ขายประก นเม องเอกแมนช น ม.ร งส ต

พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล หรือ พระองค์ชายใหญ่ (27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 – 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538) เป็นพระโอรสองค์โตใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล และเป็นพระอัยกาฝ่ายพระมารดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เป็นผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับละครและภาพยนตร์ ทรงพระนิพนธ์เรื่องและคำร้องเพลงประกอบหลายเรื่อง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารไทยทนุ เมื่อปี พ.ศ. 2492 และโปรดการสะสมโบราณวัตถุ

พระประวัติ[แก้]

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล (พระธิดาใน สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งเป็นพระโสทรกนิษฐภาดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) มีพระอนุชา 2 พระองค์ คือ

  • พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร
  • พลโท พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ

เริ่มแรกทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วเสด็จไปทรงศึกษาที่โรงเรียนแฮร์โรว์ (Harrow School) ประเทศอังกฤษ แล้วเสด็จกลับมาทรงศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก ทรงรับราชการที่กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ และทรงดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2500 - 2502

ปี พ.ศ. 2473 ทรงเป็นนาคหลวง วันที่ 2 กรกฎาคม ทรงรับสมโภช ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย วันต่อมาเวลา 17.00 น. จึงบรรพชาและอุปสมบท ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระศีลาจารย์ และสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ เวลา 18.40 น. เสด็จโดยรถม้าพระที่นั่งไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

ในรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผู้แทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ในหลายประเทศ โปรดการละครและภาพยนตร์ ทรงเป็นผู้อำนวยการสร้างและกำกับภาพยนตร์หลายเรื่อง ในด้านดนตรีโปรดนิพนธ์คำร้องเพลงต่าง ๆ หลายเพลง อาทิ เพลงบัวขาว เพลงเรือนแพ เพลงลมหวน อีกทั้งโปรดการสะสมโบราณวัตถุด้วย

ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 พระชันษา 85 ปี ในการนี้พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว​ (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร)​ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศกุดั่นใหญ่ ทรงพระศพ ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร และในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พุทธศักราช 2539 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า​ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ไปในการพระราชทานเพลิงพระศพ ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร

ภายหลังสิ้นพระชนม์ ในปี พ.ศ. 2559 กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศยกย่องเชิดชูพระเกียรติ ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เป็น "บูรพศิลปิน สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สาขาศิลปะการแสดง" โดยมีการเชิดชูเกียรติศิลปินผู้ล่วงลับ ซึ่งมีคุณูปการต่องานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติอันเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ควรค่าแก่การเคารพยกย่องซึ่งอนุชนรุ่นต่อมาได้พัฒนาและสืบทอดให้เจริญก้าวหน้ามาจนปัจจุบัน ซึ่งในโอกาสดังกล่าวสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อสำหรับศิลปินผู้ล่วงลับว่า “บูรพศิลปิน”

การเสด็จแทนพระองค์ปฏิบัติพระกรณียกิจยังต่างประเทศ[แก้]

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จแทนพระองค์ไปในพระราชพิธีสำคัญ ณ ต่างประเทศ ได้แก่

  • ในปี พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์แห่งลาว ณ นครหลวงพระบาง
  • ในปี พ.ศ. 2513 (ค.ศ. 1970) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสเจ้าชายพิเรนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทพ กับ เจ้าหญิงไอศวรรยา ราชชายาลักษมีเทวี ชาห์ มกุฎราชกุมารและมกุฎราชกุมารีแห่งเนปาล (พระนามเดิมของเจ้าสาวคือ ไอศวรรยา รานา) ณ กรุงกาฐมาณฑุ
  • ในปี พ.ศ. 2514 (ค.ศ. 1971) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในงานฉลอง 2,500 ปีแห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย ซึ่งจัดขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวีแห่งอิหร่าน ณ เมืองเปอร์เซเปอลิส
    ขายประก นเม องเอกแมนช น ม.ร งส ต
    พระองค์ชายใหญ่ (ซ้าย) ประทับข้างกับเจ้าชายเรซา ปาห์ลาวี มกุฎราชกุมารองค์สุดท้ายแห่งอิหร่าน ในงานฉลองครบรอบ 2,500 ปี แห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย ในปี 2514
  • ในปี พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในงานพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์ก ณ กรุงโคเปนเฮเกน

พระโอรส-ธิดา[แก้]

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ทรงจดทะเบียนสมรสกับหม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 มีหม่อมคือ หม่อมบุญล้อม ยุคล ณ อยุธยา และหม่อมปริม บุนนาค ต่อมาหม่อมหลวงสร้อยระย้าถึงแก่อนิจกรรม พระองค์ทรงจดทะเบียนสมรสใหม่กับหม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา โดยมีพระโอรส-ธิดา ดังนี้

ประสูติแต่หม่อมหลวงสร้อยระย้า ยุคล (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์; 4 ตุลาคม พ.ศ. 2452 – 28 ธันวาคม พ.ศ. 2527) 3 องค์ ได้แก่

  • ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร หรือ ท่านปิ๋ม (ประสูติ 24 กันยายน พ.ศ. 2476) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เพื่อสมรสกับหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร มีธิดา 1 พระองค์ กับ 1 คน ได้แก่
    • พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ (เดิม หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร) อภิเษกสมรสและทรงหย่ากับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชธิดา 1 พระองค์
    • หม่อมหลวงสราลี กิติยากร สมรสกับธีรเดช จิราธิวัฒน์ มีบุตร 2 คน
  • หม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล หรือ ท่านกบ (11 ตุลาคม พ.ศ. 2478 – 27 สิงหาคม พ.ศ. 2538) เสกสมรสกับหม่อมอุ่นเรือน (สกุลเดิม ธรรมเสน), หม่อมวาสนา (สกุลเดิม ใสเครือ) และชลาศัย ขวัญฐิติ มีโอรส-ธิดา 3 คน ได้แก่
    • หม่อมราชวงศ์นิภานพดารา ยุคล
    • หม่อมราชวงศ์จุลรังษี ยุคล
    • หม่อมราชวงศ์สุทธิพัฒน์ ยุคล
  • คุณหญิงรังษีนภดล ยุคล หรือ ท่านอ๋อย (2 ตุลาคม พ.ศ. 2480 – 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เพื่อสมรสกับหม่อมหลวงตวง สนิทวงศ์ แล้วสมรสใหม่กับวิเชียร ตระกูลสิน มีโอรส-ธิดา 4 คน ได้แก่
    • สายฝน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สมรสกับชัยรัก ชัชกุล มีบุตร-ธิดา 3 คน
    • ดุลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สมรสและหย่ากับพรทิพย์ ตันศฤงฆาร แล้วสมรสใหม่กับชัชชญา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา มีบุตร-ธิดา 2 คน
    • รังษิดล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    • ตรรค สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

ประสูติแต่หม่อมบุญล้อม ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม นาตระกูล; 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2455 – 19 มกราคม พ.ศ. 2517) 1 องค์ คือ

  • เรืออากาศโท หม่อมเจ้าภูริพันธ์ ยุคล หรือ ท่านเป๋อ (7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 - 20 เมษายน พ.ศ. 2557) เสกสมรสกับหม่อมนิติมา (สกุลเดิม ยนเปี่ยม) มีโอรส 2 คน ได้แก่
    • หม่อมราชวงศ์อัครินทร์ ยุคล สมรสกับศยามล ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม กุลพิจิตร) มีบุตรธิดา 3 คน
    • หม่อมราชวงศ์ทักขิญ ยุคล สมรสกับลัญจพร ยุคล ณ อยุธยา (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) มีบุตร-ธิดา 2 คน

หม่อมปริม บุนนาค (13 กันยายน พ.ศ. 2466 – 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564; ไม่มีพระโอรส-ธิดา)

ประสูติแต่หม่อมไฉไล ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม ถาวร; เกิด 9 กุมภาพันธ์ 2499; ได้ลงนามจดทะเบียนสมรสกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล หลังจากหม่อมหลวงสร้อยระย้าถึงแก่อนิจกรรมแล้ว) 2 องค์ ได้แก่

  • พันโท หม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคล หรือ ท่านปีใหม่ (ประสูติ 1 มกราคม พ.ศ. 2521) เสกสมรสกับหม่อมอัญวิดา ยุคล ณ อยุธยา (สกุลเดิม สง่าศิลป์) มีธิดา 2 คน ได้แก่
    • หม่อมราชวงศ์พริมา ยุคล
    • หม่อมราชวงศ์นภพิมพ์ ยุคล
  • ภานุมา ยุคล หรือ ท่านหญิง (ประสูติ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2524) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์เพื่อสมรสกับเมธ พิพิธโภคา มีโอรส-ธิดา 2 คน ได้แก่
    • ญาใจ พิพิธโภคา
    • เปรม พิพิธโภคา

ละครและภาพยนตร์[แก้]

ทรงก่อตั้ง บริษัทไทยฟิล์ม ร่วมกับนายพจน์ สารสิน และนายประสาท สุขุม สร้างภาพยนตร์ 35 มม.ขาวดำ ไวด์สกรีน เสียงในฟิล์ม เรื่องแรก ถ่านไฟเก่า ฉายในช่วงปีใหม่ (เม.ย.) พ.ศ. 2481 ตามด้วยเรื่อง แม่สื่อสาว วันเพ็ญ จุดใต้ตำตอ ปิดทองหลังพระ และเรื่องสุดท้าย ลูกทุ่ง (2483) ก่อนยุติบทบาทลงเนื่องจากประสบภาวะขาดทุนและได้ขายกิจการกับโรงถ่ายให้แก่กองทัพอากาศไปในปีนั้น อย่างไรก็ตามเพลง "บัวขาว" และ "ในฝัน" จากภาพยนตร์เรื่องแรกและอีกหลายเพลงในเรื่องต่อ ๆ มายังคงเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน

เสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงตั้งคณะอัศวินการละคร สัญลักษณ์ "พระอัศวเทพ" ในยุคละครเวทีเฟื่องฟู มีผลงานเด่น ที่ศาลาเฉลิมไทย เมื่อ พ.ศ. 2494 ผู้ชมเรียกร้องให้นำนวนิยายเรื่อง บ้านทรายทอง ที่กำลังดังมากเวลานั้นมาทำเป็นละครเวที ทรงให้ สวลี ผกาพันธ์ และ ฉลอง สิมะเสถียร แสดงนำ ได้รับความสำเร็จอย่างสูง ทั้งได้ทรงพระนิพนธ์คำร้องเพลงเอก ชื่อ หากรู้สักนิด ซึ่งกลายเป็นเพลงอมตะคู่บทประพันธ์, มโนราห์ ละครที่มีคำร้องของเพลงเอกงดงามในเชิงวรรณศิลป์อย่างยิ่ง นำแสดงโดย สวลี ผกาพันธ์ และ สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ ฯลฯ

ชื่อละครเรื่องหนึ่งคือ บุษบาริมทาง นำแสดงโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี เสด็จฯ ได้ทรงประทานชื่อละครเรื่องนี้แก่คณะผู้บริหารโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ตามที่ได้ทูลขอประทานอนุญาตใช้เป็นชื่อภาษาไทยสำหรับภาพยนตร์เพลงยิ่งใหญ่จากฮอลลีวู๊ดเมื่อ พ.ศ. 2507 อีกเรื่องที่มีชื่อเสียงคือ พันท้ายนรสิงห์ ได้ทรงนำบทละครเวทีของอัศวินที่เคยได้รับความนิยมมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทอัศวินภาพยนตร์ ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม.สี พากย์สด นำแสดงโดย ชูชัย พระขรรค์ชัย และ สุพรรณ บูรณพิมพ์ กำกับการแสดงโดย ครูมารุต ฉายที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง พ.ศ. 2493 (ฉายซ้ำในปี พ.ศ. 2501 และ พ.ศ. 2509) ภายหลังอีกหลายปีได้ขยายภาพและบันทึกเสียงลงฟิล์ม 35 ม.ม.ฉายที่โรงภาพยนตร์พาราเมาท์ ประตูน้ำ (2518)

อัศวินยังคงสร้างภาพยนตร์เรื่องยาว 16 มม. เช่นเดียวกับค่ายหนังไทยทั่วไปในสภาวะเศรษฐกิจหลังสงครามระยะแรก ๆ ขณะนั้น จนถึง นเรศวรมหาราช เป็นเรื่องสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2500

เมื่อบรรยากาศบ้านเมืองเข้าสู่สภาพปกติ จึงเดินหน้าพัฒนางานสร้างระดับมาตรฐานสากลอีกครั้ง ใช้ฟิล์มสี 35 มม.ถ่ายทำในระบบจอโค้งใหม่ล่าสุด "ซีเนมาสโคป " ด้วยกล้องและเลนส์รวมทั้งอุปกรณ์บันทึกเสียงระดับสตูดิโอฮอลลีวู๊ดมูลค่ามหาศาล ซึ่งมีเฉพาะที่อัศวินเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย ระหว่าง พ.ศ. 2504 - 2519 เริ่มจาก เรือนแพ, จำปูน, เป็ดน้อย, ละครเร่, เรารักกันไม่ได้, น้ำผึ้งขม และ ทะเลฤๅอิ่ม ตามลำดับ (สามเรื่องแรกได้ดาราของชอว์ บราเดอร์ส ร่วมแสดงด้วย) ตามด้วยโครงการสร้างภาพยนตร์อีก 3-4 เรื่องในนามอัศวินอินเตอร์เนชั่นแนล แต่ยกเลิกไป

เรื่องสุดท้าย เงาะป่า ทรงสร้างจากบทพระราชนิพนธ์ร้อยกรองในรัชกาลที่ 5 และทรงกำกับการแสดงร่วมกับเปี๊ยก โปสเตอร์ ในนาม อัศวินภาพยนตร์ - ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น พ.ศ. 2523

ทรงได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี พ.ศ. 2540 บุคคลยอดเยี่ยมแห่งวงการภาพยนตร์ไทย (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล และ สักกะ จารุจินดา)

ผลงานภาพยนตร์[แก้]

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2[แก้]

ขายประก นเม องเอกแมนช น ม.ร งส ต
ใบปิดภาพยนตร์ พันท้ายนรสิงห์ (2493)

ไทยฟิล์ม

ภาพยนตร์ขาวดำ 35 มม.ไวด์สกรีน เทคนิคอคาเดมิค บันทึกเสียงขณะถ่ายทำ

  • ถ่านไฟเก่า (2481) - สร้างปี 2480 ในนามบริษัทภาพยนตร์ไทย จำกัด เรื่องและกำกับการแสดงโดย ภาณุพันธ์ ถ่ายภาพโดย ประสาท สุขุม บันทึกเสียงโดย ชาญ บุนนาค แสดงโดย เกลียวพันธ์ บุนนาค ทองแท้ สดศรีทอง ตัวแสดงประกอบได้แก่ ไพฑูรย์ และ สุ่น ถ่ายทำที่ จ.สงขลา เป็นเรื่องราวความรักของลูกครึ่งจีนไทยชาวใต้ ที่เกิดความวุ่นวายสุดท้ายต้องสลับคู่กันในวันแต่งงาน มี 2 เพลง คือ ในฝัน และ บัวขาว
  • แม่สื่อสาว (2481) - อำนวยการแสดงและกำกับการแสดงโดย ภาณุพันธ์ เรื่องโดยตะวัน ลัดดาวัลย์ ถ่ายภาพโดย ประสาท สุขุม บันทึกเสียงโดย ชาญ บุนนาค ลำดับภาพโดย หม่อมราชวงศ์อนุศักดิ์ หัสดินทร์ ช่างศิลปโดย เฉลิม พันธุ์นิล นำแสดงโดย ศักดิ์ วีรศร และ โสภา อุณหกะ ร่วมด้วย สอาด บุนนาค, นิตย์ มหากนก, สายจิตร์ อาจน้อย ฉายเมื่อวันที่ 9 – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2481 มีเพลง ลมหวน และ เพลิน
  • วันเพ็ญ (2482) - สร้างปี พ.ศ. 2482 เรื่องและกำกับการแสดงโดย ภาณุพันธ์ นำแสดงโดย ปริม บุนนาค และ ประดิษฐ์ อุตตะมัง มีเพลงคือ วันเพ็ญ และ ดอกไม้
  • ปิดทองหลังพระ (2482) - ฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง อำนวยการสร้าง กำกับการแสดงและประพันธ์เรื่องโดย ภาณุพันธ์ ถ่ายภาพโดย ประสาท สุขุม บันทึกเสียงโดย ชาญ บุนนาค มี 6 เพลง เช่น แรกรัก ,สายสิโหมง และ ฮัชชัชชา ประพันธ์ โดย ม.ล. พวงร้อย อภัยวงศ์ นำแสดงโดย ทวี ณ บางช้าง (ทวี มณีสุนทร) และ สุภาพ สง่าเมือง ตัวแสดงประกอบได้แก่ พระยาบำรุงราชบริพาร, ลิขิต สารสนอง, อบ บุญติด, รวมพันธุ์, ศรี กุลศรี, ไพฑูรย์, สุ่น, พนม สุทธาศิริ
  • ลูกทุ่ง (2483) - สร้างปี พ.ศ. 2482 ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2483 ที่ ศาลาเฉลิมกรุง สร้างและกำกับโดยทีมงานเดียวกับเรื่องปิดทองหลังพระ นำแสดงโดย โปร่ง แสงโสภณ และ สมพร เฉลิมศรี พร้อมนักแสดงประกอบได้แก่ ละม่อม พุ่มเสนาะ, เสริม ประสพชัย, อบ บุญติด, โต คุ้มสอน และ พรรณี กาญจนันทุ มี 5 เพลง ได้แก่ เงาไม้ แรกรัก ต้อนกระบือ เกี้ยวสาว และ ไม้งาม

อัศวินภาพยนตร์

ภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม.พากย์สด

  • พันท้ายนรสิงห์ (2493) - สร้างปี พ.ศ. 2491 ฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง นำแสดงโดย สุพรรณ บูรณพิมพ์ และ ชูชัย พระขรรค์ชัย เพลงเอกชื่อ น้ำตาแสงไต้
  • คู่ชีวิต (2496)
  • นางกลางเมือง (2497) - เพลงเอกชื่อเดียวกับภาพยนตร์ ร้องโดย วินัย จุลละบุษปะ ไฟล์:เรือนแพ(2504).jpgใบปิดภาพยนตร์ เรือนแพ รุ่นที่ 2 (2506)
  • นเรศวรมหาราช (2500) - ภาพยนตร์สงครามอิงประวัติศาสตร์ การกอบกู้เอกราชของไทยจากพม่า ฉายเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2500 ที่ศาลาเฉลิมไทย นำแสดงโดย ชูชัย พระขรรค์ชัย และ รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง (ณ ราชสีมา) ร่วมด้วย สุรชัย ลูกสุรินทร์, ถนอม อัครเศรณี, สถาพร มุกดาประกร, สมถวิล มุกดาประกร, ทัต เอกทัต, พูนสวัสดิ์ ธีมากร, สมพงษ์ พงษ์มิตร, ล้อต๊อก, ดอกดิน กัญญามาลย์, อธึก อรรถจินดา และ ชูศรี โรจน์ประดิษฐ์ ได้รับรางวัลสำเภาทอง งานรางวัลตุ๊กตาทอง "ละคอนรำ" ประจำปี 2500 (กำกับศิลป์ สำหรับภาพยนตร์ 16 มม.)

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง[แก้]

ภาพยนตร์สีธรรมชาติ 16 มม. พากย์สด

  • ถ่านไฟเก่า (2500) - สร้างครั้งที่ 2 นำแสดงโดย สมบัติ คงจำเนียร และ วิไลวรรณ วัฒนพานิช ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2500 ที่ศาลาเฉลิมไทย
  • สองพี่น้อง (2501) - นำเรื่องเดียวกับลูกทุ่ง (2483) มาสร้างใหม่ ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2501 ที่เอ็มไพร์ นำแสดงโดย สถาพร มุกดาประกร, เรณู พิบูลย์ภาณุวัฒน (ภมรมนตรี), ปิต กำเนิดพลอย, สมจิตร มุกดาประกร, สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย และ อบ บุญติด
  • สุดชีวิต (2503) - นำแสดงโดย สุพรรณ บูรณพิมพ์, ไชยา สุริยัน, อมรา อัศวนนท์ และ อาคม มกรานนท์ รางวัลพระสุรัสวดี ประจำปี 2503 (ออกแบบและสร้างฉาก)
  • 15 นาทีในอินเดีย (16 มม.) - รางวัลพระสุรัสวดี ประจำปี 2503 (ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม บทภาพยนตร์)

ภาพยนตร์สีอัศวินอีสต์แมน 35 มม. อัศวินซูเปอร์ซีเนสโคป (เสียงพากย์ในฟิล์ม 2504-2523)

  • เรือนแพ / Houseboat (2504) - นำแสดงโดย ไชยา สุริยัน, มาเรีย จาง, จินฟง และ ส.อาสนจินดา ฉายครั้งแรกในเปี พ.ศ. 2504 และอีกสองครั้ง ที่ศาลาเฉลิมไทย รางวัลพระสุรัสวดี ประจำปี 2505 (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ดารานำชาย ดาราประกอบชาย ออกแบบและสร้างฉาก บันทึกเสียง) มีเพลงเก่า คือ บัวขาว วันเพ็ญ เงาไม้ และเพลงใหม่ชื่อเดียวกับภาพยนตร์ ร้องโดย ชรินทร์ นันทนาคร
  • จำปูน / Chumpoon (2507) - นำแสดงโดย แมน ธีระพล, จูลี่ ซีเหย่น, ทัต เอกทัต, ทักษิณ แจ่มผล และ มาลี เวชประเสริฐ ฉายที่เฉลิมเขตร์ รางวัลพระสุรัสวดี ประจำปี 2507 (ดาราประกอบหญิง) เพลงเด่นคือ คืนหนึ่ง และ จำปูน
  • เป็ดน้อย / The Ducklin' (2511) - นำแสดงโดย สุทิศา พัฒนุช (เรื่องแรก), ไชยา สุริยัน และ จินฟง เรื่องความรักต่างชนชั้นของสาวชนบทกับหนุ่มผู้ดีมีศักดิ์ท่ามกลางความรังเกียจของญาตพี่น้องฝ่ายชาย มีเพลงเก่า คือ ต้อนกระบือ เพลินไพ่ตอง (เพลงดัดแปลงจาก "เพลิน") และเพลงใหม่ เช่น ตะวันรุ่น สามคำจากใจ รักฉันสักนิด และ เป็ด (ทรงเคยทดลองทำเป็นละครโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ขาวดำ นำแสดงโดย ทม วิศวชาติ, บุศรา นฤมิตร และจันตรี สาริกบุตร ก่อนขยายบทสร้างเป็นภาพยนตร์ประกอบเพลงเรื่องนี้)
  • ละครเร่ / The Road Show (2512) - นำแสดงโดย มานพ อัศวเทพ (ดารานำเรื่องแรก) , สุทิศา พัฒนุช, ดอกดิน กัญญามาลย์ และ ชรินทร์ นันทนาคร เป็นนักแสดงรับเชิญ ร่วมด้วย กนกวรรณ ด่านอุดม ดาราทีวีช่อง 4 ,จารุวรรณ ปัญโญภาส (เรื่องแรก) และ สายัณห์ จันทรวิบูลย์ (เรื่องแรก) เรื่องการต่อสู้ดิ้นรนของคณะละครรำในสังคมยุคใหม่ มีเพลงเก่า คือ ในฝัน มโนราห์ เพลงใหม่ ได้แก่ ชีวิตละคร ชะนีเรียกผัว/Gibbon Says และ ละครชีวิต (คำร้องของ ดอกดิน) ฉายที่เฉลิมเขตร์ รางวัลชมเชยกำกับศิลป์ งานมหกรรมภาพยนตร์เอเซียแปซิฟิค ครั้งที่ 15 ณ กรุงมนิลา ฟิลิปปินส์ 2512
  • เรารักกันไม่ได้ / Love Without Heart (2513) - เรื่องของคอมมิวนิสต์สาวที่ฝ่าฝืนกฎของลัทธิข้อห้ามมีความรักใคร่ผสมแนวผีปีศาจ นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, สุทิศา พัฒนุช, เมตตา รุ่งรัตน์, วิไลวรรณ วัฒนพานิช, มานพ อัศวเทพ และ สมชาย สามิภักดิ์ เพลงเอกชื่อเดียวกับภาพยนตร์ ฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง
  • น้ำผึ้งขม/ Bitter Honey (2517) - สร้างจากบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน เรื่องของชายหนุ่มนักธุรกิจมีความแค้นฝังใจกับแฟนสาวที่ทิ้งเขาไป เมื่อหญิงสาวกลับมาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจึงแก้แค้นด้วยการซื้อตัวลูกสาวของเธอ ก่อนที่ความรักจะหลอมละลายให้ความแค้นในใจเขาดับไป นำแสดงโดย นฤมล นิลวรรณ, สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, อมรา อัศวนนท์, ภัทราวดี ศรีไตรรัตน์ และ สุทิศา พัฒนุช
  • ทะเลฤๅอิ่ม / Sea of Lust (2519) - บทประพันธ์ของ สุวรรณี สุคนธา เรื่องของสาววัยรุ่นที่หลงเดินทางผิด นำตนเองไปสู่ความมืดมนของชีวิต นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี, วิยะดา อุมารินทร์ ฉายที่พาราเมาท์ ประตูน้ำ
  • วันเพ็ญ (2521) - สร้างใหม่ กำกับการแสดงโดย หม่อมเจ้าฐิติพันธุ์ ยุคล (พระโอรสของพระองค์เจ้าภาณุพันธุ์) นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, นิภาพร นงนุช, มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช, สุทิศา พัฒนุช, จักรกฤษณ์ พันธุ์ชัย และ วาสนา รัตนงาม เพลงเอกของเก่า ร้องใหม่ โดย สมบัติ เมทะนี
  • เงาะป่า (2523) - เรื่องสุดท้ายที่ทรงสร้างร่วมกับไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ดัดแปลงจากบทพระราชนิพนธ์ เรื่องเงาะป่าของ รัชกาลที่ 5 นำแสดงโดย จตุพล ภูอภิรมย์ และ ศศิธร ปิยะกาญจน์ ได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ประจำปี 2523 (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม กำกับการแสดง ดารานำชาย บทภาพยนตร์ ประพันธ์เพลง เพลงและดนตรีประกอบ บันทึกเสียง) และรางวัลพระสุรัสวดี ประจำปี 2524 (ผู้แสดงประกอบชาย ดนตรีประกอบ) ฉายที่พาราเมาท์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

ศาสตราจารย์ พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]

พงศาวลี[แก้]

พงศาวลีของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล 16. (=24.) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 8. (=12.) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 17. (=25.) สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี 4. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 18. (=26.) สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ 9. (=13.) สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี 19. (=27.) หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา 2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ 20. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 10. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี 21. เจ้าจอมมารดาเอมน้อย ในรัชกาลที่ 3 5. พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา 22. แส้ 11. เจ้าจอมมารดาจีน 23. วัน 1. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล 24. (=16.) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 12. (=8.) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 25. (=17.) สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี 6. สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช 26. (=18.) สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ 13. (=9.) สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี 27. (=19.) หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา 3. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล 28. สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) 14. เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) 29. กลิ่น บุนนาค 7. หม่อมแม้น ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา 15. อิ่ม บุนนาค

อ้างอิง[แก้]

  • พระราชทานยศทหาร
  • สมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกา ในพระบรมราชูปถัมภ์
  • "การทรวงผนวชและบวชนาคหลวง กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๓" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 47 (ง): 1382–1386. 13 กรกฎาคม 2473. สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2561.
  • "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปในการพระราชทานน้ำหลวงสรงพระศพ พลตรี พระเจ้าวรงวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม". kudo shin-ichi สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3. 10 มีนาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2564.
  • "ข่าวในพระราชสำนัก ช่อง 3 ประจำวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2539". Mr_Thapanin TH สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3. 24 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2564.
  • ↑ "ข่าวในพระราชสำนัก [9-13 พฤษภาคม 2539" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 113 (40 ง): 201. 16 พฤษภาคม 2539. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2564.
  • ประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง การยกย่องเชิดชูเกียรติบูรพศิลปิน พุทธศักราช 2559 http://www.culture.go.th/cul_fund/download/bygone/bygone59.pdf เก็บถาวร 2020-07-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง. กรุงเทพฯ : ดีเอ็มดี, พ.ศ. 2551. 290 หน้า. ISBN 978-974-312-022-0
  • Bitter Honey (2517) ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ, เล่ม 83 ตอนที่ 87 ฉบับพิเศษ หน้า 16, 1 ตุลาคม 2509