อ.ม งกร ประพ นธ ว ฒนะ ผอ คนท เท าไหร

มงฟอร์ตวิทยาลัยเดิมเป็นโรงเรียนชายล้วน ปัจจุบันเป็นโรงเรียนสหศึกษา แบ่งการเรียนการสอนออกเป็นสองแผนกได้แก่ แผนกประถมตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำปิง และแผนกมัธยมตั้งอยู่ที่ริมทางรถไฟ

ประวัติ[แก้]

อ.ม งกร ประพ นธ ว ฒนะ ผอ คนท เท าไหร
ภาพหมู่นักเรียน และคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ในช่วงก่อตั้งโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย พ.ศ. 2475

ชื่อเสียงของโรงเรียนอัสสัมชัญพระนครได้โน้มน้าวเด็กนักเรียนจากเชียงใหม่ไปศึกษาที่กรุงเทพตั้งแต่ พ.ศ. 2453 จนเมื่อนักเรียนเหล่านั้นได้จบการศึกษาและกลายเป็นศิษย์เก่าแล้ว จึงเชิญภราดาไมเคิล และภราดาฟ. ฮีแลร์ ไปเปิดโรงเรียนที่มณฑลพายัพ ประกอบกับ ผู้แทนพระสันตะปาปา เรอเน แปโร ประมุขเขตมิสซังสยามในขณะนั้น และบาทหลวงยอร์ช มีราแบล ดำริว่าการเผยแผ่คริสต์ศาสนาจะดีขึ้นหากมีโรงเรียนคาทอลิกช่วยอีกแรง ดังนั้นแล้วจึงเชิญคณะอุร์สุลิน และคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ไปเปิดโรงเรียนชายและหญิง ที่มณฑลพายัพ

14 ตุลาคม พ.ศ. 2474 เมื่อโรงเรียนอัสสัมชัญหยุดกลางภาค ภราดาไมเคิล และ ภราดาฟ.ฮีแลร์ พร้อมด้วยอัสสัมชนิกฝ่ายเหนือ โดยสารรถไฟด่วนขึ้นยัง ลำปาง, เชียงใหม่ ตลอดจน เชียงรายและเชียงแสน เพื่อหาดูทำเลที่เหมาะสมแก่การตั้งโรงเรียน ในที่สุดคณะอุร์สุลินได้ตั้งโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัยขึ้น ส่วนคณะภราดาเซนต์คาเบรียลได้ตั้งโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2475 โดยใช้ที่ดินที่บาทหลวงยอร์ช มีราแบล ซื้อไว้นานแล้วจากหลวงอนุสารสุนทร (สุ่นฮี้ ชุติมา) บริเวณถนนเจริญประเทศ ขนาด 12 ไร่ติดแม่น้ำปิงมอบให้โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แต่การสร้างโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยเสร็จล่าช้ากว่าโรงเรียนพระหฤทัยและเรยีนา ราวครึ่งปี

โรงเรียนเทพบดินทร์ทำการเปิดสอนครั้งแรก ในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 โดยมีภราดาซิเมออน ริโตล เป็นอธิการคนแรก และมีภราดาแอมบรอซิโอ เป็นรองอธิการ โดยระหว่างเปิดสอนขณะนั้น มีนักเรียนเพียง 22 คน โดยอาศัยเรือนไม้ข้างโบสถ์พระหฤทัย(หลังเก่า)เป็นห้องเรียนชั่วคราว

เมื่ออาคารมงฟอร์ต และอาคารอำนวยการแล้วเสร็จ นักเรียนมงฟอร์ตรุ่นแรก จึงย้ายจากวัดพระหฤทัยเข้ามาเรียนในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2476 จากนั้นนักเรียนจึงเพิ่มขึ้นเป็น 116 คน โดยการเรียนการสอนในช่วงแรกๆ เนื่องจากชั้นหนึ่ง มีนักเรียนไม่มากนัก การเรียนการสอนจึงสอนอย่างสบาย ๆ กวดขันใกล้ชิด ดังนั้นแล้วนักเรียนในสมัยนั้นจะสามารถพูดภาษาอังกฤษตอบโต้ได้เป็นอย่างดี

ในสมัยของภราดาปีเตอร์ดำรงตำแหน่งอธิการ สงครามโลกครั้งที่สอง ได้อุบัติขึ้น ส่งผลให้การศึกษาต้องหยุดชะงัก จังหวัดได้ประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่งในเชียงใหม่ และมีทหารสื่อสาร และทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานมาใช้พื้นที่โรงเรียนนานเกือบเดือน ก่อนที่จะย้ายไปทุ่งช้างคลาน ด้วยภาวะสงครามและเศรษฐกิจตกต่ำ เมื่อราชการประกาศให้เปิดโรงเรียน จึงมีนักเรียนเหลือน้อยมาก ภราดาปีเตอร์ได้พยายามทำทุกวีถีทางเพื่อให้โรงเรียนก้าวหน้าต่อไปได้ ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2478 ภราดาเกลเมนต์ (บุญมี เกิดสว่าง) ได้ยื่นคำขอต่อกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะ แต่เนื่องจากภาวะสงครามจึงถูกเพิกเฉย ต่อมาภราดาเซราฟิน ได้ยื่นคำร้องนี้อีกครั้ง เมื่อ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2489 คำร้องได้รับการพิจารณา พร้อมด้วยมีการตรวจโรงเรียน ทำให้โรงเรียนได้รับการรับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล ตั้งแต่ปีการศึกษา 2489 ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2490 และสามปีต่อมาได้เริ่มเปิดแผนกมัธยม ด้วยนักเรียนที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจนโรงเรียนเดิมไม่สามารถรองรับนักเรียนได้ ในปี พ.ศ. 2513 จึงไปตั้งแผนกประถมที่ถนนช้างคลาน

ต่อมาเมื่อโรงเรียนมีนักเรียนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ต้องย้ายแผนกมัธยมจากเดิมที่ถนนเจริญประเทศ ไปตั้งใหม่ยังถนนมหิดล ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ ในพื้นที่ 52 ไร่ โดยเริ่มเปิดทำการศึกษาแผนกมัธยมในบริเวณใหม่ในปี พ.ศ. 2528 และย้ายแผนกประถมกลับมายังถนนเจริญประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของแผนกมัธยม

ข้อมูลทั่วไป[แก้]

อ.ม งกร ประพ นธ ว ฒนะ ผอ คนท เท าไหร
อาคารสมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 ทางโรงเรียนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเปิดโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ที่ตำบลท่าศาลา และโรงเรียนยังได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน (ทั้งแผนกประถมและมัธยม) ถึง 7 ครั้ง โดยแผนกประถมได้รับพระราชทานรางวัลเมื่อปี พ.ศ. 2530 พ.ศ. 2537 พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2552 และแผนกมัธยมได้รับพระราชทานรางวัลในปี พ.ศ. 2532 พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2554

นอกจากนั้น ในปี พ.ศ. 2542 และ พ.ศ. 2543 แผนกประถมและมัธยมยังผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษา ในปี พ.ศ. 2546 ภราดาอนุรักษ์ นิธิภัทราภรณ์ได้รับรางวัลเกียรติคุณ และได้รับพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่น สาขาผู้บริหารสถานศึกษา และในปี พ.ศ. 2549 ได้ผ่านการประเมินมาตรฐานการศึกษาจาก สมศ.

จากการที่โรงเรียนมงฟอร์ตเริ่มรับนักเรียนหญิงในระดับชั้นประถมในปี พ.ศ. 2551 ทำให้โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยเป็นโรงเรียนชายล้วนแห่งสุดท้ายของเชียงใหม่ปัจจุบันโรงเรียนมงฟอร์ตได้เปิดสอนทั้งหมด 12 ชั้นปี 4 ช่วงชั้น (ป.1-ป.3, ป.4-ป.6, ม.1-ม.3 และ ม.4-ม.6) โดยในระดับช่วงชั้นที่ 4 เรียนในระบบสหศึกษา (ชาย-หญิงเรียนรวมกัน) โดยนักเรียนชายล้วนรุ่นสุดท้ายคือปีการศึกษา พ.ศ. 2556 โรงเรียนมีจำนวนครูรวม 2 แผนกกว่า 400 คนและนักเรียนรวม 2 แผนกกว่า 5,000 คน และในปัจจุบัน ช่วงชั้นที่ 1 ก็เริ่มมีการเรียนในระบบสหศึกษาเช่นเดียวกันกับช่วงชั้นที่ 4

ปัจจุบันโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม ตั้งอยู่ที่ ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วย ตึกมงฟอร์ต ตึกมารีย์ ตึกอำนวยการ ตึกสามัคคีนฤมิต อาคารอเนกประสงค์ข้างตึกอำนวยการ (ที่ตั้งมุมสวัสดิการ,ห้องแนะแนว,ห้องพักครูภาษาจีน , งานอภิบาล, ฝ่ายกิจการนักเรียน, ฝ่ายวิชาการ) อาคารอเนกประสงค์บริเวณข้างตึกมงฟอร์ต (ที่ตั้งอาคารศิลปะ ห้องเรียนดนตรีและอาคารฝ่ายงานเกี่ยวกับสถานที่) อาคารศาลามารีย์บริเวณหลังตึกมารีย์ อาคารหอประชุม อาคารดุริยางค์ และอาคารสมาคมศิษย์เก่ามงฟอร์ต นอกจากนั้นยังมีที่ตั้งของวัดน้อยสำหรับทำพิธีกรรมศาสนาคริสต์ของคริสตชนในโรงเรียน อาคารเฮือนพญ๋าสำหรับเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น และอาคารบ้านเทพฯอาทร ที่พักของนักเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

อ.ม งกร ประพ นธ ว ฒนะ ผอ คนท เท าไหร
อาคารเซนต์แมรี่ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม

ปัจจุบันโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม ตั้งอยู่ที่ ถ.มงฟอร์ต ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วย อาคารอังเดร เกแก็ง(โรงอาหาร,หอประชุมใหญ่) อาคารเซนต์อัลลอยซีอุส อาคารแอมโบรซิโอ(หอสมุดกลาง,หอประชุม2) สระว่ายน้ำเดอมงฟอร์ต(ห้องฟิตเนสและอัฒจรรย์ความจุ500ที่นั่ง) อาคารบ้านพักเซนต์คาเบรียล(สำหรับคุณครูต่างชาติ) อาคารเรียนฮูเบิร์ตเมโมเรียล อาคารเรียนปีเตอร์ อาคารเรียนเซราฟิน อาคารเรียนอัลเบิร์ต อาคารเรียนเอมมานูเอล อาคารเรียนอันโตนิโอ(ตึกอีพี) อาคารเซนต์แมรี่หรืออาคารเรียนเอนกประสงค์(มีลิฟต์อยู่ด้านหลังอาคาร)และการปรับปรุงโรงเรียนครั้งใหญ่ ด้วยงบประมาณกว่าร้อยล้านบาท

อาคารทุกๆหลังมีเครื่องปรับอากาศและอาคารเรียนมีทางเชื่อมทุกชั้นทุกอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับครูและนักเรียน สถานที่อื่นๆ ลานกล้วยไม้(ข้างอาคารอำนวยการ) ลานจามจุรีและสนามบาส/วอลเล่/ฟุตซอล/ตะกร้อ(หน้าอาคารเอ็มมานูเอล) ร้านค้าสวัสดิการ(ด้านหลังอาคารอำนวยการ) ลานหัตถาภิภพ(อยู่ระหว่างตึกปีเตอร์และตึกเซราฟิน) ลานสงบวิถี(อยู่ระหว่างตึกเซราฟินและตึกอัลเบิร์ต) สวนวรรณคดี(อยู่ระหว่างตึกเซราฟินและตึกอัลเบิร์ต) วัดพระแม่มหาการุณย์(อยู่หน้าตึกปีเตอร์) สนามฟุตบอล แปลงเกษตร ซุ้มสวัสดิการ

ถึงแม้ว่าโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยจะมีอาคารที่สร้างขึ้นใหม่จำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามภูมิทัศน์บริเวณรอบโรงเรียนก็ประกอบไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ สนามหญ้า แปลงดอกไม้จำนวนมาก ซึ่งเกิดจากการดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียนของ ภราดาโยเซฟ อังเดร เกแก็ง (Joseph Andre’ Gueguen) หรือ "บราเดอร์อังเดร" ซึ่งท่านมีแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารโรงเรียนให้มีบรรยากาศที่ร่มรื่นสวยงาม เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ดังความตอนหนึ่งว่า “แม้ว่าอายุจะมากแล้วก็ตาม ข้าพเจ้าก็ยังทำหน้าที่ดูแลความสะอาดอาคารเรียน จัดสนามหญ้าให้เขียวสดใสงามตา และปลูกไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ โรงเรียนต้องดึงดูดความสนใจคนให้มากที่สุด ด้วยการมีอาคารเรียนที่สะอาดหมดจด สวยงามด้วยสนามหญ้าอันเขียวขจี และมีไม้ดอกไม้ประดับที่สวยงามสะดุดตาสะดุดใจคนผ่านไปมา โรงเรียนต้องเป็นสถานที่อันสะอาดสดสวยงามตาให้มากที่สุด มิใช่เป็นแค่สถานที่ประสาทวิชาความรู้เท่านั้น” ด้วยความเอาใจใส่ของบราเดอร์อังเดรทำให้มงฟอร์ตมีสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงามภายในโรงเรียน และยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักเรียนมงฟอร์ตอีกด้วย

ปัจจุบันโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม มีการเรียนการสอนแบบ 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรปกติ และหลักสูตรภาษาอังกฤษ (EP) โดยหลักสูตรปกติในระดับช่วงชั้นที่ 4 (ม.ปลาย) แยกออกเป็น 2 แผนการเรียนคือ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยกิฟไทย,กิฟอังกฤษ,กิฟคณิต,กิฟฟิสิกส์,กิฟเคมี,กิฟชีวะ,กิฟวิศวะ,กิฟคอม,วิทย์-คณิตทั่วไปและแผนการเรียนศิลป์ ซึ่งประกอบด้วย ศิลป์-ภาษาจีน, ศิลป์-ภาษาฝรั่งเศส, ศิลป์-ภาษาญี่ปุ่น, ศิลป์-ดนตรี ,ศิลป์-ธุรกิจ (EP)

ในปี พ.ศ. 2556 โรงเรียนมงฟอร์ตและสถาบันดนตรีลอสแอนเจลิส (อังกฤษ: Los Angelis Music Acedemy, LAMA) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมจัดตั้ง สถาบันดนตรีมงฟอร์ตวิทยาลัย (อังกฤษ: Montfort College Music Acedemy, MCMA) ซึ่งเป็นสถาบันดนตรีมาตรฐานสากลที่เปิดสอนแก่บุคคลทั่วไปโดยมุ่งเน้นผลิตนักดนตรีอาชีพแก่วงการดนตรี ซึ่งมีการเรียนการสอนดนตรีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ปัจจุบันโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ได้ยกเลิกสัญญากับสถาบันดนตรี LACM แต่ยังคงจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ สถาบันดนตรีมงฟอร์ตวิทยาลัย (อังกฤษ: Montfort College Music Acedemy, MCMA) นอกเวลาเรียนให้กับบุคคลทั่วไปอยู่ ในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน

ผู้บริหาร[แก้]

ผู้บริหารในปัจจุบัน[แก้]

  • ภราดา ดร.ทักษบุตร ไกรประสิทธ์ ผู้อำนวยการแผนกประถม
  • ภราดา ดร.ชำนาญ เหล่ารักผล ผู้อำนวยการแผนกมัธยม และอธิการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

รายนามอธิการ/ผู้อำนวยการ[แก้]

ทำเนียบอธิการและผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย (พ.ศ. 2475 - 2553)รายนาม ปีดำรงตำแหน่ง 1. ภราดา ซีเมออน ริโคล พ.ศ. 2475 - 2481 2. ภราดา ฮิวเบิร์ต คูแซง พ.ศ. 2481 - 2484 3. ภราดา ปีเตอร์ พ.ศ. 2484 - 2490 4. ภราดา เซราฟิน พ.ศ. 2490 - 2496 5. ภราดา อัลเบิร์ต เบิร์น พ.ศ. 2496 - 2498 6. ภราดา ซีเกียว อาเกล พ.ศ. 2498 - 2504 7. ภราดา ฮิวเบิร์ต ไมเกต์ พ.ศ. 2504 - 2509 8. ภราดา เอ็ดเวิร์ด คูเรียน พ.ศ. 2509 - 2513 9. ภราดา อิลเดฟองโซ มารีอา พ.ศ. 2513 - 2515 10. ภราดา พจน์ เลาหเกียรติ พ.ศ. 2515 - 2516 11. ภราดา สมพงษ์ ศรีสุระ พ.ศ. 2516 - 2521 12. ภราดา บัญญัติ โรจนารุณ พ.ศ. 2521 - 2530 13. ภราดา ดร.วิศิษฐ์ ศรีวิชัยรัตน์ พ.ศ. 2530 - 2537 14. ภราดา ผศ.ดร.วินัย วิริยวิทยาวงศ์ พ.ศ. 2537 - 2540 15. ภราดา อนุรักษ์ นิธิภัทราภรณ์ พ.ศ. 2540 - 2547 16. ภราดา มีศักดิ์ ว่องประชานุกูล พ.ศ. 2547 - 2553ทำเนียบอธิการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยม17. ภราดา อาจิณ เต่งตระกูล พ.ศ. 2553 - 2556 18. ภราดา ดร.อนุศักดิ์ นิธิภัทราภรณ์ พ.ศ. 2556 - 2559 19. ภราดา ดร.ศักดา สกนธวัฒน์ พ.ศ. 2559 - 2561 20. ภราดา ดร.สุรกิจ ศรีสราลกุลวงศ์ พ.ศ. 2562 - 2565 21.ภราดา ดร.ชำนาญ เหล่ารักผล พ.ศ. 2565 - ปัจจุบันทำเนียบผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม 16. ภราดา มีศักดิ์ ว่องประชานุกูล พ.ศ. 2553 - 2556 17. ภราดา ศุภนันท์ ขันธปรีชา พ.ศ. 2556 - 2562 18. ภราดา ดร. เศกสรร สกนธวัฒน์ พ.ศ. 2562 - 2565 19. ภราดา ดร. ทักษบุตร ไกรประสิทธ์ พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน

หมายเหตุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ได้มีการกำหนดตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนใหม่คือ

1. อธิการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม

2. ผู้อำนวยการโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารงานของแผนกมัธยมและแผนกประถม

ความสำเร็จ[แก้]

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยนับว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการและด้านกิจกรรม (ดนตรี/กีฬา) ในจังหวัดเชียงใหม่ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีผลงานทางวิชาการและกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศและระดับโลกมาแล้วมากมายดังตัวอย่าง

ระดับนานาชาติ[แก้]

รายชื่อความสำเร็จระดับนานาชาติของมงฟอร์ตวิทยาลัย งาน สถานที่จัด ประเภทรางวัล ผล World Music Contest 1985 แกร์กราเดอ เนเธอร์แลนด์ Show Band & Marching Band เหรียญทอง Intel International Science and Engineering Fair 2008 รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา Special Awards รองชนะ World Music Contest 2009 แกร์กราเดอ เนเธอร์แลนด์ Marching Contest World Division เหรียญทอง ร่วมกับเรยีนาเชลีWorld Music Contest 2009 แกร์กราเดอ เนเธอร์แลนด์ Show Contest World Division Corps Style Class เหรียญทอง ร่วมกับเรยีนาเชลีPanasonic Asia Pacific Regional Kid Witness News 2014 สิงคโปร์ Regional Winner Award ชนะ Panasonic KWN Global Contest 2014 สหรัฐอเมริกา Best Videography Award ชนะ Panasonic KWN Global Contest 2015 สิงคโปร์ Grand Prix ชนะ Panasonic KWN Global Contest 2015 สิงคโปร์ Best Concept ชนะ ASEAN Student Science Project Competition 2016 National Science Museum, Pathumthani, Thailand Third Prize (Junior Level) Third Prize International High School Student's Photo Festival Exchange 2016 Higashikawa, Hokkaido, Japan Special award (Team) Second Prize International High School Student's Photo Festival Exchange 2016 Higashikawa, Hokkaido, Japan Special award (Person) First Prize

ระดับประเทศ[แก้]

ด้านวิชาการ[แก้]
  • นายวรพล รัตนพันธ์ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระดับภูมิภาคเอเชีย Asian Science Camp 2010 ณ ประเทศอินเดีย ปี 2553
  • โครงงานวิทยาศาสตร์รางวัลชนะเลิศระดับประเทศในปี 2547 เรื่องการศึกษาวงจรชีวิตและเส้นใยของหนอนผีเสื้อยักษ์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอ และยังเป็นตัวแทนโครงงานประเทศไทยเข้าแข่งระดับโลกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • โครงงานอาชีพ "ทองผำ ทองเตา" ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการกรุงไทยยุววานิช ปี 2547
  • นายศรัณย์ อาฮูยา ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง คณิตศาสตร์โอลิมปิกระดับนานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น ปี 2547
  • โครงงานอาชีพ "หมอนหก-สะลีเมือง" ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการกรุงไทยยุววานิช ปี 2554
  • โครงงานอาชีพ "รำลำ มอร์นิ่ง" ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการกรุงไทยยุววานิช ปี 2556
  • รางวัลชนะเลิศ โครงการ Kid Witness News 2013 เรื่อง "มูล" ค่ามหาศาล
  • รางวัลชนะเลิศ โครงการ Kid Witness News 2014 เรื่อง Blind's Diary
  • โครงงานวิทยาศาสตร์รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์เวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ครั้งที่11 ในปี 2558 เรื่องการพัฒนาผ้าจากเส้นในผีเสื้อยักษ์ด้วยการเคลือบนาโนซิงค์ออกไซด์ และยังเป็นตัวแทนโครงงานประเทศไทยเข้าแข่งระดับอาเซียนในรายการ ASEAN Student Science Project Competition (ASPC 2016)
  • โครงงานวิทยาศาสตร์รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ YSC 2016 ในปี 2559 เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปิดแผลจากเยื่อไมยราบยักษ์ด้วยการเคลือบน้ำตะโก และยังเป็นตัวแทนโครงงานประเทศไทยเข้าแข่งระดับโลกในงาน Intel ISEF 2016 ณ รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • โครงงานวิทยาศาสตร์รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์เวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ครั้งที่12 ในปี 2559 เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปิดแผลไฮโดรเจลโดยการใช้สารสกัดจากเมล็ดหมากเป็นส่วนประกอบ และยังเป็นตัวแทนโครงงานประเทศไทยเข้าแข่งระดับอาเซียนในรายการ ASEAN Student Science Project Competition (ASPC 2017)
  • ในปี2564โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยมีจำนวนนักเรียนติดค่ายโอลิมปิกวิชาการรวมทั้งสิ้นแล้ว65คน อันดับ1ของจังหวัดและเป็นอันดับ1ของภาคเหนือทั้งหมด
ด้านดนตรี[แก้]

วงดุริยางค์ของโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยประสบความสำเร็จและก้าวหน้าโดยเริ่มจากการส่งเสริมของภราดาตั้งแต่ในอดีตเช่นภราดาซิเมออน สูงสุดในสมัยที่ภราดาอันโตนิโอ มารีอา (ชื่อพระราชทานเป็นภาษาไทยว่า ภราดาอนุรักษ์ ศรีวาทยากร) เป็นรองอธิการโดยท่านได้เป็นผู้ประพันธ์เพลงโรงเรียน และได้ส่งเสริมการเล่นดุริยางค์ของนักเรียนมงฟอร์ต ปูพื้นฐานดนตรีสากลให้กับนักเรียนมงฟอร์ตทุกคนอย่างจริงจัง โดยประพันธ์แบบเรียนดนตรีสากลให้สำหรับนักเรียนประถมต้นให้ได้รู้จักดนตรีสากลอย่างจริงจัง นอกจากนั้นในอดีตท่านยังได้มีส่วนในการสร้างนักเรียนมงฟอร์ตให้มีความสามารถด้านดนตรีจนมีชื่อเสียงในเวลาต่อมา

  • ได้รับคัดเลือกให้แสดงคอนเสิร์ตเผยแพร่วัฒนธรรมไทยส ในงาน Family Festival Bandfest ในปีพ.ศ. 2539 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • รางวัลชนะเลิศ การประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปี พ.ศ. 2544
  • วง h.r.u (หรู) เป็นวงดนตรีที่ชนะการประกวด KPN Band ในปี พ.ศ. 2548 และมีผลงานออกมาในปี พ.ศ. 2549
  • รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานฯการแข่งขันการประกวดวงโยธวาทิต นักเรียน นักศึกษา ชิงถ้วยพระราชทาน พระบรมโอรสาธิราชฯ ครั้งที่ 29 ประจำปี 2553
ความสำเร็จระดับภูมิภาค และ ประเทศ[แก้]
  • นางสาวธัญลักษณ์ โชติพิบูลศิลป์ นักกีฬายิงปืน 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ปีการศึกษา 2551
  • นายศุภนร ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา นักกรีฑาเยาวชน เหรียญทองกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก "6th IAAF World Youth Championships" ณ สาธารณรัฐอิตาลี กรกฎาคม 2552

ด้านกิจกรรม[แก้]

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยแผนกมัธยมปลุกกระแสความยิ่งใหญ่ของผู้นำเชียร์ และกองเชียร์อีกครั้งในปี พุทธศักราช 2551 อีกครั้งโดยคัดเลือกผู้นำเชียร์ของโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Sponsor Thailand Championship 2008 ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 และได้เป็นตัวแทนภาคเหนือไปประกวดระดับประเทศ ณ จังหวัดราชบุรี และได้รับรางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 4 หลังจากนั้นได้ทำการคัดเลือกผู้นำเชียร์เข้าร่วมแข่งขันรายการดังกล่าวทุกปี

เพลงโรงเรียน[แก้]

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยเป็นหนึ่งในไม่กี่โรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะภราดาเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยที่ไม่ได้ใช้เพลงสดุดีอัสสัมชัญเป็นเพลงประจำโรงเรียน เนื่องจากชื่อโรงเรียนไม่ได้ใช้ชื่อว่า "อัสสัมชัญ" เหมือนโรงเรียนอื่นในเครือมูลนิธิคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ปัจจุบันเพลงประจำโรงเรียนคือเพลงมาร์ชมงฟอร์ต ซึ่งมีสองแบบคือแบบภาษาไทย (เพลงมาร์ชมงฟอร์ต) และภาษาอังกฤษ (เพลง Come Cheer) ทั้งสองแบบประพันธ์โดย ภราดาอนุรักษ์ ศรีวาทยากร นอกจากนั้นปัจจุบันโรงเรียนยังได้รับเพลง "สดุดีอัสสัมชัญ" มาใช้ในการประกวดผู้นำเชียร์ของโรงเรียน โดยได้ดัดแปลงเป็นเพลงใหม่ที่เข้ากับโรงเรียนมงฟอร์ต และตั้งชื่อใหม่เป็นเพลง "เกียรติศักดิ์ MC" ในปี พ.ศ. 2551 ได้นำบูมโรงเรียนมาใช้อีกครั้ง ปัจจุบันเพลงโรงเรียนมีทั้งหมด 15 เพลงได้แก่ มาร์ชมงฟอร์ต,Labor Omnia vincit,Come Cheer,Glory to Montfort,ความหมายดวงตรา,น้อมนพบูชา(วิถีมงฟอร์ต),บนทางเส้นไกล,พี่น้องเอ็มซี,มงฟอร์ตบ้านที่รัก,วันทามารีย์,สดุดีนักบุญมงฟอร์ต,อิ่มเอิบ อบอุ่น อารี,80ปี(ร้อยความรู้คู่ความดีตามวิถีมงฟอร์ต),ไม่เคยลืม(90ปี),อัญมณี

กิจกรรมโรงเรียน[แก้]

กรีฑาสีมงฟอร์ต[แก้]

อ.ม งกร ประพ นธ ว ฒนะ ผอ คนท เท าไหร
บรรยากาศกิจกรรมกรีฑาสี โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยมีการจัดกิจกรรมแข่งขันกรีฑาสีเป็นประจำทุกปี ในสูจิบัตรการแข่งขันกรีฑาสีครั้งที่ 42 ประจำปีการศึกษา 2551 ม.นิสิต เจียงสงวน ครูอาวุโสได้เรียบเรียงถึงประวัติการจัดการแข่งขันดังนี้

การกีฬามงฟอร์ตเป็นที่รู้จักดีของคนทั่วไปในสมัยภราดาอาซีเนียว ราว พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา กีฬาที่นำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนอย่างมากคือบาสเก็ตบอล ต่อมาภราดาอาซีเนียวได้ให้การสนับสนุนกีฬาด้านอื่นๆ และกรีฑาด้วย เป็นที่ชื่นชอบของผู้ปกครองและพวกเราชาวมงฟอร์ต ทำให้โรงเรียนมีชื่อเสียงทั้งด้านการเรียนและกีฬา สำหรับการกีฬาอธิการได้ให้ความเอาใจใส่และสนับสนุนทุกๆ ทาง มีการแข่งขันกีฬาและกรีฑาประจำปี เป็นการหาตัวนักกีฬาเป็นตัวแทนของโรงเรียนซึ่งการแข่งขันจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ

  • ห้อง A สีแดง
  • ห้อง B สีน้ำเงิน
  • ห้อง C สีเหลือง
  • ห้อง D สีเขียว

แบ่งเป็นรุ่นจิ๋ว เล็ก กลาง ใหญ่ ตามความสูงที่กำหนด โดยจัดเฉพาะโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย เริ่มในปีการศึกษา 2509 อย่างเป็นทางการ ต่อมาเมื่อมีห้องเรียนเพิ่มก็จัดแบ่งเป็น 6 สี ในสมับของภราดาเอ็ดเวิร์ด ปีการศึกษา 2510 ได้จัดการแข่งขันร่วมกับทางโรงเรียนเรยีนาเชลีและโรงเรียนพระหฤทัย รวม 3 โรงเรียน โดยจะพลัดกันเป็นเจ้าภาพการแข่งขันทุกปี

จนกระทั่งถึงสมัยของภราดาบัญญัติ โรจนรุณ ปีการศึกษา 2523 ได้ล้มเลิกการจัดกิจกรรมร่วมกัน และทำการแข่งขันแต่ละโรงเรียนเอง ซึ่งทางโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยก็ทำการแข่งขันอย่างต่อเนื่องจนถึงบัดนี้

สมัยภราดามีศักดิ์ ว่องประชานุกูล ในปีการศึกษา 2549 ได้รับนักเรียนเพิ่มมากขึ้นในช่วงชั้นที่ 4 เป็นจำนวน 12 ห้องเรียน (รวม EP) ซึ่งต่างกับช่วงชั้นที่ 3 ซึ่งมีเพียง 8 ห้อง (รวม EP) ดังนี้