พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม

ณ เพลานี้ บ้านเมืองไทยของเรา ก็ยังอยู่ในบรรยากาศวุ่นๆของการเมืองหลังเลือกตั้ง ที่ออกมาตอบโต้จิกด่ากันทุกวันอย่างเมามันคันปาก สร้างความเบื่อหน่ายให้ชาวบ้านที่หวังจะให้คนมีความสามารถมาบริหารประเทศ และช่วยให้ชีวิตต้องสู้ วิ่งสู้ฟัดของเราดีขึ้น--แต่กลับต้องผิดหวังกับดุลพินิจของบางคน ที่แสดงให้เห็นว่าคิดได้แค่เนี้ยเองเหรอ (วะ) “สะหมง สะหมอง” หายไปไหนหมดเนี่ย

เปลี่ยนจอมาดูพระเครื่องในสนามพระวิภาวดี ของเราดีกว่า เพราะเป็นที่พึ่งทางใจที่ไม่มีการเมืองเรื่องผลประโยชน์เจือปน มีแต่เรื่องบริสุทธิ์พุทธคุณที่โบราณาจารย์บรรจงสร้างด้วยกุศลเจตนา

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
พระสมเด็จอรหัง (แดง) พิมพ์ฐานคู่ หลังโต๊ะกัง สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดสร้อยทอง ของมาตยวงศ์ อมาตยกุล.

องค์แรกคือ พระสมเด็จอรหัง (แดง) พิมพ์ฐานคู่ หลังโต๊ะกัง สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดสร้อยทอง อ.เมือง จ.นนทบุรี พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณ ที่ค้นพบจากกรุองค์พระเจดีย์วัดสร้อยทอง

และเชื่อได้ว่าเนื้อมวลสาร แบบเนื้อขาวละเอียด เป็น พระพิมพ์เดียวกัน กับ พระสมเด็จอรหังเนื้อขาว ที่สมเด็จพระ สังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) สร้างบรรจุไว้ ณ วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ส่วน เนื้อหยาบ และ เนื้อสีแดง พบเฉพาะที่กรุวัดสร้อยทอง ซึ่งด้านหลังมี รอยตราปั๊ม อักขระคำว่า อรหัง จมเข้าเนื้อ ต่างจากของวัดมหาธาตุ ที่เป็น รอยลายมือจาร บอกถึงความผูกพันของสองวัดในอดีต

องค์นี้ของ เสี่ยมาตยวงศ์ อมาตยกุล พิมพ์พระคมชัด ผิวเนื้อไม่มีร่องรอยการใช้ได้สัมผัส รอยปั๊มหลังติดลึกชัด ฟอร์มทรงลงตัว สรุปว่าสวย สมบูรณ์ ระดับพระแชมป์

องค์ที่สอง คือ พระผงสุพรรณ พิมพ์หน้าหนุ่ม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระสภาพงามเยี่ยม สมบูรณ์ยอดแบบนี้ ปัจจุบันหายากมาก แม้เป็น พระพิมพ์รอง ในสกุลพระผงสุพรรณ

ในอดีต นักนิยมพระจะนิยมเล่น พระพิมพ์หน้าแก่ พุทธศิลป์เป็นสมัยอู่ทองยุคต้น เป็นหลัก ไม่ค่อยเหลียวแล พิมพ์หน้ากลาง ยิ่ง หน้าหนุ่ม ยิ่งไม่สนใจจะชายตา

พอมีการจัดพระกรุนี้เข้าเป็นชุดเบญจภาคี ก็ยิ่งทำให้ พระพิมพ์หน้าแก่ ถูกกว้านตุนหมดตลาด มาปัจจุบัน ราคายิ่งสูง จนชนชั้นกลางชั้นลอยสุดจะเอื้อมถึงจึงเริ่มหันมาหา พระพิมพ์รอง หน้ากลาง หน้าหนุ่ม

โดยเน้นเฉพาะองค์งามๆ สภาพสมบูรณ์เยี่ยม อย่างองค์นี้ ของ เสี่ย ป. สินกาญจน์ ซึ่งก็เริ่มจะเป็นพระหายาก ราคาก็แรงไล่ติดพิมพ์ต้นๆมาแบบเห็นหลังไวๆ

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ของเอนก ปิ่นแก้ว.

ตามมาด้วย พระวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ของ เสี่ย เอนก ปิ่นแก้ว

พระสภาพเดิมๆ สวยงาม สมบูรณ์ พิมพ์พระติดชัดเสมอกันทั่วองค์ ลึกจนเห็นหูตาได้ด้วยตาเปล่า ผิวเนื้อมีคราบฝ้า รากรุ ให้ส่องศึกษา บางจุดมีรอยลั่นจนผิวเนื้อกะเทาะ เปิดเห็นเนื้อในที่อัดแน่นด้วยมวลสารครบสูตร คู่ควรเป็น “พระองค์ครู” ให้เรียนรู้ได้อย่างมั่นใจ

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
รูปเหมือนปั๊ม ก้นระฆัง เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ของเฉิน รังเทพ.

ตามมาคือ พระรูปเหมือนปั๊ม ก้นระฆัง เนื้อ ทองเหลือง พ.ศ.๒๕๑๒ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นคร สวรรค์ พระเกจิอาจารย์ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาทั่วแผ่นดิน ที่คนนครสวรรค์ให้ความเคารพ ยกย่องท่านเหมือน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ “เทพเจ้าของชาวนครสวรรค์”

แม้มรณภาพไปแล้ว แต่ยังร่ำลือถึงสังขารท่าน ที่เล็บมือ เล็บเท้า เส้นผมยังงอกให้ต้องตัดทุกเดือน ทุกวันนี้ร่างท่านยังเก็บรักษาให้เข้ากราบไหว้บูชาที่วัด ระลึกถึงท่าน ซึ่งเป็นพระแท้ ถือสันโดษ มีวัตรปฏิบัติอย่างสมถะ มีวิชาอาคมเข้มขลัง

ที่สำคัญท่านยังเป็นพระนักพัฒนา สร้างวัดช่องแค จากที่ดินบริจาคของชาวบ้าน จนเจริญรุ่งเรือง สง่างาม มั่นคงมาถึงทุกวันนี้

ตลอดอายุท่านสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้มากมาย หลายรุ่น มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ปรากฏรอบด้าน ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ อาทิ เหรียญรูปท่าน รุ่นแรก รุ่นสร้างมณฑป เหรียญรุ่น ๕ มหาลาภ พระพิมพ์สมเด็จ หลังยันต์ ๑๐ พระผงรูปเหมือนรุ่นฟ้าผ่า เหรียญรุ่นแจกทาน รูปเหมือนจำลอง รุ่นนิ้วกระดก

และรูปเหมือนปั๊มจำลอง รุ่นก้นระฆัง อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยเฉิน รังเทพ ซึ่งเป็นรูปเหมือนองค์แชมป์ของวงการ ที่กวาดรางวัลประกวดมานับไม่ถ้วน ล่าสุด ก็เป็นแชมป์งานประกวด ร.ร.นายร้อยตำรวจ สามพราน ที่เพิ่งผ่านมา เพราะยังไม่มีองค์สู้ จึงประเมินราคากันถึงหลักล้าน

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
พระปิดตา พิมพ์หลังแบบ เนื้อผงคลุกรัก รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๓ หลวงพ่อหลิม วัดน้อย ของเสี่ยพงศ์ เก้าเจริญ.

ต่อไป เป็น พระปิดตาหลังแบบ เนื้อผงชุบรักปิดทอง รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๐๓ หลวงพ่อหลิม วัดน้อย ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่ได้รับความนิยม เป็นพระปิดตา ๕ เสือเมืองชล ยุคหลังปี พ.ศ.๒๕๐๐ ที่ประกอบด้วย ๑.พระปิดตาหลวงพ่อปาน วัดเครือวัลย์ ๒.พระปิดตาท่านเจ้าคุณศรีฯ วัดอ่างศิลา ๓.พระปิดตาหลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าฯ ๔.พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดหนองตำลึง

และ ๕.พระปิดตาหลวงพ่อหลิม วัดน้อย ที่ชาวเมืองชลฯเชื้อสายจีน ที่เป็นศิษย์เรียกท่านว่า “ก๋งหลิม” ซึ่งได้สร้างพระปิดตาเนื้อผงจุ่มรักเคลือบรัก ตามแบบพิมพ์พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ออกให้ศิษย์ได้นำไปใช้บูชา

ปรากฏว่าพบอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ทั้งแคล้วคลาด เมตตามหาเสน่ห์ มหาโชค มหาลาภ เหมือนกับพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว แบบใช้บูชาแทนกันได้

โดยเฉพาะพระที่สร้างเป็นรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๓ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยพงศ์ เก้าเจริญ นักนิยมพระสายเข้มขลัง เน้นพลังพลานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูง ศิษย์สายตรงของพระอาจารย์มหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ ยังหามาใช้เป็นพระคู่ตัว

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น ๓ เนื้อเงินลงยา พระครูวิสัยโสภณ วัดช้างให้ ของวิสูตร เจริญยนต์.

ต่อด้วย เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่น ๓ เนื้อเงินลงยา พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

สร้างออกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๒ เป็นเหรียญปั๊มทรงเสมา ด้านหน้าเป็นองค์หลวงปู่ทวด นั่งเต็มองค์ ด้านหลังเป็นรูปจำลององค์อาจารย์ทิม หน้าตรงครึ่งองค์

เป็นรุ่นที่มีจำนวนสร้างมากสุด มีพิมพ์แยกเล่นมากสุด เนื้อเหรียญมีทองแดงรมดำ และเงินลงยา อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยวิสูตร เจริญยนต์ ซึ่งเป็นเหรียญสภาพสวยสมบูรณ์ ลงยาเต็มร้อยเดิมๆ แบบนี้ ราคาอยู่ที่หลักแสน

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
พระพุทธรูปบูชา เชียงแสน สิงห์ ๓ หน้าตัก ๕ นิ้ว ของพรรค คูวิบูลย์ศิลป์.

องค์ต่อไปคือ พระบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ เนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตัก ๕ นิ้ว ของ เสี่ยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์

เป็นพระแท้ดูง่าย อายุถึงยุค ถึงศิลป์ องค์ขนาดย่อม สภาพสมบูรณ์เดิมๆ ไม่มีตำหนิอุดซ่อมแต่งเติมแบบนี้ เป็นพระคุณภาพที่ปัจจุบันหายากสุดๆ นิยมหาไปบูชาประจำบ้าน เพราะมีพุทธศิลป์งาม และ ความศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวกันว่า ใครมีไว้บูชาจะมีความเจริญ ร่มเย็นเป็นสุข ปลอดโรคปลอดภัย สมบูรณ์ด้วยลาภยศเงินทอง

พระเน อผงออกท ว ดไร วาร หล งป ม
พระเจ้าสัว ย้อนยุค รุ่น 6 วัดกลางบางแก้ว แจกในพิธีมหาพุทธาภิเษก.

ถัดไปขออัปเดตพระใหม่ รุ่นดังพิธีใหญ่ ของปีนี้ พระเจ้าสัว ย้อนยุค รุ่น ๖ ที่ หลวงพ่อพระครูธรรมธรพีระ เจ้าอาวาสวัด กลางบางแก้ว จัดสร้างตามตำรับ หลวงปู่บุญ ปฐมาจารย์ของวัด ซึ่งเป็นการจัดสร้าง ครั้งที่ ๖ ของวัดกลางบางแก้ว ในเวลา ๘๕ ปี ตั้งแต่ หลวงปู่บุญ สร้าง พระเจ้าสัว รุ่นแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๗--๘๕ ปี มีสร้าง เจ้าสัว แค่ ๖ รุ่น จึงไม่มีใครอยากรอรุ่น ๗

รุ่นย้อนยุค ๖ สร้างแบบเดียว มี ๑ พิมพ์ ๕ เนื้อ คือ ทองคำ เนื้อเงินหน้าทองคำ เนื้อเงิน เนื้อเงินนวโลหะ เนื้อทองแดง

ที่สำคัญคือ พิธีกรรม ซึ่งได้เมตตาจากทั้ง เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ เป็นประธาน พิธีเททองหล่อ ชนวนนำฤกษ์ พร้อมด้วย พระธรรมวชิรารุวัตร (หลวงพ่อแย้ม) วัดไร่ขิง เมื่อ ๔ มี.ค.--เปิดจองแปดโมงเช้า แค่วันเดียวหมดทุกเนื้อ

ตอนนี้ทางกรรมการวัดก็กำลังเตรียม พิธีมหาพุทธาภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ ๒๐ มิ.ย. เวลา ๑๕.๑๙ น. โดยมี สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ เป็นประธานจุดเทียนชัย และอาราธนาพระเกจิคณาจารย์นั่งปรก อธิษฐานจิต ๖๖ รูป ในพระอุโบสถวัดกลางบางแก้ว คาดว่าวัดต้องแน่นเอี้ยดทุกพื้นที่ เพราะหลังพิธีจะแจก พระเจ้าสัว--งานนี้ สีกาอ่าง ก็ยังอยากไปต่อคิวรับพระเจ้าสัวกับเขาด้วยเลย จะได้มาบูชาแก้จน ระหว่างรอรัฐบาลใหม่

มาถึงเรื่องปิดท้าย ณ ที่ทำการพรรคการเมือง ที่นัด ส.ส.ไปประชุม คุยถึงผลเลือกตั้งว่ามีจุดดีจุดด้อยยังไง

ก่อนเวลาก็มีสมาชิกมาถึงก่อน ๕-๖ คน ก็ทักทายแสดงความยินดีกับผู้ชนะ ปลอบใจผู้แพ้ แล้วคุยถึงสาเหตุการชนะแพ้เป็นหลัก

ก็วิเคราะห์กันหลายประเด็นจนมีคนหนึ่งถามลอยๆว่า มีผู้ชนะคนใดเป็นสายมู ใช้พระเครื่องของขลังช่วยในการหาเสียงมั่งมั้ย ปรากฏว่าแทบทุกคนบอกว่ามี และก็คุยว่าใครใช้อะไร ซึ่งก็มีทั้งพระสมเด็จ พระกริ่ง พระปิดตายอดนิยม ตะกรุด ลูกอม

ยกเว้นผู้ชนะเลือกตั้งหุ่นจัมโบ้ ที่อายุน้อยสุดในกลุ่ม นั่งเงียบ ทำท่าอึดอัด ผู้อาวุโสในกลุ่มจึงถามว่า คุณเป็นคนรุ่นใหม่คงไม่ใช่สายมู ไม่ได้ใช้พระอะไรช่วยหาเสียงซินะ

ส.ส.ใหม่ยิ้มนิดๆ ตอบว่า ผมก็มีใช้เหมือนกัน แต่จำชื่อเรียกไม่ได้สักองค์ เพราะเป็นพระเครื่องของขลังที่พ่อแม่พี่น้องญาติมิตรให้มา บอกว่าใช้ดีช่วยได้ ผมก็ใช้คล้องคออยู่หมด

ว่าแล้วก็เปิดเสื้อให้ดูพระเป็นแผงที่แขวนเบียดแน่นอยู่เต็มหน้าอก และบอกว่า ผมก็ไม่รู้องค์ไหนช่วย แต่ที่แน่ๆ อึดอัดตัวชะมัด แต่จะเอาองค์ไหนออกก็ไม่กล้า เพราะอธิษฐานขอไว้ให้พรรคเราได้เป็นรัฐบาล--เลยต้องห้อยพระทั้ง ๓๐ กว่าองค์ไปไหนไปกัน เพราะกลัวพระที่ถูกเอาออกจะโกรธเจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.