ต นดอกขนนก ม สเเอนเดร ย จ ดเเจก น

"อาร์เอส" ไม่สืบประวัติ "นาธาน" ปัดรับผิดชอบลวงโลก ไล่ไปเคลียร์กันเอง

เผยแพร่: 26 ส.ค. 2552 21:34 โดย: MGR Online

ผู้บริหาร “อาร์เอส” เปิดใจเคลียร์ทุกข่าวฉาว เผยไม่เคยเจาะลึกสืบประวัติ “นาธาน” ก่อนรับเข้าสังกัด ยันไม่มีเอี่ยวเมคลูกครึ่งเนปาล ปัดความรับผิดชอบใครทำอะไรกับใคร ให้ไปเคลียร์กันเอง ลั่นไม่ฟันดาบแบน “มด” ไปเมาปลิ้นชุดนักศึกษา แค่เรียกตักเตือน ป้อง “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ไม่โป๊เกินงาม อ้างเป็นจุดขาย พร้อมปัดขอโทษ “ชาคริต” เพราะตรวจสอบแล้วไม่ผิด

ถือเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่กำลังตกอยู่ในภาวะฉาวสุดขีด มีภาพเชิงลบอยู่ในขณะนี้ สำหรับบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) เนื่องจากที่ผ่านมาศิลปินในสังกัดแต่ละคน มักไปสร้างเรื่องและก่อพฤติกรรมอื้อฉาว จนกลายเป็นข่าวดังมาอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงตั้งแต่ นักร้องดูโอสาว “มด คุณัชญา ชัยรัตน์” ที่มีภาพหลุดจูจุ๊บแฟนหนุ่ม “คริส คริสโตเฟอร์” ออกมาไม่พอ เธอยังไปเมาปลิ้นในชุดนักศึกษา เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเยาวชน

ส่วนอดีตเด็กในสังกัด “นาธาน โอร์มาน” ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องลวงโลกเล่นหนังฮอลลีวู้ด อีกทั้งยังเมคประวัติตัวเองให้เป็นหนุ่มลูกครึ่งเนปาล ทั้งๆ ที่พ่อแม่เป็นคนไทยแท้ปักษ์ใต้บ้านเรานี่เอง ด้านเกิร์ลกรุ๊ปสุดเซ็กซี่ “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ที่มีดีกรีความเอ็กซ์อึ๋มโป๊เรี่ยราด ก็ก่อประวัติแหวกนมโชว์ลิงสยิวกิ๊ว ดูแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศสุดๆ ในมิวสิควีดีโอ “ชอบเป็นของเธอ”

ล่าสุดที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อนคือ ภาพโปรโมตหนัง “แฟนเก่า” ของค่ายอาวองในเครืออาร์เอส ที่ทำให้พระเอก “ชาคริต แย้มนาม” ถึงกับหลั่งน้ำตา ที่ภาพโปรโมตพร้อมเนื้อหาข่าวทำให้เขาตกเป็นจำเลยสังคม ถูกมองวิตถารไปขยำนมดาราสาว “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์”

หลังจากเก็บตัวเงียบไม่ยอมออกสื่อเพื่อชี้แจงในเรื่องต่างๆ มานาน ในที่สุด “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็พร้อมออกมาเคลียร์ และเปิดใจกับสื่อมวลชนในงานแถลงข่าว “อาร์เอส ฟุตบอล แชร์ริตี้ ซูเปอร์คัพ” ที่จัดขึ้น ณ ห้างสยามเซ็นเตอร์ โดยได้เปิดประเด็นเคลียร์เรื่องประวัติของนาธานก่อนว่า ทางอาร์เอสไม่ได้ตรวจสอบเจาะลึกถึงพื้นเพ ยันไม่มีส่วนเมคประวัติ หรือเกี่ยวข้องใดๆ เนื่องจากนาธานหมดสัญญาไม่ได้เป็นเด็กในสังกัดนานแล้ว

“เรื่องสืบประวัติศิลปินที่เข้ามาอยู่ในอาร์เอส จริงๆ เราก็ให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความประพฤติ และการปฏิบัติตัวของศิลปินนั้นๆ ในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของเรา ก็อยากจะบอกว่าตอนที่นาธานยังอยู่ในการดูแลของอาร์เอส ผมเชื่อว่าในแง่ของการปฏิบัติตัวหรือความประพฤติ ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายต่ออาร์เอส เราเลยไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก แต่หลังจากที่เขาออกจากอาร์เอสไปแล้ว มันก็อยู่นอกเหนือการดูแลของอาร์เอส”

“ถามว่าได้มีการเมคประวัตินาธานหรือเปล่า เพราะช่วงนั้นลูกครึ่งกำลังมาแรง คือมันก็เป็นเทรนด์ในยุคหนึ่ง ก็ยอมรับว่ามีเทรนด์ลูกครึ่ง ยุคนี้ก็หน้าตาเกาหลีๆ หน่อย มันเป็นเรื่องธรรมดา ต้องเรียนก่อนว่าที่มาของศิลปินแต่ละคน จะมีกระบวนการหลายอย่างประกอบ ซึ่งจะมีฝ่ายแคสติ้งเป็นคนดูแล”

“เราคงให้ความสำคัญกับเรื่องตรงนี้ในระดับหนึ่ง คงไม่ถึงขนาดต้องไปสืบเสาะว่า ศิลปินแต่ละคนจริงๆ แล้วมีพื้นฐานภูมิหลังยังไง เราเน้นที่เรื่องของความสามารถ และความตั้งใจ และอย่างที่ผมเรียนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วงที่อยู่ในความดูแลของอาร์เอส เราดูที่ความประพฤติและการปฏิบัติตัวของศิลปินในช่วงเวลานั้นๆ มากกว่า”

“เรื่องของนาธานในมุมของบริษัท เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา เพราะเขาหมดสัญญาไปตั้ง 3-4 ปีแล้ว ผมมองว่าใครปฏิบัติยังไง ใครมีความประพฤติอย่างไร ใครพูดอย่างไร ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองปฏิบัติ สิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งที่ตัวเองพูด ไม่ว่าการกระทำของคนๆ หนึ่ง จะสร้างความเสียหายให้กับใคร”

“หรือว่าใครที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของคนนั้น ก็เป็นเรื่องของคนๆ นั้นที่ต้องไปจัดการ แล้วก็ไปว่ากัน ต่อไปในการคัดศิลปินเข้าสังกัด เราก็ไม่ได้ตรวจเข้มขึ้น เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องของประวัติเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น”

ลั่นยังไม่ฟันดาบแบนนักร้องดูโอสาว “มด คุณัชญา” หลังก่อพฤติกรรมฉาวทั้งภาพจูจุ๊บหนุ่ม และกินเหล้าเมามายในชุดนักศึกษา รับมีการเรียกตักเตือน แต่เข้าใจเป็นพฤติกรรมของวัยรุ่น

“ผมคิดว่าถ้าศิลปินวัยรุ่น มีความประพฤติแบบวัยรุ่น บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่รับได้ แต่ถ้าเรื่องไหนที่ทำอะไรแล้วดูเกินเลยไป เราก็มีการว่ากล่าวตักเตือน และมีกระบวนการที่จะดูแล หรือปกครองกันเป็นเคสๆ ไป สำหรับมดเราก็มีการเรียกน้องเข้ามาคุยในหลาย ๆเรื่อง เขาก็เข้าใจ แล้วมีความพยายามที่จะปรับปรุงตัว”

“ที่น้องไม่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ผมต้องเรียนว่าในแง่ของการทำงาน ถ้ามดยังทำงานอยู่กับโฟร์ (ศกลรัตน์ วรอุไร) ยังไงก็ต้องทำงาน คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำงานนั้นหรือไม่ทำงานนี้ มันเป็นไปไม่ได้ แต่ในบางช่วงเวลาที่เด็กเอง ยังไม่มีความสบายใจหรือยังไม่พร้อมที่จะเจอสื่อ มันก็เป็นไปได้ บางช่วงเวลาเราก็เบรกๆ เขาไว้บ้าง ส่วนเรื่องแบนเขายังไม่รู้ (หัวเราะ) มันต้องดูเป็นกรณีๆ ไป ยังไม่เกิดพูดไม่ได้ ต้องดูไปก่อน มันคงบอกไม่ได้ว่าจะให้ลิมิตเขาได้แค่ไหน เมื่อไหร่”

“ปกติศิลปินแต่ละคนจะมีพี่เลี้ยงคอยดูแล เขาจะมีผู้จัดการส่วนตัวของแต่ละคนอยู่แล้ว แต่เรื่องศิลปินมีแฟนหรือมีเพื่อน มันเป็นเรื่องปกติ เราไม่ได้ซีเรียส มันหมดยุคห้ามเพราะกลัวเรตติ้งตกไปนานแล้ ว ผมว่าตอนนี้สังคมยอมรับได้ เพราะศิลปินก็เป็นคนสามัญ ไม่ใช่เฉพาะแค่อาร์เอสเท่านั้นนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ก็อยากให้ทุกคนมองที่ความประพฤติมากกว่า การมีแฟนหรือการมีคนพิเศษ มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อยู่ที่ว่าจะประพฤติตนอย่างไร คบกันอย่างไรมากกว่า”

ส่วนกรณีที่วง “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องมิวสิควีดีโอที่ส่อเซ็กส์ รวมทั้งยังแต่งตัวโป๊เกินงาม ผู้บริหารอาร์เอสกลับสวนทางมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ความเซ็กซี่คือจุดขายของวงนี้อยู่แล้ว

“มันเป็นเรื่องธรรมดา

เท่าที่ตามองกรณีเกิร์ลลี่เบอร์รี่ ภาพเขาชัด คนที่ตามงานเกิร์ลลี่เบอร์รี่เขาชัด และนี่ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งของเกิร์ลลี่เบอร์รี่ และทางเกิร์ลลี่เบอร์รี่เองก็อยู่ในบทของเกิร์ลลี่เบอร์รี่ มันอยู่ในคาแรคเตอร์ของเขา แต่ในขณะเดียวกันเกิร์ลลี่เบอร์รี่ ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ตลอด 24 ชั่วโมง เขาก็ทำงานให้สังคม แต่งชุดไทยก็เคยมาแล้ว”

“การที่ให้เขาแต่งตัวโป๊มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการโปรโมต มันเป็นเรื่องปกติ คือตอนนี้สื่อมันเปิดกว้างมาก ผมว่าก็ดีอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้ศิลปินต้องระมัดระวังตัว ต่อไปนี้ศิลปินในเมืองไทยต้องระมัดระวัง ในเรื่องของความประพฤติ ต้องรอบคอบ เพราะสื่อจับจ้องอยู่”

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิร์ลลี่เบอร์รี่โดน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของเกิร์ลลี่เบอร์รี่มีมาแทบจะทุกชุด ผมว่าตอนนี้เขามีภูมิคุ้มกันแล้ว น้องๆ 4 คนเขาเข้าใจ เขารู้ว่าอยู่ตรงไหน จุดขายของเขาคืออะไร จุดสำคัญของเขาคืออะไร อะไรคือบทบาทหน้าที่ อะไรคือบทบาทที่ต้องแสดง อะไรคือชีวิตจริง ผมว่าเกิร์ลลี่เบอร์รี่เข้าใจดี”

ปัด “เกิร์ลลี่เบอร์รี่” เตรียมย้ายสังกัด ตามคำชวนของ “ฟ้าใหม่” ซึ่งเป็นลูกชายของผู้บริหารแกรมมี่ฯ ฟุ้งยังเหลือสัญญาอีกยาว อีกทั้ง 4 สาวเองยังแฮปปี้ที่ได้อยู่ค่ายตน

“เรื่องย้ายค่ายไม่มีทางหรอก(หัวเราะ) มีที่ไหน ไม่มีๆ เขาเป็นเพื่อนกัน เกิร์ลลี่เบอร์รี่ก็บอกแล้วว่าเขาไปนั่งกินข้าวกัน เพียงแต่มันเป็นประเด็น เขายังไม่ไปไหนเพราะสัญญายังเหลืออีกยาวมาก ต้องบอกว่าเกิร์ลลี่เบอร์รี่เป็นศิลปินที่เราภูมิใจ และเขาเองก็แฮปปี้กับอาร์เอส ดังนั้นเลิกคิดไปได้เลยที่เกิร์ลลี่เบอร์รี่จะย้ายสังกัด”

สำหรับประเด็นของหนัง “แฟนเก่า” ผู้บริหารค่ายเพลงดังลั่นไม่จำเป็นต้องขอโทษ “ชาคริต” เนื่องจากตรวจสอบแล้วไม่ใช่ความผิดของบริษัท

“เรื่องนี้เราเข้าใจความรู้สึกและอารมณ์ของชาคริต แต่ ณ วันนี้ยืนยันได้ว่า เราไปตรวจสอบมาแล้ว อาร์เอสไม่มีการกุข่าวในลักษณะนี้ และยังยืนยันว่าเราทำงานแบบมืออาชีพ ทีมงานพีอาร์อาร์เอสเอง ทำงานอย่างมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน และมีสเต็ปตรงนี้ตรวจสอบได้”

“ส่วนเรื่องที่ว่าจะไปขยายผลอย่างไร ทำให้ไปกระทบกระเทือนความรู้สึกของชาคริตอย่างไร เราก็เข้าใจและเห็นใจ แต่ผมว่าเรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และไม่สามารถควบคุมได้ ก็ต้องไปแก้ปัญหากันเป็นช็อตๆ ไป มันเป็นเรื่องที่ทีมงานต้องไปคุยกัน”

“ในเมื่อเราไม่มีความผิด ก็ไม่ต้องไปขอโทษชาคริต คืออย่างที่เรียนว่าวันนี้ไม่มีคนผิด เคสนี้ไม่มีคนผิด ถ้ามีความผิดก็ต้องขอโทษ แต่นี่ไม่มีความผิด ทางเราตรวจสอบแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษ แต่เราเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของชาคริต ต้องเรียนว่าชาคริตทำงานกับภาพยนตร์ของอาวอง ในเรื่องนี้เขาก็ทำงานด้วยดี และเขาเองก็เป็นนักแสดงมืออาชีพ มีความสามารถ ก็อยากให้ดูกันที่เนื้องาน”

“และภาพที่เอามาใช้ในการพีอาร์ทุกภาพ เป็นภาพมาจากภาพยนตร์ ไม่ใช่เป็นภาพเบื้องหลังเลย ส่วนที่จะมีการขยายผลตรงนี้ต้องเรียนว่า สื่อตอนนี้เป็นโลกที่ไม่มีพรมแดน มันขยายผลไปได้เยอะ ดังนั้นเราก็ยังคงทำงานกันเป็นปกติ คงไม่ต้องมีมาตรการมาดูแลอะไรมากขึ้น เพราะอย่างที่เรียนกว่าในแง่ของพีอาร์ภาพยนตร์ เราได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีความบกพร่องเกิดขึ้น”