3. หลักเกณฑ์ และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่น Show ด้วยมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพ.ศ.2551 ได้บัญญัติว่า การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใด ให้บรรจุและแต่งตั้งจากผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งนั้น โดยบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับทีในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ การสอบแข่งขัน การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ และรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบแข่งขันให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงือนไขที ก.พ. กำหนด ก.พ. พิจารณาแล้วจึงมีมติให้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการไว้ ดังต่อไปนี้ 1. การดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน และตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ให้มีการสอบ 3 ภาค คือ ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยมีผู้ดำเนินการ ดังนี้ (1) ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ในกรณีที ก.พ. ไม่ได้ดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ก.พ. อาจมอบหมายให้ส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการสอบก็ได้ (2) ส่วนราชการดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อบรรจุในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง โดยรับสมัครจากผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของ ก.พ. ในวุฒิการศึกษาที ก.พ. ยังมิได้ดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ให้ส่วนราชการดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อบรรจุในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งโดยใช้ข้อสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ของ ก.พ. (3) ในกรณีทีเห็นสมควร ก.พ. อาจดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง สำหรับตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งหรือหลายตำแหน่งก็ได้ 2. การดำเนินการสอบแข่งขัน ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีดำเนินการ ที ก.พ. กำหนดตามสิงทีส่งมาด้วย 1 3.ให้ผู้สมัครสอบเสียค่าธรรมเนียมสอบสำหรับการสมัครสอบดังนี้ (1) อัตราครั้งละ100 บาทสำหรับสอบเฉพาะภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (2) อัตราตำแหน่งละ 200 บาท สำหรับสอบภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่ง และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (3) อัตราตำแหน่งละ 300 บาท สำหรับสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่งและภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง ค่าธรรมเนียมสอบจะไม่จ่ายคืนให้เมือได้ประกาศรายชื่อว่าเป็นผู้มีสิทธิเข้าสอบแล้ว เว้นแต่มีการยกเลิกการสอบครั้งนั้นทังหมด เนื่องจากมีการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตตามข้อ 6 จึงให้จ่ายคืนค่าธรรมเนียมสอบแก่ผู้สมัครสอบเฉพาะผู้ทีมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตนั้น 4.การตัดสินว่าผู้ใดเป็นผู้สอบได้ให้ถือเกณฑ์ว่าต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนในการสอบแต่ละภาค ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงหลักวิชาการวัดผลด้วย 5. การสอบแข่งขันจะต้องสอบตามหลักสูตรทุกภาคตามสิงทีส่งมาด้วย 2 เว้นแต่ ก.พ. จะพิจารณากำหนดเป็นอย่างอื่น ในการสอบแข่งขัน คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันจะกำหนดให้ผู้สมัครสอบสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป หรือภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่งก่อน แล้วจึงให้ผู้ทีสอบได้คะแนนตามเกณฑ์ทีกำหนดไว้ในข้อ 4 สอบในภาคอื่นต่อไปก็ได้ 6. กรณีทีปรากฏว่ามีการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตอันอาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการสอบแข่งขัน ให้คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันรายงานให้ผู้ดำเนินการสอบแข่งขันทราบ เพื่อพิจารณาว่าจะสมควรยกเลิกการสอบแข่งขันครั้งนั้นทังหมด ไม่ว่าจะมีการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ไปแล้วหรือไม่ หรือจะพิจารณายกเลิกการสอบแข่งขันเฉพาะวิชาหรือเฉพาะภาคทีเกิดการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตตามแต่จะเห็นสมควร ถ้าหากผู้ดำเนินการสอบแข่งขันให้ยกเลิกการสอบแข่งขันเฉพาะวิชาใดหรือเฉพาะภาคใดแล้วก็ให้ดำเนินการสอบแข่งขันเฉพาะวิชานั้นหรือเฉพาะภาคนั้นใหม่ สำหรับผู้ทีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือส่อไปในทางทุจริตไม่มีสิทธิเข้าสอบอีกต่อไป 7. การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้เรียงลำดับทีจากผู้สอบได้คะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีทีมีผู้สอบได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้สอบได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับทีสูงกว่าถ้าได้คะแนนภาคความเหมาะสมกับตำแหน่งเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนภาคความรู้ความสามารถทีใช้เฉพาะตำแหน่งมากกว่าเป็นผู้อยู่ในลำดับทีสูงกว่า ถ้ายังคงได้คะแนนเท่ากันอีกก็ให้ผู้ได้รับเลขประจำตัวสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับทีสูงกว่า 8. บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ให้ใช้ได้ไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันขึ้นบัญชี แต่ถ้ามีการสอบแข่งขันอย่างเดียวกันนั้นอีก และได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่แล้ว บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งก่อนเป็นอันยกเลิก เว้นแต่ในกรณีทีได้มีการเรียกตัวผู้สอบแข่งขันได้ผู้ใดให้มารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุไปแล้วก่อนบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ จะมีอายุเกิน 2 ปี หรือก่อนมีการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่ แล้วแต่กรณี ก็ให้การขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ครั้งก่อนนั้นยังคงมีผลใช้ได้ต่อไป แต่ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันทีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นมีอายุครบ 2 ปี หรือวันทีขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ใหม่ แล้วแต่กรณี 9. กรณีทีส่วนราชการมีตำแหน่งว่างในตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน และตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ซึงต้องการบุคคลทีมีวุฒิการศึกษาอย่างเดียวกัน และมีความรู้ ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะทีเหมือนหรือใกล้เคียงกันกับตำแหน่งทีได้มีการสอบแข่งขันและขึ้นบัญชีไว้ ให้ส่วนราชการสามารถนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งอื่นได้โดยเรียกผู้สอบแข่งขันได้มารับการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที ก.พ. กำหนดในสิงทีส่งมาด้วย 3 โดยให้เรียกเป็นจำนวน 3 เท่าของตำแหน่งว่างแต่ไม่น้อยกว่า10คน โดยเรียกตังแต่ลำดับแรกของผู้ทียังไม่ได้รับการบรรจุไปตามลำดับต่อกันไปเรือย ๆ โดยไม่ซ้ำกัน และเมือเรียกจนถึงคนสุดท้ายในบัญชีแล้ว แต่บัญชียังไม่ยกเลิกให้ย้อนกลับมาเริมเรียกตังแต่ลำดับแรกของผู้ทียังไม่ได้รับการบรรจุอีก ในกรณีทีมีผู้สอบแข่งขันได้เหลืออยู่ในบัญชีน้อยกว่า10คนให้เรียกตามจำนวนทีเหลืออยู่ในบัญชีได้ ทั้งนี้ คําว่า“ตำแหน่งอื่น”ให้หมายถึงชื่อตำแหน่งเดียวกันแต่ต่างส่วนราชการด้วย 10.ผู้ใดได้ขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้คือ (1)ผู้นั้นได้ขอสละสิทธิจากการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งทีสอบได้ (2)ผู้นั้นไม่มารายงานตัวเพื่อรับการบรรจุเข้ารับราชการภายในเวลาทีส่วนราชการกำหนดโดยมีหนังสือส่งทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ(EMS)แจ้งให้ทราบกำหนดเวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน นับตังแต่วันทีทีทำการไปรษณีย์รับฝาก หรือมีหนังสือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนแจ้งให้ทราบกำหนดเวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่า10วันนับตังแต่วันทีทีทำการไปรษณีย์รับฝาก (3) ผู้นั้นมีเหตุทีไม่อาจเข้าปฏิบัติหน้าทีราชการได้ตามกำหนดเวลาทีจะบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งทีสอบแข่งขันได้ (4) ผู้นั้นประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งทีสอบแข่งขันได้โดยการโอน แต่ส่วนราชการทีจะบรรจุไม่รับโอน และได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะไม่รับโอนผู้นั้นจึงไม่ประสงค์จะรับการบรรจุและแต่งตั้ง (5) ผู้นั้นได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งใดทีสอบได้ไปแล้วให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ทุกบัญชีในการสอบครั้งเดียวกัน ในกรณีทีเป็นการประกาศรับสมัครสอบครั้งเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน ประเภทเดียวกัน ระดับเดียวกัน และแยกขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เป็นรายบัญชี เพื่อบรรจุในกระทรวง กรม เป็นการทั่วไป ในหน่วยราชการใด และในท้องทีใดไว้แล้ว ถ้ามีกรณีจะต้องยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ใดจากบัญชีผู้สอบแข่งขันได้บัญชีใดก็ให้ยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้บัญชีอื่นดังกล่าวด้วย 11. ผู้ใดถูกยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้บัญชีใดไปแล้ว ถ้าบัญชีนั้นยังไม่ยกเลิก และ ก.พ. หรือส่วนราชการ แล้วแต่กรณี พิจารณาเห็นว่า ผู้นั้นมีหลักฐานว่ามีเหตุผลอันสมควรมิได้หลีกเลียงหรือเลือกโอกาสทีจะบรรจุ จะอนุมัติให้ขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีเดิมเป็นลำดับแรก ทีจะบรรจุในครั้งต่อไปตามเดิมก็ได้ สำหรับผู้ซึงถูกยกเลิกการขึ้นบัญชี เนื่องจากไปรับราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร เมือออกจากราชการทหารโดยไม่มีความเสียหาย และประสงค์จะเข้ารับราชการในตำแหน่งทีสอบได้ และบัญชีผู้สอบแข่งขันได้นั้นยังไม่ยกเลิก ให้ขึ้นบัญชีผู้นั้นไว้ในบัญชีเดิม เป็นลำดับแรกทีจะบรรจุในครั้งต่อไป 12. หลักเกณฑ์และวิธีการในข้อ 1 (2) วรรคแรก ให้มีผลใช้บังคับตังแต่วันที 18 กุมภาพันธ์ 2552 13. การใดทีอยู่ระหว่างดำเนินการตามหนังสือทีอ้างถึง ก่อนวันทีหนังสือฉบับนีใช้บังคับให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงือนไขตามหนังสือดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ ในกรณีทีมีการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ไปก่อนวันทีหนังสือนีจะมีผลใช้บังคับแต่บัญชีนั้นยังมีอายุหรือใช้ได้อยู่ หรือบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ทีเกิดขึ้นจากการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเป็นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ตามหนังสือฉบับนี ทั้งนี้ บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งใด หาก ก.พ. จัดตำแหน่งนั้นให้เป็นตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ก็ให้ถือว่าเป็นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งประเภท สายงาน และระดับนั้น และให้บรรจุแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวต่อไปได้ กพ 66 สอบผ่านกี่คนสถิติการสอบผ่าน ภาค ก. 5 ปีหลังสุดปี 2566 มีผู้สอบผ่านจำนวน 15,485 ราย จากผู้สมัคร 333,500 คน คิดเป็น 4.64 % ปี 2565 มีผู้สอบผ่านจำนวน 4,744 ราย จากผู้สมัคร 500,000 คน คิดเป็น 4 % ปี 2564 มีผู้สอบผ่านจำนวน 11,349 ราย จากผู้สมัคร 719,805 คน คิดเป็น 1.58 % การลาออกตามมาตรา ๑๐๙ มีกี่กรณี ได้แก่การลาออก แยกได้2 กรณี(มาตรา ๑๐๙) สอบ ผ่าน ภาค ก ของ ก พ มีอายุกี่ปี1. หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของ ก.พ. ใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่ ก.พ. จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ตําแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญตามมาตรา 45 มีกี่ประเภทมาตรา ๔๕ ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญมี ๔ ประเภท ดังต่อไปนี้ (๑) ตำแหน่งประเภทบริหาร ได้แก่ ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการและรองหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง กรม และตำแหน่งอื่นที่ ก.พ. กำหนดเป็นตำแหน่งประเภทบริหาร |