหาร่องลอยของผู้ก่อตั้งภาคีรุ่นแรก Bayek ซึ่งเราก็ได้นำเอาเครื่อง Animus ขนาดใหญ่ติดตัวมาด้วย เนื้อเรื่องในส่วนปัจจุบันมีหลายอย่างที่ค่อนข้างน่าสนใจนะคะ รายละเอียดบางอย่างที่ตกหล่นมาในภาคก่อนหน้าอย่างภาค 4 ก็มีมากล่าวถึงในส่วนนี้อยู่เหมือนกัน แสดงให้เห็นว่าทางค่ายก็ไม่ได้จะโละรูปแบบการเล่าเรื่องก่อนหน้าออกไปหมดซะทีเดียว (เห็นลบเว็บไซต์ Initiates ทิ้งนึกว่าจะไม่เอาเรื่องราวในนั้นมาต่อซะแล้ว) รวมทั้งมีฉากสำคัญที่คาใจเรามาตั้งแต่ภาค 4 ปรากฏในนี้ด้วยเหมือนกันค่ะ (ใบ้ให้ว่าเกี่ยวเนื่องกับ Watch Dogs นั่นแหละค่ะ ใจจริงไม่อยากสปอยนะ แต่มีเว็บไซต์เกมบางที่ สปอยเนื้อเรื่องด้วยการเอาไปเขียนเป็นข่าวไปซะแล้ว แง แง) ซึ่งการจะเก็บตกเนื้อเรื่องนั้นก็ต้องเดินออกมาอ่านไฟล์ในคอมพิวเตอร์เอาแหละค่ะ มีเยอะมาก ลองอ่านกันดู This slideshow requires JavaScript. เกมเพลย์ในส่วนของปัจจุบันไม่มีอะไรหวือหวาเลย เราน่าจะคุ้นเคยกันมาแล้วตั้งแต่ภาคก่อนหน้า เราทำได้แค่เดินไปเดินมา หาโน่นหานี่ไปเรื่อย และติดต่อกับเพื่อนเรา Deanna Geary (เคยปรากฏชื่ออยู่ใน Initiates ด้วย จขบ.แปลไว้นานแล้ว หาอ่านกันได้นะคะ) แต่ก็โอเคแหละเพราะตัวเกมไม่ได้ต้องการจะเน้นส่วนของปัจจุบันสักเท่าไรอยู่แล้ว เนื้อเรื่องส่วนอดีต เริ่มต้นมาเราจะได้พบกับ Bayek พระเอกของเรา ในสภาพชายฉกรรจ์ หนวดเฟิ้ม เคลายาว หน้าตาโหดเหี้ยม มัดแกละ (ให้ดูมุ้งมิ้ง?) กำลังไล่ล่าล้างบางคนที่ทำให้เขาและครอบครัวต้องเจ็บปวด Bayek ในตอนแรกจะยังไม่มีทักษะอะไรมาก ในภาคนี้จะใช้ระบบเดียวกับภาค Syndicate นั่นคือ เราต้องเก็บค่าประสบการณ์ (XP) มาเพื่อให้ได้ Ability Point มากพอที่จะได้นำไปอัพเกรดทักษะที่จำเป็นต่อการทำภารกิจของเรา ซึ่งในภาคนี้เราสามารถเลือกอัพได้ตามความถนัด ประกอบด้วย 3 ทักษะได้แก่ 1. Warrior เป็นทักษะนักรบสายพุ่งชน ที่ จขบ.คิดว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะบางอย่างจากสายนี้ก่อนเพื่อให้เราสามารถผ่านภารกิจแรก ๆ ในเกมได้ค่ะ เพราะในช่วงแรกเราต้องอาศัยเวลาปรับตัวกับพระเอกคนใหม่พอควรเหมือนกัน เพราะระบบการต่อสู้ของพระเอกคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา 2. Hunter เป็นทักษะนักรบสายลอบสังหาร โจมตีระยะไกล ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบการเข้าไปชนกับศัตรูตรง ๆ การอัพเกรดทักษะสายนี้จะมีประโยชน์ที่สุดเลยค่ะ (จขบ.ก็ถนัดแบบนี้ ไปดวลตัวต่อตัวกับทหารที่เกราะแข็ง ๆ ทีไรมักไม่ค่อยรอด) 3. Seer เป็นทักษะด้านอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ มีส่วนช่วยในการทำภารกิจที่หลากหลาย เช่น ทักษะการดำน้ำนาน การควบคุมสัตว์ป่า วางยาบนศพศัตรู ปาลูกดอกยาสลบ เป็นต้น เป็นทักษะที่ช่วยเสริมให้เราแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ ใครถนัดทักษะแบบไหนก่อนก็อัพอันนั้นก่อนได้เลยค่ะ เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อเราได้ Ability Point มากพอเกมก็ให้เราอัพทุกอย่างได้ทั้งหมดอยู่แล้วค่ะ ระดับความแข็งแกร่ง (Level) มีได้สูงสุดคือ 40 ค่ะ ทั้งเราทั้งศัตรูก็สูงสุดที่เท่านี้ ก่อนทำภารกิจในเกมเราควรสำรวจก่อนว่า ศัตรูที่เราจะเข้าฟาดฟันด้วยนั้นมีระดับเท่าไร หากมีระดับต่ำกว่าหรือเท่าเรา หรือสูงกว่าเรา ไม่มากเกินไปจะปรากฏสัญลักษณ์ห้าเหลี่ยมหัวชี้ลงพร้อมตัวเลขมาให้ แต่หากศัตรูมีระดับเกินกว่าเรามากจะปรากฏเป็นห้าเหลี่ยมหัวชี้ลงเป็นสีแดง บางครั้งมีตัวเลขให้เราประกอบการตัดสินใจ บางครั้งก็ปรากฏเป็นรูปกะโหลกนัยว่าถ้าเราเข้าไปดวลด้วยตอนนี้ตายแน่นอน ซึ่งก็เป็นตัวช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรจะจัดการศัตรูพวกนี้หรือไม่ อย่างไร หรือเราควรไปเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของเราก่อนแล้วค่อยมาใหม่ ซึ่งระดับความแข็งแกร่งเราจะเพิ่มได้ก็ต่อเมื่อสะสมค่าประสบการณ์ (XP) ได้มากพอที่จะเปลี่ยนระดับค่ะ ค่าประสบการณ์สามารถสะสมได้หลายทางหลัก ๆ คือ การสะสมจากการทำภารกิจต่าง ๆ ทั้งภารกิจหลักและภารกิจย่อย นอกจากนี้ยังสะสมได้จาก การเดินทางไปเยือนสถานที่ใหม่ การเปิด Map การถล่มค่าย การเก็บกล่องสมบัติ ล่าสัตว์ เป็นต้นค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถสะสมได้จากการทำเควสประจำวัน หรือ ออนไลน์เควส ซึ่งจะปรากฏเป็นสัญลักษณ์สีฟ้าในเกม สามารถเดินตามหาได้ทั่ว Map หรือไปรับเควสจากเด็กขี่อูฐที่ชื่อ Reda ก็ได้ค่ะ และอีกอย่างที่สำคัญคือ นอกจากจะมีเควสประจำวันแล้ว Ubisoft ยังได้จัดให้มีเควสพิเศษโดยจะเปิดให้ผู้เล่นได้เข้าไปทดลองดวลตัวต่อตัวกับเทพเจ้าในตำนานของอียิปต์ด้วยค่ะ ตอนนี้ก็เปิดมาแล้ว 2 ครั้ง คือ Anubis และ Sobek ใครที่เจ๋งจริงจะลองไปวัดเทพสุนัข และเทพจระเข้ก็ได้นะคะ แต่ละเควสจะจำกัดแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น This slideshow requires JavaScript. ไม่เพียงแค่นี้ตาม Map ยังมีกิจกรรมที่ท้าทายผู้เล่นอีกหลายอย่าง เช่น การให้เราได้ดวลกับช้างตัวโตในค่ายทหารของโรมัน (ซึ่งยากพอควร และ Level ต้องสูง) และ ให้เราได้ดวลกับนักล่าค่าหัว Phylakytai ซึ่งพวกนี้จะโจมตีเราทันทีที่เห็นเรา ฆ่าช้างในค่ายทหารโรมัน ไล่ล่าผู้ตามล่า Phylakytai Battle Arena ให้เราได้เข้าไปประลองฝีมือ เกือบลืมไปว่าในเกมมี mini-game ให้เราได้เล่นแก้เบื่อด้วยค่ะ นั่นคือ Battle Arena คือการแข่งต่อสู้กับคู่ต่อสู้ในสนามรบ และ Hippodrome race แข่งขี่ม้า ให้เราไปลองฝีมือกันได้ค่ะ (จขบ.ลองแล้วรู้สึกว่า Hippodrome อะไรนี่ช่างยากเสียจริง) เมื่อค่าประสบการณ์มากพอจะทำให้ระดับความแข็งแกร่งของเราเพิ่มขึ้น และทุกครั้งที่ระดับความแข็งแกร่งของเราเพิ่มขึ้นเราจะได้ Ability Point เพิ่มขึ้นมาทุก ๆ 1 ระดับค่ะ ซึ่งเจ้า Ability Point นี่แหละที่เราจะเอามาใช้เพิ่มทักษะต่าง ๆ ให้กับเรา Ability Point นอกจากจะหาได้จากการเพิ่มระดับแล้ว ยังหาได้อีก 2 ทางคือ 1.สำรวจถ้ำในเกมให้ครบมีทั้งหมด 12 ถ้ำ พอสำรวจครบ 1 ถ้ำเราก็จะได้ Ability Point มา 1 Point (สถานที่ลับในเกมมีทั้งหมด 19 แห่งนะคะ สำรวจครบจะได้ชุดเกราะพิเศษ) และ 2. ตามหาสถานที่พักผ่อนในเกม แค่ลงไปนั่งเฉย ๆ ก็จะได้ Ability Point มาเปล่า ๆ แล้ว 1 Point Sync Point / Fast Travel ยังคงมีอยู่มีทั้งหมด 58 แห่ง ซึ่งตอนที่อ่านบทความของ Ubisoft แรก ๆ บอกว่า “Sync Point น่ะไม่จำหรอก เพราะม้ามัน Auto Pilot” อะไรทำนองนี้ใช่ไหมคะ แต่ใครว่าไม่จำเป็นล่ะ ก็ Map มันใหญ่ซะขนาดนั้น ถ้าไม่ได้ Fast Travel นี่เล่นสักเดือนนึงก็คงยังไม่จบง่าย ๆ ขนาด Map ในเกม ภาคนี้ประกอบไปด้วยเมืองหลักจำนวน 11 เมือง โดยแต่ละเมืองจะมีระดับความยากในการทำกิจกรรมไม่เท่ากัน เช่น ที่ Alexandria ซึ่งเป็นเมืองที่เราเริ่มต้นแรก ๆ ระดับความอึดของทหารก็จะน้อยหน่อย ระดับความโหดของสัตว์ป่าที่เราต้องล่าก็จะไม่ยากเท่าไร แต่ถ้าไปเมืองอื่น เช่น Cyrene ระดับความยากก็จะโหดมากขึ้น จะคล้าย ๆ ระบบในภาค Syndicate สิ่งสำคัญในภาคนี้ได้ดึงเอาส่วนที่เกม Assassin’s creed ภาคเก่า ๆ เคยมีกลับมานั่นคือการ “ควบม้า(หรือ อูฐ) ระหว่างเมือง” ทำให้เราได้กลับไปสัมผัสบรรยากาศเก่า ๆ ของเกมได้อีกครั้ง ขนาดความกว้างของ Map ในภาคนี้ขอบอกว่า กว้างมาก ๆ ๆ ๆ กว้างกว่าภาค 4 ซึ่งเคยเล่าขานกันว่าใหญ่มากอีกค่ะ กว้างกว่าทุก ๆ ภาคที่ผ่านมา มีหลายเมืองให้เราออกไปสำรวจ ค้นหาสิ่งลี้ลับ อาวุธ ชุดเกราะ สมบัติ ล่าสัตว์ และอีกมากมาย แถมมีภารกิจย่อย ๆ ขึ้นเต็มไปหมด ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีเลยค่ะ This slideshow requires JavaScript. อยากจะบอกว่าในภาคนี้ ม้าและอูฐ ถึก และ ทนทานมาก สามารถปีนหินผาได้ด้วย ขนาดเราอยู่บนภูเขาขลุขละแค่ไหน แค่ผิวปากเรียก ม้าและอูฐ ก็จะมาจอดรอเราได้โดยสวัสดิภาพ อาวุธประจำตัว – Hidden Blade จะยังคงมีอยู่เหมือนภาคก่อน ๆ ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเกมเลยค่ะ แต่ว่าไม่ใช่ว่าศัตรูทุกตัวจะตายได้ง่าย ๆ ด้วยการเอา Hidden Blade ไปจิ้มเหมือนภาคก่อนหน้านะคะ ต้องดูด้วยว่าศัตรูนั้นระดับความแข็งแกร่งเหนือกว่าเรามากไหม และที่สำคัญใส่ชุดเกราะจัดเต็มไหม เพราะบางตัวก็ใส่ชุดเกราะหนามาก ขนาดขวานยังจามไม่ค่อยเข้าเลยค่ะ – อาวุธ มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าแบ่งออกเป็นหมวด ๆ จะแบ่งเป็น หมวดโจมตีระยะไกล (Range) มีพวกธนูหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Hunter Bow , Predator Bow , Light Bow และหมวดโจมตีระยะประชิด (Melee) มีอาวุธให้เลือกหลายแบบอีกเช่นกัน เช่น ขวาน หอก ดาบ ซึ่งเราสามารถเลือกอาวุธมาถือสลับกันได้ หมวดละ 2 อย่าง โดยเราอาจจะถือ Hunter Bow คู่กับ Predator Bow และ ถือ หอก คู่กับ ขวาน ก็ได้ แล้วแต่เราเลือก ซึ่งอาวุธแต่ละอันจะมีคุณสมบัติติดตัวไม่เหมือนกัน เช่น ฟันแล้วศัตรูจะเลือดออก ฟันแล้วเราจะได้พลัง Adrenaline เพิ่ม ฟันแล้วศัตรูติดไฟ เป็นต้น – โล่ คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเอาชนะศัตรูตัวใหญ่ ๆ ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะมากอีกเช่นกันค่ะ โล่แต่ละอันก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป เลือกถือเอาตามสะดวก – การอัพเกรดอาวุธและโล่ เมื่อ Level ของเราสูงขึ้น เราก็ต้องหาอาวุธหรือโล่ให้มีระดับเดียวกันกับเราด้วย ไม่อย่างนั้นหากเราไปเจอศัตรูที่ Level สูง ๆ เราจะเอาชนะได้ลำบากมาก การอัพเกรดสามารถทำได้โดยการไปที่ร้านค้าอาวุธแล้วก็จ่ายตังค์ให้เจ้าของร้านไป อีกอย่างที่สำคัญในภาคนี้เกี่ยวกับอาวุธและโล่คือ จะมี อาวุธและโล่แบบพิเศษให้เราได้เลือกเก็บด้วยนั่น เช่น Rare Weapon พื้นหลังจะเป็นสีม่วง และ Legendary Weapon พื้นหลังเป็นสีทอง ได้มาจากการออกหาสมบัติกับซื้อจากชุด DLC ที่เกมขาย – อื่น ๆ ก็มี ลูกดอกยาสลบ ลูกระเบิดไฟ ระเบิดควัน (ต้องอัพเกรดทักษะด้านนี้ก่อนถึงจะใช้ได้) การ Craft ระบบ Craft จะคล้าย ๆ กับภาคก่อนหน้าคือ จะต้องออกตามหาสิ่งของที่จำเป็นต่อการนำมาอัพเกรดความแข็งแกร่งของเราให้ครบตามที่เกมกำหนดไว้ (ส่วนใหญ่ จขบ. เสียเวลาไปกับการออกตามหาของกับล่าสัตว์เพื่อมา Craft นี่แหละค่ะ) ภารกิจหลักและภารกิจรอง ภารกิจหลักจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการลอบสังหารบุคคลสำคัญในยุคนั้นที่เป็นเบื้องหลังของกลุ่ม the Order of the Ancients ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขึ้นมามีอำนาจของพระเจ้าพโทเลมีที่ 13 พระอนุชาของพระนางคลีโอพัตรา ซึ่งในเรื่องนั้น Aya ภรรยาสุดรักของ Bayek ทำงานรับใช้พระนางคลีโอพัตราเพราะหวังจะให้พระนางคืนความสงบสุขให้กับชาวอียิปต์ และช่วยเธอและ Bayek บรรลุเป้าหมาย ภารกิจหลักกว่า 90 เปอร์เซนต์จะอยู่บนบก และแน่นอนว่าภาคนี้นอกจากเราจะได้เล่นเป็น Bayek แล้ว เราจะได้เล่นเป็น Aya ด้วยค่ะ และที่สำคัญคือภาคนี้เราจะได้ออกทะเลด้วย (ออกทะเลหมายถึง ออกเรือไปในท้องทะเล ไม่ได้หมายถึงเนื้อเรื่องที่ออกทะเลแต่อย่างใด ก็แหม่…ภารกิจย่อยมีซะเยอะจนลืมภารกิจหลักไปชั่วขณะเลยค่ะ) การบังคับท่าทางของตัวละคร อาจเป็นเพราะ จขบ. เล่นบน PC และ ใช้คีย์บอร์ดกับเมาส์เป็นหลักเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าบังคับยากเท่าไรค่ะ แต่เพื่อนที่เล่นบน PS4 บอกว่า ภาคนี้มีระบบการเล่นที่สนุกกว่าภาคอื่นมาก ๆ และแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือยากกว่าเดิมด้วย ส่วนความยากนั้นถึงจะเล่นด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์ ก็สามารถสัมผัสได้เช่นเดียวกันค่ะ ภาคนี้นั้นไม่เหมือนภาคก่อนหน้า เพราะไม่มีการ counter attack ให้กดง่าย ๆ แล้ว มีแต่ให้ parry (สะท้อนการโจมตี) แทน เมื่อเราต่อสู้มาระยะนึง จะปรากฏแถบสีฟ้า (หรือแถบสีทอง) ด้านบนแถบชีวิต หากแถบสีฟ้าเต็มแล้วเราสามารถกดเพื่อใช้ท่าไม้ตายได้ตรงแถบนี้ในเกมเรียกว่า Adrenaline Rush แต่ถึงแม้ว่าจะมีท่าไม้ตาย ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสามารถทำสำเร็จทุกครั้งไปนะคะ ต้องจับจังหวะให้ดี ต้องอาศัยการกระโดดหลบ (Dodging) และการป้องกันหลายอย่าง กว่าจะสามารถล้มศัตรูตัวเก่ง ๆ ได้สักตัว สนุกไม่เบาเลยค่ะ ทำให้การต่อสู้ไม่น่าเบื่อ ฉะนั้น สำหรับท่านใดที่เป็นคอเกมแนว ๆ นี้ รับรองค่ะว่าภาคนีไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน พระนางคู่ใหม่ Bayek และ Aya Bayek เป็นมือสังหารที่มี 2 อย่างในตัวที่เข้ากันอย่างลงตัว คือมีทั้งความดุดันและมีความทั้งอ่อนโยน ดุดันในการต่อสู้ทวงคืนสิ่งที่สูญเสีย ชอบช่วยเหลือผู้คน หากเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องลงมือเขาก็ไม่มีความลังเล มีเหตุผลในทุกการกระทำ ที่สำคัญ “รักเด็ก” สังเกตได้จากเวลาเราเล่นไปเจอฉากที่ต้องคุยกับเด็ก Bayek แกจะใช้เสียง 2 ประมาณว่า ดูอ่อนหนุ่ม มุ้งมิ้งขึ้นมาทันที (ฮา) เด็ก ๆ ก็ชอบแกซะด้วยสิ อย่างเด็กขี่อูฐที่เร่ขายของอย่าง Reda ยังชอบใช้ให้ Bayek ไปทำภารกิจให้บ่อย ๆ (ฮา ๆ ก็ไปตามภารกิจประจำวันแหละนะ) This slideshow requires JavaScript. Aya ภรรยาสุดแกร่งของ Bayek ทั้งสวยและดุดัน เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ และมักไม่เปลี่ยนใจเมื่อตัดสินใจจะทำอะไรก็ตาม แม้แต่ Bayek ก็ยังต้องยอมเธอ ในเกมเราได้สัมผัสกับตัวตนของ Aya ไม่มากนัก แม้ว่าจะได้เล่นเป็นเธอด้วยก็ตาม Senu ต้นกำเนิด Eagle Vision Senu คือสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุดแล้วในเกมค่ะ (ฮา) คือความสามารถของ Senu เนี่ย ถ้าให้เทียบก็คงเหมือน Drone อะ แต่สมัยนั้นไม่มี Drone ไง แล้วจะทำไงล่ะ ก็ใช้นกแทน ซึ่งช่วงแรก จขบ. ไม่ค่อยชินกับนกเท่าไร แต่พอใช้ไป กลับขาดไม่ได้เสียอย่างนั้น ฉากไหนที่เล่นแล้วไม่สามารถใช้ Senu ได้นี่หงุดหงิดมาก ๆ เลย This slideshow requires JavaScript. หน้าที่ของ Senu หลัก ๆ คือบินสำรวจสิ่งของ ศัตรู ถ้ำลับ ช่วยล่าสัตว์ และอะไรก็แล้วแต่ที่เราอยากให้นางทำ โดยเราเองก็สามารถช่วยให้ Senu มีวิสัยที่กว้างขึ้นได้ด้วยการไปเปิด Map และ Sync Point ให้ครบ 58 แห่ง สรุปภาพรวม ภาค Origins เป็นภาคที่ดีมากในหลาย ๆ ด้านค่ะ สมการรอคอยถึง 2 ปีเต็มที่เกมไม่ได้ออกมาให้เราได้ยลโฉมกัน เห็นได้เลยว่าทีมงานใส่ใจรายละเอียดมาก ๆ จริง ๆ เพราะแผนที่ละเอียดมาก และมีเควสให้เล่นตลอดเวลาจนลืมเควสหลักไปเลยค่ะ ของให้ตามเก็บสะสมก็มีเยอะมาก จขบ.คงเก็บต่อไม่ไหว (เพราะการ์ดจอที่ใช้ยืมชาวบ้านเค้ามา ต้องเอาไปคืนเค้าแล้ว -_-“) บรรยากาศในเกมทั้งแสง สี เสียง ดูสวยงามและเข้ากันไม่รู้สึกขัดใจอะไรเลยค่ะ เพลงประกอบก็ช่วยขับกล่อมให้บรรยากาศแบบอียิปต์ยุคโบราณ เพลงประกอบฉากสำคัญก็มีการนำเอาเพลงจากภาค 1 มาใส่ด้วยให้ความรู้สึกว่านี่แหละจุดเริ่มต้นของ Assassins’ creed ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าในช่วงท้ายเกมก็ให้ความรู้สึกว่านอกจากเกมจะพาเราไปหาภาค 1 แล้ว เกมยังพาเราไปยังจุดเริ่มต้นของภาค 2 ด้วย และในส่วนของยุคปัจจุบันเกมยังกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในภาค 3 และ สิ่งที่ตามมาในภาค 4 เหมือนพาเราย้อนไปสู่ความรู้สึกเดิม ๆ ได้ค่ะ This slideshow requires JavaScript. ภาพบรรยากาศแม่น้ำ ท้องฟ้า ทะเลทราย ท้องทะเล สวยงามมากค่ะ มีพายุทะเลทรายด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราได้ไปอยู่ท่ามกลางทะเลทรายจริง ๆ เพราะในบางครั้งถ้าเราเดินทางไปยังทะเลทราย Bayek จะเห็นภาพหลอนด้วยค่ะ รู้สึกสมจริงดี ตัว Bayek จขบ.รู้สึกชอบมากค่ะ เป็นพระเอกที่มีทุกความรู้สึกในคนเดียว เป็นคนที่ก้าวข้ามโทษะได้ ทั้งที่ตัวเองสุดแสนจะเจ็บปวด แต่ก็สามารถสอนคนอื่นได้ แสดงให้เห็นว่าความโกรธแค้นไม่ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น แม้ว่าเขาจะพยายามมากเท่าไรสิ่งที่เสียไปก็ไม่มีวันกลับมา ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น และทำสิ่งที่ดีกว่าให้เกิดขึ้น นับเป็นพระเอกที่รู้สึกประทับใจมากค่ะ (บางครั้งทำให้นึกถึง Connor อยู่เหมือนกัน Bayek โตกว่ามากและมีสติกว่ามาก เหมือนกับว่าเขาคือตัวตนที่ตรงข้ามกับ Connor ค่ะ แต่ทั้งนี้ก็เทียบกันไม่ได้เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันประกอบด้วยปัจจัยที่ต่างกัน บวกกับอายุของ Bayek ก็น่าจะมากกว่าอยู่หลายปี) สรุปแล้ว จขบ.ชอบภาคนี้มากกกกกค่ะ ถึงแม้ว่าจะกินสเปคคอมพิวเตอร์มหาโหดไปหน่อยแต่ก็ให้อภัยได้เพราะภาพสวย และเนื้อเรื่องดีค่ะ สำหรับท่านใดที่ต้องการจะเป็นเพื่อนพูดคุยเรื่อง Assassin’s creed นอกจากจะสามารถ comment ในบล็อกนี้แล้ว ก็สามารถ Add กันเข้ามาได้ทั้ง steam และ uplay นะคะ ที่ ID : Pureskyline ค่ะ การรีวิวสำหรับภาคนี้ก็มีเท่านี้นะคะ หากเพื่อน ๆ มีอะไรจะเพิ่มเติม หรือช่วยแก้ไข หรืออยากร่วมรีวิวด้วยก็แสดงความคิดเห็นได้ที่กล่องcomment ด้านล่างค่ะ แล้วก็ถ้าโพสต์ข้อความแล้วมันยังไม่ขึ้นไม่ต้องตกใจนะคะ ระบบคัดกรอง spam ของบล็อกมันเอ๋อ ๆ หน่อยค่ะ มันชอบคิดว่าคนมา spam เรื่อยเลย ยังไงก็รอ จขบ. มากดปลดล็อก spam ก่อนเด้อ อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ 😀 |
Assassins creed origins ม ใครว าเหม อนภาคสอง
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketajaman Inc.
