ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย

ความสามารถพื้นฐานทางวิชาชีพครู

1. ความสามารถทางการสื่อสาร

2. ความสามารถทางการคิดวิเคราะห์

3. ความสามารถทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

4. ความสามารถทางการเข้าใจตนเองและผู้อื่น

5. ความสามารถทางการคิดเพื่อการเรียนรู้

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นโรงเรียนสหศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแห่งแรกของประเทศไทย ปัจจุบันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 1 (สพม.1) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 (นับแบบเก่า) โดยพันเอก หลวงพิบูลสงคราม อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขณะนั้น โดยวารสารข่าวภาพไทยบันทึกว่า "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มีกำเนิดเมื่อท่านอธิการบดี จอมพล หลวงพิบูลสงคราม ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อต้นพุทธศักราช 2481 เพื่อดำเนินการตามแผนการศึกษาใหม่ของรัฐบาล"

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ตั้งอยู่เลขที่ 227 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร บนพื้นที่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีอาณาบริเวณติดกับหลายคณะ ได้แก่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ นอกจากนี้ภายในพื้นที่เช่าของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษายังเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารจุฬาวิชช์ และที่ตั้งของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน

ประวัติโรงเรียน

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เดิมชื่อว่า "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" เกิดขึ้นตามแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๗๙ โดยนายกรัฐมนตรีพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) โดยเหตุที่ลดชั้นมัธยมบริบูรณ์ลงเหลือเพียงมัธยมปีที่ 6 และจัดชั้นเตรียมอุดมศึกษาขึ้นนั้นมีกล่าวไว้ว่า "แผนการศึกษาชาติซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๔๗๕ นั้น มีระยะเวลาในการศึกษาสามัญยาวเกินสมควร นักเรียนต้องเสียเวลาเรียนในสายสามัญถึง ๑๒ ปี และยังจะต้องไปเข้าเรียนต่อในสายวิสามัญอีก ซึ่งเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจะเห็นได้ว่าโครงการศึกษาเก่าของเรากำหนดเวลาเรียนไว้เป็นเวลานานมาก" ขุนสุคนธ์วิทย์ศึกษากร รัฐมนตรีสั่งราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ ได้มีหนังสือเวียนลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2480 ประกาศให้มีการเรียนชั้นเตรียมอุดมศึกษาก่อนอุดมศึกษา

ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
จอมพล ป. พิบูลสงคราม อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

สภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้กว่า 8 เดือน ขณะนั้น พันเอก หลวงพิบูลสงครามเป็นอธิการบดี หลวงแมนวิชาประสิทธิ์เป็นเลขาธิการของมหาวิทยาลัย หลวงพรตพิทยพยัตเป็นคณบดีคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลเป็นหัวหน้าแผนกฝึกหัดครูมัธยม คณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยมหอวังแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สุดท้ายมีมติให้จัดตั้ง "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 โดยสภามหาวิทยาลัยประชุมในตึกอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงถือว่าวันนั้นเป็นวันก่อตั้งของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สามวันต่อมา อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เรียกหม่อมหลวงปิ่น มาลากุลเข้าไปพบและมอบหมายให้จัดตั้ง "โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัย" ขึ้น โดยใช้สถานที่โรงเรียนมัธยมหอวังฯ แต่ให้ขยายไปจนจดถนนสนามม้า ให้ร่างโครงการเขียนแบบแปลนก่อสร้างอาคารเพิ่มเติม หาครูอาจารย์เขียนหลักสูตร ร่างระเบียบรวมทั้งระเบียบการรับสมัครนักเรียนด้วย หม่อมหลวงปิ่น มาลากุลได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2480 โดยเปิดสอนโรงเรียนเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2481

ใน วารสารข่าวภาพไทย กรกฎาคม พ.ศ. 2484 ปรากฏข้อมูลบทบาทของคณะราษฎรกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีข้อความส่วนหนึ่งดังนี้ "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มีกำเนิดเมื่อท่านอธิการบดี จอมพล หลวงพิบูลสงคราม ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อต้นพุทธศักราช 2481 เพื่อดำเนินการตามแผนการศึกษาใหม่ของรัฐบาล"

ในช่วงแรก โรงเรียนฯ ริเริ่มพิธีมอบตัวให้เข้าศึกษาเมื่อสำเร็จการศึกษา จัดสร้างตึกเรียนเพิ่มขึ้นจนจดสนามม้า ทางด้านกีฬานักเรียนเล่นฟุตบอล ฮอกกี้ รักบี้ ฯลฯ ในเหตุการณ์กรณีพิพาทอินโดจีน โดยมีการเดินขบวนเรียกร้องดินแดนกัน นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาก็ไปร่วมเดินขบวนด้วย อาจารย์ชายต่างสมัครเข้าช่วยราชการทหาร ส่วนอาจารย์สตรีต่างสมัครเป็นอาสากาชาดเป็นจำนวนมาก นักเรียนต่าง ๆ ก็ช่วยกันทำงานอุตสาหกรรม ทำถุงของขวัญและบรรจุของขวัญเป็นการใหญ่ส่งไปให้ทหารที่ปฏิบัติการในสนาม ทั้งต้อนรับทหารกองทัพที่ 30 (ลำปาง) มาพักอยู่ที่โรงเรียน สิ้นเดือนมีนาคม 2483 วิทยุกระจายเสียงประกาศเปลี่ยนนโยบายการศึกษาของชาติตามมติคณะรัฐมนตรี มีสาระสำคัญตอนหนึ่งให้ยุบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาของรัฐบาล ฝ่ายหม่อมหลวงปิ่น มาลากุลเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการว่าในปีการศึกษา 2484 นี้ จะรับนักเรียนให้มากขึ้น

ในปี พ.ศ. 2485 กระทรวงศึกษาธิการจัดตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคพายัพขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้สถานที่ของโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยและโรงเรียนดาราวิทยาลัย โรงเรียนอพยพทางกรุงเทพฯ เปิดเรียนเมื่อต้นปีการศึกษา 2485 มีพิเศษคือจัด "หลักสูตรเร่ง" ให้นักเรียนเตรียมวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์เร่งหลักสูตร 3 ภาคเรียนให้จบใน 2 ภาค ถึงเดือนตุลาคมเกิดอุทกภัยใหญ่ทำให้ปิดโรงเรียน ในปี พ.ศ. 2486 กิจการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาหัวเมืองเปิดรับสมัครที่เชียงใหม่ พิษณุโลกและกรุงเทพฯ แต่พอถึงเวลาเปิดภาคการศึกษา 2486 ทหารญี่ปุ่นได้ออกไปจากโรงเรียนแล้ว นักเรียนจึงได้เข้าเรียน ณ ที่เดิม แต่ยังคงต้องใช้หอใหม่ต่อไปเพราะจำนวนนักเรียนมาก นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาขาดไปหนึ่งรุ่น (รุ่น 9) เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดโรงเรียนและให้งดสอบ ท่ามกลางสถานการณ์การทิ้งระเบิดพระนครของฝ่ายสัมพันธมิตร ไม่มีการสอบคัดเลือกรับนักเรียนใหม่ในปี พ.ศ. 2488

เมื่อสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นที่รับรองทหารสัมพันธมิตรที่ชนะสงคราม

ความรู้สึกเกี่ยวกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาระยะนี้ก็ไม่สู้จะดีนัก ทางฝ่ายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเห็นว่านักเรียนเตรียมอุดมศึกษาจำนวนมากนักและก็ไม่ได้เล่าเรียนเต็มเม็ดเต็มหน่วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะรับไว้ไม่ได้ทั้งหมด จะต้องมีการสอบคัดเลือกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งความวุ่นวายยุ่งเหยิงทั้งหลายเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนทางด้านประชาชนทั่วไปนั้นก็ได้วิจารณ์ต่าง ๆ นานาเช่น

  1. ทำไมจึงให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาฯ ผูกขาดการเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโรงเรียนเดียว
  2. ขอให้โรงเรียนอื่น ๆ เปิดชั้นเตรียมอุดมศึกษาด้วยเถิด ชั้นมัธยมปีที่ 8 ก็เคยสอนมาแล้ว ถ้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสอนดี นักเรียนเตรียมก็คงจะเข้ามหาวิทยาลัยได้หมดตามเดิมไม่เดือดร้อนอะไร
  3. อยากให้นักเรียนที่จบมัธยมปีที่ 6 ได้เรียนต่อเพื่อจะได้มีความรู้สูงขึ้นมากกว่าที่จะให้ได้เข้ามหาวิทยาลัย ไม่ให้เข้าก็ไม่เป็นไร

ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน ทางมหาวิทยาลัยและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจึงได้ร่วมกันพิจารณาที่จะเปิดโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาให้ได้ เพราะทนปิดต่อไปไม่ไหวแล้ว กรมสามัญศึกษาจะเอื้อเฟื้อให้ยืมสถานที่ในโรงเรียนบางแห่ง สภามหาวิทยาลัยได้ประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ตกลงให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาไปเปิดสอนที่โรงเรียนมัธยมวัดไตรมิตร โรงเรียนมัธยมวัดราชาธิวาส โรงเรียนศึกษานารี โดยจัดให้สองสองผลัด นักเรียนหญิงตอนเช้านักเรียนชายตอนบ่าย แต่ยังไม่ทันดำเนินการ ทหารแจ้งว่าต้องการใช้โรงเรียนศึกษานารี จึงต้องเปลี่ยนใหม่ ได้โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒารามมาแทน โรงเรียนเจ้าของสถานที่เอื้อเฟื้อเป็นอย่างมากโดยจัดนักเรียนของตนไปเรียนเป็นผลัดบ่าย ณ โรงเรียนอื่นแทน

ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เชิญผู้แทนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มาประชุม และชี้แจงว่าจำเป็นจะต้องอนุโลมตามเสียงของประชาชน แต่จะตั้งชั้นมัธยมปีที่ 7 - 8 ขึ้นก็ไม่ได้เพราะขัดกับแผนการศึกษา จึงจะให้ขยายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแทน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่มีอยู่ก็ให้จัดต่อไป แต่จะให้โรงเรียนรัฐบาลแห่งอื่นและโรงเรียนราษฎร์เปิดสอนได้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยนั้น เมื่อโอนมาอยู่ทางกรมสามัญศึกษาได้ก็ให้โอนมา กระทรวงจะเป็นผู้จัดสอบประโยคเตรียมอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะจัดสอบคัดเลือกผู้ที่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอีกชั้นหนึ่ง ในการประชุมครั้งต่อมา กำหนดให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยรับนักเรียนใหม่ในปีการศึกษา พ.ศ. 2489 จำนวน 100 คนและกำหนดจะให้เปิดสอนชั้นเตรียมอุดมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลในจังหวัดพระนคร ธนบุรี พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ สงขลาและอุบลราชธานี จังหวัดละ 2 โรงเรียน

การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการรื้อฟื้นชั้นมัธยมปีที่ 8 กลับมาอีก ไม่เหมือนนโยบายที่ประกาศครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2484 เพราะกลับเพิ่มชั้นเตรียมอุดมศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลแทนที่จะยุบ เรื่องนี้ได้พูดกันในที่ประชุมกรรมการอำนวยการคุรุสภาครั้งหนึ่ง กรรมการบางท่านไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ บอกว่าเป็นการเตรียมเสมียนและเป็นยาหอมสำหรับประชาชนมากกว่าอย่างอื่น เหตุการณ์นี้เป็นผลให้โรงเรียนเตรียมปริญญามหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองมีอันยุบไป

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยก็ได้จัดการสอบคัดเลือกรับนักเรียนสำหรับโรงเรียนของตนเอง ประชาชนยังนิยมอยู่ มีผู้สมัครมากกว่าโรงเรียนอื่น ๆ โรงเรียนรัฐบาลในส่วนกลางแห่งหนึ่งมีผู้สมัครเพียง 30 คนเท่านั้น ขณะที่สมัครที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย 1,112 คน ทุกโรงเรียนสอบคัดเลือกพร้อมในวันเดียวกัน พอสอบรับสมัครนักเรียนใหม่แล้ว โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาก็จัดการสอบประจำปี พ.ศ. 2487 ซึ่งค้างเติ่งมาถึงต้นปีการศึกษา 2489 สอบปี 1 และปีที่ 2 พร้อมกัน มีผู้สอบประมาณ 3,000 คน ในจำนวนนี้ จบหลักสูตรได้เข้ามหาวิทยาลัย 664 คน จำนวนนักเรียนที่เหลือศึกษาอยู่ในโรงเรียนจึงมากพอใช้

สิ้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2489 ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรจึงได้คืนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาให้แก่ประเทศไทย โดยมีทหาร ส.ห. เป็นผู้รับมอบแล้วจึงมอบให้แก่โรงเรียนอีกชั้นหนึ่ง บัดนี้นักเรียนก็ได้ทยอยกลับเข้ามาเรียนยังโรงเรียนทีละนิด ผู้อำนวยการโรงเรียนร้องว่าจะซ่อมโรงเรียนไปทำไมกัน เมื่อสภามหาวิทยาลัยประชุมตกลงว่าจะให้ย้ายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาไปสังกัดกรมสามัญศึกษา ซึ่งขณะนั้นดูเหมือนหมายความว่าจะให้ย้ายอาจารย์และนักเรียนไปจากโรงเรียนเดิมให้หมดด้วย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้ต่อสู้ที่จะอยู่กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่เป็นผลสำเร็จ เกิดความยุ่งยากบางอย่างที่ไม่ได้คาดฝัน เช่นในต้น พ.ศ. 2490 ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกรมสามัญศึกษาต่างก็จะไม่วางฎีกาเบิกเงินเดือนให้ครูอาจารย์ เรื่องการโอนโรงเรียนนี้จึงโอ้เอ้กันอยู่นาน ในที่สุดได้โอนกันเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 แต่โอนเฉพาะสังกัด ยังใช้สถานที่โรงเรียนเดิมไม่ต้องโยกย้ายไปที่อื่น

เรื่องนี้กระทบกระเทือนจิตใจอาจารย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาไม่น้อยกว่าเมื่อได้ยินวิทยุกระจายเสียงประกาศว่าจะยุบโรงเรียน เสียดายพระเกี้ยว ซึ่งเป็นตราของโรงเรียนอยู่เช่นเดียวกับของมหาวิทยาลัยและเสียดายสร้อยชื่อ "แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" ซึ่งหม่อมหลวงปิ่นได้กล่าวว่า

"โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" ชื่อยาวนัก จึงได้เปลี่ยนเป็น "โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา" เฉย ๆ แต่พระเกี้ยวนั้นเป็นของสูง จะทิ้งกันได้อย่างไร โรงเรียนได้เก็บไว้เป็นเครื่องหมายรวมจิตใจ ของอาจารย์และนักเรียนจนกระทั่งทุกวันนี้

อาคารสถานที่ของโรงเรียนขณะนั้นชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก โรงเรียนจึงต้องดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุงเป็นการใหญ่ นอกจากนั้นก็ต้องปรับปรุงจิตใจของนักเรียนด้วย งานทางด้านนี้ที่บังเกิดผลดีคือ ได้จัดตั้งคณะกรรมการนักเรียนขึ้นเพื่อให้จัดการในเรื่องที่ควรปล่อยให้นักเรียนทำเอง ให้ใช้ห้อง ๖๐ ที่โรงหัตถกรรมเป็นสำนักงานเรียกกรรมการนักเรียนนี้ว่า "กรรมการห้อง ๖๐" ซึ่งถือได้ว่า โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจัดตั้งคณะกรรมการนักเรียนขึ้นมาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้แบ่งนักเรียนออกเป็นคณะ ๆ รวม 6 คณะ แต่ละคณะให้มี "สี" ประจำคณะ (ปัจจุบัน มี 7 สี ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีแดง สีแสด สีม่วง และสีบานเย็น) และมีการแข่งขันกีฬาสีเป็นโรงเรียนแรก อีกด้วย

แต่เรื่องสำคัญที่สุดในปี พ.ศ. 2490 ก็ย่อมเป็นเรื่องขยายการศึกษา กล่าวคือเมื่อโรงเรียนรัฐบาลอื่น ๆ และโรงเรียนราษฎร์ต่างก็จัดชั้นเตรียมอุดมศึกษาได้ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจึงไม่มีความสำคัญมากนัก แต่มีผู้มีความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก ประจวบกับเป็นเวลาหลังสงคราม กระทรวงศึกษาธิการกำลังขยายการศึกษา ต้องการครูชั้นสูงเป็นจำนวนมาก คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติให้จัดตั้งแผนกฝึกหัดครูมัธยมขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2490 เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยมีอาจารย์หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร ได้ทรงเป็นหัวหน้างานใหม่นี้

ปลายปีการศึกษา 2490 (มีนาคม พ.ศ. 2491) โรงเรียนจำใจต้องให้หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร โอนไปรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ ท่านได้ทรงเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการมาได้ 4 ปี

ในปี พ.ศ. 2496 จัดตั้ง โรงเรียนสาธิตปทุมวัน เพื่อเป็นหน่วยสาธิตของ แผนกฝึกหัดครูมัธยม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ฝค.ตอ.) ซึ่งโรงเรียนนี้นับเป็นแห่งแรกที่ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนสาธิต" โดยดำเนินงานตามรูปแบบโรงเรียนมัธยมหอวังฯ เดิม (ต่อมา ฝค.ตอ. ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น วิทยาลัยวิชาการศึกษา ปทุมวัน และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ตามลำดับ)

ในปี พ.ศ. 2503 มีการเปลี่ยนแปลงแผนการศึกษาแห่งชาติใหม่ เรียกชั้นเตรียมอุดมศึกษาปีที่ 1 และปีที่ 2 เดิมว่า ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ แบ่งเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 (มศ.4 - มศ.5) แผนกศิลปะ แผนกวิทยาศาสตร์ และแผนกทั่วไป มีหลักสูตรสองปีเท่าเดิม โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จึงเป็นชื่อเฉพาะที่มีความหมายเช่นเดิม เพราะนักเรียนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ ส่วนมากต้องการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา

ในปี พ.ศ. 2533 กระทรวงศึกษาธิการปรับหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ โดยหลักสูตร 2 ปี ปรับให้เป็นหลักสูตร 3 ปี (ม.4 - ม.6)

เครือข่ายวิชาการแห่งจุฬาฯ

ปัจจุบัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีฐานะเป็นโรงเรียนเครือข่ายวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งประกอบด้วยกัน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โรงเรียนสาธิตปทุมวัน โดยนักเรียนของทั้ง 3 โรงเรียนนี้ จะได้รับสิทธิเข้าเรียนโครงการเรียนล่วงหน้าจุฬาฯ (CUAP Program) ในรายวิชาที่นักเรียนสนใจและถนัดเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการพิเศษที่ริเริ่มขึ้นมาสำหรับนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาโดยเฉพาะ ได้แก่ โครงการพัฒนานักอักษรศาสตร์รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินการโดยคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในปีการศึกษาต่อมาได้เปิดรับนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม และ โรงเรียนสาธิตปทุมวัน เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ยังเป็นโรงเรียนแรกในประเทศไทยที่มีการเรียนการสอนภาษาสเปน ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกโครงการหนึ่ง จัดการเรียนการสอนโดยคณาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายนามผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

ลำดับ รูป รายนาม เริ่มวาระ สิ้นสุดวาระ 1.

ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
ศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล (24 ตุลาคม พ.ศ. 2446 — 5 ตุลาคม พ.ศ. 2538) พ.ศ. 2480 พ.ศ. 2487 2.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
สนั่น สุมิตร (12 เมษายน พ.ศ. 2453 — 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2539) พ.ศ. 2487 พ.ศ. 2493 3.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
สงวน เล็กสกุล (8 มกราคม พ.ศ. 2452 — 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505) พ.ศ. 2494 พ.ศ. 2505 4.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
คุณหญิง บุญเลื่อน เครือตราชู (13 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 — 7 มีนาคม พ.ศ. 2555) พ.ศ. 2507 พ.ศ. 2518 5. ไฟล์:คุณหญิงสุชาดา ถิระวัฒน์2.jpg คุณหญิง สุชาดา ถิระวัฒน์ (20 มิถุนายน พ.ศ. 2467 — 18 ธันวาคม พ.ศ. 2565) พ.ศ. 2518 พ.ศ. 2522 6.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
คุณหญิง พรรณชื่น รื่นศิริ (7 เมษายน พ.ศ. 2472 — 4 ตุลาคม พ.ศ. 2551) พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2532 7.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
คุณหญิง พรรณี กาญจนะวสิต (4 สิงหาคม พ.ศ. 2480 —) พ.ศ. 2532 พ.ศ. 2540 8.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
สมพงศ์ ธรรมอุปกรณ์ (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 —) พ.ศ. 2540 พ.ศ. 2542 9.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
อัศวิน วรรณวินเวศร์ (9 ตุลาคม พ.ศ. 2483 —) พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2544 10.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
พรรณี เพ็งเนตร (19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 —) พ.ศ. 2544 พ.ศ. 2548 11.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
พิศวาส ยุติธรรมดำรง (2 พฤษภาคม พ.ศ. 2491 — 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2564) พ.ศ. 2548 พ.ศ. 2551 12.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
วิศรุต สนธิชัย (11 มกราคม พ.ศ. 2496 —) พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2556 13.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
ปรเมษฐ์ โมลี (6 กันยายน พ.ศ. 2501 —) พ.ศ. 2556 พ.ศ. 2561 14.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
โสภณ กมล (25 เมษายน พ.ศ. 2503 —) พ.ศ. 2561 พ.ศ. 2563 15.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
วรรณดี นาคสุขปาน พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2565 16.
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
บุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต พ.ศ. 2565 ปัจจุบัน

สถานที่สำคัญภายในโรงเรียน

ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
สระปิ่นหทัย
ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย
สนามฟุตบอล อาคาร

  • ตึก 1
  • ตึก 2
  • ตึก 3
  • ตึก 4 (หอสมุด ม.ล.ปิ่น มาลากุล)
  • ตึก 8
  • ตึกคุณหญิงหรั่ง (หรั่ง กันตารัติ)
  • โรงพลศึกษา (สร้างแทนที่เรือนเหลือง)
  • ตึก 9
  • ตึกศิลปะ (สร้างแทนที่เรือนเทา)
  • หอประชุมโรงเรียน
  • ตึก 50 ปี (สร้างแทนที่เรือนไม้อรชร 1)
  • ตึก 55 ปี (สร้างแทนที่เรือนไม้อรชร 2)
  • ตึก 60 ปี
  • เรือนเกษตร
  • ตึกเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ (สร้างแทนที่โรงอาหารหรั่ง กันตารัติ)
  • ตึก 80 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (สร้างแทนที่ตึกปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ซึ่งรื้อถอนเมื่อ พ.ศ. 2560)
  • ตึก 81 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
  • อาคารนันทนาการ
  • อาคารสมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษาในพระบรมราชูปถัมภ์ สิ่งสักการะในโรงเรียน
  • ศาลพระปริวรรติเทพ
  • พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระปิยมหาราช
  • รูปปั้นหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ณ ห้องทำงานห้องแรก (ห้อง 57 ชั้นบน ตึก 1)
  • อนุสรณ์สถาน ฯพณฯ ศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล หน้าหอประชุมโรงเรียน

หลักสูตรที่เปิดสอน

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ โดยแบ่งตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เน้นดังนี้

หลักสูตรที่ถูกปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่นับตั้งแต่ปีการศึกษา 2560

  • วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ แบ่งกลุ่มย่อยตามวิชาเลือกได้อีก 6 กลุ่ม คือ
    • ภาษาเยอรมัน
    • ภาษาญี่ปุ่น
    • ภาษาฝรั่งเศส
    • ภาษาจีน
    • ภาษาเกาหลี
    • ภาษาสเปน
  • ภาษา-คณิตศาสตร์ 3 ห้อง เรียนเพิ่มวิชาบริหารจัดการ
  • ภาษา-ภาษา เรียนเพิ่มวิชาคุณภาพชีวิต โดยแบ่งกลุ่มวิชาภาษาที่เลือกได้ 6 กลุ่ม คือ
    • ภาษาฝรั่งเศส 2 ห้อง
    • ภาษาเยอรมัน 2 ห้อง
    • ภาษาญี่ปุ่น 2 ห้อง
    • ภาษาสเปน 1 ห้อง
    • ภาษาจีน 2 ห้อง
    • ภาษาเกาหลี 1 ห้อง

รายพระนามและรายนามนักเรียนเก่าที่มีชื่อเสียง (เรียงลำดับตามรุ่น)

รายพระนามและรายนาม รุ่น เกียรติประวัติ ศาสตราจารย์ หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ต.อ. 1

  • นักโบราณคดีชาวไทย ทรงเป็นบุคคลคนแรกที่พบทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์
  • ผู้ก่อตั้งและคณบดีคนแรกของคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
  • อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร
  • ผู้อำนวยการศูนย์สปาฟา (SPAFA) หรือศูนย์ทางด้านโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งซีมีโอ (SEAMEO) คุณหญิงสุชาดา ถิระวัฒน์ ต.อ. 1
  • อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คนที่ 5 (พ.ศ. 2518 – พ.ศ. 2522) ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ต.อ. 3
  • พระมาตุจฉาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
  • ผู้ประพันธ์คำร้องภาษาไทยในเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด เพลินภูพิงค์ เกิดเป็นไทย ตายเพื่อไทย แผ่นดินของเรา เตือนใจ ไร้เดือน เกาะในฝัน มาร์ชราชนาวิกโยธิน คุณหญิงพรรณชื่น รื่นศิริ ต.อ. 7
  • อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาคนที่ 6 (พ.ศ. 2522 – พ.ศ. 2532) จุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ต.อ. 7
  • องคมนตรี ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
  • ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)
  • กรรมการบริหารมูลนิธิอานันทมหิดล
  • กรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเวศ วะสี ต.อ. 10
  • ราษฎรอาวุโส
  • นักวิชาการด้านสาธารณสุขและการศึกษาชาวไทย พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ต.อ. 10
  • อดีตนายกรัฐมนตรี
  • อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด
  • อดีตผู้บัญชาการทหารบก อนันต์ อนันตกูล ต.อ. 10
  • อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
  • อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อาทิตย์ อุไรรัตน์ ต.อ. 16
  • อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
  • อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
  • อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
  • อดีตรองหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม
  • อดีตเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเครือพญาไท
  • อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต รองศาสตราจารย์ ธัชชัย สุมิตร ต.อ. 20
  • อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ต.อ. 21
  • รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ศาสตราจารย์ เทียนฉาย กีระนันทน์ ต.อ. 23
  • อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ศาสตราจารย์ สุทัศน์ ยกส้าน ต.อ. 24
  • นักวิทยาศาสตร์สาขา ฟิสิกส์ชาวไทย มีผลงานด้านฟิสิกส์ทฤษฎีอธิบายสมบัติพื้นฐานบางประการของสภาพนำยิ่งยวด
  • ได้รับรางวัลรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น ปี พ.ศ. 2530 ในสาขาฟิสิกส์ทฤษฎี
  • ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม ต.อ. 25
  • พระธิดาใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
  • อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ต.อ. 28
  • เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
  • นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาสตราจารย์พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ ต.อ. 28
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  • อัยการสูงสุด ธาริษา วัฒนเกส ต.อ. 28
  • อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ต.อ. 33
  • กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ต.อ. 33
  • อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร
  • รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ต.อ. 33
  • สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2549
  • สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539
  • อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต.อ. 34
  • อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน สุชัย เจริญรัตนกุล ต.อ. 34
  • อดีตรองนายกรัฐมนตรี
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร พงศ์เทพ เทพกาญจนา ต.อ. 35
  • อดีตรองนายกรัฐมนตรี
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในสมัยรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กิตติรัตน์ ณ ระนอง ต.อ. 37
  • รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  • อดีตกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์ สมคิด เลิศไพฑูรย์ ต.อ. 39
  • อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ต.อ. 39
  • อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ต.อ. 44
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
  • อดีตผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน ศาสตราจารย์ บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ต.อ. 44
  • อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนปัจจุบัน บุญยอด สุขถิ่นไทย ต.อ. 44
  • อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
  • อดีตผู้ประกาศข่าว
  • อดีตนักจัดรายการวิทยุ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ต.อ. 56
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมจราจรและขนส่ง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
  • สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อของ พรรคก้าวไกล

อ้างอิง

  • หนังสือ ๗๐ ปี เตรียมอุดมศึกษา
  1. ↑ "ประวัติ "เตรียมอุดมศึกษา" โรงเรียนสหศึกษาที่แรกของไทย ผลงานของคณะราษฎร". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 27 September 2020. ในเอกสาร วารสารข่าวภาพไทย กรกฎาคม พ.ศ. 2484 ปรากฏข้อมูลบทบาทของคณะราษฎรกับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีข้อความส่วนหนึ่งดังนี้ “โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย มีกำเนิดเมื่อท่านอธิการบดี จอมพล หลวงพิบูลสงคราม ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อต้นพุทธศักราช 2481 เพื่อดำเนินการตามแผนการศึกษาใหม่ของรัฐบาล
  2. "จำนวนนักเรียน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-10. สืบค้นเมื่อ 2022-07-31.

แหล่งข้อมูลอื่น

ข อใดเป นบทบาทของคร ท ม ต อโรงเร ย

ประวัติโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา https://www.triamudom.ac.th/website/index.php/2016-07-13-03-51-27/2016-07-13-07-27-57