การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

แบบคำร้อง/คำขอแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม

ลำดับชื่อย่อชื่อเต็มดาวน์โหลด1.ภ.พ.01แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP2.ภ.พ.01.1แบบคำขอแจ้งขอใช้สิทธิ์เพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP3.ภ.พ.01.2แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราว
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP4.ภ.พ.01.3แบบแจ้งการประกอบกิจการค้าทองคำ

-ผู้ประกอบการที่มีหรือไม่มีใบอนุญาตค้าของเก่าสามารถจดแจ้งตามแบบ ภ.พ.01.3 ได้

PDF | ZIP5.ภ.พ.01.5แบบแจ้งการประกอบกิจการนำเข้าหรือขายอัญมณี ทองคำขาว ทองขาว เงิน และพาลาเดียมPDF | ZIP6.ภ.พ.01.6คำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราวในเขตปลอดอากร

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP7.ภ.พ.02แบบคำขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP8.ภ.พ.02.1แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP9.ภ.พ.04แบบคำขอรับใบแทนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP10.ภ.พ.05.1แบบแจ้งรายการประมาณการการใช้พื้นที่อาคารPDF | ZIP11.ภ.พ.05.2แบบแจ้งวันที่ก่อสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์PDF | ZIP12.ภ.พ.05.3แบบแจ้งรายการเริ่มใช้อาคารPDF | ZIP13.ภ.พ.05.4แบบแจ้งรายการเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่อาคารPDF | ZIP14.ภ.พ.06แบบคำขออนุมัติใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินเพื่อออกใบกำกับภาษีตามประมวลรัษฎากรPDF | ZIP15.

-

หนังสืออนุมัติใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินตามข้อ 9 (ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 46) ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2536)PDF | ZIP16.ภ.พ.06.1 แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงการใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินที่เคยได้รับอนุมัติPDF | ZIP17.ภ.พ.07แบบคำขออนุมัติให้สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการายย่อยPDF | ZIP18.ภ.พ.08แบบคำขอถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP19.ภ.พ.09แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP20.ภ.พ.09.1แบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นการชั่วคราว
การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง
PDF | ZIP21.ภ.พ.13แบบคำขอให้นำเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้รับคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารPDF | ZIP22.ภ.พ.14แบบคำขออนุมัติจัดทำรายงานตามมาตรา 87/1 แห่งประมวลรัษฎากรของสถานประกอบการรถเข็นล้อเลื่อน/แผงลอย/ร้านค้าย่อย/ลักษณะอื่นPDF | ZIP23.ภ.พ.73.1หนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มPDF | ZIP

หมดกังวลกับการจ่ายบิล ด้วยแอป Krungthai NEXT จ่ายบิลออนไลน์ได้ครอบคลุม ทั้งค่าน้ำ (นครหลวง, ภูมิภาค) ค่าไฟฟ้า (นครหลวง, ภูมิภาค) ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ค่าปรับจราจร ชำระเงินกู้ กยศ. รวมไปถึงบิลภาครัฐต่างๆ จ่ายบิลผ่านแอป Krungthai NEXT สะดวกสบาย ฟรีค่าธรรมเนียม เติมเงินได้ ครบทุกเครือข่ายมือถือทั่วไทย เติมค่าทางด่วน Easy Pass และ M-Pass

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

1. เลือกเมนูจ่ายบิล

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

2. เลือกรายการที่ต้องการจ่าย หรือกดค้นหาที่ช่อง Smart Search

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

3. ใส่หมายเลขอ้างอิง และกดปุ่ม "ตรวจสอบยอดเงิน"

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

4. กดปุ่ม "ถัดไป"

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

5. ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วกดปุ่ม "ยืนยัน"

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

6. กรอกรหัส PIN กรณีผู้ใช้ยังไม่เคยยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบด้วยรหัส PIN

การชำระเง นออนไลน ท ปลอดภ ย ม ว ธ ใดบ าง

7. แสดงผลการทำรายการ แล้วกดปุ่ม "เสร็จสิ้น"

การทำระบบ e-Payment จะทำให้ธุรกรรมทางการเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับระบบบริหารจัดการการเงินการคลัง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทั้งในด้าน

  1. ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย (Competitiveness)
  2. อันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business)
  3. ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index : HDI)

​1. ช่องทางการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

กระบวนการชำระเงินระหว่าง ผู้จ่าย/ผู้โอนเงินไปยังผู้รับเงินโดยเป็นการโอนสิทธิการถือครองเงินหรือการโอนสิทธิการถอนเงิน หรือหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการที่เปิดไว้กับผู้ให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือบางส่วนที่เกิดขึ้นผ่านสื่อ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโอนผ่านทางATM บัตรเครดิต บัตรเดบิต การชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ต การชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น

เครื่องเอทีเอ็ม

เครื่องเอทีเอ็ม (ATM) เป็นเครื่องทำธุรกรรมทางการเงินอัตโนมัติของธนาคารพาณิชย์ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบาย เนื่องจากมีบริการที่หลากหลาย ทั้งบริการถอนเงิน สอบถามยอด โอนเงิน ซื้อ/ชำระค่าสินค้าและบริการ และเปลี่ยนรหัสบัตร ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น และจากผลสำรวจ Thailand Internet User Profile 2015 จะพบว่าการโอนเงินแบบออฟไลน์ผ่านเครื่อง ATM ได้รับความนิยมอันดับสองรองจากการโอนที่เคาน์เตอร์ธนาคาร

แผนภาพที่ 1 จำนวนเครื่องเอทีเอ็ม

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87/P1.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

จำนวนเครื่องเอทีเอ็ม ในปี 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 63,432 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ซึ่งมี 61,614 เครื่อง โดยมี มีอัตราการเติบโตร้อยละ 3.0 และเมื่อดูภาพรวมการเติบโตของในช่วงตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2558 พบว่า จำนวนเครื่องเอทีเอ็มมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี ร้อยละ 7.4 ดังแสดงตามแผนภาพที่ 1

เครื่องรับบัตร ณ จุดขาย (Electronic Fund Transfer at Point of Sale)

สำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการ นอกจากผู้ใช้บริการจะสามารถชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังสามารถชำระผ่านเครื่องรับบัตร ณ จุดขาย (EFTPOS) ซึ่งติดตั้งที่ร้านค้า โดยใช้ผ่านบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิตและบัตรพลาสติกอื่นๆ

แผนภาพที่ 2 จำนวนเครื่องรับบัตร ณ จุดขาย (EFTPOS)

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/P2.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

จำนวนเครื่องรับบัตร ณ จุดขายในปี 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 357,986 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าจำนวน 340,179 เครื่อง ด้วยอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 5.2 ซึ่งต่ำกว่าในภาพรวมช่วงตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2557 จำนวนเครื่องรับบัตร ณ จุดขาย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีร้อยละ 6.9

บัตรพลาสติก

บัตรพลาสติกต่างๆ ประกอบด้วย บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิต ซึ่งเป็นบัตรที่ใช้ร่วมกับเครื่องเอทีเอ็มในการทำธุรกรรมทางการเงิน และเครื่องรับบัตร ณ จุดขาย (EFTPOS) ในการชำระค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ให้บริการ

แผนภาพที่ 3 จำนวนบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิต

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99/P3.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

การถือครองบัตรพลาสติกของประชากร ในปี 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 82.2 ล้านใบโดยมีการถือครองบัตรเดบิต สูงถึง 47.0 ล้านใบ คิดเป็นร้อยละ 57 ของการถือครองบัตรพลาสติกทั้งหมด โดยปัจจุบันเป็นที่สังเกตได้ว่าอัตราการเติบโตของบัตรเอทีเอ็ม ติดลบมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาซึ่งอาจจะมีสาเหตุจาก ธนาคาร พาณิชย์ ได้ มุ่ง ทำการ ตลาด ในการ ออกบัตร เดบิต ทั้ง การ ออก บัตร ใหม่ และ ทดแทน การ ออก บัตร เอทีเอ็ม แต่โดยภาพรวมถือครองบัตรพลาสติกยังมีอัตราการเติบโตโดยรวมตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2558 เติบโตร้อยละ 4.4

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99/P4.jpg.aspx)

2. สถานภาพการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบัน สถานภาพการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทั้งมูลค่าและปริมาณการชำระเงินเนื่องมาจากมีการพัฒนาและส่งเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อทดแทนการใช้เงินสดและเช็ค เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และลดต้นทุนการบริหารจัดการเงินสดของประเทศ (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2557) โดยปัจจุบันมีช่องทางการให้บริการทั้งที่เป็นสถาบันการเงิน และมิใช่สถาบันการเงิน รวมทั้งสิ้น 76 หน่วยงาน

การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย

การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย การโอนเงินมูลค่าสูง (BAHTNET) การโอน เงินครั้งละหลายรายการ (Bulk Payment) การโอนเงินรายย่อยข้ามธนาคาร (ORFT Inter Bank) การโอนเงินรายย่อยภายในธนาคารเดียวกัน (ORFT Intra Bank) การใช้บัตรพลาสติกเพื่อการชําระเงิน (Payment Cards) และเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)

ปริมาณการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ปริมาณการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ แผนภาพที่ 4 ปริมาณการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเหตุ** ข้อมูลมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นและลดลงบางปีเล็กน้อยตามแหล่งข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย

การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2558 มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 4,757.0 ล้านรายการ และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 9.0 โดยการใช้บัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงิน (Payment cards) มีจำนวนปริมาณที่สูงที่สุดเป็น 2,625.3 ล้านรายการ คิดเป็นร้อยละ 55.2 ของการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด นั้นแสดงถึงความนิยมในการใช้บัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงิน แต่ถ้าดูอัตราการเติบโตกลับเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตในปี 2558 เป็นช่องทางที่เติบโตน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตามรูปแบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2553-2558 เป็นต้นมา คือ เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมร้อยละ 33.0 ต่อปี ทั้งนี้เพื่อช่วยให้มีความสะดวก รวดเร็ว เหมาะกับการชำระเงินจำนวนเงินที่ไม่สูงมากนักและลดความเสี่ยงการถือครองเงินสดมาเป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่าง e-Money

แผนภาพที่ 5 มูลค่าการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%AA/P7.jpg.aspx) /Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%AA/P8.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเหตุ** ข้อมูลมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นและลดลงบางปีเล็กน้อยตามแหล่งข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย

การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2558 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 860,200,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมีมูลค่า 824,865,380 ล้านบาท ในอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 โดยการโอนเงินผ่านระบบบาทเนต (BAHTNET) มีมูลค่าสูงสุดคิดเป็นร้อยละ 92 ของมูลค่าการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในปี 2558 โดยวัตถุประสงค์สำคัญคือเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการชำระดุลระหว่างสถาบันการเงินที่มีบัญชีเงินฝากกับ ธปท.และเพื่อให้การโอนเงินสำหรับบุคคลที่สามมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ เงินเล็กทรอนิกส์ (e-Money) โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมร้อยละ 31.0 ต่อปี โดยผู้ใช้บริการได้ชำระเงินล่วงหน้าแก่ผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ใช้บริการสามารถ นำไปใช้ชำระค่าสินค้าค่าบริการแทนการชำระด้วยเงินสดตามร้านค้าที่รับชำระ ทำให้มีความสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก และไม่เสียเวลารอเงินทอนอีกด้วยทำให้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน

ธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ Internet banking และ Mobile banking

ในปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์ได้มีการเพิ่มเติมช่องทางการให้บริการของธนาคารผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet banking) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile banking) เช่น การโอนเงิน การสอบถามยอดเงิน ชำระค่าบริการต่างๆบริการเกี่ยวกับการตรวจดูรายการใช้จ่ายบัตรเครดิตย้อนหลังหรือแม้กระทั่งการพิมพ์รายการทางบัญชีที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาแบบไม่ต้องเดินทางไปธนาคาร หรือตู้ ATM เพียงลูกค้ามีอุปกรณ์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้

ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งปริมาณ และมูลค่าการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านช่องทาง Internet Banking และ Mobile Banking เพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มของการเลือกช่องทางการใช้บริการของผู้ใช้บริการในยุคของดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างทั่วถึงและเพิ่มมากขึ้น

แผนภาพที่ 6 ปริมาณธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ Internet banking และ Mobile banking

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-Internet-banking-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-Mobi/P9.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

หมายเหตุ

** ข้อมูลมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นและลดลงบางปีเล็กน้อยตามแหล่งข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ปริมาณการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่านช่องทางบริการ Internet banking และ Mobile banking ในปี 2558 ที่สำคัญคือ ปริมาณการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่าน Mobile banking เพราะเติบโตและสูงกว่า Internet banking เป็นปีแรก โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 126.9 ต่อปี และอัตราการเติบโตสะสมเฉลี่ยร้อยละ 76.6 ต่อปี

แผนภาพที่ 7 มูลค่าธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ Internet banking และ Mobile banking

/Certifications/Example-1/content-certification-service-register/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-Internet-banking-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-Mobi/P10.jpg.aspx)

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

มูลค่าของธุรกรรมการชำระเงินผ่านช่องทางบริการ Internet banking และ Mobile banking ในปี พ.ศ. 2558 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 20.2 และ 88.4 ตามลำดับ จะสังเกตุได้ว่าถึงแม้จะมีปริมาณการทำธุรกรรมการชำระเงินผ่าน Mobile banking ที่สูงกว่า Internet banking แต่ก็ยังมีมูลค่าที่ยังต่ำกว่า แต่คาดว่าในอนาคต Mobile banking จะมีมูลค่าที่ใกล้กับ Internet banking มาขึ้นเรื่อยๆ เพราะพฤติกรรมและแนวโน้มจะเปลี่ยนไปทาง Mobile banking ที่เพิ่มมากขึ้น

ประกอบกับทิศทางของธนาคารแห่งประเทศไทยในระยะต่อไป การพัฒนาระบบการชำระเงินจะมุ่งเน้นพัฒนาให้เกิดความครอบคลุมและเข้าถึงผู้ใช้บริการกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนสนับสนุนให้ภาครัฐและภาคธุรกิจก้าวเข้าสู่การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ซึ่งภายใต้แผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน (Payment Systems Roadmap)ระยะที่ 4 จะมีทั้งในส่วนของการพัฒนาบริการชำระเงินรายย่อยรองรับภาคธุรกิจ ภาครัฐ ประชาชน การมีช่องทางชำระเงินที่หลากหลายรองรับ e-Commerce/m-Commerce การบริการผ่าน Mobile ที่สะดวกรวดเร็ว (QR Code, เบอร์มือถือ) การใช้เครื่องรับบัตรร่วมกัน และกระจายเครื่องรับบัตร ซึ่งช่วงที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เพื่อร่วมพัฒนามาตรฐานกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการซื้อขายสินค้า (e-Invoicing) มาตรฐานกลางข้อความการชำระเงิน (Nation Payment Message Standard) ที่จะส่งผลให้ข้อมูลการค้าและข้อมูลการชำระเงินเชื่อมโยงกันได้โดยอัตโนมัติแบบ Straight-Through Processing ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและลดต้นทุนในกระบวนการทางธุรกิจอีกด้วย