อำเภอเวียงป่าเป้า เป็นเมืองเก่าแก่ อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้านครเชียงใหม่ เป็นผู้ก่อตั้งโดยมอบหมายให้พญาไชยวงค์ นำราษฎรชาวเชียงใหม่ขึ้นมาถางป่าอ้อหญ้าไซ ซึ่งอยู่ห่างตัวอำเภอไปทางใต้ แล้วสร้างเมืองชื่อว่า "เมืองเฟยไฮ" และพญาไชยวงค์ (ต้นตระกูล "บุญชัยวงศ์") เป็นเจ้าเมือง Show ต่อมาปี พ.ศ. 2430 พญาไชยวงค์เห็นว่าเมืองเฟยไฮเป็นที่ราบลุ่ม พอเข้าฤดูฝน น้ำจะท่วมประจำทุกปี จึงให้ราษฎรขึ้นมาถางป่าไม้ที่มีไม้เป้า (เป้าน้อย เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง) ตั้งขึ้นเป็นเมืองชั่วคราว ในปี พ.ศ. 2440 พญาไชยวงค์อนิจกรรม พญาเทพณรงค์ (ต้นตระกูล "ทาอุปรงค์") ซึ่งเป็นลูกเขย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองป่าเป้าสืบแทน พญาเทพณรงค์ได้ใช้อิฐก่อเป็นกำแพงเมือง (ปัจจุบันจะเห็นร่องรอยบริเวณวัดป่าม่วง - วัดศรีคำเวียง) และตั้งชื่อเมืองว่า "เวียงป่าเป้า" ต่อมาพญาเทพณรงค์ อนิจกรรม พญาขันธเสมาบดี (ต้นตระกูล "ธนะชัยขันธ์") ซึ่งเป็นน้องเขย ได้รับแต่งตั้งให้ครองเมืองสืบแทน เมืองเวียงป่าเป้าขึ้นกับอำเภอแม่พริก (บ้านแม่พริก อำเภอแม่สรวย ในปัจจุบัน) ต่อมาอำเภอแม่พริกได้ย้ายมาอยู่ริมน้ำแม่สรวย และขนานนามใหม่ว่าอำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้าเป็นอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ทิศใต้ของจังหวัดเชียงราย จากทั้งหมด 16 อำเภอ 2 กิ่ง อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 90 กิโลเมตร การคมนาคมสะดวก ด้วยถนนลาดยาง ทางหลวงหมายเลข 118 ระยะทาง 180 กิโลเมตร จากจังหวัดเชียงราย – จังหวัดเชียงใหม่ และทางหลวงหมายเลข 1035 จากเขตเทศบาลแม่ขะจานไปยังอำเภอวังเหนือ ถึงจังหวัดลำปาง ยาวประมาณ 120 กม. และทางหลวงหมายเลข 1150 จากตำบลบ้านโป่งเทวีไปยังอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ยาวประมาณ 53 กม.ลักษณะที่ตั้งของอำเภอเป็นที่ราบระหว่างภูเขา มีแม่น้ำไหลผ่านจากภูเขาผีปันน้ำ (ดอยนางแก้ว) เรียกน้ำแม่ลาว ไหลลงสู่น้ำแม่กก โดยผ่านอำเภอแม่สรวย อำเภอแม่ลาว อำเภอเมือง และอำเภอเวียงชัย ตามแผนที่สากลจะอยู่ประมาณ ละติจูดที่ 15 – 19 องศาเหนือ ลองติจูดที่ 99 องศาตะวันออก สูงกว่าระดับน้ำทะเล 547 เมตร พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,217 ตร.กม. หรือ 765,625 ไร่ เป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 205,353 ไร่พื้นที่ป่าไม้ 560,272 ไร่ อำเภอเวียงป่าเป้า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและมีภูเขาล้อมรอบ มีพื้นที่ราบเป็นรูปแอ่งกระทะพอประมาณ มีความกว้าง ประมาณ 27 กม.ความยาว 41 กม.มีภูเขาผีปันน้ำอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศใต้ เป็นต้นกำหนดของน้ำแม่ลาว, น้ำแม่ฉางข้าว, น้ำแม่ปูน, น้ำแม่โถ และน้ำแม่เจดีย์ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนแจ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ป่าไม้ด้านทิศตะวันตก และป่าสงวนแห่งชาติแม่ปูนน้อย อยู่ทางทิศตะวันออก มีพื้นที่ประมาณ 560,271 ไร่ แหล่งแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แร่ดีบุก (cassiterite) แร่ชีไลต์ (scheelite) บริเวณดอยหมอก เป็นแหล่งแร่ซีไลท์ที่มีปริมาณสำรองมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 30,000 เมตริกตัน แต่บริษัทผู้สัมปทานขาด งบประมาณในการเจาะขุด ส่วนแร่ดินขาว (kaolinite) พบที่ตำบลบ้านโป่งเทวี ปัจจุบันได้มีบริษัท เบญจอุตสาหกรรมมาตั้งโรงงานซึ่งทำเป็นเมืองหาบ ดินขาวใช้ทำอิฐก่อสร้าง เครื่องปั้นดินเผา, กระเบื้องเคลือบ และได้ส่งเป็นวัตถุดิบไปยังโรงงานกระเบื้องเซรามิก ที่อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง อำเภอเวียงป่าเป้าได้รับการตั้งเป็นเขตการปกครองครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2430 ในปี พ.ศ. 2475 ขุนบวรอุทัยวัช ซึ่งดำรงตำแหน่ง นายอำเภอเวียงป่าเป้าได้ทำการก่อสร้าง พอสร้างได้เพียงครึ่งหนึ่ง ขุนบวรอุทัยธวัชก็ประสบอุบัติเหตุตกม้าถึงแกชีวิต ขุนพิพิธสุขอำนวย นายอำเภอคนต่อมา ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อ การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในสมัยขุนสมจิตสมบัติศิริ ตัวอาคารเป็นลักษณะทรงยุโรปผสมรัตนโกสิน ซึ่งเป็นอาคารตึกก่ออิฐถือปูน เป็นสถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยากยิ่ง การเสนอโครงการจัดตั้งกิ่งอำเภอแผนที่จังหวัดเชียงราย แสดงพื้นที่ซึ่งเคยมีการเสนอให้มีการจัดตั้งกิ่งอำเภอขึ้น ดังนี้ 1. กิ่งอำเภอแม่ขะจาน 2. กิ่งอำเภอวาวี 3. กิ่งอำเภอดอยสัก 4. กิ่งอำเภอปล้อง 5. กิ่งอำเภอแม่อ้อหรือกิ่งอำเภอพัชรกิติยาภา 6. กิ่งอำเภอเรืองนคร มีการเสนอให้แยกตำบลแม่เจดีย์ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ และตำบลเวียงกาหลง ออกจากอำเภอเวียงป่าเป้าในปี พ.ศ. 2539 เพื่อตั้งเป็น กิ่งอำเภอแม่ขะจาน อำเภอเวียงป่าเป้า เนื่องจากแม่ขะจานไกลจากตัวเมืองเวียงป่าเป้าแต่มีความเจริญและประชากรเริ่มหนาแน่นกว่า อย่างไรก็ตาม ชื่อกิ่งอำเภอแม่ขะจานยังปรากฏตามเว็บไซต์ต่าง ๆ อย่างไม่เป็นทางการอาจสร้างความสับสนกับผู้อ่านได้ ลักษณะภูมิอากาศสภาพภูมิอากาศของอำเภอเวียงป่าเป้า แบ่งเป็น 3 ฤดู
ข้อมูลภูมิอากาศของอำเภอเวียงป่าเป้า เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 27.6 (81.7) 30.9 (87.6) 33.5 (92.3) 34.9 (94.8) 33.2 (91.8) 31.7 (89.1) 30.9 (87.6) 30.6 (87.1) 30.6 (87.1) 29.8 (85.6) 28.2 (82.8) 26.5 (79.7) 30.7 (87.3) อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) 18.9 (66) 21.1 (70) 24.1 (75.4) 26.8 (80.2) 27.0 (80.6) 26.8 (80.2) 26.4 (79.5) 26.1 (79) 25.8 (78.4) 24.5 (76.1) 22.0 (71.6) 18.8 (65.8) 24.0 (75.2) อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 11.9 (53.4) 12.9 (55.2) 15.9 (60.6) 19.7 (67.5) 22.0 (71.6) 22.9 (73.2) 22.8 (73) 22.6 (72.7) 22.0 (71.6) 20.3 (68.5) 17.0 (62.6) 12.8 (55) 18.6 (65.5) หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 12.2 (0.48) 7.8 (0.307) 19.1 (0.752) 89.8 (3.535) 203.9 (8.028) 211.2 (8.315) 308.2 (12.134) 385.4 (15.173) 268.4 (10.567) 142.4 (5.606) 60.5 (2.382) 24.6 (0.969) 1,733.5 (68.248) วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย 2 1 3 10 17 19 22 24 18 12 6 3 137 แหล่งที่มา 1: Thai Meteorological Department แหล่งที่มา 2: Hong Kong Observatory การแบ่งเขตการปกครองการปกครองส่วนภูมิภาคอำเภอเวียงป่าเป้าแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 7 ตำบล 92 หมู่บ้าน ได้แก่ ที่ ชื่อตำบล ตัวเมือง อักษรโรมัน จำนวนหมู่บ้าน จำนวนครัวเรือน จำนวนประชากร1. สันสลี San Sali 13 2,806 9,076 2. เวียง Wiang 12 5,695 14,865 3. บ้านโป่ง Ban Pong 7 1,739 5,245 4. ป่างิ้ว Pa Ngio 16 3,389 9,316 5. เวียงกาหลง Wiang Ka Long 15 3,422 9,448 6. แม่เจดีย์ Mae Chedi 16 4,033 9,536 7. แม่เจดีย์ใหม่ Mae Chedi Mai 14 3,341 9,606 การปกครองส่วนท้องถิ่นท้องที่อำเภอเวียงป่าเป้าประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 9 แห่ง ได้แก่
ลักษณะประชากรด้านชาติพันธุ์ ชาวพื้นเมืองได้อพยพมาจากจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงที่เกิดกบฏเงี้ยวมีทั้งไทยยวนและ ไทยยองประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมือง มีประมาณ 60,000 คน และมีชาวเขาเผ่าม้ง ลาหู่ (มูเซอร์) ลีซอ และกะเหรี่ยง ประมาณ 15,000 คน โดยเฉพาะเผ่ามูเซอร์มีมากที่สุด เดิมทีได้อพยพมาจากมณฑลยูนาน, เสฉวน, กวางสี แล้วถูกจีนรุกราน เคลื่อนย้ายมาสู่รัฐเชียงตุง รัฐฉานของพม่า และลาว แล้วทยอยเข้ามาสู่ไทยหลายระลอก สังคมวัฒนธรรมประชากรส่วนมากเป็นชาวพื้นเมือง ที่อพยพมาจาก จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงใหม่ (ไทยวน) จังหวัดลำพูน (ไทยอง) ประมาณร้อยละ 75 นอกนั้นเป็น ชาวเขา เช่น ปกากะญอ(กะเหรี่ยง) ม้ง เย้า อาข่า มูเซอดำ ลีซอ ศาสนาที่นับถือกันคือ ศาสนาพุทธ รองลงมาเป็นคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และโปแตสแตนต์ ประเพณีที่สำคัญทางพุทธศาสนาก็คือ ประเพณีตานก๋วยสลาก ปอยหลวง สรงน้ำพระธาตุต่าง ๆ จะมีขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 ส่วนประเพณีท้องถิ่นจะมีก่อนวันเพ็ญเดือน 7 ประมาณ 1-2 วัน เช่น การลงผีมด ( เป็นการเข้าทรงของเทวาอารักษ์ประจำหมู่บ้าน) การฟ้อนผีเม็ง ( เป็นการเข้าทรงของเทวาอารักษ์ที่อาศัยอยู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ) การไหว้ผีปู่ย่า ( ผีบรรพบุรุษ ) ส่วนวัฒนธรรมในการดำรงชีพ เช่น การกิน การอยู่อาศัย มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วไปในภาคเหนือล้านนา เศรษฐกิจอาชีพราษฎรส่วนใหญ่ ทำการเกษตรกรรม มีพื้นที่นาประมาณ 39,347 ไร่ ที่ไร่ ประมาณ 28,500 ไร่ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ข้าวเหนียวและข้าวเจ้ามีเพียงเล็กน้อย แต่จะมี โรงสีข้างอยู่จำนวนมากบริเวณบ้านหม้อ ตำบลป่างิ้ว ส่วนมากจะรับจ้างสีข้าวส่งที่จังหวัดเชียงใหม่ โรงงานผสมปูนซีเมนต์สำเร็จรูปและผสมยางแอสฟั้นส์ กับหินละเอียด ตั้งอยู่เขตตำบลเวียงกาหลง มีการใช้น้ำมันเตาในการเผายางแอสฟั้นส์(ยางมะตอย)ในการทำยางผสมแอสฟั้นส์ติก เพื่อใช้ในการก่อสร้างถนน ส่วนพืชไร่ที่สำคัญ คือ ขิง จะมีโรงงานดองขิง บริษัท ชวี่ เฉวียน ฟูดส์ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณตำบล เวียงกาหลง ซึ่งได้ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น ทำรายได้ให้แก่ราษฎรปีละประมาณ 100 ล้านบาท โรงงานดองผักกาดดอง ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือของอำเภอ ส่วนพืชชนิดอื่น เช่น กะหล่ำปีจะปลูกมากบนที่ราบสูงโดยเฉพาะชาวเขาได้ทำการปลูกจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการทำไร่เลื่อนลอย ถางและเผาป่า ใบชาเมี่ยงก็ปลูกกันมากบริเวณหุบเขาผีปันน้ำ เพราะอากาศเย็นตลอดปี มีจำหน่ายในตลาดบ้านแม่ขะจาน โดยเฉพาะใบชาตราแม่ค้าที่ขึ้นชื่อด้านรสชาติ อาชีพการเพาะเห็ดเป็นอาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ให้เกษตรกรกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเห็ดฟาง ( จะเริ่มทำการ เพาะเห็ด ประมาณเดือน กุมภาพันธ์ – ตุลาคม ) เห็ดแชมปิยอง ( ระเริ่มทำการเพาะเห็ดประมาณเดือน ตุลาคม – กุมภาพันธ์ เพราะเห็ดชนิดนี้ชอบอากาศเย็นในการออกผลผลิต ) ส่วนเห็ดที่สามารถทำการเพาะได้ตลอดปี คือ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า นางรม เห็ด แต่ก็มีการเพาะเห็ดเป๋าฮื้อเหมือนกัน แต่มีไม่มาก สำหรับตลาดที่รับซื้อที่สำคัญคือ โครงการหลวงดอยคำ อำเภอฝาง บริษัทส่งออกเห็ดแปรรูป นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูนโรงงาน UFC จังหวัดลำปาง และส่งขายปลีกให้แก่แม่ค้าภายในอำเภอเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ
อ่างเก็บน้ำห้วยแม่คำมา เป็นแหล่งเพาะพันธ์ปลาหลากหลายพันธุ์ และมีกิจกรรมการอนุรักษ์ป่าไม้โดยพระสงฆ์ อยู่ที่บ้านแม่เจดีย์ หมู่ที่3 ต.แม่เจดีย์ กม.ที่ 113 ถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่
อ้างอิง
|