การร งว ดท ด นท ท ม โฉนดอย แล ว

เรื่อง แนวทางปฏบิ ตั ิเพอ่ื ดําเนินการตามมาตรา ๘ แหงพระราชบญั ญตั ิแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน

(ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายหลงั วันที่ ๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๓ (แกไ ขเพม่ิ เติม)

เรยี น ผวู าราชการจังหวดั ทุกจงั หวัด

อา งถงึ หนงั สอื กรมท่ีดนิ ดว นที่สุด ที่ มท ๐๕๑๖.๒ (๑)/ว ๒๗๖๑ ลงวันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓

สง่ิ ทส่ี ง มาดวย ๑. แนวทางปฏบิ ตั เิ พอ่ื ดาํ เนินการตามมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญตั ิแกไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายหลงั วันท่ี ๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๓ (ฉบับแกไขเพิ่มเตมิ ) ฉบับลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓

๒. ประกาศกรมท่ีดนิ เรื่อง คาํ แนะนาํ ประชาชน กรณี นาํ หลักฐานการแจงการครอบครองทด่ี ิน (ส.ค. ๑) มายื่นคาํ ขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทาํ ประโยชน ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๓ (ฉบับแกไ ขเพมิ่ เติม) ประกาศวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓

๓. แบบรายงานความเห็นตอศาลในกรณีผูนําหลักฐาน ส.ค. ๑ ไปยื่นคํารองตอศาลตาม มาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับแกไขเพิ่มเติม)

ตามที่กรมที่ดินไดแจงแนวทางปฏิบัติ กรณี มีผูนําหลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) มาย่ืนคําขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ วา หามมิใหพนักงานเจาหนาท่ีรับคําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินจนกวาเจาของที่ดินจะไดนําคําพิพากษา หรือคําสั่งถึงที่สุดของศาลยุติธรรมวาผูนั้นเปนผูซึ่งไดครอบครองทําประโยชนในที่ดิน โดยชอบดวยกฎหมาย อยูกอนประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับมายื่นพรอมกับแบบแจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) แตใหย่ืนเปนคํารอง และหามมิใหเรยี กเก็บคา ธรรมเนยี มการยื่นคํารอง ความละเอยี ดแจง แลว นนั้

กรมทด่ี ินขอเรยี นวา ไดร บั การประสานจากสาํ นกั งานศาลยุติธรรมใหมีการรวมประชุมหารือกัน ระหวางผูแทนกรมท่ีดินกับคณะกรรมการวิชาการ สํานักงานศาลยุติธรรม เม่ือวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ หองประชุมสํานักงานศาลยุติธรรม ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นวา โดยท่ีมาตรา ๘ วรรคสาม แหง พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ กําหนดวา เมื่อพนกําหนดเวลา สองปนับแตวันท่ีพระราชบัญญัตินี้มีผลใชบังคับ หากมีผูนําหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดินมาขอออก

๑1๐0๑3

โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน พนักงานเจาหนาที่จะออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนใหไดตอเมื่อศาลยุติธรรมไดมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดวาผูนั้นเปนผูซ่ึงไดครอบครองและทํา ประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับ ดังนั้น การท่ีเจาของที่ดิน จะไปยื่นคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยอาศัยหลักฐาน ส.ค. ๑ ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ ที่สํานักงานที่ดินทองที่ สามารถดําเนินการได แตกอนออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง การทําประโยชน พนักงานเจาหนาที่จะตองแจงใหเจาของที่ดินไปยื่นคํารองตอศาลเพื่อใหศาลมีคําพิพากษา หรือคําสั่งวาผูน้ันเปนผูซ่ึงไดครอบครองและทําประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันท่ีประมวล กฎหมายที่ดินใชบังคับ และนําคําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี เจาพนักงานท่ีดิน จึงจะลงนามแจกโฉนดที่ดินใหแกเจาของท่ีดินได และไดขอใหกรมท่ีดินทบทวนแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการ ดาํ เนินการตามมาตรา ๘ ดังกลา ว และแจง ใหสํานกั งานที่ดินทว่ั ประเทศไดทราบ

ดังนั้น เพ่ือใหการปฏิบัติงานของเจาหนาท่ีเปนไปตามนัยของขอกฎหมายดังกลาว กรณีมีผูนํา หลกั ฐานแบบแจงการครอบครองท่ดี ิน (ส.ค. ๑) มายื่นคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ภายหลังวันท่ี ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ จึงไดยกเลิกแนวทางปฏิบัติซ่ึงกรมที่ดินไดแจงใหจังหวัดทราบตามหนังสือ กรมทด่ี ิน ดว นที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๖ง๒ (๑)/ว ๒๗๖๑ ลงวนั ท่ี ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ และใหด าํ เนนิ การ ดังน้ี

๑. ใหพนักงานเจาหนาท่ีรับคําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินเรียกเก็บคาธรรมเนียมและ ดําเนนิ การรงั วัดตามระเบียบและวิธีการจนครบถว นทุกข้นั ตอน

๒. เมื่อมีผูมายื่นคําขอตามขอ ๑. ใหพนักงานเจาหนาท่ีอธิบายหลักเกณฑของกฎหมายให ทราบวา พนักงานเจาหนาที่จะดําเนินการใหตามคําขอโดยการรังวัดและสอบสวนสิทธิเพ่ือใหทราบตําแหนง ท่ดี ินและขอ มูลเก่ียวกับทีด่ ินเพอื่ ประกอบการเสนอความเห็นตอศาล เมื่อผูขอไปย่ืนคํารองตอศาลและพนักงาน เจาหนาที่จะออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินใหไดตอเมื่อศาลไดมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดวาผูนั้นเปน ผูครอบครองและทําประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมายกอนประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับเทานั้น โดยใหผขู อปฏบิ ตั ิตามประกาศกรมท่ดี ิน (ตามส่งิ ที่สงมาดวย ๒)

๓. กรมที่ดินไดมอบอํานาจใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัด เจาพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เจา พนกั งานท่ดี นิ หวั หนา สวนแยก และเจาพนักงานที่ดินอําเภอในสํานักงานที่ดินที่ท่ีดินต้ังอยู และเจาพนักงานท่ีดิน จังหวัดดําเนินการตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ แทนกรมท่ดี นิ ตามคําส่ังกรมท่ีดิน ที่ ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ และคําสั่งกรมที่ดิน ที่ ๖๒๐/๒๕๕๓ ลงวนั ที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๓

104 ๑๐๒ ๔. ใหพนักงานเจาหนาที่ถือปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่กรมที่ดินไดวางไว (ตามสิ่งที่สง มาดว ย ๑) จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และขอไดแ จงใหพนักงานเจาหนาทท่ี ราบและถอื ปฏิบตั ิตอไป

ขอแสดงความนบั ถือ

(นายอนุวฒั น เมธวี ิบลู วุฒิ) อธิบดีกรมทดี่ ิน

สาํ นกั มาตรฐานการออกหนงั สือสาํ คญั โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐ โทรสาร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๙๖๐

๑1๐0๓5

แนวทางปฏิบตั ิเพื่อดาํ เนินการตามมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพ่มิ เติม ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑

ภายหลังวันท่ี ๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๓ (ฉบบั แกไขเพม่ิ เตมิ )

เมื่อพนกําหนดการยื่นคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยอาศัย หลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ตามความในมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติม ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ (ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓) หากมีผูนําหลักฐาน แบบแจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) มายื่นคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตอ พนักงานเจาหนาที่ ณ สํานักงานท่ีดินจังหวัด สํานักงานท่ีดินจังหวัดสาขา/สวนแยก หรือสํานักงานท่ีดินอําเภอ ใหพ นักงานเจาหนา ทดี่ ําเนนิ การดังตอ ไปนี้

๑. ใหพนกั งานเจา หนา ที่รบั คําขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ข. และ น.ส. ๓ ก.) และเรียกเก็บคา ธรรมเนียมตามระเบยี บและวธิ ีการ

ในการนําเรื่องการรังวัดออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามวรรคหน่ึง ลงบญั ชีเร่ืองการรังวัด (บ.ท.ด. ๑๑) ใหแยกบัญชีเปนอีกเลมหนึ่งตางหากเปนบัญชีเรื่องการรังวัดตามมาตรา ๘ แหงพระราชบญั ญัติแกไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ เพอ่ื สะดวกแกการควบคุมและตดิ ตามเรอ่ื ง

๒. ในการรับคําขอตามขอ ๑. ใหพนักงานเจาหนาที่แจงใหผูยื่นคําขอทราบและบันทึกถอยคํา เจาของที่ดินตามบันทึกถอยคํา (ท.ด. ๑๖) วา การขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตาม หลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ นั้น ตามมาตรา ๘ แหง พระราชบัญญตั ิแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ กาํ หนดไววา พนักงานเจาหนาที่ จะดําเนินการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนใหไดตอเม่ือศาลยุติธรรมไดมีคําพิพากษาหรือ คาํ สั่งถงึ ทส่ี ุดวา ผูน้นั เปน ผซู งึ่ ไดค รอบครองและทาํ ประโยชนใ นท่ดี ินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันที่ประมวล กฎหมายทด่ี นิ ใชบ งั คับเทานัน้ ในช้ันนี้ พนักงานเจาหนาท่ีจะดําเนินการใหตามคําขอโดยการรังวัดและสอบสวน สิทธเิ พอื่ ใหท ราบตาํ แหนง ของท่ีดินและขอมลู เกยี่ วกับท่ีดินเพื่อใหผูขอนําหลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน พรอมกับหลักฐานการยน่ื คําขอออกโฉนดทีด่ นิ หรือหนังสอื รบั รองการทําประโยชนและผลการรังวัดไปยื่นคํารอง ตอศาลซ่ึงที่ดินต้ังอยูในเขตอํานาจกอน ซ่ึงพนักงานเจาหนาที่จะออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนใหไ ดต อ เมื่อผขู อไดนาํ คําพิพากษาหรอื คําสัง่ ถงึ ท่ีสุดของศาลมาแสดงเทานั้น และใหพนักงานเจาหนาที่ แจกประกาศกรมท่ีดิน เรื่อง คําแนะนํากรณีมีผูนํา ส.ค. ๑ มายื่นขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนภายหลังวันท่ี ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ (ฉบับแกไขเพิ่มเติม) (ซึ่งไดสงมาพรอมแนวทางปฏิบัตินี้) ใหแก ผูขอ พรอมทง้ั ใหผ ขู อลงลายมือชอื่ ไวเ ปน หลักฐาน

๓. ใหผูขอชี้ระวางและนัดทําการรังวัดตามลําดับการยื่นคําขอตามปกติ โดยใหวางเงินมัดจํา รังวัดและดําเนินการตามระเบียบเรื่องการรังวัดออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเปนการ เฉพาะราย

106 ๑๐๔

๔. เมื่อไดทําการรังวัดเสร็จเรียบรอยแลว หากไมมีการคัดคานและไมมีเหตุขัดของอื่นใด ใหด าํ เนนิ การประกาศแจกโฉนดท่ดี ินตามระเบียบ เม่อื ครบกําหนดประกาศแลว ไมมีผูคัดคาน และไดตรวจสอบ ความถูกตองตามแบบรายงานความเห็นตอศาลในกรณีมีผูนําหลักฐาน ส.ค. ๑ ไปย่ืนคํารองตอศาลตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบับแกไขเพิ่มเติม) (ที่ไดสงมาพรอมกับแนวทางปฏิบัตินี้) แลวเห็นวาถูกตองครบถวน พรอมที่จะดําเนินการออกโฉนดที่ดินได ใหพ นักงานเจาหนาที่มีหนังสือแจงใหเจาของท่ีดินนําหลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) พรอมทั้ง สําเนาหลกั ฐานการรังวัดและเอกสารทเี่ กี่ยวของไปดําเนนิ การย่นื คาํ รองตอ ศาลทีท่ ี่ดินอยูในเขตอาํ นาจ

๕. เม่ือผูขอมาติดตอขอรับหลักฐานเพื่อไปดําเนินการทางศาลตามขอ ๔. ใหผูขอลงนามรับ เอกสารดังกลาวไวเปนหลักฐาน และใหหมายเหตุในบัญชีเรื่องการรังวัด ตามขอ ๑. วาผูรองไดรับหลักฐานการ รังวัดและหลักฐานอ่ืนไปดําเนินการทางศาลต้ังแตวัน เดือน ปใด และลงชื่อพนักงานเจาหนาที่กํากับไว แลวให รอเรื่องไวจนกวาผูขอจะไดนําคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงท่ีสุดของศาลมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี โดยไมถือ เปน งานคางของสาํ นกั งานทีด่ ิน

๖. หากในการรังวัดมีผูคัดคาน หรือระหวางประกาศมีผูคัดคาน เมื่อครบกําหนดประกาศแลว และพนักงานเจาหนาที่ไดตรวจสอบความถูกตองตามแบบรายงานความเห็นตอศาลของสํานักงานที่ดิน ซึ่งได สงมาพรอมกับหนังสือกรมท่ีดิน ดวนท่ีสุด ท่ี มท ๐๕๑๖.๒ (๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ แลว เห็นวา ถกู ตองครบถวน พรอมท่ีจะดาํ เนนิ การออกโฉนดท่ดี ินได ใหด าํ เนนิ การดังน้ี

๖.๑ ใหพนักงานเจาหนาที่เรียกผูขอและผูคัดคานมาดําเนินการสอบสวนเปรียบเทียบตาม มาตรา ๖๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน หากตกลงกันได ก็ใหดําเนินการไปตามท่ีตกลง โดยใหแจงใหผูขอไป ดําเนนิ การย่นื คํารองตอ ศาลเพ่ือใหศาลมีคําพิพากษาหรือคําส่ัง วาผูนั้นเปนผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชน ในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ เมื่อศาลมีหนังสือแจงใหกรมที่ดิน (โดยสาํ นกั งานท่ีดินทองท่ีท่ีรับคําขอ) ตรวจสอบ พรอมท้ังทําความเห็นเสนอตอศาลตามมาตรา ๘ วรรคสี่ แหง พระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ใหสํานักงานที่ดินทองท่ีท่ีรับ คาํ ขอ รายงานเรอื่ งการคดั คา นและผลการสอบสวนเปรียบเทียบใหศาลทราบดว ย

๖.๒ ในกรณีมีการคัดคานและคูกรณีไมสามารถตกลงกันได ใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด หรือเจาพนักงานท่ีดินสาขาพิจารณาสั่งการไปตามท่ีเห็นสมควร เม่ือเจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจาพนักงาน ที่ดินจังหวัดสาขา ส่ังประการใดแลวใหแจงเปนหนังสือตอคูกรณีเพ่ือทราบ และใหฝายท่ีไมพอใจไปดําเนินการ ฟอ งรอ งตอศาลภายในกําหนดหกสิบวันนับแตวันรับทราบคําสั่ง พรอมท้ังแจงใหฝายผูขอไปยื่นคํารองตอศาล ตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ภายใน กําหนดหกสิบวันดวย เพ่ือศาลจะไดพิจารณาเปนคดีมีขอพิพาทในคราวเดียวกัน เม่ือศาลมีหนังสือแจงใหกรม ท่ีดิน (โดยสํานักงานที่ดินทองท่ีท่ีรับคําขอ) ตรวจสอบพรอมทั้งทําความเห็นเสนอตอศาลตามมาตรา ๘ วรรคส่ี แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ใหสํานักงานที่ดินท่ี ท่ีรับคําขอรายงานเรอื่ งการคัดคานและผลการสอบสวนเปรียบเทียบใหศาลทราบดวย

๑1๐0๕ 7

๗. เมื่อศาลไดรับคํารองตามขอ ๔. และแจงใหกรมที่ดินทราบ กรมที่ดินจะมีหนังสือแจง ใหจังหวัดแจงสํานักงานที่ดินทองท่ีที่รับคําขอทราบเพื่อดําเนินการตามคําสั่งศาล โดยอธิบดีกรมท่ีดินไดมีคําสั่ง กรมท่ีดิน ท่ี ๒๒๗/๒๕๕๓ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ และคําส่ังกรมท่ีดิน ที่ ๖๓๐/๒๕๕๓ ลงวันท่ี ๓ มีนาคม ๒๕๕๓ มอบอํานาจใหด าํ เนินการแทนอธบิ ดกี รมที่ดนิ ดงั นี้

๗.๑ อธบิ ดีกรมทด่ี นิ ไดมอบอาํ นาจใหเ จาพนกั งานทด่ี นิ จงั หวัด เจาพนักงานท่ีดินจังหวัด สาขา เจาพนักงานท่ีดินหัวหนาสวนแยก เจาพนักงานที่ดินอําเภอ ในสํานักงานท่ีดินทองที่ที่ดินน้ันตั้งอยูเปน ผูดําเนินการตามคาํ สัง่ ศาลในเร่อื งการตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับท่ีดินแปลงที่มีผูยื่นคํารองตอศาลตามมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ การตรวจสอบตําแหนง ของท่ีดิน และการดาํ เนินการอื่น ๆ ตามทีศ่ าลมีคาํ สงั่ การเสนอความเหน็ เบ้อื งตนตอเจาพนักงานที่ดินจังหวัดวา ผูรองฯ ไดครอบครองหรือทําประโยชนในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับ หรอื ไม ตลอดจนการขอขยายระยะเวลาตอศาลในกรณีท่ีไมสามารถเสนอความเห็นตอศาลไดภายในระยะเวลา ตามท่ีกําหนด และใหถอยคําตอศาลกรณีศาลมีหมายเรียกใหไปเปนพยานหรือใหขอมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบ ท่ีดนิ แปลงท่ีมกี ารยืน่ คํารอ งตอศาล แทนกรมท่ีดิน

๗.๒ อธิบดีกรมท่ีดินไดมอบอํานาจใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดเปนผูทําความเห็นเสนอ ตอศาลตามมาตรา ๘ วรรคสี่ แหง พระราชบัญญตั ิแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ วา ผูรองฯ ไดครอบครองหรือทําประโยชนในท่ีดินแปลงใดในเขตจังหวัดน้ันโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันที่ ประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับหรือไม ตลอดจนการขอขยายระยะเวลาตอศาลในกรณีท่ีไมสามารถเสนอ ความเห็นตอศาลไดภายในระยะเวลาตามท่ีกฎหมายกําหนด และใหถอยคําตอศาลกรณีศาลมีหมายเรียกใหไป เปนพยานหรือใหข อ มลู เก่ียวกบั การตรวจสอบท่ดี นิ แปลงท่มี กี ารยนื่ คํารอ งตอศาล แทนกรมท่ดี นิ

ท้ังน้ี กรมท่ีดินไดมีหนังสือแจงใหสํานักงานศาลยุติธรรมทราบแลววาไดมอบอํานาจให เจาพนักงานท่ีดินฯ ในสํานักงานท่ีดินน้ัน และเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดเปนผูดําเนินการแทนกรมท่ีดินและเปน ผูแ จงผลใหศ าลทราบโดยตรง

๘. กรณีผูที่ไดยื่นคําขอตามขอ ๑. ไว ไดไปดําเนินการทางศาลยุติธรรมไดแจงใหกรมที่ดิน ทราบและใหกรมท่ีดินตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศฉบับท่ีทําขึ้น กอนสุดเทาท่ีทางราชการมีอยู พรอมทั้งทําความเห็นเสนอตอศาลวา ผูนั้นไดครอบครองหรือทําประโยชนใน ที่ดินนั้นโดยชอบดวยกฎหมายกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับหรือไม เพื่อประกอบการพิจารณาของ ศาล กรมทีด่ นิ (โดยสาํ นกั มาตรฐานการออกหนังสือสาํ คญั ) จะมหี นังสือแจงใหจังหวัดส่ังการใหสํานักงานท่ีดินที่ รับคําขอตามขอ ๑. ดําเนินการแทนกรมที่ดิน เม่ือไดรับแจงจากกรมที่ดินแลว ใหสํานักงานที่ดินที่รับคําขอรีบ สงผลการรงั วัดพรอมตาํ แหนงที่ดินที่ขอรังวัดผานจังหวัดใหกรมที่ดินทราบโดยดวน และใหรอผลการตรวจสอบ กับระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศจากกรมที่ดิน (โดยสํานักเทคโนโลยีทําแผนท่ี) หากสํานักงานท่ีดินท่ีรับคําขอไมไดรับแจงผลการตรวจสอบจากกรมที่ดินกอนครบกําหนดหน่ึงรอยแปดสิบวัน นับแตวันไดรับแจงจากศาล ใหสํานักงานที่ดินท่ีรับคําขอมีหนังสือขอขยายระยะเวลาไปยังศาล และรายงานให กรมทีด่ ินทราบ

108 ๑๐๖

๙. เมื่อสํานักงานที่ดินท่ีรับคําขอ สงผลการรังวัดพรอมตําแหนงที่ดินที่ขอรังวัดใหกรมที่ดิน (ตามขอ ๘.) แลว กรมท่ดี ิน (โดยสํานกั มาตรฐานการออกหนังสอื สาํ คญั ) จะสงเรื่องใหสํานักเทคโนโลยีทําแผนที่ กรมที่ดิน ตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศฉบับท่ีทําข้ึนกอนสุดเทาท่ี ทางราชการมีอยูภายในสามวันนับแตไดรับเรื่องจากจังหวัด เม่ือสํานักเทคโนโลยีทําแผนท่ี กรมท่ีดินได ดําเนินการตรวจสอบเสร็จเรียบรอย กรมที่ดิน (โดยสํานักเทคโนโลยีทําแผนท่ี) จะสงผลการตรวจสอบระวาง ดังกลาวใหสํานักงานท่ีดินท่ีรับคําขอผานจังหวัด ภายในหน่ึงรอยแปดสิบวันนับแตวันท่ีกรมท่ีดินไดรับแจงจาก ศาลเพอื่ ดําเนินการตอ ไป

หากกรมที่ดิน (โดยสํานักเทคโนโลยีทําแผนที่) พิจารณาแลวเห็นวาไมสามารถดําเนินการ ตรวจสอบใหแลวเสร็จภายในหนึ่งรอยแปดสิบวันได จะมีหนังสือแจงใหสํานักงานที่ดินที่รับคําขอทราบกอน ครบกําหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่งเพือ่ ขอขยายระยะเวลาตอศาลตอไป

๑๐. เมื่อไดรับแจงผลการตรวจสอบจากกรมที่ดินแลว ใหเจาพนักงานที่ดินในสํานักงานที่ดิน ท่ีรับคําขอรายงานผลการรังวัดและผลการตรวจสอบอ่ืน ๆ พรอมทั้งผลการตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถาย ทางอากาศหรือระวางรปู ถา ยทางอากาศ ตามแบบรายงานความเห็นตอศาลของสํานักงานท่ีดินซ่ึงไดสงมาพรอม กับหนงั สือกรมที่ดิน ดวนท่ีสดุ ที่ มท ๐๕๑๖.๒ (๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ใหเจาพนักงานท่ีดิน จังหวดั พิจารณา เม่อื เจา พนกั งานท่ดี ินจงั หวดั ไดรบั เรือ่ งพรอมผลการตรวจสอบขอเท็จจริงและผลการตรวจสอบ ระวางฯ จากเจาพนักงานที่ดินฯ ในสํานักงานท่ีดินที่รับคําขอแลว ใหตรวจสอบพิจารณาและรายงานผลใหศาล ทราบภายในกําหนดหนึ่งรอยแปดสิบวัน วาหลักฐาน ส.ค. ๑ ดังกลาว ผูแจงการครอบครองไดครอบครองและ ทาํ ประโยชนโ ดยชอบดว ยกฎหมายอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายทด่ี ินใชบ ังคับหรอื ไม

๑๑. หากกรมที่ดินไมมีระวางตามขอ ๘. ใชในราชการ และจะตองจัดซื้อเพื่อดําเนินการตามท่ี ศาลใหตรวจสอบ ใหสํานักเทคโนโลยีทําแผนที่ กรมที่ดิน รีบแจงเหตุขัดของดังกลาว พรอมทั้งคาใชจายใน การจดั ซื้อระวางใหสาํ นักงานทดี่ ินทรี่ บั คําขอทราบ เพอ่ื แจงศาลและขอใหศ าลแจงผูรองไปยื่นคําขอพรอมนําเงิน ไปชําระเปนคาจัดซ้ือระวางดังกลาว ณ สํานักเทคโนโลยีทําแผนท่ี กรมที่ดิน เม่ือผูรองนําเงินมาชําระใหผูรับ ชําระเงนิ ออกใบเสร็จรบั เงินใหแกผรู องเปนหลกั ฐาน และใหส าํ นักเทคโนโลยที ําแผนที่ ดําเนินการโดยเรว็ ตอ ไป

๑๒. กอนที่เจาพนักงานท่ีดินฯ ในสํานักงานท่ีดินที่รับคําขอจะสงเร่ืองทั้งหมดใหเจาพนักงาน ท่ีดินจังหวัดพิจารณาตามขอ ๙. ใหสงสําเนา ส.ค. ๑ หรือเลขที่ ส.ค. ๑ ท่ีศาลแจงมา ผานจังหวัดใหกรมที่ดิน (โดยสํานกั มาตรฐานการทะเบียนทดี่ นิ ) ตรวจสอบทะเบยี นการครอบครองทดี่ นิ ทางสวนกลางดวย

๑๓. เมือ่ ศาลมคี าํ พิพากษาหรือคําส่ังถงึ ทสี่ ุดวาผรู องไดครอบครองหรอื ทําประโยชนในท่ีดินนั้น โดยชอบดวยกฎหมายกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ และผูรองไดนําคําพิพากษาหรือคําส่ังดังกลาว มาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี ณ สํานักงานที่ดินที่รับคําขอ ใหเจาพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ รับรองการทาํ ประโยชนใ หผขู อโดยเรว็ และใหห มายเหตุในบัญชีตามขอ ๔. วาไดดําเนินการออกโฉนดท่ีดินหรือ หนังสือรับรองการทําประโยชนแลวตามคําพิพากษาหรือคําสั่งศาล................คดีหมายเลขแดงท่ี..................... ลงวนั ท.ี่ ............ซ่ึงคดถี งึ ท่ีสุดแลว

๑1๐0๗ 9

หากศาลมีคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงท่ีสุดวา ผูรองมิไดเปนผูครอบครองและทําประโยชน ในท่ีดินอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ ใหหมายเหตุในบัญชีตามขอ ๔. แลวใหเจาพนักงานท่ีดิน สง่ั ยกเลิกคาํ ขอและจําหนายบัญชีเรอ่ื งออกโฉนดที่ดินหรอื หนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนรายน้ัน

๑๔. หากผลการรังวัดและการตรวจสอบของพนักงานเจาหนาท่ีเห็นวา ท่ีดินที่ขอรังวัดออก โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนไมตรงกับ ส.ค. ๑ ท่ีนาํ เปนหลักฐานอยางชัดแจง เชน ขางเคียง ไมรับกันทุกดาน ใหพนักงานเจาหนาที่แจงใหผูขอทราบ หากผูขอทราบแลวไมประสงคจะดําเนินการทางศาล ตอไป ใหพนักงานเจาหนาที่บันทึกถอยคําใหผูขอไวเปนหลักฐานและส่ังยกเลิกเร่ือง แตหากผูขอประสงคจะไป ดําเนินการทางศาลเพ่ือพิสูจนสิทธิ ก็ใหบันทึกผูขอไว แลวใหผูขอนําหลักฐานไปดําเนินการทางศาลแลวใหรอ เร่ืองไวจ นกวา ผขู อจะนําคําพิพากษาหรอื คาํ สง่ั ถงึ ท่ีสุดของศาลมาแสดงตอพนกั งานเจา หนาที่

๑๕. กรณีทเ่ี จา ของทด่ี นิ ไปยืน่ คํารอ งตอศาลเพื่อใหศาลมีคาํ พิพากษาหรือคําส่ังถึงท่ีสุดวา ผูน้ัน เปนผูซ่ึงไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายท่ีดินใช บังคับ โดยมิไดยื่นคําขอผานสํานักงานที่ดินทองที่กอน ศาลจะมีคําส่ังใหผูรองไปยื่นคําขอออกโฉนดที่ดินหรือ หนังสือรับรองการทําประโยชนท่ีสํานักงานที่ดินทองที่ เม่ือเจาของท่ีดินมายื่นคําขอที่สํานักงานที่ดิน ให พนักงานเจาหนาท่ีดําเนินการตามขอ ๑. ถึงขอ ๖. และเมื่อดําเนินการเสร็จแลว ใหแจงใหผูขอนําผลการรังวัด ไปย่นื ตอศาล เพื่อใหศาลมคี ําส่งั ตามขอ ๗. และใหเจาหนา ทดี่ ําเนินการตามขอ ๘. ถึงขอ ๑๒. ตอไป

๑๖. กรณีมผี ูน ําหลกั ฐานแบบแจง การครอบครองทด่ี ิน (ส.ค. ๑) มาขอนาํ เดินสํารวจออกโฉนดท่ีดิน หลังวันท่ี ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ หามมิใหศูนยอํานวยการเดินสํารวจฯ ดําเนินการใหโดยเด็ดขาด เนื่องจากเปน งานโครงการซง่ึ มีกาํ หนดระยะเวลาทจ่ี ํากดั และแจงใหผขู อไปย่นื คาํ ขอออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนทสี่ าํ นักงานท่ีดินทอ งท่ีตอไป

๑๗. กรณีท่ีวัดในพระพุทธศาสนานําหลักฐาน ส.ค. ๑ ซ่ึงมีช่ือวัดนั้นเปนผูแจงการครอบครอง ที่ดิน มาเปนหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ใหถือวา ส.ค. ๑ ฉบับที่วัด นํามายื่นน้ันเปนเพียงหลักฐานวาวัดนั้นไดครอบครองทําประโยชนในที่ดินเปนที่วัดมากอนประมวลกฎหมาย ทีด่ ินใชบังคบั เทา นั้น โดยใหสํานักงานท่ีดินรับคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเปนการ เฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน โดยไมจําเปนตองใชหลักฐาน ส.ค. ๑ และไมตองใหวัด ไปยื่นคํารองตอศาลยุติธรรม ตามนัยมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ แตอยางใด เน่ืองจากแมวัดจะไมไดแจงการครอบครอง วัดก็ไดความคุมครองตาม มาตรา ๓๔ แหงพระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และเปนผูมีสิทธิในที่ดินทจี่ ะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ตามมาตรา ๕๙ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ิน

110 ๑๐๘

๑๘. ใหทุกสํานักงานทด่ี ินดําเนินการตามแนวทางปฏิบตั นิ โี้ ดยเครงครัด หากมีกรณีเปนที่สงสัย อื่น ๆ ที่มไิ ดกลาวไวใ นแนวทางปฏบิ ัติน้ี ใหส ง เรื่องใหกรมที่ดินพจิ ารณาเปนราย ๆ ไป

กรมที่ดนิ สาํ นักมาตรฐานการออกหนังสอื สําคญั วนั ท่ี ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓

๑1๐1๙ 1

ประกาศกรมท่ีดนิ เรื่อง คําแนะนาํ ประชาชนกรณนี าํ หลักฐานแบบแจงการครอบครองท่ดี ิน (ส.ค. ๑) มาย่ืนคําขอออกโฉนดท่ีดิน

หรือหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน ภายหลังวนั ท่ี ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ (ฉบับแกไขเพม่ิ เตมิ ) -------

โดยที่ปจจุบันไดม พี ระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ ใชบังคับ โดยมาตรา ๘ แหงพระราชบัญญัติดังกลาวกําหนดวา ภายหลังวันที่ ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ หากมีผูนํา หลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) มาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน พนักงานเจาหนาที่จะออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนใหไดตอเมื่อศาลยุติธรรมไดมี คําพิพากษาหรือคําสั่งถึงที่สุดวา ผูน้ันเปนผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนในที่ดินโดยชอบดวยกฎหมายอยู กอนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ กรมที่ดินจึงขอประกาศใหผูมีหลักฐานแบบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) ทย่ี งั มิไดน าํ ส.ค. ๑ ไปยืน่ คาํ ขอออกโฉนดทดี่ นิ หรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน ทราบดงั น้ี

๑. ต้ังแตวันท่ี ๙ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ เปนตนไป เจาของท่ีดินที่มีหลักฐานแบบแจงการ ครอบครองท่ีดนิ (ส.ค. ๑) หากประสงคจะขอออกโฉนดที่ดนิ หรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน ใหไปยื่นคําขอ ออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนไดท่ีสํานักงานที่ดินทองที่ที่ที่ดินต้ังอยู โดยนําหลักฐานแบบ แจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวของไดแก บัตรประจําตัวประชาชน ทะเบียนบาน หลักฐานใบมรณะบัตร (กรณีเปนทายาทของผูแจง ส.ค. ๑) สัญญาซ้ือขายท่ีดินตาม ส.ค. ๑ (ถามี) สําเนาโฉนดที่ดิน หรอื หนังสือรับรองการทาํ ประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ก.) ของที่ดินแปลงขางเคียง (ถา ม)ี ฯลฯ

๒. เมอ่ื ยืน่ คาํ ขอตอพนักงานเจาหนา ท่ี ณ สํานักงานท่ดี นิ ทอ งที่แลว พนกั งานเจาหนาท่ีจะเรียก เกบ็ คาคําขอตามระเบยี บ และใหเจาของทีด่ นิ ช้ีระวางเพือ่ ใหทราบตาํ แหนง ของท่ีดินที่จะทําการรังวัดในเบ้ืองตน เมื่อทราบตําแหนงที่ดินแลว พนักงานเจาหนาที่จะนัดทําการรังวัดตามลําดับของผูย่ืนคําขอ และเรียกเก็บเงิน คาธรรมเนียมการรังวดั และเงินมดั จํารงั วัดตามประกาศของจงั หวดั ท่ที ดี่ ินน้ันตง้ั อยู

๓. เมื่อถงึ กาํ หนดวนั ทาํ การรังวัด ใหเ จาของท่ดี ินนําพนกั งานเจาหนา ท่ีทําการรังวัดในท่ีดินของ ตนตลอดจนใหถ อ ยคาํ ตา ง ๆ และลงนามในเอกสารของทางราชการตามระเบยี บ

๔. ภายหลังจากทําการรังวัดแลว หากไมมีการคัดคานและไมมีเหตุขัดของใด ๆ พนักงาน เจาหนาท่ีจะมีหนังสือแจงใหเจาของท่ีดินนําหลักฐานการรังวัดออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนที่ไดทําการรังวัดเสร็จเรียบรอยแลว พรอมทั้งหลักฐานแบบแจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) ไปย่ืน คํารองตอศาลยุติธรรมท่ีที่ดินนั้นอยูในเขตอํานาจ เพื่อใหศาลมีคําพิพากษาหรือคําส่ังวา ผูน้ันเปนผูซึ่งได ครอบครองและทําประโยชนในที่ดิน โดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ โดย ศาลจะแจงใหกรมที่ดินทราบ และตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถายทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศ ฉบับทีท่ าํ ข้นึ กอนสุดเทาทท่ี างราชการมีอยู และทาํ ความเหน็ เสนอตอ ศาล

๕. เม่ือศาลมีคําพิพากษาหรือคําส่ังถึงที่สุดวาผูขอเปนผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนใน ท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอ นวนั ทีป่ ระมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับแลว ใหนําคําพิพากษาหรือคําสั่งถึงท่ีสุด

112 ๑๑๐

ของศาลดังกลาวมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี ณ สํานักงานท่ีดินที่ไดย่ืนคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือ รับรองการทําประโยชนไว เจาพนักงานท่ีดินจะไดพิจารณาลงนามในโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทํา ประโยชนแ ละแจกโฉนดท่ีดินหรอื หนังสอื รับรองการทาํ ประโยชนใหเจา ของทด่ี นิ ตอไป

๖. ในกระบวนการทางศาลนั้น ปกติจะเปนหนาที่ของเจาของท่ีดินท่ีจะนําสืบใหศาลเห็นวา ตนเองเปนผูครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินตรงตามหลักฐาน ส.ค. ๑ อยางตอเนื่องมากอนวันที่ประมวล กฎหมายท่ดี ินใชบ ังคับ

๗. คาใชจายในการดําเนินการทางศาล รวมถึงคาใชจายในการพิสูจนสิทธิและคาใชจายอื่นใด ทีเ่ กี่ยวของกบั การดําเนินการตามกระบวนการนี้ (ถา ม)ี เจาของท่ดี ินเปนผอู อก

๘. หากศาลมีคําสั่งถึงท่ีสุดใหยกคํารอง โดยเห็นวาผูนั้นมิไดเปนผูซึ่งไดครอบครองและทํา ประโยชนในท่ีดินโดยชอบดวยกฎหมายอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ พนักงานเจาหนาที่จะมี คําส่ังยกเลิกคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน เมื่อไดรับแจงจากเจาของท่ีดินหรือจาก ศาล คา ใชจ า ยเรยี กคนื ไมไดท กุ กรณี

๙. ในกรณีเจาของที่ดินที่มีหลักฐานแบบแจงการครอบครองท่ีดิน (ส.ค. ๑) ไปย่ืนคํารองตอ ศาลโดยมไิ ดยน่ื คาํ ขอออกโฉนดทีด่ ินหรือหนังสอื รบั รองการทําประโยชน ที่สํานักงานท่ีดินทองท่ีที่ท่ีดินนั้นต้ังอยู เม่ือศาลรับคํารองแลวจะมีคําส่ังใหผูรองไปย่ืนคําขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนที่ สาํ นักงานที่ดินท่ีทด่ี นิ น้ันต้ังอยู พนักงานเจาหนาทจี่ ะดําเนินการตามขอ ๑. ถึงขอ ๕.

๑๐. ในกรณีมีการเดินสํารวจออกโฉนดท่ีดินเขาไปในพ้ืนท่ีใด พนักงานเจาหนาท่ีจะไมเดิน สาํ รวจออกโฉนดทดี่ นิ ใหแกเจาของท่ีดินที่มีหลักฐาน ส.ค. ๑ ท่ีไมไดย่ืนคําขอภายในวันท่ี ๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๓ โดยเจาหนาที่จะแจงใหเจาของที่ดินไปยื่นคําขอตามขอ ๑. ท่ีสํานักงานที่ดินทองท่ีท่ีท่ีดินต้ังอยู เพ่ือดําเนินการ ตามขอ ๒. ถึงขอ ๘. ตอ ไป

จึงประกาศมาใหทราบโดยท่วั กัน

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓

(นายอนุวฒั น เมธวี บิ ูลวุฒิ)

อธิบดีกรมท่ดี นิ

๑๑1๑13

แบบรายงานความเห็นตอศาลในกรณีมผี ูนาํ หลักฐาน ส.ค. ๑ ไปย่ืนคํารองตอศาลตามมาตรา ๘ แหง พระราชบัญญตั แิ กไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑ (ฉบบั แกไ ขเพมิ่ เติม)

๑. ช่ือผูร องขอ นาย/นาง/นางสาว............................................................................................ ๒. ส.ค. ๑ เลขท.่ี ............หมูท.่ี ..........ตาํ บล...........อาํ เภอ.............จงั หวัด.................................. ๓. ชอ่ื ผูแจง การครอบครองท่ดี นิ .............................................................................................................................