ต มแซ บป กไก ม ข นตอนการทำอย างไร

เผยแพร่: 15 พ.ย. 2556 19:17 โดย: MGR Online

“หมอนิรันดร์” เยี่ยมเวที คปท.แนะรัฐบาลลดการเผชิญหน้า ชี้สังคมไทยสูญเสียมากพอแล้ว คปท.แจ้งความเอาผิดผู้สั่งจับรถติดธงชาติ ประกาศเดินขบวนติดธงชาติทั่วกรุง 16 พ.ย.จับมือกองทัพธรรมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง 5 ธันวาฯ ส่วนเวทีผ่านฟ้า แกนนำยังผลัดขึ้นปราศรัย มวลชนจากอยุธยามาสมทบอีก

วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ถนนราชดำเนินนอก ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยเมื่อเวลา 14.20 น. นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กสม.พร้อมด้วย น.ส.มนชนก พรหมรัตน์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนเฝ้าระวังและปกป้องสถานการความรุนแรงที่อาจมีผลกระทบทางการเมือง ได้เดินทางมาสังเกตการณ์พื้นที่ชุมนุมของ คปท.

จากนั้น นพ.นิรันดร์ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ตอนนี้ มีความสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุม ขณะนี้สังคมไทยสูญเสียมากพอแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลความเรียบร้อย และต้องยอมรับความเห็นต่างของประชาชนในการกำหนดนโยบายและการออกกฎหมาย โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ในช่วง 4-5 ปี พบว่า คนไทยมองคนที่มีความเห็นต่างเป็นศัตรู คิดเข่นฆ่ากัน ก่อให้เกิดความรุนแรง ดังนั้น กสม.จึงเข้ามาประสานระหว่างผู้ชุมนุม 3กลุ่มบนถนนราชดำเนิน กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีโอกาสพูดคุย ไว้วางใจกันและกัน ปกป้องไม่ให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง

จากนั้นเวลา 16.00 น.นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท.พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท.พร้อมทีมทนายความ นำมวลชนจำนวนหนึ่งเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมรถยนต์ที่ติดธงชาติที่สร้างความปั่นป่วน ที่ สน.นางเลิ้ง

นายนิติธร กล่าวว่า การออกคำสั่งมีความหมายที่เกินเลย เป็นการเหยียดหยามธงชาติ แยกแยะไม่ออก การไปร้องทุกข์ครั้งนี้เพื่อให้ตำรวจสอบสวนว่าคนที่ออกประกาศ มีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ พ.ร.บ.ธง พ.ศ. 2522 ตามมาตรา 54 ถือเป็นการต่อต้านสัญลักษณ์ที่เป็นธงชาติของไทย ที่มีผู้รักษาการตามกฎหมาย คือ นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนให้ได้ว่า นายกรัฐมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสั่งดังกล่าวหรือไม่

“เพื่อยืนยันว่าธงเป็นสัญญลักษณ์ของไทย ในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) จะเชิญชวนให้มาชุมนุม และรณรงค์ติดธงชาติให้ทั่วกรุงเทพฯ และหากพรุ่งนี้ไม่มีธุระ ขอให้โดยสารโดยรถไฟฟ้า และ คปท.จะเคลื่อนขบวนไปทุกเส้นทาง เพื่อไปติดธงชาติให้ทั่วกรุงเทพฯ และในวันต่อไป คปท.จะนำธงประจำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกรณรงค์ติดให้ทั่วกรุงเทพฯ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า การเดินขบวนแต่ละครั้งของ คปท.จะไม่ทำให้เกิดความปั่นป่วน เพราะเราประกาศก่อนล่วงหน้าชัดเจน” นายนิติธร กล่าวและว่า คปท.ยังขอเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มกำลังดูแลพี่น้องประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ในช่วงคืนเทศกาลลอยกระทง ในวันที่ 17 พ.ย.นี้ เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันกลุ่มบุคคลเข้ามาจุดพลุหรือระเบิด สร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่การชุมนุม

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) แถลงว่าจะขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนนราชดำเนิน ออกจากพื้นที่เพื่อการจราจร ให้รัฐบาลจัดงานเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค. นั้น นายนิติธร กล่าวว่า หากมีหมายกำหนดการ มีการเสด็จพระราชดำเนินในเส้นทางถนนราชดำเนิน คปท.ก็พร้อมจะเปิดเส้นทางให้ขบวนเสด็จฯผ่านในวันดังกล่าว แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สร้างข่าวโดยเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญของประชาชน และหากไม่มีหมายกำหนดเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนราชดำเนิน ตามที่ ศอ.รส.กล่าวอ้าง ทาง คปท.และกองทัพธรรมมูลนิธิ ก็จะร่วมกันจัดงานเฉลิมพระเกียรติที่บริเวณนี้

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของ คปท.ที่แยกมัฆวาน ถนนราชดำเนิน ในช่วงบ่ายได้มีกลุ่มคนไทยรักชาติต้านคนโกงชาติ และกลุ่มเกษตรกรชาวนาภาคอีสาน จำนวน 500 คน เดินทางมาสมทบ ส่วนการศรัยเน้นการโจมตีนโยบายของรัฐบาล และชูเรื่องการปฏิรูปประเทศไทย สลับกับการแสดงดนตรี ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

อีกด้านหนึ่งที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. กลุ่มกองทัพธรรม และภาคีเครือข่าย 77 จังหวัด ที่เวทีสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในช่วงค่ำวันนี้ยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย มวลชนได้เข้ามาร่วมฟังการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลการจราจรตลอดถนนเส้นราชดำเนินค่อนข้างติดขัด เพราะมีการเคลื่อนไหวจากมวลชนหลากหลายกลุ่มที่เคลื่อนไปสมทบกับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับกิจกรรมบนเวที กปท.ยังคงมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาล และระบอบทักษิณ ที่สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง รวมทั้งชี้แจงให้ความรู้ความเข้าใจในระบบการศึกษาของไทย

“ไกรศักดิ์”ชี้“ตากใบ-กรือเซะ”ตัวเร่งเชื้อไฟจากความอยุติธรรม

เผยแพร่: 31 มี.ค. 2548 13:05 โดย: MGR Online

“ไกรศักดิ์”ระบุ“ตากใบ-กรือเซะ”ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากความอยุติธรรมของจนท. ย้ำชาวจับอาวุธต้านเพราะไม่มีประชาธิไตยสังคมไม่ให้ทางออก ด้าน "ส.ส.ปัตตานี" แนะ รัฐบาลเพิ่มขวัญกำลังใจผู้นำท้องถิ่น“กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน”ที่อยู่กับชาวบ้านไม่ให้น้อยหน้าขรก.

วันนี้ (31มี.ค.)นายโมฮามัด ยาสรี ยูซง ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมตามมาตรา 213 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งหาได้ยาก ตัวแทนของประชาชนมาร่วมกันในการถกปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนสมาชิกทีได้กล่าวมาทั้งหมด โดยส่วนหนึ่งทำให้เกิดกระจ่างขึ้นและเป็นแนวทางที่ทางรัฐบาลจะนำไปแก้ปัญหา ในส่วนของกระผมเจาะลึกเข้าไปที่จะอภิปรายในส่วนของผู้นำท้องถิ่น โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เกิดเหตุในพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมไปถึงสงขลาบางส่วน

ส.ส.ปัตตานี กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 จนถึงปัจจุบัน เกิดเหตุแก่พี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร แพทย์ ของกระทรวงมหาดไทย 69 ราย โดยเฉพาะไม่นับส่วนราชการอื่นๆ เฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านซึ่งได้แยกไว้ว่า จ.ปัตตานีนั้นที่เกิดเหตุทั้งที่บาดเจ็บและเสียชีวิต21 รายที่จ.ยะลา 13 รายและนราธิวาส 24 ราย และบางส่วนของสงขลา 4 รายนี่คือผู้นำท้องถิ่นระดับรากหญ้าที่รัฐบาลต้องส่งเสริม ให้ความดูแล โดยเฉพาะผู้ที่อุทิศกาย อุทิศใจ ซึ่งไม่มีเวลาพักผ่อนเหมือนกับข้าราชการส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย อะไรบ้างที่พวกเขาเหล่านี้ได้ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้น นอกจากการตราหน้าจากฝ่ายรัฐบาลว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผู้ค้ายาเสพติด นี่หรือที่ฝ่ายรัฐบาลได้มอบเป็นรางวัลให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนการเลือกตั้ง 1 อาทิตย์ ฝ่ายรัฐบาลได้กล่าวหากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะที่ จ.นราธิวาส 12 ท่าน รวมถึง อบต. รวมถึงนายก อบต. รวมถึงโต๊ะอิหม่าม และอุสตาซต่างๆ ว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ และได้วางตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ ทั้งๆ ที่บุคคลเหล่านี้มีความรักชาติ มีความรักแผ่นดินเสมือนประชาชนทั่วไป และไม่น้อยกว่าพวกท่าน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล

“ความน้อยเนื้อต่ำใจ แทนที่ฝ่ายรัฐบาลจะให้กำลังใจ อย่างเช่น รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งคิดว่าในโอกาสต่อไปในอีก 4 ปีข้างหน้า คงจะมีการแก้ไขในปัญหาประเด็นนี้อย่าลืมว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม ของประเทศไทยนั้นบนพื้นฐานอยู่ที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอบต.แต่ว่าความสำคัญของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านนั้นถูกละเลยทั้งๆที่ข้าราชการส่วนอื่นๆนั้นได้ถูกยิง ถูกฟัน ถูกอะไรต่างๆ มีผู้บังคับบัญชา มีโบนัส มีอะไรต่างๆ ทั้งๆ ที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบางคนซึ่งเป็นพี่น้อง ไม่มีแม้แต่อาวุธปืน สวัสดิการของข้าราชการ สวัสดิการของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ไม่มี นี่คือความหนักอกหนักใจของพี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอย่าลืมว่าพี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้านภาคใต้นั้น ยังต้องยอมรับในส่วนที่ว่า เราต้องรู้ว่า ก่อนที่จะมาเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีทั้ง 60 ปี และ 5 ปี มีพื้นฐานของความเคารพนับถือของพี่น้องในหมู่บ้าน ตำบลนั้นๆ สูง ในเมื่อผู้นำของเขายังไม่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล มีหรือที่ประชาชนจะให้ข่าวคราวแก่รัฐบาล นี่คือจุดบอดของรัฐบาลในชุดที่แล้ว และนโยบายการเข่นฆ่า การอุ้มฆ่าต่างๆ นั้น รวมถึงบ้านของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ไม่ละเว้น ฉะนั้นกระผมคิดว่า ในโอกาส 4 ปีข้างหน้า ซึ่งทางฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลร่วมกันสร้างสรรค์ เพื่อให้ยุติความเกิดเหตุในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วครับที่ท่านฝ่ายรัฐบาลจะต้องร่วมมือกันพูดโดยความจริงใจ เรามาร้อยใจเป็นหนึ่ง เราอย่ามาทำพูดอย่างทำอย่าง และที่สำคัญที่สุดกระผมคิดว่าในโอกาสนี้รัฐบาลต้องยอมรับว่า ในโอกาสต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวอย่างเช่น ทำบัตรสมาร์ทการ์ด กี่ปีแล้วครับ ทางรัฐบาลยังทะเลาะกันเลยครับว่าเมื่อไหร่จะได้ เมื่อไหร่จะประมูลได้ ประชาชนก็รอรับอยู่ บางคนต่อบัตรเหลือง ต่อบัตรเล่ายังไม่ได้รับ ซึ่งทำอะไรต่างๆ ก็เป็นการยากลำบาก”โมฮามัด ยาสรี ยูซง กล่าว

ส.ส.ปัตตานี กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่ 2 การทำเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ไม่พ้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องขึ้นที่ทำการ ถ้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านไม่ไป ประชาชนพี่น้องประชาชนของเราถูกกล่าวหาว่า พูดไม่รู้เรื่อง พูดภาษาไม่รู้เรื่องซึ่งคิดว่าดังเดิมที่มีศูนย์ ศอ.บต.นั้น การที่ข้าราชการในพื้นที่จะมาอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องมีการอบรม มีการเรียนภาษา ซึ่งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดก็มีสอนอยู่โดยเฉพาะภาษาที่ใช้ท้องถิ่นกับพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันนี้น่าส่งเสริมเพื่อ ให้เรามารวมกันครึ่งทางโดยที่ทางรัฐบาลลดลงของเราถีบขึ้นโอกาสที่พวกเราจะแก้ปัญหามีสูง และรวมไปถึงองค์กรสมานฉันท์ ซึ่งได้ดูแล้วรายชื่อตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนามีน้อย ไม่เป็นไร เพราะเป็นองค์กรอิสระที่สามารถที่จะทำได้ แต่คิดว่าการประสานงาน การอะไรต่างๆ น่าจะมีพวกเหล่านี้เข้ามาด้วยเพื่อเป็นข้อมูลในระดับรากหญ้า ซึ่งประชาชนต้องการ และข้อเท็จจริงมาจากประชาชน ที่จะฝากอีกหนึ่ง ในกรณีที่กลุ่มครูที่ขาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนี้อัตราครูขาด และผู้ที่จำนง โดยเฉพาะลูกพื้นที่ที่มีจบการศึกษาจากสถาบันราชภัฏ หรือสถาบันอื่นๆ มีอีกเยอะ น่าจะเอาพวกเหล่านี้ และเป็นลูกพื้นที่บรรจุเป็นครูอัตราจ้าง หรือเป็นครูลูกจ้างประจำ หรืออะไรก็แล้วแต่ในส่วนที่ขาดอยู่ สิ่งเหล่านี้ถ้าทางรัฐบาลมีความจริงใจ ถ้ารัฐบาลมีความยืนหยัดที่จะแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งคิดว่าเหล่านี้นั้นเป็นพื้นฐานในการแก้ปัญหาระดับพื้นฐานในการแก้ปัญหาต่อไปในระยะยาว ฉะนั้นคิดว่าข้อมูลต่างๆ ที่พวกเราได้มาจากการประชุมคณะรัฐสภาวันนี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และข้อมูลที่ได้จากพี่น้องซึ่งส่งตัวแทนของพี่น้องมาร่วมกันเพื่อชี้แจงต่อฝ่ายรัฐบาลที่จะบริหารในอีก4ปีข้างหน้าและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า ไม่อยากได้ยินชาวภาคใต้ว่าฆ่าได้แต่หยามไม่ได้

ต่อมานายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ว.นครราชสีมา อภิปรายว่า ได้โอกาสอภิปรายคราวนี้หลังจากคุณสุนัยก็น่าสนใจเหมือนกัน เพราะเราได้ฟังอีกแง่มุมหนึ่งของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองก็อยากจะฟังเหมือนกัน เพราะว่าอยู่ในกรรมาธิการต่างประเทศ เราต้องไปตรวจสอบสถานการณ์ในภาคใต้ค่อนข้างจะบ่อยมาก เพราะว่า 2 ปีที่ผ่านมานี้ มีรายงานจากสถานทูตต่างๆ มีรายงานจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์กรทั้งสหประชาชาติ และองค์กรที่ร่วมทำงานกับสหประชาชาติ ที่เขาเรียกว่า Sister Organization ส่วนใหญ่มาจากองค์กรที่ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่เขียน แล้วส่งจดหมาย cc: มาถึงประธานกรรมาธิการต่างประเทศ คือตนเอง ตลอดเวลา เรื่องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคใต้ นี่เกิดขึ้นถี่ที่สุดหลังจากเหตุการณ์เดือนตุลาฯ ที่ตากใบแล้ว ขอเริ่มต้นด้วยสิ่งนี้ แล้วนำไปสู่ปัญหาภายในว่าเมื่อ 2 เดือนที่แล้วสภาของมาเลเซีย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พรรคฝ่ายค้านของเขากับพรรครัฐบาลได้ร่วมประชุมในรัฐสภาและประณามประเทศไทยอย่างรุนแรงมากในการทำให้ประชาชนเกือบ 80 คน ตายไป ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ของไทยขอตั้งคำถามว่า ข้อมูลที่เราได้มาคือว่า มีคนที่เป็นสัญชาติมาเลย์ที่ตายไปด้วย บางคนก็ใกล้ชิดกับนักการเมืองของเขาด้วย ที่อยู่ในสถานการณ์นั้นแล้วโดนจับไปและได้ตายไปด้วยขอเรียนต่อฝ่ายรัฐบาลและผู้ที่รับผิดชอบว่า น่าจะสอบสวนว่าเป็นจริงเท็จแค่ไหน ทราบว่าผู้ที่ถือสัญชาติไทยและมาเลเซียนั้นมีราว 40,000 กว่าคนจะเป็นไปได้หรือเปล่า เพราะหลายคนที่โดนจับไปในช่วงนั้น ตนเองขอพูดเรื่องเกี่ยวกับตากใบ คือว่าไม่ได้อยู่ในสถานที่ในการประท้วง แต่กำลังเดินทางไปมาหาสู่จากมาเลเซีย ตำรวจและทหารก็จับเขาจากถนน สามแยก สี่แยก แถวนั้น แล้วนำตัวมาเป็นผู้ต้องหาไปด้วยซึ่งคิดว่าเรื่องนี้อยู่ในรายงานของ 3 กรรมาธิการด้วยกัน กรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรรมาธิการต่างประเทศ และกรรมาธิการวิสามัญเรื่องความมั่นคงในภาคใต้

“ปัญหาต่างๆ ที่เราได้ฟังมา ทั้งคำตอบที่ทางคุณสุนัยได้ให้กับเราด้วย ผมขอเติมสัก 2 - 3 ปัญหา ให้เป็นรูปธรรมว่า ท่านครับการขัดแย้งโดยใช้ความรุนแรงไม่ใช่สิ่งใหม่ในประเทศไทย ไม่กี่ปีมานี้เอง หลายคนที่นั่งอยู่ในสภานี้ก็เคยจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลไทย บางคนก็เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่งสูทกันแล้ว เมื่อก่อนแต่งชุดเขียวกันและติดดาวแดง และจับอาก้า ยิงเซกาเซ่ ยิงอาก้า วางระเบิด ฝังระเบิดกันเป็นหลายคนในที่นี้ ผมนับได้สมัยคุณชวนรู้สึกว่ามีผู้ที่เคยร่วมเป็นแนวร่วมอยู่รู้สึก 24 ท่าน ตอนนี้ผมยังไมได้นับว่าไทยรักไทยมีกี่คนนะครับที่เคยเข้าป่าไป แต่อย่างไรก็ตามผมก็ตั้งคำถาม ซึ่งเป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่แล้ว ท่านจะตอบผมก็ได้ แต่ผมขอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาว่าทำไมถึงจับอาวุธ จับอาวุธก็เพราะไม่มีทางออก เพราะสังคมไม่ให้ทางออก จับอาวุธเพราะว่ามีการฆ่าฟันกัน ฆ่าฟันพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงเรา จับอาวุธเพราะว่าไม่มีความยุติธรรม จับอาวุธเพราะว่าไม่มีประชาธิปไตย ใช่ไหมครับ ผมว่าใช่นะครับ ทุกคนที่อยู่ในวุฒิสมาชิกก็จะขานรับเราว่า ที่เคยจับอาวุธมาก็เป็นเหตุผลนั้น ผมก็คิดว่าทำไมปักษ์ใต้ถึงแตกต่างกันไป” ส.ว.โคราช กล่าว

นายไกรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อมีประชาธิปไตยแล้วทำไมถึงมีการจับอาวุธต่อไป แต่ขอตั้งคำถามอีกอย่างหนึ่ง มันมีข้อสงสัยเยอะมาก คือว่าขบวนการการจับอาวุธ ผู้ก่อการร้าย คือใครขอตั้งคำถามนี้ก่อน แล้วมาในเรื่องเกี่ยวกับการแก้ปัญหาและเสนอแนะ เพราะว่ายิ่งเราตรวจสอบไปยิ่งมีคำถามมากขึ้น แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือเรื่องตากใบ ว่าคนจับไปแล้วอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ และได้ตายไปเป็นจำนวนมาก การซ้อม การหายไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร นี่ชัดเจน แต่มันมีคำถามที่ตนเองต้องการจากฝ่ายรัฐบาล อันหนึ่งก็คือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดือนมกราคม ที่มีการบุกเข้าไปในกองพันพัฒนา ดูเหมือนว่ามีกำลังที่บุกเข้าไป เป็นกำลังที่มีประสิทธิภาพ มีศักยภาพ มีแผนปฏิบัติการที่ค่อนข้างจะชัดเจน บุกเข้าไปร้อยกว่าคน สามารถที่จะกดดันยามราว 10 กว่าคนได้ โดยที่แต่ละคนที่เป็นทหารที่เฝ้าอยู่นั้นไม่สามารถที่จะเงยหน้าขึ้นมา หรือจำหน้าผู้ที่บุกเข้าไปได้สักคนเดียว 100กว่าคนบุกเข้าไป รู้ที่เก็บอาวุธ พร้อมทั้งมีเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อที่จะขโมยอาวุธไป 400 กระบอก และขนไป หายไปอย่างไม่มีร่องรอยขอเน้นนะ “หายไปอย่างไม่มีร่องรอย” และขอเน้นว่า การกระทำนี้มีศักยภาพมาก ซึ่งหลายเดือนหลังจากนั้นมามีเหตุการณ์ที่เมษาฯ กรือเซะ เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่ที่กรือเซะเพียงแห่งเดียว แต่ 11 จุดในภาคใต้ทั้งหมด ผมตั้งคำถามว่า มีการใช้อาวุธที่ไปขโมยมาหรือไม่ ไม่มี มีแต่มีด ซึ่งเราเห็น มีดบางเล่มที่เราเห็นก็เป็นมีดที่หนังสือพิมพ์แต่งขึ้นมาเอง แล้วยอมรับด้วย แต่เราเห็นว่าการใช้มีดนั้นเป็นยุทธการที่มันไม่ค่อยมีศักยภาพเท่าไรแต่ในวันนั้นเจ้าหน้าที่เสียชีวิตในราว 2 - 3 คน แต่เยาวชน 108 คน และมีการสอบสวนเพียงแค่กรือเซะเท่านั้น ไม่มีการสอบสวนในจุดอื่นๆ เลย

“ผมลงไปที่สะบ้าย้อย ไม่มีรายงาน ไม่มีพยานสักคนที่บอกว่ามีการปะทะกันระหว่างเยาวชนกับตำรวจ แต่ที่แท้จริงก็มีการฆ่าทิ้งเลย 19 คน ที่เชื่อว่าโดนจับมาเป็นชั่วโมง แล้วไม่มีการต่อสู้กันเลย ไม่มีการสอบสวนเลยว่าตายได้อย่างไร 100 กว่าคน มีการสอบสวนเฉพาะที่กรือเซะอย่างเดียว ท่านครับนี่ล่ะครับคือรูปธรรมของความอยุติธรรม ผมตั้งคำถามอีกอันว่า จริงหรือเปล่า หลังจากเหตุการณ์ที่ตากใบแล้ว มีคนโดนจับราวพันกว่าคน เราสามารถจะไปเยี่ยมได้ราว 400 กว่าคน ที่ติดอยู่ใน 3 คุกด้วยกัน ที่ปัตตานี ที่ยะลา และที่สงขลา 2 แห่ง เราไปมาเกือบทุกแห่ง และเราไปถามเขามาว่า เขามาประท้วงเรื่องอะไร ส่วนใหญ่บอกว่าไม่ได้มาประท้วง ส่วนใหญ่บอกว่ามาดูเฉยๆ ว่าอะไรเกิดขึ้น ส่วนที่มาประท้วง ผมมาทราบทีหลังว่าเขามาประท้วงเพราะเขามองว่าอาสาสมัครที่โดนตำรวจจับไปที่ตากใบนั้น มาสารภาพว่าเขากลัวผู้ก่อการร้าย เขาเลยเอาปืนมาให้ บางคนบอกว่าปืนโดนขโมยไป มาสารภาพผิด แต่โดนจับและโดนกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นศัตรูของรัฐไทย เขาตั้งคำถามกับผมว่า ทีทหารปืนหายไป 400 กระบอก ไม่มีใครโดนตรวจสอบเลยสักคน ไม่มีสักคนเลย และอีก 2 แห่ง ที่กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้โดนขโมยไป ไม่มีใครจับเลย ไม่มีการสอบสวนว่าใครผิด เขาบอกว่าความอยุติธรรมนี้มันชัดเจนยิ่งกว่าชัดเจน และมิหนำซ้ำ ผู้ที่มาประท้วงและไม่ได้ประท้วง ยังต้องเสียชีวิตไปอีก” ส.ว.โครราชกล่าว

ประธานกมธ.ต่างประเทศวุฒิสภากล่าวอีกว่า ขอเรียนว่า เพราะเหตุการณ์นี้ ซึ่งก่อนเหตุการณ์รุนแรงอีกเริ่มเป็นห่วงในภาคใต้ค่อนข้างมาก และหลายคนในสมาชิกกรรมาธิการต่างประเทศก็ต้องเดินทางไปหลายประเทศไปดูมาว่า ทำไมนักศึกษาถึงไปเรียนต่างประเทศมากนักขอเรียนสรุปแค่นี้เลยว่าตนเองไปเจอมา ไม่ใช่ประเทศปากีสถาน อินเดีย แต่ประเทศซูดานท่านประธาน 800 คน อยู่ที่นั่น ประเทศซูดานเป็นประเทศที่ล้าหลังมากขอเรียนว่าคอร์รัปชันเป็นแหล่งที่มาที่ไปที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือว่าเราไม่มีการค้าเสรีกับมาเลเซีย ท่านลองคิดดูว่า แทนที่จะไปทำเอฟทีเอกับสหรัฐอเมริกา แทนที่จะไปทำเอฟทีเอกับที่อื่น ถ้าทำเอฟทีเอกับมาเลเซีย เราควรจะพิจารณาหรือเปล่าว่ามันจะส่งผลที่ลดคอร์รัปชันในภาคใต้หรือเปล่า

ไก่เหนียวต้มยังไงให้เปื่อยเร็ว

ให้นำเนื้อไก่ใส่ตอนที่น้ำเดือด และใส่ 'ช้อนสเตนเลส' ลงไปด้วย เพราะสเตนเลสเป็นตัวนำความร้อนได้ดี ทำให้เนื้อเปื่อยเร็วขึ้น เมื่อนำลงไปต้ม ห้ามคนจนกว่าไก่จะสุก ขณะต้มก็ให้แง้มฝาหม้อเอาไว้ ไม่ปิดสนิท ต้มประมาณ 30-40.

ต้มส้มไก่ทำยังไง

ขั้นตอนการทำ.

ขั้นตอนที่ 1. ทุบตะไคร้,พริก,ข่า,หอมแดง,ใบมะกรูดให้พอแตกใส่ลงไปในหม้อที่มีนำ้เดือด.

ขั้นตอนที่ 2. ใส่ไก่ต้มจนเปื่อยนิ่มใส่เลือดไก่ตามแล้วใส่เห็ดลงไป.

ขั้นตอนที่ 3. ปรุงรสตามใจชอบ ซีอิ๊วขาว,รสดี,นำ้ปลา ชิมรส.

ขั้นตอนที่ 4. ใส่ผักชีฝรั่งซอย,ต้นหอมผักชีซอย เสร็จแล้วปิดเตาแล้วบีบมะนาวใส่ตามใจชอบ.

ต้มยําน่องไก่ ใส่อะไรบ้าง

วัตถุดิบ.

น่องไก่เล็ก 400 กรัม.

น้ำ 5 ถ้วย.

ตะไคร้หั่นเฉียง 3 ต้น.

ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ.

คนอร์ซุปก้อนต้มยำ 2 ก้อน.

เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม.

มะเขือเทศสีดาผ่าครึ่ง 6 ลูก.

พริกขี้หนูบุบพอแตก 20 เม็ด.

ต้มยำไก่น้ำข้นใส่อะไรบ้าง

ต้มยำไก่น้ำข้น.

เนื้อไก่หั่นพร้อมปรุง 200 กรัม.

ตะไคร้หั้นท่อน 5 กรัม.

ข่าหั่นแว่น 5 กรัม.

หอมแดง 3 ลูก.

พริกขี้หนู 4-5 เม็ด (เผ็ดตามใจชอบ).

ผักชีฝรั่ง 3 กรัม.

เห็ดฟางหั่น 10 กรัม.

นมข้นจืดตามชอบ.