50 310 ม.4 ต.บ งคำพร อย อ.ลาสกา

วันนี้ (16 พ.ย.) ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อพร้อมกับถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลักฐานในการยื่นถอดถอน ส.ส.จำนวน 310 คน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 มาตรการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมือกันโค่นระบอบทักษิณ หลังจากประกาศยกระดับการชุมนุม เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่า ส.ส.ทั้ง 310 คน ทำตัวเป็นสภาทาสผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมที่จะนำไปสู่การล้างความผิดในคดีคอร์รัปชันให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี

ขณะที่บรรยากาศในช่วงเช้ามีประชาชนเริ่มทยอยมาร่วมชุมนุมกันบ้างแล้ว แต่มวลชนยังค่อนข้างบางตา เนื่องจากในช่วงเช้ามีฝนตกเล็กน้อย ส่วนเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ยังคงมีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล และระบอบทักษิณ ต่อมาเวลา 12.45 น. นายสุเทพ เดินทางมาถึงยังพื้นที่ชุมนุม พร้อมเดินไปรอบเวทีเพื่อทักทาย และพูดคุยกับบรรดามวลชนที่มาชุมนุม และมีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พร้อมขอจับมือ และขอลายเซ็น ทำให้พื้นที่ชุมนุมเริ่มคึกคัก และยังเดินไปตรวจเยี่ยมซุ้มอาหารต่างๆ ที่ตั้งอยู่ด้านหลังเวที พร้อมกำชับให้ดูแลเรื่องอาหารให้ประชาชนอย่างดีที่สุดไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

ต่อมา เมื่อเวลา14.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีชุมนุมพรรคประชาธิปัตย์ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เปิดเผยว่า มติมวลชน และแกนนำที่ร่วมชุมนุมมีมติตรงกันว่าจะยกระดับเป้าหมายการชุมนุมด้วยการขจัดระบอบทักษิณให้หมดไปจากประเทศไทย ด้วยมาตรการ 4 ข้อ คือ 1.เข้าชื่อคัดค้านถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 310 คน ที่สนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรม ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิด ล่าสุด การเข้าชื่อจากประชาชนมีจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ทางแกนนำต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เพื่อไม่ให้ทางรัฐบาล หรือฝ่ายตรงข้ามมาโจมตีโต้แย้งได้ โดยในจุดที่ให้เข้าชื่อจะมีการตั้งกล้องเพื่อบันทึกภาพผู้เข้าชื่อไว้ด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นตัวจริง

2.ต่อต้านสินค้าผลิตภัณฑ์ ของบริษัทในเครือระบอบทักษิณ ทั้งนี้ ยืนยันว่าพวกเราไม่ได้จะทำธุรกิจแข่ง แต่กลุ่มบริษัทเหล่านี้เป็นพวกได้รับผลประโยชน์จากทักษิณ และเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน เพื่อนำเงินเข้าไปสู่ระบอบทักษิณอีก 3.การร่วมกันแสดงออกเพื่อให้รู้ว่ามีความรังเกียจเดียดฉันท์กับผู้คนที่อยู่ในระบอบทักษิณ ทั้งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เป็นต้น ด้วยวิธีอารยะชนพึงปฏิบัติ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นลิ่วล้อของทักษิณ และร่วมกันฉ้อฉลประเทศชาติ และ 4.จะรวมพลังมวลชนให้ได้ 1 ล้านคน เมื่อถึงวันนั้นแล้วจะยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด ดึงข้าราชการที่อยู่ระบอบทักษิณ ให้กลับมาเป็นข้าราชการของประชาชน โดยมาตรการสุดท้ายจะทำให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ และแกนนำมีความเชื่อมั่นว่าจะสำเร็จอย่างแน่นอน

นายเอกนัฏ กล่าวว่า รัฐบาลกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงแกนนำว่ามีความอ่อนแอลง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง สังเกตได้จากวันที่ประกาศจะตั้งศาลประชาชน มีคนมาร่วมชุมนุมกับเราเกือบ 2 แสนคน และล่าสุด ที่ประกาศยกระดับก็มีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ขอยืนยันว่าพวกเราแรงดี แรงไม่มีตก ขอให้รัฐบาลหยุดบิดเบือนความจริงด้วย

นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่การ์ดเวทีไปทำร้ายตำรวจนั้น ข้อเท็จจริงคือ การ์ดไปพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน และไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ หรือเป็นใคร อีกทั้งยังพกปืนอีกด้วย การ์ดก็พยายามจะเจรจาเข้าไปพูดคุย และให้มาลงบันทึกหมายเหตุไว้ที่เต็นท์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยของเวที แต่ชายทั้ง 2 ที่มาทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจกลับขัดขืน ไม่ยินยอม กระทั่งมีเหตุกระทบกระทั่งทำร้ายกัน