ผ่ากฎอลเวง สตูดิโอดีนสร้างเป็นอนิเมะออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ตอนแรกในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2548 และอวสานลงในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 มีจำนวนตอนทั้งหมด 51 ตอน สำหรับในประเทศไทยบริษัทโรสวิดีโอได้รับลิขสิทธิ์ผลิตเป็นวีซีดีและดีวีดี โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "แสบซ่าส์ ผ่ากฎเทพ" และออกฉายในรายการโมเดิร์นไนน์การ์ตูน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550 และอวสานลงในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "อุเอคิ ผ่ามิติอลเวง" Show
เนื้อเรื่อง[แก้]เรื่องราวใน ผ่ากฎอลเวง เริ่มมาจากบนสวรรค์ ที่กำลังมีการหาผู้เป็นพระเจ้าคนใหม่ โดยมี ผู้สมัครเป็นพระเจ้า ทั้งหมด 100 คน ซึ่ง ผู้สมัครเป็นพระเจ้าแต่ละคน จะต้องลงไปยังโลกมนุษย์ เพื่อค้นหาเด็กนักเรียนชั้น ม.ต้น เป็นตัวแทนของตนเอง และมอบพลังพิเศษให้ 1 อย่าง สำหรับใช้ในการต่อสู้ กับเด็กม.ต้นคนอื่นๆที่เป็น ผู้มีพลังพิเศษ ทั้งหมด 100 คน และเด็กนักเรียนตัวแทนของใคร ที่เป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ ผู้สมัครเป็นพระเจ้าที่ดูแลเด็กคนนั้นอยู่ จะได้เป็นพระเจ้าคนใหม่ ส่วนเด็กนักเรียนที่ชนะ จะได้รับ "ไซต์แห่งความว่างเปล่า" ซึ่งสามารถจะเลือก ไซต์ที่ตนเองต้องการอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง โคบายาชิ (โคบะเซน หรือ Mr.K) หนึ่งในผู้สมัครเป็นพระเจ้า ที่ลงมายังโลกมนุษย์มาเป็นอาจารย์ในโรงเรียน ฮิโนะคุนิ เขาได้พบกับเด็กนักเรียนชั้นปี1 อุเอคิ โคสุเกะ เด็กหนุ่มที่เชื่อมั่นใน ความถูกต้อง โคบายาชิ จึงตัดสินใจ มอบพลัง "เปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้" และส่ง อุเอคิ เป็นตัวแทนของตนเองเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าอุเอคิเป็นชาวสวรรค์ที่ส่งมาโดยพ่อของตนที่ต้องการจะเป็นพระเจ้าแต่กลับไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้สมัครพระเจ้า ในตอนจบของเรื่องหลังจากที่อุเอคิสามารถเอาชนะอาน่อนได้สำเร็จ อุเอคิได้รับไซต์แห่งความว่างเปล่าและเขียนว่า ไซต์ได้พบกันอีกครั้ง เพื่อให้โคบายาชิกลับมาเป็นครูของตนอีกครั้ง พลังพิเศษ[แก้]เหล่านักเรียนมัธยมต้นที่เข้าร่วมการประลองจะได้รับพลังมาจากผู้สมัครเป็นพระเจ้า โดยพลังของทุกคนนั้นจะเป็นลักษณะพลังที่เปลี่ยนสิ่งหนึ่งให้กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เช่น พลังเปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้ พลังเปลี่ยนผ้าคาดหัวเป็นเหล็ก พลังเปลี่ยนลูกปัดเป็นระเบิด ฯลฯ โดยพลังทุกชนิดจะมีเป็นกลไกลป้องกันไม่ให้พลังพิเศษมีอำนาจมากเกินไป เช่น อุเอคิจะใช้พลังเปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้ได้ขยะต้องเป็นขยะที่อยู่ในมือเท่านั้น ทุกครั้งที่โรเบอร์โต้ใช้พลังจะเสียอายุไป 1 ปี พลังทุกชนิดจะสามารถพัฒนาเป็นระดับสองได้ ซึ่งก็คือพลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นการเสริมหรือสนับสนุนพลังเดิมของตนให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม พระเจ้าเคยบอกไว้ว่าเงื่อนไขของการใช้พลังระดับสองได้นั้นคือประสบการณ์และความรู้สึกที่อยากจะแข็งแกร่ง ปั๊คเคยบอกกับอุเอคิว่าที่อุเอคิไม่สามารถใช้พลังระดับสองได้นั้น เพราะเทวภัณฑ์ของอุเอคิถ่วงพลังเปลี่ยนขยะให้เป็นต้นไม้ไม่ให้ก้าวสู่ระดับสอง (ยกเว้นกรณีของโรเบอร์โต้) ในที่สุดอุเอคิยอมละทิ้งการใช้เทวภัณฑ์และสามารถใช้พลังระดับสองได้สำเร็จ กฎของการประลอง[แก้]
ตัวละคร[แก้]ทีมอุเอคิ[แก้]
แว่นตาของโมริที่เธอมักจะคาดไว้ที่หน้าผากนั้น เป็นแว่นสายตายาว เธอจะใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือหรือตอนจดบันทึก บางครั้งเธอจะทำอาหารให้อุเอคิและคนอื่นๆได้กินกัน ซึ่งแต่ละอย่างล้วนหน้าตาสยองทั้งนั้น แต่รสชาติอร่อยผิดกับหน้าตาอาหารเสียอีก
โรเบอร์โต้จูดัง[แก้]ด้วยเงื่อนไขการใช้พลังของโรเบอร์โต้ ทำให้เขาไม่สามารถต่อสู้กับผู้มีพลังพิเศษหลายๆคนด้วยตัวคนเดียวได้ เขาจึงตั้งกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังขึ้น เป็นกลุ่มผู้มีพลังพิเศษที่นำโดยโรเบอร์โต้ ไฮเดิร์น ซึ่งมีเป้าหมายคือกำจัดผู้มีพลังทุกคน แล้วเมื่อเหลือเพียงกลุ่มโรเบอร์โต้จูดัง ทุกคนจะถอนตัวแล้วให้โรเบอร์โต้ชนะ แล้วโรเบอร์โต้จะใช้ ไซต์แห่งความว่างเปล่า ล้างโลกให้กลับสู่จุดเริ่มต้น (หมายถึงทำลายกฎต่างๆทั้งหมด) และสมาชิกทุกคนจะได้รับดินแดนไปครอบครอง อุเอคิได้รับการชักชวนเข้าร่วมกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังเพราะเขาเป็นคนล้มคามุยได้ แต่อุเอคิมีเป้าหมายที่จะทำลายกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังทั้งหมด ซึ่งโรเบอร์โต้ก็รู้อยู่แล้ว สมาชิกในกลุ่มได้แก่
ทีมคาปูโช่[แก้]ทีมคาปูโช่นำโดยผู้สมัครเป็นพระเจ้า แซ๊ค แต่เดิมแซ๊คนั้นเป็นคนมาแทนเนโร่ ซึ่งเป็นผู้สมัครเป็นพระเจ้าของฮิเดโยชิ แต่ยอมตกนรกเพื่อช่วยฮิเดโยชิ ทีมคาปูโช่เป็นทีมที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาฮิเดโยชิมาร่วมทีมถึงกับต้องจับตัวเด็กๆแห่งบ้านดวงตะวัน
ทีมกราโน่[แก้]ทีมกราโน่เป็นทีมศิลปินที่มีแต่คนที่ชอบเล่นแบบจำลอง, อ่านกลอน, เล่นดนตรีและวาดเขียน เป็นทีมที่ดูจะมีฝีมือแต่แล้วก็ตกรอบสามโดยไม่ชนะใครเลย
ทีมมาริลีน[แก้]ทีมมาริลีนเป็นอดีตคนที่เกิดในประเทศที่มีแต่สงคราม พวกเขาต่างฝึกฝนการต่อสู้จนชำนาญแต่ก็กลับไม่ได้ใช้จริงเพราะสงครามสงบลงก่อน ทั้งหมดจึงเข้าร่วมการประลองเพราะต้องการที่จะต่อสู้สมาชิกทุกคนในทีมต่างเป็นเพื่อนที่ภักดีต่อกันและกัน
บารอนเป็นลูกน้องที่ภักดีต่อมาริลีน และมักเชื่อฟังคำสั่งมาริลีนทุกอย่าง พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองให้เป็นตำแหน่งของมีด บารอนเป็นมือมีดที่มีความชำนาญและคล่องแคล่วมาก วิธีการต่อสู้ของเขาคือการขว้างมีดแล้วย้ายตำแหน่งไปที่มีดแล้วดักโจมตีศัตรู ระดับสองของเขาคือการตรึงตัวเองและคู่ต่อสู้ในระยะ 1 เมตรให้อยู่กับที่ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถหนีจากการโจมตีระยะใกล้ได้ ทีมบาโร่[แก้]ทีมบาโร่เป็นทีมที่เป็นชาวสวรรค์ ล้วนๆ ทั้งหมดถูกพ่อแม่ทอดทิ้งลงมาบนโลกมนุษย์และรวมกลุ่มกันเพื่อทำให้ความฝันของอานอนเป็นจริง ทุกคนในทีมจะสวมหน้ากากเพื่อพรางพลังสวรรค์
เกร็ดน่ารู้คือ ริงโกะ แก่กว่าบัน
เกร็ดน่ารู้อีกอย่างหนึ่งคือ ในการประลอง ซาโนะเรียก ดิเอกอสเตอร์ว่าลุง แต่ความจริงแล้ว ซาโนะแก่กว่า
ไม่สังกัดทีม[แก้]
ชาวนรก[แก้]ชาวนรกมีความแข็งแกร่งด้านกายภาพที่เหนือมนุษย์ แต่จะไม่มีเทวภัณฑ์ ในอดีตเคยทำสงครามกับชาวสวรรค์มาก่อน ชนเผ่าโมริมิโตะเป็นหนึ่งในชนเผ่านรกที่เคยทำสงครามกับชาวสวรรค์ในอดีต คนของชนเผ่านี้สามารถดูดกลืนพลังของคนอื่นได้ และในปัจจุบัน แม้ชาวนรกกับชาวสวรรค์ปรองดองกันแล้ว แต่เผ่าโมริมิโตะยังคงยึดติดกับความต้องการที่จะครอบครองดินแดนสวรรค์
ตัวละครอื่นๆ[แก้]
เทวภัณฑ์[แก้]เทวภัณฑ์ ก็คืออาวุธของชาวสวรรค์ มีจำนวนทั้งสิ้น 10 ชนิด ระดับความเก่งของชาวสวรรค์มีตั้งแต่ 1-10 ดาว โดยทุกครั้งที่เลื่อนขึ้น 1 ดาว ก็จะใช้อาวุธเพิ่มได้ 1 อย่าง แต่ในการประลองนั้นเมื่อชาวสวรรค์ได้รับพลังพิเศษจากผู้สมัครเป็นพระเจ้า พวกเขาจะกลายเป็น นวชาวสวรรค์ ซึ่งจะทำให้พลังพิเศษของเขาหลอมรวมกับเทวภัณฑ์ ทำให้ความสามารถแตกต่างจากปกติ (เช่น โรเบอร์โต้ สามารถสร้างคุโรงาเนะที่ยิงยังไงก็โดนถ้ารวมกับพลังเปลี่ยนอุดมคติให้เป็นจริง) นอกจากนี้ ในเหล่าบรรดาเทวดาเอง ก็มีเทวภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น มากาเร็ตมีพิคเป็นแท่งลายเหลี่ยมแต่พระเจ้ามีพิคเป็นแท่งเหล็ก เป็นต้น ระดับดาว ชื่อ ชื่อ (ภาษาไทย) ชื่อ (เสียงพากย์ โมเดิร์นไนน์ การ์ตูน) ลักษณะ ความสามารถ ความสามารถประยุกต์ 1 คุโรงาเนะ กระสุนเหล็ก กระสุนดำ เทวภัณฑ์ปืนใหญ่ ใช้โจมตีโดยตรง ยิงกระสุนใส่อีกฝ่าย ไม่มี 2 ฟุโด/ฮูด โล่เกียรติภูมิ มือปราการเหล็ก เทวภัณฑ์ที่ใช้สำหรับป้องกัน เรียกมือสวมเกราะมาจากใต้ดิน ป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่า 2 ดาวได้ ไม่มี 3 รัมมะ ดาบภูต ดาบสายฟ้า เทวภัณฑ์รูป ดาบคมเดียว ขนาดยักษ์ ใช้สำหรับฟันอีกฝ่าย ไม่มี 4 แมช หนึ่งเดียวในใต้หล้า ปากพิฆาต เทวภัณฑ์คล้ายๆกล่อง แต่มีหน้าและขากรรไกรขนาดยักษ์ ใช้กัดอีกฝ่าย ใช้ดัก เวลาอีกฝ่ายหนี 5 พิค ขบวนร้อยภูติ ไม้กั้นประจัญบาน เหมือนกับท่อนไม้ที่ชนอีกฝ่ายโดยตรง ใช้โจมตีอีกฝ่ายโดยตรง ใช้เป็นสะพาน หรือ ไม้ค้ำถ่อ 6 ไลก้า ประกายอัสนี สเก็ตไฟ เทวภัณฑ์สเก็ต เพิ่มความเร็วให้ผู้ใช้ 10 เท่า แต่เมื่อใช้จะกระโดดไม่ได้ ใช้หลบอีกฝ่าย ใช้วิ่งไปบน พิค เพื่อใช้กระโดดข้ามเหว (เพื่อจะลบช่องโหว่ที่ว่าจะกระโดดได้เมื่อใช้) 7 กาลิเวอร์ นักเดินทาง กล่องกาลิเวอร์ กล่องที่พุ่งมาจากดิน เมื่อใช้พื้นที่แถบนั้นจะกลายเป็นตารางหมากรุก และจะจับอีกฝ่าย ภายใน 0.5 วินาที ใช้ดักจับอีกฝ่าย ไม่มี 8 นามิฮานะ (ฮานะ = ดอกไม้) บุปผาคลื่น แส้ดอกไม้ เทวภัณฑ์แส้ที่ฟาดอีกฝ่าย ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆดอกไม้ ใช้แส้ฟาดอีกฝ่าย ใช้รัดสิ่งของ (เหมือนตอนที่ข้ามเหวที่ โกสต์ ทาวน์ ตอนสู้กับ ทีมมาริรีน) 9 เซย์คู พลังธรรมชาติ ปีกวิเศษ เทวภัณฑ์ปีกค้างคาว ที่ผู้ใช้จะสามารถบินกลางอากาศได้ ใช้บินกลางอากาศ 10 มาโอ (มา = มาร) ราชามาร เจ้าแห่งเวทมนตร์ เทวภัณฑ์ที่ใช้ตามความปรารถนาของผู้ใช้ มีพลังทำลายตามความคิดของผู้ใช้ แล้วแต่ผู้ใช้ แล้วแต่ผู้ใช้ โดกุร่าแมนชั่น[แก้]เป็นสวนสนุกในนรกที่โรเบอร์โต้ใช้เป็นสนามประลองกับพวกอุเอคิในตอนที่อุเอคิจะช่วยซาโนะออกจากกลุ่มจูดัง โดยจะต้องเข้าโดยผ่านทางตู้เกมส์ (ต้องหยอดเหรียญด้วยมิฉะนั้นจะเข้าไม่ได้) เมื่อเข้ามาแล้ว หากจะเข้าร่วมการประลองต้องใส่ปลอกแขนเหล็กที่มีเข็มพิษฝังอยู่ ซึ่งหากแพ้สามในห้ารอบก็จะถูกเข็มพิษทิ่มตาย (เข็มพิษนี้ใช้ไม่ได้ผลกับชาวสวรรค์) โดยแต่ละรอบมีการเลือกสมาชิกของแต่ละทีมเข้าไปต่อสู้ ในสนามประลองที่จับได้ สนามประลองในโดกุร่าแมนชั่น[แก้]สนามประลองขนมเค้ก เป็นสนามที่อุเอคิสู้กับหยุนเปา ซึ่งต้องต่อสู้กันบนเค้กก้อนใหญ่ โดยมีกฎคือถ้ากินเค้กไป100กรัม จะทำให้น้ำหนักของฝ่ายตรงข้ามเพิ่มขึ้น1กิโลกรัม ใครทำให้ฝ่ายตรงข้ามหมดสติก่อนเป็นผู้ชนะ สนามระบำคอสแซ็ก เป็นสนามที่โมริต่อสู้กับคาบาร่า ลักษณะเป็นทุ่งหิมะ โดยแต่ละฝ่ายจะมีหมวกคอสแซ็กอยู่สิบใบ โดยจะต้องใส่หมวกเหล่านี้แล้วเต้นระบำคอสแซ็กเพื่อให้มีอากาศหายใจ และห้ามใส่หมวกของฝ่ายตรงข้ามเด็ดขาด ไม่งั้นหมวกจะระเบิดแล้วทำให้ผู้ใส่หมดสติทันที สนามทุ่งแมว เป็นสนามที่ริงโกะสู้กับคาบาร่า ซึ่งต้องต่อสู้กันในบ้านที่มีแมวอยู่หลายตัว ผู้แข่งขันจะตัวเล็กเท่ากล่องไม้ขีด โดยที่ผู้แข่งขันจะต้องแตะจมูกแมวเพื่อเปลี่ยนฝ่ายตรงข้ามให้กลายเป็นหนู ในสนามนี้ใครถูกแมวกินก่อนจะเป็นผู้แพ้ สนามกระโดดเชือก เป็นสนามที่อุเอคิต่อสู้กับซาโนะและคัลปัจโจ โดยจะมีเชือกแกว่งอยู่ตลอด ความเร็วของการแกว่งเชือกจะขึ้นอยู่กับแรงสั่นสะเทือนของสนามประลอง หากอยู่นิ่งๆเชือกก็จะไม่แกว่ง (ในภายหลัง คัลปัจโจได้ใช้พลังของเมียวจินทำลายเชือกทิ้ง) และนอกเขตสนามประลองจะมีลาวาล้อมอยู่ หากใครทำให้อีกฝ่ายตกลาวาหรือหมดสติได้จะเป็นผู้ชนะ สนามประลองหลัก เป็นสนามที่อุเอคิต่อสู้กับโรเบอร์โต้ มีลักษณะเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ด้านหนึ่งของลานประลองจะมีบาเรียโปร่งแสงกั้นไว้ไม่ให้คนอื่นนอกจากคู่ประลองเข้าไปในลานประลองได้ รายชื่อตอนทั้ง 51 ตอนของอุเอคิฉบับอนิเมะ[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|