ก่อนอื่น หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประจำเดือนเสียด้วยซ้ำ ว่าประจำเดือนเป็นเลือดเสียที่ออกจากร่างกายของผู้หญิง ซึ่งถ้าหากประจำเดือนเกิดมาไม่ปกติหรือไม่มา จะทำให้มีเลือดเสียค้างอยู่ในร่างกาย ความเชื่อนี้ เป็นเรื่องผิด! ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสียแต่อย่างใด เพราะประจำเดือน (Menstruation) คือ เลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง Show ซึ่งเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่ว่า ผู้หญิงทุกคนจะต้องมีเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เพราะการสืบพันธุ์เป็นเรื่องธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ในทุกๆ 21-35 วัน ร่างกายของผู้หญิงจะมีการสร้างเนื้อเยื่อโพรงมดลูกขึ้นมาใหม่เสมอ เพื่อเตรียมพร้อมในการฝังตัวของตัวอ่อนหากมีการปฏิสนธิ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าพร้อมมีลูก (เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ เนื้อเยื่อโพรงมดลูกคือที่ที่เด็กในรูปของตัวอสุจิเข้าไปฝังตัว) โดยมีฮอร์โมน 2 ชนิดที่ควบคุมการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ระดับฮอร์โมนทั้ง 2 จะสัมพันธ์กับการตกไข่ แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะ “ไม่ได้ใช้งานตามหน้าที่” จึงสลายตัวและหลุดลอกออกมาจากร่างกาย ดังนั้น ประจำเดือน ก็เป็นแค่เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่ไม่ได้ใช้งานของรอบที่แล้ว เลยหลุดออกมาพร้อมกับเลือดเท่านั้นเอง ไม่ใช่เลือดเสียแต่อย่างใด น้ำมะพร้าวกับประจำเดือนโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้หญิงจะมีการตกไข่ประมาณ 450 ครั้งตลอดช่วงชีวิต มีรายงานว่าผู้หญิงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มีอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างมีประจำเดือน และมีอาการบางอย่างที่แสดงก่อนและ/หรือระหว่างมีประจำเดือน เช่น ตัวบวม เจ็บเต้านม อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดหัว เป็นไข้ ขี้หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน (ผู้หญิงบางคนสามารถร้องไห้ได้ด้วยเหตุผลที่ว่า “หิวข้าว”) นอกจากนี้ ผู้หญิงมากถึง 3 ใน 4 ยังต้องทนทุกข์ทรมานแทบทุกเดือนด้วยอาการ “ปวดท้องประจำเดือน” อย่างไรก็ตาม อาการปวดท้องประจำเดือน สามารถบรรเทาได้ด้วยสารประกอบเคมีประเภทไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens) (ไฟโตเอสโตรเจน ไม่ใช่สารอาหาร เพราะไม่ให้พลังงานและไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย) ซึ่งจะออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง และช่วยกระตุ้นการเจริญของอวัยวะสืบพันธุ์ แต่มะพร้าวกลับเป็นพืชที่อุดมไปด้วยไฟโตเอสโตรเจนซะงั้น ในมะพร้าว 100 กรัม มีไฟโตเอสโตรเจน 42 ไมโครกรัม ซึ่งถือว่ามากทีเดียวหากเปรียบเทียบกับผักและผลไม้ชนิดอื่น ที่สำคัญยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกต่างหาก ทั้งวิตามินบี 3 (niacin), วิตามินบี 7 (biotin), วิตามินบี 2 (riboflavin), กรดโฟลิก (folic acid), วิตามินบี 1 (thiamin), วิตามินบี 6 (pyridoxine), วิตามินซี (ascorbic acid) และเกลือแร่อย่างโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ทองแดง ฟอสฟอรัส สังกะสี น้ำมะพร้าวจึงเป็นที่รู้จักกันดีในนาม น้ำเกลือแร่จากธรรมชาติ (Mineral water) ไม่เพียงแค่นั้น ในเนื้อมะพร้าวยังมีกรดอะมิโน คาร์โบไฮเดรต สารต้านอนุมูลอิสระ และเอนไซม์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อสุขภาพ และน้ำมะพร้าวนั้นให้พลังงานต่ำ ไขมันต่ำ และยังมีใยอาหารด้วย ทำให้น้ำมะพร้าวจัดเป็นน้ำดื่มจากธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมาก เพราะนอกจากสารอาหารต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว ยังรสชาติดี หอมหวาน หาซื้อกินง่ายอีกด้วย สารพัดประโยชน์จากน้ำมะพร้าว ทำให้มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงใน the Journal Current Trends in Clinical Medicine & Laboratory Biochemistry ในปี 2014 โดยบอกว่า “น้ำมะพร้าว เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญที่ควรดื่มในระหว่างมีประจำเดือน” น้ำมะพร้าวกับความผิดปกติระหว่างมีประจำเดือนน้ำมะพร้าวไม่มีผลทำให้ประจำเดือนหยุด หรือกะปริบกะปรอย และทำให้มีประจำเดือนมาไม่ปกติ แต่ไฟโตเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าวจะช่วยควบคุมรอบประจำเดือน จากการศึกษา พบว่าไฟโตเอสโตรเจนไม่ได้เปลี่ยนรอบวงจรของประจำเดือน แต่ถ้าเราได้รับไฟโตเอสโตรเจน (ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน) มากเกินไป จะทำให้มดลูกบีบตัวมากขึ้น มีเลือดไปเลี้ยงมดลูกมากขึ้น และเจ็บเต้านมได้มากขึ้น ทั้งนี้แปลว่าต้องได้รับในปริมาณที่มากแบบมากจริงๆ อีกทั้งร่างกายของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จึงตอบรับสารไฟโตเอสโตรเจนในมะพร้าวได้ต่างกัน รวมถึงผู้หญิงบางคนมีอาการแพ้สารประกอบบางอย่างในน้ำมะพร้าว เมื่อดื่มในช่วงที่มีประจำเดือน จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกาย ซึ่งถ้าเป็นคนที่มีปัญหากับสารอาหารในน้ำมะพร้าวอยู่แล้ว จะมีหรือไม่มีประจำเดือนก็ไม่ควรดื่มทั้งนั้น อีกทั้งน้ำมะพร้าวก็ไม่ได้มีผลทำให้ประจำเดือนมาช้าด้วย แม้ว่าการเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน จะมีผลในการชะลอประจำเดือน (มักพบฮอร์โมนทั้ง 2 ในยาเลื่อนประจำเดือน) แต่ไฟโตเอสโตรเจนที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้น ออกฤทธิ์ได้ต่ำกว่าเอสโตรเจนถึง 100-1,000 เท่า ด้วยฤทธิ์เพียงเท่านั้น ไม่มีผลต่อการเลื่อนของประจำเดือน อันที่จริงแล้วการห้ามดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือนนั้น เป็นความเชื่อที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ และยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันได้ว่าน้ำมะพร้าวทำให้เกิดผลกระทบกับการมีประจำเดือนเหมือนที่เคยได้ยินกัน ซึ่งเภสัชกรหญิงพรยุพา ธัญภัทรกุล เภสัชกรจากสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ได้เปิดเผยว่า ที่มีความเชื่อเช่นนั้นก็เพราะในน้ำมะพร้าวมีส่วนประกอบของสารไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิง (Estrogen) นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในหนูพบว่าการป้อนน้ำมะพร้าวให้หนู ส่งผลทำให้น้ำหนักของมดลูกเพิ่มขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผนังมดลูก แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับหนูทุกตัว จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือนอาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายได้ แต่ก็ไม่สามารถสรุปผลได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนนั้นจะทำให้เกิดการเพิ่มหรือลดการบีบตัวของมดลูกได้อย่างชัดเจน หรือสามารถยืนยันได้ว่าจะมีผลเหมือนกันทุกคน อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือนของผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะปริมาณที่ดื่มและปริมาณฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจนในน้ำมะพร้าวแต่ละลูกที่ต่างกันเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การแสดงออกของอาการนั้นต่างกัน บางรายอาจจะปวดประจำเดือนมากขึ้นหรือน้อยลง หรือบางคนก็อาจจะประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติก็เป็นได้ นั่นก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจนในร่างกายค่ะ ทราบกันแบบนี้แล้วใครที่ชอบดื่มน้ำมะพร้าวก็คงจะเบาใจกันลงได้บ้างว่า อย่างน้อยในช่วงมีประจำเดือนก็สามารถจะดื่มน้ำมะพร้าวได้ ตราบใดที่ไม่ดื่มจนมากเกินไป และก็อย่าเพิ่งโทษว่าการดื่มน้ำมะพร้าวจะทำให้เกิดความผิดปกติของประจำเดือน เพราะบางทีก็อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในร่างกายก็ได้ค่ะ กินน้ำมะพร้าวทำให้ประจำเดือนมาช้าไหมคนโบราณเชื่อกันว่าการดื่มน้ำมะพร้าวช่วงมีประจำเดือนจะทำให้ประจำเดือนหยุดไหล และทำให้ประจำเดือนในเดือนถัดไปมาช้ากว่าปกติ ซึ่งเกิดจากสารอาหารในน้ำมะพร้าวนั้นเป็นแบบเดียวกันกับฮอรโมนเพศหญิง แต่ด้วยการตอบสนองต่อร่างกายที่แตกต่างกัน บวกกับปริมาณน้ำมะพร้าวที่ดื่มเข้าไป ทำให้ “ไม่ใช่ทุกคน” ที่ดื่มน้ำมะพร้าวแล้วประจำเดือนจะ ... น้ำมะพร้าวมีผลอะไรต่อประจำเดือนมีข้อมูลทางโภชนาการจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า หากดื่มน้ำมะพร้าวในช่วงก่อนมีประจำเดือน จะทำให้ประจำเดือนเลื่อน หรือมาช้ากว่าปกติ ทั้งนี้เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้หญิงบางคนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณน้ำมะพร้าวที่ดื่ม, ปริมาณฮอร์โมนในน้ำมะพร้าวแต่ละลูก ซึ่งไม่เท่ากัน, การตอบ ... ใครไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าว“น้ำมะพร้าวจัดเป็นเครื่องดื่มที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคไตเสื่อม เพราะน้ำมะพร้าวจะไปกระตุ้นการขับปัสสาวะ ถ้าร่างกายขาดน้ำ คนที่เป็นโรคไตอาจจะหัวใจวายได้ และคนที่มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถ้าร่างกายได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป อาจสร้างปัญหาให้หัวใจ และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น ผู้บริโภคจึง ... น้ํามะพร้าวมีประโยชน์ อย่างไร ต่อ ผู้หญิงดีต่อหญิงสาวหลังมีประจำเดือน การดื่มน้ำมะพร้าว หลังมีประจำเดือน จะช่วยบำรุง และฟื้นฟูความอ่อนล้า ของร่างกาย หลังจากเสียเลือดไปจำนวนมาก และฮอร์โมน เอสโตรเจน ยังช่วยชะลอวัย ป้องกันการเกิดภาวะความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ที่มักเกิดขึ้นได้ในวัยทอง วัยหมดประจำเดือน อุดมไปด้วยเกลือแร่ |