ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา

  • กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา

    กลุ่มไลน์ข่าวการศึกษา

    วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ขอนำเสนอ แบ่งปัน ตัวอย่าง แผนการจัดการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง 8 ตัวชี้วัด บันทึกหลังสอน ที่สอดคล้อง 8 ตัวชี้วัด ด้านที่ 1 ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน โดย ครูเจ นายนจรส ศิริขรรแสง รร.วัดปรังกาสี เจ้าของเพจ Teacher Jay คุณครูที่สนใจสามารถเข้าดาวน์โหลดเอกสารได้ฟรี จากลิ้งก์ที่แนบมาในบทความได้เลยนะคะ

    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา
    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา

    ดาวน์โหลด ตัวอย่าง แผนการจัดการเรียนรู้ ที่สอดคล้อง 8 ตัวชี้วัด บันทึกหลังสอน

    ดาวน์โหลดไฟล์ที่นี่

    ขอบคุณที่มา Teacher Jay

    คือ การสรุปและแสดงผลของการนำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ว่าสามารถจัดกิจกรรมได้บรรลุผลตามเป้าหมายการเรียนรู้ ในด้านความรู้ (K) ด้านทักษะ (P) และด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์(A)หรือไม่ มีปัญหาและอุปสรรคใดบ้างที่ต้องแก้ไข บันทึกหลังการสอน แผนการสอนสังคมศึกษา ชั้น ป.6 ภาคเรียนที่ 1/2565

    บันทึกหลังการสอน แผนการสอนสังคมศึกษา ชั้น ป.6 ภาคเรียนที่ 1/2565 โดยนายพันชัย ประสมเพชร ตำแหน่ง ครู (ไม่มีวิทยฐานะ) โรงเรียนโนนสูงโนนโฮมวิทยา

    View Text Version Category : 0

    ตัวอย่าง บันทึก หลัง การ สอน วิชา สังคมศึกษา

    ศราวุธ ประสมศรี Download

    • Publications :0
    • Followers :0

    บันทึกหลังการสอนวิชาสังคมศึกษาภาคเรียนที่ 2 2562

    บันทึกหลังการสอนวิชาสังคมศึกษาภาคเรียนที่ 2 2562

    Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!

    Create your own flipbook

    View Text Version Likes : 0 Category : All Report

    • Follow
    • Upload
    • 0
    • Embed
    • Share

    บันทึกหลังการสอนวิชาสังคมศึกษาภาคเรียนที่ 2 2562

    ส 31101 สังคมศึกษำ 1 คำอธบิ ำยรำยวิชำ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 4 ภำคเรียนท่ี 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศึกษำฯ เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ 1) คำอธบิ ำยรำยวิชำสำระ ภมู ศิ ำสตร์ ศกึ ษา ใชแ้ ผนทีแ่ ละเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรปุ ขอ้ มูลตามกระบวนการ ทางภมู ิศาสตร์ และนาภมู ิสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของพ้ืนที่ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ลักษณะทางกายภาพซึ่งทาให้เกิดปัญหาหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ และปฏิสมั พนั ธร์ ะหว่างส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับกจิ กรรมของมนษุ ย์ในการสรา้ งสรรค์วิถีการดาเนินชีวิตของ ท้องถน่ิ ท้ังในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ความสาคัญของส่งิ แวดลอ้ มที่มีผลต่อการดาเนินชวี ิตของ มนุษย์ สถานการณ์ สาเหตุ และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงด้านทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของ ประเทศไทยและภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก รหสั ตัวชีว้ ัด ส 5.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/3 2) คำอธิบำยรำยวิชำสำระ พระพุทธศำสนำ ศึกษา วิเคราะห์ ลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนามีทฤษฎแี ละวิธีการท่ีเป็นสากลและมีข้อปฏิบัติท่ียดึ สายกลาง การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ ถกู ตอ้ งในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าในฐานะเปน็ มนุษย์ผูฝ้ ึกตนไดอ้ ย่างสงู สุดในการตรัสรู้ การก่อต้ัง วธิ ีการ สอนและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พุทธประวัตดิ ้านการบริหารและการธารงรกั ษาศาสนา ขอ้ ปฏิบตั ิทางสาย กลางในพระพุทธศาสนาหรือแนวคิดของศาสนาท่ีตนนับถือ การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้องลักษณะ ประชาธปิ ไตยในพระพุทธศาสนา หลักการของพระพทุ ธศาสนากบั หลักวิทยาศาสตร์ การคิดตามนยั และการคิด แบบวิทยาศาสตร์ การฝกึ ฝนและพัฒนาตนเอง การพง่ึ ตนเอง และการมงุ่ อิสรภาพ พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์ แหง่ การศึกษาซึ่งเน้นความสัมพันธข์ องเหตปุ ัจจัยกบั วิธีการแกป้ ัญหา การฝกึ ตนไมใ่ หป้ ระมาท มงุ่ ประโยชน์สุข และสันติภาพแก่บุคคล สังคมและโลก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาประเทศแบบย่ังยืน การศึกษาที่สมบูรณ์ การเมือง และสันติภาพ ข้อคิดและแบบอย่างการดาเนินชีวิตจากประวัติพุทธสาวก พุทธ สาวิกา พุทธศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ชาดก (เวสสันดรชาดก มโหสถชาดก มหาชนกชาดก) รหสั ตวั ชี้วัด ส 1.1 ม. 4-6/1, ม. 4-6/2,ม. 4-6/3,ม. 4-6/4,ม. 4-6/5,ม. 4-6/6,ม. 4-6/7,ม. 4-6/8 ม. 4-6/9,ม. 4-6/10,ม. 4-6/11,ม. 4-6/12,ม. 4-6/14

    โครงสร้ำงรำยวิชำสงั คมศึกษำ (พืน้ ฐำน) ชน้ั ม.4 ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 1.1 สำระภูมิศำสตร์ ลำดับ ชือ่ หนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน มโนทัศนส์ ำคญั เวลำ นำ้ หนกั ท่ี กำรเรยี นรู้ (ชม.) คะแนน /ตัวช้ีวัด 1 เครอ่ื งมือทาง ส 5.1 - การใช้แผนที่และ 5 11 ภมู ิศาสตร์ ม.4-6/3 เครือ่ งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ตาม กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ จะชว่ ยให้สามารถนาภมู ิ สารสนเทศท่ีได้มาใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ 2 การเปลย่ี นแปลงทาง ส 5.1 - ปัจจยั ทางภูมิศาสตรท์ ่ีมี 15 26 กายภาพของโลก ม.4-6/1 อทิ ธพิ ลต่อการเปลีย่ นแปลง ทางกายภาพในประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึง่ สง่ ผลต่อภูมปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ รวม 20 37

    โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรยี หนว่ ยกำร แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ วิธีสอน/วิธีกำรจดั กำร ควำม เรียนรู้ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 1. เครื่องมือ แผนท่ี 1 เครื่องมอื ทาง กระบวนการทาง 1. ความเข้าใจ ภูมศิ าสตร์ และมนษุ ย์ ทางภมู ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) 2. การใหเ้ หตุผ แผนที่ 2 เทคโนโลยภี มู ิ- ภมู ิศาสตร์ สารสนเทศ 3. การตัดสนิ ใจ ระบบ

    ยนรู้สำระ ภูมศิ ำสตร์ ชนั้ ม.4 กำรรูเ้ รื่องภมู ศิ ำสตร์ (Geo-Literacy) เวลำ (ช่ัวโมง) มสำมำรถ กระบวนกำร ทกั ษะ 3 จระบบธรรมชาติ 1. การตง้ั คาถามเชงิ 1. การสังเกต ผลทาง ภูมิศาสตร์ 2. การแปลความข้อมลู 2 จอย่างเปน็ ทางภูมิศาสตร์ 2. การรวบรวมขอ้ มลู 3. การใช้เทคนคิ และ 3. การจัดการขอ้ มูล เครอื่ งมอื 4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู 5. การสรปุ เพ่อื ตอบ ทางภูมิศาสตร์ 4. การคิดเชิงพื้นท่ี คาถาม 5. การใชเ้ ทคโนโลยี 6. การใชส้ ถิตพิ ื้นฐาน

    หน่วยกำร แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ วิธีสอน/วธิ ีกำรจัดกำร ควำม เรยี นรู้ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 2. การ แผนท่ี 1 ธรณภี าค กระบวนการทาง 1. การใหเ้ หตุผ เปล่ยี นแปลง ภมู ิศาสตร์ แผนท่ี 2 บรรยากาศภาค ภมู ศิ าสตร์ ทาง (Geographic Inquiry 2. การตัดสินใจ กายภาพ แผนท่ี 3 อทุ กภาค ระบบ Process) ของโลก แผนที่ 4 ชีวภาค แผนท่ี 5 การ เปลยี่ นแปลงทาง กายภาพท่สี ง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ

    กำรร้เู ร่อื งภมู ศิ ำสตร์ (Geo-Literacy) เวลำ (ชั่วโมง) มสำมำรถ กระบวนกำร ทกั ษะ 3 ผลทาง 1. การต้งั คาถามเชิง 1. การแปลความขอ้ มูล 3 จอย่างเปน็ ภูมิศาสตร์ ทางภมู ิศาสตร์ 3 2. การคดิ เชิงพื้นที่ 3 2. การรวบรวมข้อมลู 3. การจัดการขอ้ มูล 3 4. การวิเคราะหข์ อ้ มลู 5. การสรปุ เพอ่ื ตอบ คาถาม 20

    1.2 สำระพระพทุ ธศำสนำ ลำดับ ชื่อหนว่ ยกำรเรียน มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ น้ำหนกั ท่ี เรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน 1 ประวตั แิ ละ ส 1.1 สงั คมชมพทู วปี และคติความเช่ือทาง 7 12 ความสาคญั ของ ม.4-6/1 ม.4- ศาสนาสมัยกอ่ น พระพุทธเจ้ามคี ติความ พระพทุ ธศาสนา 6/4 เชือ่ ทางศาสนาแตกต่างกับ ม.4-6/5 ม.4- พระพุทธศาสนาซ่งึ มี 6/6 ทฤษฎีและวิธีการท่เี ป็นสากล มีขอ้ ม.4-6/7 ม.4-6/8 ปฏบิ ตั ิท่ียึดทางสายกลาง และเน้นการ ม.4-6/9 ม.4- พฒั นาศรทั ธาและปัญญาท่ีถูกต้อง 6/10 ม.4-6/11 ม.4- 6/12 2 พทุ ธประวัติ ส 1.1 พระพุทธเจ้า เป็นผู้ฝกึ ตนได้อย่าง 7 11 และชาดก ม.4-6/2 สูงสดุ ในการตรสั รู้ การกอ่ ตัง้ วิธกี าร ม.4-6/3 สอนและการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา ม.4-6/14 การศกึ ษา พทุ ธประวัติ ชาดก เร่ือง เล่า จะไดข้ ้อคดิ เพ่ือนาไปใช้เป็น แบบอย่างในการดาเนนิ ชวี ิต 3 วนั สาคัญทาง ส 1.2 พทุ ธศาสนกิ ชนทกุ คนพงึ ปฏิบัติตน 6 10 พระพทุ ธศาสนา ม.4-6/2 อย่างถูกตอ้ งในศาสนพธิ ี พิธกี รรม 20 40 และศาสนพิธี ม.4-6/4 วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา และ แสดงตนเป็นพุทธมามกะ ซงึ่ ถือเปน็ การธารงรักษาพระพทุ ธศาสนา รวม

    โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรียนร หนว่ ยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจดั วธิ กำรเรียนรู้ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 1. ลกั ษณะของสงั คมชมพูทวีปและคติ 1. วธิ ีสอนโดย ประวตั แิ ละ ความเชอ่ื ทางศาสนาสมยั กอ่ น วเิ คราะห์ ความสาคญั ของ พระพุทธเจา้ พระพุทธศาสนา 2. วิธีสอนโดย 2. พระพุทธศาสนามที ฤษฎแี ละวิธกี าร กลุ่ม ท่ีเป็นสากลและมขี อ้ ปฏิบัติที่ยึดทาง สายกลาง หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 2 1. พทุ ธประวัติ 1. วธิ ีสอนโดย พุทธประวตั แิ ละชาดก วเิ คราะห์ 2. ชาดก 2. วธิ ีสอนโดย กลุ่ม

    รู้สำระ พระพุทธศำสนำ ช้ัน ม.4 ธสี อน / กระบวนกำรจัด ทกั ษะกำรคิด เวลำ กำรเรียนรู้ (ช่ัวโมง) ยเน้นกระบวนการ : กระบวนการคิด 1. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ 4 2. ทกั ษะการคิดอยา่ งมี 3 วิจารณญาณ ยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการ 3. ทักษะการคิดวเิ คราะห์ ยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคดิ 1. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 4 2. ทักษะการคดิ อยา่ งมี 3 วจิ ารณญาณ ยเน้นกระบวนการ : กระบวนการ 3. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

    หนว่ ยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจัด วธิ กำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ 3 1. วันสาคญั ทางพระพุทธศาสนา 1. วิธสี อนโดย วนั สาคัญทาง เทคนคิ การตอ่ พระพุทธศาสนา 2. ศาสนพธิ ี และศาสนพิธี 2. วิธสี อนโดย เทคนิคการจัด 3. วธิ สี อนโดย เทคนิคคู่คดิ รวม

    ธีสอน / กระบวนกำรจดั ทกั ษะกำรคิด เวลำ กำรเรียนรู้ (ชวั่ โมง) 1. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : 2. ทกั ษะการคิดอย่างมี 3 อเรื่องราว (Jigsaw) วิจารณญาณ 3 ยการจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : 3. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ ดทีมแขง่ ขัน ยการจัดการเรยี นรแู้ บบร่วมมือ : 20

    กำหนดกำรสอน รำยวชิ ำ สังคมศึกษำ (พ้นื ฐำน) รหสั วิชำ ส31101 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 เวลำ 40 ชั่วโมง/ภำคเรยี น จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภำคเรยี น 1 ปีกำรศึกษำ 2564 สัปดำห์ เนือ้ หำ/สำระทีส่ อน จำนวน คะแนน ภำระงำน/ วิธีกำรประเมิน หมำย ท่ี ชั่วโมง ชน้ิ งำน เหตุ สำระภูมศิ ำสตร์ 1-2 หนว่ ยที่ 1 เคร่อื งมอื ทำงภมู ิศำสตร์ 3 6 - แบบทดสอบ - ประเมนิ เคร่ืองมอื ทำงภูมิศำสตร์ - ใบงาน แบบทดสอบ - ความสาคัญและประโยชน์ของ - แบบประเมิน เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ ชิน้ งาน ประเภทต่าง ๆ - วิธกี ารใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ในการสืบค้นขอ้ มูลอนั เป็น ประโยชนต์ อ่ การใชช้ ีวติ ประจาวัน 3 เทคโนโลยภี ูมิสำรสนเทศ 2 5 - ใบงาน - แบบประเมนิ - ความสาคัญและประโยชนข์ อง ชนิ้ งาน เทคโนโลยภี มู ิสารสนเทศ ประเภทต่าง ๆ - วธิ ีการใชเ้ ทคโนโลยภี มู สิ ารสนเทศ เพอื่ ประโยชน์ต่อการใช้ ชีวิตประจาวัน 4-5 หนว่ ยที่ 2 กำรเปล่ียนแปลงทำง 3 5 - แบบทดสอบ - ประเมิน กำยภำพของโลก - ใบงาน แบบทดสอบ ธรณีภำค - แบบประเมนิ - อิทธพิ ลของปัจจัยทางภูมศิ าสตรท์ ี่ ชน้ิ งาน ส่งผลต่อโครงสร้างและกระบวนการ เปล่ียนแปลงทางกายภาพดา้ นธรณี ภาคของพน้ื ทใ่ี นประเทศไทยและ ภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก 6 บรรยำกำศภำค 3 5 - ใบงาน - แบบประเมิน - ช้ันบรรยากาศและองคป์ ระกอบ ชนิ้ งาน สาคญั ของชั้นบรรยากาศของโลก

    - อทิ ธิพลของปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ที่ สง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงทาง กายภาพด้านบรรยากาศภาคของ พื้นที่ในประเทศไทยและภูมิภาค ตา่ ง ๆ ของโลก 7 อุทกภำค 3 5 - ใบงาน - แบบประเมนิ 5 - ใบงาน ช้ินงาน - วฏั จกั รทางอทุ กวทิ ยาและ 6 - ใบงาน - แบบประเมิน ผลกระทบท่เี กดิ จากน้าใน ช้ินงาน มหาสมทุ ร - แบบประเมนิ ชน้ิ งาน - อิทธิพลของปัจจัยทางภมู ศิ าสตร์ที่ ส่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงทาง กายภาพด้านอทุ กภาคของพ้นื ท่ี ในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก 8 ชีวภำค 3 - ระบบนเิ วศและลักษณะการ เปลี่ยนแปลงทางชีวภาคของ แต่ละพ้นื ท่ี - อิทธิพลของปัจจัยทางภูมศิ าสตรท์ ่ี สง่ ผลต่อการเปลยี่ นแปลงทาง กายภาพด้านชวี ภาคของพนื้ ที่ใน ประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของ โลก 9 กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพที่สง่ ผล 3 ตอ่ ภูมปิ ระเทศ ภมู ิอำกำศ และ ทรัพยำกรธรรมชำติ - ระบบนิเวศและลักษณะการ เปล่ียนแปลงทางชวี ภาคของ แต่ละพื้นท่ี - อิทธิพลของปจั จยั ทางภูมศิ าสตร์ท่ี ส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงทาง กายภาพด้านชีวภาคของพน้ื ทใี่ น

    ประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของ 10 - แบบทดสอบ - ประเมิน โลก กลางภาค แบบทดสอบ 1. โครงสรา้ งประชากรโลก 4 6 - แบบทดสอบ - ประเมนิ และประชากรไทย 2.ปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดล้อม 3 - ใบงาน แบบทดสอบ 4 ทางกายภาพกบั กิจกรรมของ 3 - แบบประเมนิ มนษุ ย์ทก่ี อ่ ใหเ้ กิดการกระจาย 3 และความหนาแนน่ ของประชากร 3 ช้นิ งาน 10 สอบกลางภาค 40 6 - ใบงาน - แบบประเมิน สำระพระพุทธศำสนำ ชิ้นงาน 11-12 หน่วยท่ี 1 ประวตั ิและควำมสำคัญ 6 - ใบงาน - แบบประเมนิ ของพระพุทธศำสนำ 5 - ใบงาน ชิ้นงาน - ลกั ษณะของสงั คมชมพูทวีปและคติ 5 - ใบงาน ความเชอื่ ทางศาสนาสมยั กอ่ น - แบบประเมนิ พระพุทธเจา้ ช้นิ งาน 13 - พระพทุ ธศาสนามีทฤษฎีและวธิ กี ารที่ เปน็ สากลและมขี อ้ ปฏบิ ัติที่ยึดทางสาย - แบบประเมนิ กลาง ชิน้ งาน 14-15 หน่วยท่ี 2 พุทธประวตั ิและชำดก - พุทธประวัติ 5 - ใบงาน - แบบประเมิน 16 - ชาดก ช้ินงาน 17 หน่วยที่ 3 วนั สำคัญทำง 20 - แบบทดสอบ - ประเมิน พระพทุ ธศำสนำและศำสนพธิ ี ปลายภาค แบบทดสอบ - วนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา 100 18 - ศาสนพิธี 19 ทบทวนความรู้/แนวข้อสอบ 20 สอบปลายภาค รวม

    บนั ทกึ หลังกำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนที่ 1 เรอื่ ง เครอื่ งมอื ทำงภูมิศำสตร์ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอื้ หา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสอื่ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กิดข้นึ กับผู้เรยี น 1) นักเรียนอธบิ ายความสาคัญและประโยชนข์ องเครอ่ื งมือทางภูมิศาสตรป์ ระเภทต่าง ๆ ได้ 2) เลือกใช้เคร่อื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ในการสืบค้นข้อมลู อนั เปน็ ประโยชน์ต่อการใชช้ ีวติ ประจาวัน 3) เห็นคุณคา่ ของการศกึ ษาเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์เพ่ือการใช้ประโยชนใ์ นชีวติ เพ่ิมมากขึน้ 2. ปัญหำและอุปสรรค นกั เรียนยังขาดความกระตอื รือรน้ สนใจในการเรียน 3. แนวทำงแก้ปญั หำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นกั เรียนไดม้ สี ่วนร่วมมากข้ึน ลงช่ือ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยุทธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอ่ื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กีตา) ผอู้ านวยการโรงเรียน

    บันทกึ หลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนที่ 2 เรือ่ ง เทคโนโลยีภูมิสำรสนเทศ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเน้อื หา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสอ่ื ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อืน่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทเ่ี กิดข้ึนกบั ผ้เู รยี น 1) นกั เรียนอธิบายความสาคญั และประโยชน์ของเทคโนโลยภี ูมสิ ารสนเทศได้ 2) ประยุกต์ความร้เู ก่ียวกบั เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาใช้ในชีวิตประจาวันได้ 3) เห็นคุณค่าของการศึกษาเทคโนโลยีภมู ิสารสนเทศเพอ่ื การใช้ประโยชนใ์ นชีวติ เพม่ิ มากข้ึน 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรยี นบางสว่ นยงั ขาดความสนใจในการเรียน และยงั ไม่คอ่ ยใฝ่เรยี นรู้ 3. แนวทำงแกป้ ญั หำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นกั เรียนได้มีสว่ นร่วมมากข้ึน ลงชือ่ ……….........………….......….…..……. ผูส้ อน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชื่อ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผ้อู านวยการโรงเรียน

    บนั ทึกหลงั กำรจดั กำรเรยี นรู้ แผนท่ี 3 เรอ่ื ง ธรณภี ำค ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของส่อื ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อนื่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่ีเกดิ ข้นึ กบั ผเู้ รียน นกั เรยี นวเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณีภาคของพน้ื ทใ่ี นประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ได้ นักเรียนเลือกใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการศึกษา การเปล่ียนแปลงทางกายภาพด้านธรณีภาคของพ้ืนที่ในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รับ อทิ ธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ได้ 2. ปัญหำและอุปสรรค นักเรียนยงั ขาดความกระตอื รอื รน้ สนใจในการเรยี น 3. แนวทำงแกป้ ญั หำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ใหน้ กั เรยี นได้มีส่วนรว่ มมากขึ้น ลงช่อื ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่ือ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผอู้ านวยการโรงเรยี น

    บันทกึ หลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนที่ 4 เรื่อง บรรยำกำศภำค ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสือ่ ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. อืน่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่ีเกิดข้ึนกับผเู้ รยี น นักเรียนสามารถอธิบายช้ันบรรยากาศและบอกองค์ประกอบสาคัญของช้ันบรรยากาศของโลกได้ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงทางกายภาพด้านบรรยากาศภาคของพ้ืนท่ีในประเทศไทยและภูมิภาค ต่าง ๆ ของโลก ซง่ึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ได้ 2. ปญั หำและอุปสรรค นักเรยี นบางสว่ นยงั ขาดความสนใจในการเรียน และยังไม่ค่อยใฝ่เรียนรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ใหน้ กั เรยี นได้มีสว่ นรว่ มมากขนึ้ ลงชื่อ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่ือ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผู้อานวยการโรงเรียน

    บันทึกหลงั กำรจัดกำรเรียนรู้ แผนท่ี 5 เรอื่ ง อทุ กภำค ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเนือ้ หา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของส่ือ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ กับผู้เรยี น นักเรียนสามารถอธิบายวัฏจักรทางอุทกวิทยา และผลกระทบที่เกิดจากน้าในมหาสมุทรได้ เลือกใช้ เคร่ืองมือทางภูมิศาสตรใ์ นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้านอุทกภาคของพน้ื ที่ในประเทศไทยและ ภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รับอทิ ธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ได้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรยี นบางส่วนยังขาดความสนใจในการเรยี น และยงั ไม่ค่อยใฝเ่ รียนรู้ 3. แนวทำงแกป้ ญั หำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นกั เรยี นได้มสี ว่ นร่วมมากขนึ้ ลงช่อื ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่อื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กตี า) ผู้อานวยการโรงเรียน

    บนั ทกึ หลังกำรจดั กำรเรียนรู้ แผนท่ี 6 เรื่อง ชวี ภำค ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสอ่ื ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. อนื่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทีเ่ กิดขึ้นกบั ผเู้ รียน นักเรียนสามารถอธิบายระบบนิเวศและลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาคของแต่ละพื้นที่ได้ เลือกใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้านชวี ภาคของพื้นที่ในประเทศไทย และภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึง่ ไดร้ บั อิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตรไ์ ด้ 2. ปัญหำและอุปสรรค นกั เรยี นทากิจกรรมกลมุ่ ไมท่ ันตามเวลาที่กาหนด เน่อื งจากนกั เรยี นเข้าชั้นเรียนช้าเกนิ กว่ากาหนด 3. แนวทำงแก้ปญั หำ/ข้อเสนอแนะ กาหนดเวลาในการเขา้ ชัน้ เรียน โดยมีการใหค้ ะแนนจติ พิสยั ใหก้ บั นกั เรียนท่ีเขา้ ชั้นเรยี นตรงตอ่ เวลา ลงชอ่ื ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอ่ื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กตี า) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

    บันทกึ หลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนท่ี 7 เรือ่ ง กำรเปล่ียนแปลงทำงกำยภำพที่สง่ ผลต่อภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ำกำศ และทรพั ยำกรธรรมชำติ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของส่ือ ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลที่เกิดขึ้นกบั ผเู้ รียน นักเรียนสนใจศึกษาการเปล่ียนแปลงทางกายภาพท่ีส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติของพ้ืนท่ีในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทาง ภมู ิศาสตร์เพม่ิ มากขึ้น 2. ปัญหำและอปุ สรรค นักเรยี นบางสว่ นยงั ขาดความสนใจในการเรียน และยงั ไมค่ อ่ ยใฝเ่ รียนรู้ 3. แนวทำงแก้ปญั หำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรียนไดม้ สี ว่ นร่วมมากข้นึ ลงชือ่ ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชือ่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กีตา) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

    บนั ทึกหลงั กำรจดั กำรเรียนรู้ แผนท่ี 8 เรื่อง ลกั ษณะของสังคมชมพูทวปี และคตคิ วำมเชื่อทำงศำสนำสมยั กอ่ นพระพุทธเจำ้ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสือ่ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทเี่ กดิ ขึ้นกบั ผเู้ รยี น นักเรียนสามารถบอกลักษณะของสังคมชมพูทวีปสมัยก่อนพระพุทธเจ้าได้ และอธิบายคติความเชื่อ ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพทุ ธเจา้ ได้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรียนทากิจกรรมกลมุ่ ไมท่ นั ตามเวลาทก่ี าหนด เน่ืองจากนกั เรียนเขา้ ชั้นเรยี นชา้ เกนิ กวา่ กาหนด 3. แนวทำงแกป้ ญั หำ/ข้อเสนอแนะ กาหนดเวลาในการเข้าชน้ั เรยี น โดยมีการให้คะแนนจติ พิสยั ให้กบั นกั เรยี นทีเ่ ขา้ ช้ันเรียนตรงต่อเวลา ลงชอ่ื ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยทุ ธ์ อ่อนนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอ่ื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

    บันทึกหลงั กำรจดั กำรเรียนรู้ แผนที่ 9 เรื่อง พระพทุ ธศำสนำมีทฤษฎแี ละวธิ ีกำรทเี่ ป็นสำกลและมขี ้อปฏบิ ตั ทิ ีย่ ึดทำงสำยกลำง ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอื้ หา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสือ่ ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. อืน่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กดิ ข้นึ กับผู้เรยี น นักเรียนสามารถอธิบายทฤษฎีและวิธีการท่ีเป็นสากลรวมท้ังมีข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลางของ พระพุทธศาสนา ปฏิบัติตนตามหลักทฤษฎีและวิธีการตลอดจนข้อปฏิบัติที่ยึดทางสายกลางของ พระพุทธศาสนาไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. ปัญหำและอุปสรรค นักเรียนทากิจกรรมกลุ่มไม่ทนั ตามเวลาท่ีกาหนด เนอ่ื งจากนกั เรียนเข้าชัน้ เรยี นชา้ เกนิ กวา่ กาหนด 3. แนวทำงแก้ปัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ กาหนดเวลาในการเขา้ ชนั้ เรยี น โดยมกี ารใหค้ ะแนนจิตพสิ ยั ใหก้ บั นกั เรียนทเี่ ข้าชัน้ เรยี นตรงตอ่ เวลา ลงช่ือ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่อื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผู้อานวยการโรงเรียน

    บันทกึ หลังกำรจัดกำรเรียนรู้ แผนท่ี 10 เร่ือง พทุ ธประวัติ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอ้ื หา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อ่ืนๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทเ่ี กิดข้ึนกับผเู้ รยี น นักเรียนสามารถอธิบายอธิบายการตรัสรู้และการก่อตั้งพระพุทธศาสนาได้ วิเคราะห์พระพุทธเจ้าใน ฐานะเป็นมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสุด อธิบายวิธีการสอนของพระพุทธเจ้าได้ อธิบายการเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนาตามแนวพทุ ธจริยาได้ อธบิ ายการบริหารและการธารงรักษาพระพุทธศาสนาได้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรยี นทากิจกรรมกลุ่มไมท่ นั ตามเวลาทก่ี าหนด เนอ่ื งจากนกั เรยี นเขา้ ช้ันเรยี นชา้ เกนิ กวา่ กาหนด 3. แนวทำงแก้ปญั หำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรียนไดม้ สี ว่ นร่วมมากขึ้น ลงชอ่ื ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยุทธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอื่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

    บันทึกหลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนท่ี 11 เร่อื ง ชำดก ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเน้อื หา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสอ่ื ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลที่เกิดข้นึ กบั ผู้เรยี น นักเรียนเล่าเร่อื งย่อชาดกท่ีกาหนดได้ บอกข้อคิดและคุณค่าของชาดกเรอ่ื งท่ีกาหนดได้ และสามารถ นาข้อคดิ ในชาดกมาเป็นแบบอย่างในการดาเนนิ ชวี ติ ได้ 2. ปัญหำและอุปสรรค นักเรยี นบางสว่ นยังขาดความสนใจในการเรียน และยงั ไม่คอ่ ยใฝ่เรยี นรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรยี นได้มสี ว่ นรว่ มมากขึน้ ลงช่อื ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่อื ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กตี า) ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

    บนั ทึกหลังกำรจัดกำรเรียนรู้ แผนที่ 12 เรือ่ ง วนั สำคัญทำงพระพทุ ธศำสนำ ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อน่ื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กดิ ขึ้นกับผู้เรียน นักเรียนวิเคราะห์หลักธรรมที่เกี่ยวเน่ืองกับวันสาคัญและเทศกาลสาคัญทางพระพุทธศาสนาได้ นาหลกั ธรรมท่ีเกยี่ วเน่อื งกับวนั และเทศกาลสาคญั ทางพระพุทธศาสนามาประยุกตใ์ ช้ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม 2. ปัญหำและอุปสรรค นกั เรียนบางส่วนยังขาดความสนใจในการเรยี น และยงั ไม่คอ่ ยใฝเ่ รยี นรู้ 3. แนวทำงแก้ปัญหำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นกั เรยี นไดม้ ีส่วนร่วมมากขึน้ ลงช่อื ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชือ่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กตี า) ผอู้ านวยการโรงเรยี น

    บันทึกหลงั กำรจัดกำรเรียนรู้ แผนท่ี 13 เรอ่ื ง ศำสนพธิ ี ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเน้ือหา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อน่ื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่ีเกดิ ขนึ้ กบั ผเู้ รียน นักเรียนปฏิบัติตนถูกต้องตามศาสนพิธี พิธีกรรมตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ บอกคุณค่าและ ประโยชน์ของศาสนพิธีได้ 2. ปัญหำและอปุ สรรค นักเรียนบางส่วนยงั ขาดความสนใจในการเรยี น และยังไมค่ ่อยใฝ่เรยี นรู้ 3. แนวทำงแก้ปญั หำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรียนไดม้ ีส่วนรว่ มมากข้ึน ลงชือ่ ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยทุ ธ์ อ่อนนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชื่อ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กีตา) ผอู้ านวยการโรงเรยี น

    บันทกึ หลังกำรจดั กำรเรียนรู้ แผนที่ 14 เรอื่ ง กฎหมำยแพ่งเก่ียวกับนติ กิ รรมและสญั ญำ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเน้อื หา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของส่อื ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. อ่ืนๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทเี่ กิดขึน้ กบั ผู้เรียน นักเรียนสามารถวิเคราะห์การปฏิบัติตนตามกฎหมายแพ่งเกี่ยวกบั นิติกรรมสัญญาได้ กฎหมายแพ่ง เกี่ยวกบั นติ กิ รรมสญั ญา เช่น ซอื้ ขาย ขายฝาก เชา่ ทรัพย์ เชา่ ซอื้ กู้ยืมเงนิ 2. ปญั หำและอุปสรรค นักเรียนบางส่วนยังขาดความสนใจในการเรยี น และยังไม่คอ่ ยใฝเ่ รยี นรู้ 3. แนวทำงแก้ปัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรยี นได้มีสว่ นร่วมมากขน้ึ ลงช่อื ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชือ่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กีตา) ผอู้ านวยการโรงเรยี น

    บนั ทึกหลงั กำรจดั กำรเรยี นรู้ แผนที่ 15 เรื่อง กฎหมำยอำญำ ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอ้ื หา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของสอ่ื ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อน่ื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กิดขึน้ กบั ผู้เรยี น นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะการกระทาผิดทางอาญาและความรบั ผิดทางอาญาได้ วิเคราะห์การ กระทาตามหลักกฎหมายอาญาในความผดิ ต่อชีวิตและร่างกาย และความผดิ ตอ่ ทรัพย์สนิ ได้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรียนบางสว่ นยงั ขาดความสนใจในการเรียน และยงั ไม่คอ่ ยใฝเ่ รียนรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรียนได้มสี ว่ นรว่ มมากขึน้ ลงชือ่ ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยุทธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอื่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กีตา) ผู้อานวยการโรงเรียน

    บนั ทกึ หลังกำรจัดกำรเรียนรู้ แผนที่ 16 เร่ือง กฎหมำยสำคัญท่ีควรรู้ ความเหมาะสมของกจิ กรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอ้ื หา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อืน่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่เี กิดข้นึ กบั ผูเ้ รียน นกั เรยี นวเิ คราะหผ์ ลของการปฏิบัติตนตามกฎหมายเกย่ี วกับการรับราชการทหาร กฎหมาย เก่ยี วกับ ภาษี กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายเก่ียวกับการศึกษาได้ วิเคราะห์ผลของการปฏิบัติตามข้อตกลง ระหว่างประเทศได้ 2. ปัญหำและอปุ สรรค นักเรียนบางสว่ นยังขาดความสนใจในการเรียน และยังไม่ค่อยใฝเ่ รียนรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนท่ีตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ใหน้ ักเรยี นได้มสี ว่ นรว่ มมากข้นึ ลงชื่อ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชือ่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กตี า) ผู้อานวยการโรงเรยี น