การไฟฟ าส วนภ ม ภาค สำน กงานใหญ เขตจต จ กร

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และการบริหารสัญญาของ กฟผ.

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และการบริหารสัญญา เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย พ.ศ. 2562 (PDPA) ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ทั้งนี้ท่านสามารถศึกษารายละเอียดประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และการบริหารสัญญา ได้ที่ https://www.egat.co.th/privacy-notice-procurement.html หรือที่ QR Code ด้านล่าง

การไฟฟ าส วนภ ม ภาค สำน กงานใหญ เขตจต จ กร

การขีดฆ่าข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว

กฟผ. มีประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุ และการบริหารสัญญา เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล แต่ไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หากเอกสารของท่านที่ต้องส่งมอบให้ กฟผ. มีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของ PDPA ดังนี้ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันรวมอยู่ด้วย ขอให้ท่านขีดฆ่า หรือปกปิดข้อมูลดังกล่าว ก่อนส่งมอบให้แก่ กฟผ.

ซื้อSecurity seal (plastic) (Code 5210-681-03810) จำนวน 600,000 ชุด 12 ธ.ค. 2566 จ้างก่อสร้างปรับปรุง ทางขึ้น - ลง อาคารจอดรถ การไฟฟ้านครหลวง เขตมีนบุรี 8 ธ.ค. 2566 ประกวดราคาซื้อ HV Phase Tester Kit 24 kV จำนวน 5 ชุด 8 ธ.ค. 2566 งานก่อสร้าง Cable Truss และ Cable Support ของสายส่งใต้ดิน 69 kV BPT692, BAT697 ภายในการท่าเรือแห่งประเทศไทย ณ บริเวณการท่าเรือแห่งประเทศไทย 6 ธ.ค. 2566 Smart Meter 5(100)A 3P4W 230/400V Direct Connected with 4G SIM Card (code 5210-683-54221) จำนวน 15,360 เครื่อง 4 ธ.ค. 2566

ติดต่อ กฟผ.

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

เลขที่ 53 หมู่ 2 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. สายด่วน 1416

งานสารบรรณ กฟผ. สำหรับการรับหนังสือทางอิเล็กทรอนิกส์

[email protected]

ในวันและเวลาทำการ (วันจันทร์-วันศุกร์ 08.00-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ)

การไฟฟ าส วนภ ม ภาค สำน กงานใหญ เขตจต จ กร
ประกาศ กฟผ.ที่ 9/2566 เรื่อง ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
การไฟฟ าส วนภ ม ภาค สำน กงานใหญ เขตจต จ กร

การไฟฟ าส วนภ ม ภาค สำน กงานใหญ เขตจต จ กร

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

มีใครสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า “การไฟฟ้า” แต่ละหน่วยงานทั้ง MEA PEA และ EGAT มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร? วันนี้ เราจะมาหาคำตอบกันครับ !

การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA มีหน้าที่จำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ

ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA จะจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ยกเว้นพื้นที่ 3 จังหวัดที่ MEA ดูแลอยู่ ซึ่งทั้ง 2 จะทำหน้าที่เหมือนกันคือ การจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยทุกคนมีไฟฟ้าใช้ มั่นคง และปลอดภัยในทุก ๆ บ้าน

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT เป็นผู้จัดหาแหล่งพลังงานไฟฟ้า มีทั้งผลิตเอง และรับซื้อจากโรงไฟฟ้าเอกชนและประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำการส่งไปให้แก่ MEA PEA และผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ เพื่อนำพลังงานไฟฟ้าเหล่านั้นส่งต่อให้ผู้ให้บริการในพื้นที่ต่อไป

.

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าหน่วยงานใด เราก็พร้อมส่งต่อพลังงานไฟฟ้า และสิ่งดี ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคนตลอด 24 ชม.เลยครับ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (Provincial Electricity Authority ตัวย่อ PEA) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่บริการจำหน่ายไฟฟ้าแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ยกเว้นกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง

สำนักงานใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งอยู่ที่ 200 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า 465,044.54 ล้านบาท (พ.ศ. 2557) และเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐสูงเป็นลำดับที่ 2 ของรัฐวิสาหกิจไทย ในปี 2565

ประวัติ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีที่มาเริ่มจากการเป็นแผนกไฟฟ้า ในกองบุราภิบาล กรมสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และก่อตั้งไฟฟ้าเทศบาลเมืองนครปฐมเป็นจังหวัดแรก เมื่อ พ.ศ. 2473 ต่อมาใน พ.ศ. 2477 มีการปรับปรุงแผนกไฟฟ้า เป็น กองไฟฟ้า สังกัดกรมโยธาเทศบาล กระทรวงมหาดไทย และเปลี่ยนชื่อเป็น กองไฟฟ้าภูมิภาค ในภายหลัง

ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลเห็นความจำเป็นในการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านไฟฟ้า จึงออกพระราชกฤษฎีกา ซึ่งให้ไว้เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พุทธศักราช 2497 และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พุทธศักราช 2497 ก่อตั้ง องค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท มีการไฟฟ้าอยู่ในความดูแล จำนวน117 แห่ง อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมโยธาเทศบาล กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รับการสถาปนาตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พุทธศักราช 2503 ณ วันที่ 28 กันยายน 2503 โดยรับช่วงภารกิจต่อจาก องค์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง ด้วยทุนประเดิมจำนวน 87 ล้านบาทเศษ มีการไฟฟ้าอยู่ในความรับผิดชอบ 200 แห่ง มีผู้ใช้ไฟจำนวน 137,377 ราย และพนักงาน 2,119 คน กำลังไฟฟ้าสูงสุดในปี 2503 เพียง 15,000 กิโลวัตต์(15MW) ผลิตด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลล์ทั้งสิ้น สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าบริการ ประชาชนได้ 26.4 ล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ต่อปี และมีประชาชน ได้รับประโยชน์ จากการใช้ไฟฟ้าประมาณ 1 ล้านคน หรือร้อยละ 5 ของประชาชนที่มีอยู่ทั่วประเทศในขณะนั้น 23 ล้านคน

ภายหลังจากมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พุทธศักราช 2503 ส่งผลให้ มีการแต่งตั้งบุคคลซึ่งไม่ใช่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ โดยบุคคลแรกที่เป็นประธานคณะกรรมการได้แก่นาย ดร.วิญญู อังคณารักษ์ ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 อย่างไรก็ตามรายนามประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมักเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง

ในช่วงปลายทศวรรษ ที่ 1 บวกกับการเริ่มต้นของแผนพัฒนเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่3 (2515-2519) และแรงผลักดันของความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาในอัตราที่สูงมากเกือบร้อยละ 30 ต่อปี มีผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องเตรียมปรับแผนเพื่อตั้งรับการพัฒนาชนบทด้านไฟฟ้าอย่างแข็งขัน และทันต่อความต้องการของประชาชน

เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นมาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการดำเนินการเสริมระบบจำหน่ายไฟฟ้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบไฟฟ้าให้มีความพร้อมสำหรับรองรับการขยายตัวของการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ โดยก่อสร้างเพิ่มวงจรระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ที่มีการใช้ไฟฟ้าหนาแน่น และเปลี่ยนระบบแรงดัน 11 กิโลโวลต์ เป็น 22 กิโลโวลต์ทั้งหมด ขณะเดียวกันเพื่อลดต้นทุนการผลิตของโรงจักรไฟฟ้าดีเซลซึ่งต้องเผชิญปัญหาราคาน้ำมันแพงขึ้นจึงเชื่อมโยงโรงจักรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งหมดเข้ารับไฟฟ้า

การดำเนินงานตามโครงการต่าง ๆ ทุกโครงการประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้เมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2532 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สามารถบริการไฟฟ้าในพื้นที่รับผิดชอบได้ครบทั้ง 70 จังหวัด 642 อำเภอ 81 กิ่งอำเภอ 6,369 ตำบลแล้ว เป็นผลให้ประชาชน ธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาหน่วยราชการ ทั้งทางทหาร ตำรวจ พลเรือนได้ใช้ไฟฟ้าประกอบกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนในหมู่บ้านชนบท 52,446 แห่ง หรือร้อยละ 89 ของหมู่บ้านในชนบททั้งหมด ได้รับบริการไฟฟ้าอย่างทั่วถึง กิจการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขยายตัวเจริญก้าวหน้าอย่างมาก เทียบกับเมื่อก่อตั้งในปี 2503 สินทรัพย์เพิ่มเป็น 43,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 500 เท่า มีผู้ใช้ไฟฟ้าถึง 1,340 แห่ง การใช้ไฟฟ้าพลังสูงสุดเพิ่มเป็น 3,266 เมกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นเป็น 16,178 ล้านหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 220 และ 610 เท่าตัว ตามลำดับ ผลงานต่าง ๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 30 ปีแม้จะถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามเพียงใดก็ตาม แต่ภารกิจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังไม่หยุดยั้ง ยังคงต้องต้องทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งด้านเงินลงทุนและทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อบริการพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประชาชน ธุรกิจ และอุตสาหกรรมในส่วนภูมิภาค ให้มีประสิทธิภาพมั่นคง เพียงพอต่อความต้องการ และให้ทั่วถึงมากที่สุด

หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้มีการแต่งตั้ง พลเอก วิโรจน์ บัวจรูญ เป็นประธานกรรมการในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 คณะรัฐมตรีได้มีมติแต่งตั้ง ถวิล เปลี่ยนศรี เป็นประธานกรรมการ และวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2560 คณะรัฐมตรีได้มีมติแต่งตั้ง นายชยพล ธิติศักดิ์ เป็นประธานกรรมการ

ในเดือน ธ.ค.2562 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งสิ้น 19.36 ล้านราย มีการจ่ายโหลดสูงสุด 21,149 MW(เม.ย. 62) คิดเป็น 70% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ มีอัตราการเติบโตของการใช้ไฟฟ้าประมาณ 4% ต่อปี

การแบ่งเขตรับผิดชอบ

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแบ่งพื้นที่รับผิดชอบออกเป็น 4 ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 3 เขตย่อย

  • ภาคเหนือ
    • กฟน.1 เชียงใหม่ รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา ลำปาง และลำพูน
    • กฟน.2 พิษณุโลก รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์
    • กฟน.3 ลพบุรี รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    • กฟฉ.1 อุดรธานี รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น หนองบัวลำภู เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และสกลนคร
    • กฟฉ.2 อุบลราชธานี รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และศรีสะเกษ
    • กฟฉ.3 นครราชสีมา รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
  • ภาคกลาง
    • กฟก.1 พระนครศรีอยุธยา รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว
    • กฟก.2 ชลบุรี รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด
    • กฟก.3 นครปฐม รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี (เฉพาะอำเภอบ้านโป่ง)
  • ภาคใต้
    • กฟต.1 เพชรบุรี รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สมุทรสงคราม และราชบุรี (ยกเว้นอำเภอบ้านโป่ง)
    • กฟต.2 นครศรีธรรมราช รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่ ภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี
    • กฟต.3 ยะลา รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา สตูล และพัทลุง

รายนามผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

รายนาม วาระการดำรงตำแหน่ง 1. สาย นิธินันท์ พ.ศ. 2502 - พ.ศ. 2512 2. ทวี อัศวนนท์ พ.ศ. 2512 - พ.ศ. 2517 3. ดร.วีระ ปิตรชาติ พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2535 4. สวาสดิ์ ปุ้ยพันธวงศ์ พ.ศ. 2535 - พ.ศ. 2536 5. ดร.จุลพงศ์ จุลละเกศ พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2539 6. สุนทร ตันถาวร พ.ศ. 2539 - พ.ศ. 2542 7. วิบูลย์ คูหิรัญ พ.ศ. 2542 - พ.ศ. 2545 8. ไพจิตร เทียนไพฑูรย์ พ.ศ. 2545 - พ.ศ. 2548 9. ประเจิด สุขแก้ว พ.ศ. 2548 - พ.ศ. 2550 10. อดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2553 11. ณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ พ.ศ. 2553 - พ.ศ. 2554 12. นำชัย หล่อวัฒนตระกูล พ.ศ. 2554 - พ.ศ. 2558 13. เสริมสกุล คล้ายแก้ว พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2561 14. สมพงษ์ ปรีเปรม พ.ศ. 2561 - พ.ศ. 2564 15. ศุภชัย เอกอุ่น พ.ศ. 2564 - ปัจจุบัน

แผนที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

  • ค้นหาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เก็บถาวร 2010-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน

อ้างอิง

พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 129 ตอนที่ 15ก วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแบ่งเป็นกี่เขต

สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในสังกัด โดยแบ่งการบริหารงานเป็น 4 ภาค แต่ละภาค ประกอบด้วยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต จำนวน 3 เขต รวมเป็น 12 เขต ดังนี้

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดูแลกี่จังหวัด

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครับผิดชอบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ 74 จังหวัดของประเทศไทย ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 99 ของพื้นที่ประเทศไทย หรือประมาณ 510,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้า 21,347,929 ราย

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค

การแบ่งเขตรับผิดชอบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแบ่งพื้นที่รับผิดชอบออกเป็น 4 ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 3 เขตย่อย ภาคเหนือ กฟน.1 เชียงใหม่ รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา ลำปาง และลำพูน

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีหน้าที่อะไร และมีกี่จังหวัด

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. (Provincial Electricity Authority ตัวย่อ PEA) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่บริการจำหน่ายไฟฟ้าแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ยกเว้น จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง