กระเช าดอกไม ส ฟ าอวยพรสวยๆ ไม ม พ นหล ง

กระเช าดอกไม ส ฟ าอวยพรสวยๆ ไม ม พ นหล ง

Kasian Luedthahan Download

  • Publications :0
  • Followers :0

บันทึกเถ่านั้งเจ้าพ่อแก้ว

บันทึกเถ่านั้งเจ้าพ่อแก้ว

Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!

Create your own flipbook

View Text Version Likes : 0 Category : All Report

  • Follow
  • Upload
  • 0
  • Embed
  • Share

บันทึกเถ่านั้งเจ้าพ่อแก้ว

ชื่อเรื่อง.........การประดิษฐก์ ระเชา้ ................................. จานวน....................4......ชวั่ โมง

จุดประสงค์การเรียนท่วั ไป

1. นกั ศึกษาเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในงานประดิษฐก์ ระเชา้ รูปแบบตา่ งๆ ได้ 2. นกั ศกึ ษาอธิบายวธิ ีการประดิษฐก์ ระเชา้ รูปทรงตา่ งๆ ได้ 3. นกั ศึกษานากลีบต่างๆ มาประดิษฐก์ ระเชา้ ไดห้ ลายรูปแบบ 4. นกั ศึกษามีกิจนิสยั ท่ดี ีในการปฏิบตั งิ าน วัสดุและอปุ กรณ์

ใบตองตานี ดอกมะลิ ใบวา่ นแดง ใบเฟริน์นาคราช ลวดเบอร์ 26 ฟลอร่าเทปสีเขยี ว กา้ นมะพร้าว ดา้ ยสีเขียวเบอร์ 60 เขม็ มือเบอร์ 9 ลวดเบอร์ 20 ถาด ผา้ ขาวบาง กระบอกฉีด น้า สาลี

ลาดบั ช้ันในการปฏบิ ตั งิ าน

ข้นั ตอนการทา 1. ตดั หยวกกลว้ ยสูง 3 นิ้ว กวา้ ง 3 น้ิว 1 ทอ่ น 2. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 ¼ น้ิว จานวน 110 ชิ้น พบั กลีบคอมา้ แปลง โดยเยบ็ 2 ฝีเขม้ พรอ้ มกนั เยบ็ เป็ น

แผงยาวเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 3 นิ้ว สูง 6 น้ิว 3. พบั กลีบกหุ ลาบปากหยกั ๆ ละ 11 กลีบ เยบ็ เป็ นแผงยาว 6 หยกั 4. ฉีกใบตองกวา้ ง 2 นิ้ว จานวน 66 ช้ิน พบั กลีบดอกจอกตรึงไวจ้ านวน 66 กลีบ 5. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 นิ้ว จานวน 80 กลีบ เยบ็ จากนรองแจกนั ดว้ ยกลีบกุหลาบแยม้ 6. ทาช่อกก 3 ขนาด สาหรับเสียบดอกมะลิ 7. ใบวา่ นตดั แต่งใหพ้ อดีกบั ปากแจกนั 8. ถกั ตะขาบแบน 1 เสน้ ยาวประมาณ 3 ½ น้ิว

วิธีประกอบตัวแจกัน 1. กลีบคอมา้ แปลงทีเ่ ยบ็ เป็นแผงยาว นามาเยบ็ ประกอบเป็นทรงกระบอก

55

2. นาหยวกกลว้ ยใส่ลงในตวั แจกนั ทรงกระบอก ตรึงยดึ ดว้ ยตะปูหมุด ปรับปากแจกนั ให้เสมอกนั ตดิ ดว้ ยตะขาบแบนท่ฝี ีเขม็ บน

3. กลีบกหุ ลาบปากหยกั ท่เี ยบ็ เป็ นแผงยาว นาหุม้ เขา้ กบั ตวั แจกนั ช้ินใน ใหล้ าดบั ตวั แจกนั สูงข้นึ ไป ประมาณ 3 นิ้ว

4. นากลีบคอจอกท่เี ตรียมไวม้ าติดโดยรอตวั แจกนั ประมาณ 20 กลีบ 5. ตดิ ช้นั ที่ 2 และ 3 ใหส้ บั หวา่ งกนั โดยเฉพาะข้นั ท่ี 3 ใหก้ ลีบต่าลงเลก็ นอ้ ย 6. นาจานรองกลีบกุหลาบแยม้ ยดึ ติดกบั ตวั แจกนั ใหแ้ น่น 7. นาฟอครลั โฟมสาหรบั จดั ดอกไมส้ ดใส่ลงในตวั แจกนั ปักยดึ ดว้ ยไมก้ ลม 2 อนั

ข้นั ตอนการประกอบตัวแจกนั

1. กลีบคอมา้ แปลง 1 แผง 2. พลิกดา้ นหลงั ตดั ใบตอง 3. กลีบกหุ ลาบปากหยกั 1 แผงหยวกกลว้ ยทรงกระบอก ดา้ นหนา้ ส่วนทสี่ ้ันออก 1 ทอ่ น

4. นากลีบคอมา้ แปลงและกลีบ 5. ติดกลีบดอกจอกที่เตรียม 6. ติดกลีบดอกจอกแถวท่ี 2 กุหลาบปากหยกั ท่เี ยบ็ แบบแลว้ ไวโ้ ดยรอบแจกนั สบั หวา่ งกบั กลีบดอกแถวที่ 1 ตรึงตดิ กบั หยวกกลว้ ยใหแ้ น่น ทาท้งั หมด 3 ช้นั ใหแ้ ตล่ ะแถว ดว้ ยตะปูหมุดโดยรอบ แถวสบั หวา่ งกนั

56

วิธีจัดดอกไม้ 1. นาใบวา่ นมาตดั ใหเ้ ล็กบางใหญ่บาง ปักลงในแจกนั ใหใ้ บดา้ นหลงั สูงข้ึนมา ส่วนดา้ นขา้ งและ

ดา้ นหนา้ ใหเ้ ห็นเพยี งเล็กนอ้ ย 2. ช่อกกจดั ทรงใหเ้ ป็นวงกลม จากน้นั นาช่อกกขนาดเลก็ วดั ความสูงจากปากแจกนั 1 ½ เท่าของ

ความกวา้ งของปากแจกนั ปักลงตรงกลางค่อนไปดา้ นหลงั 3. ช่อกกเลก็ ดอกท่ี 2 ปักมาทางดา้ นซา้ ยมือใหต้ ่ากวา่ ดอกแรกประมาณ ¾ของดอกที่ 1 5. ช่อกกขนาดใหญ่ ปักลงตรงกลางความสูงเท่ากบั ½ ของดอกท่ี 1

วิธีเย็บกลีบคอม้าแปลง 1. เลือกใบตองทางยาวและริ้วตรง ฉีกกวา้ ง 1 ¼ นิ้ว จานวน 110 ชิ้น พบั ริมแขง็ ลงมาต้งั ฉาก 2. พบั ริมอ่อนลงมาชิดกบั ริมดา้ นแขง็ 3. พบั ทบคร่ึงท้งั 2 ขา้ งเขา้ หากนั โดยใหป้ ลายกลีบชิดและแหลม 4. ควา่ กลีบลงใหด้ า้ นสนั ตรงของใบตองอยดู่ า้ นบน พบั ริมใบตองลงมาใหช้ ิดกบั ริมใบตองอีกดา้ น

หน่ึงจากน้นั พบั ริมดา้ นขวาทบข้นึ ต้งั ฉากอกี 1 คร้ัง 5. พบั ดา้ นหลงั เช่นเดียวกบั ดา้ นหนา้ 6. นากลีบมาสวมสอดเขา้ ทางปากแหลม จบั สนั ใบตองพบั โคง้ ใหถ้ ึงมุมกลบั คลา้ ยกบั กลีบกุหลาบ

แยม้ แบ่งระยะใหพ้ อดีเยบ็ ฝีเขม็ ดา้ นบน 7. จบั สนั ใบตองใหต้ รงยาวลงมาประมาณ 5 นิ้ว เยบ็ ฝีเขม็ ดา้ นล่าง 8. เยบ็ เช่นน้ีจนไดค้ วามยาวตามตอ้ งการ

ข้นั ตอนการพบั กลบี คอม้าแปลง

1. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 ½ 2 พบั ทบคร่ึงท้งั 2 ขา้ งเขา้ หากนั 3. คว่ากลีบลง พบั ริมใบตองลงมาให้ นิ้ว พบั ริมใบตองทางอ่อน ชิดกบั ริมใบตองอีกดา้ นหน่ึง

57

4. พบั ตลบใบตองกลบั มา 5. พบั ดา้ นหลงั ชิดกบั ริม 6. พบั ตลบใบตองกลบั ไป ทางดา้ นขวามือ ใบตอง ดา้ นซา้ ย

7. นากลีบทีพ่ บั มาสวมสอด 8. จบั สนั ใบตองพบั โคง้ ให้ 9. เยบ็ ตรึงดว้ ยดา้ ย (ดา้ นหลงั ) เขา้ ทางปากแหลม มุมกลีบ

10. เยบ็ ฝีเขม็ ระยะห่างเทา่ กนั (ดา้ นหนา้ )

วิธีพับกลีบกหุ ลาบ (ปากหยัก) 1. ลาตวั แจกนั

1.1 ฉีกใบตองกวา้ ง 1 น้ิว หนั ริมดา้ นอ่อนไวท้ างซา้ ยมือ พบั ริมอ่อนทบลงมาเป็ นมุมฉาก 1.2 พบั ริมดา้ นแขง็ ลงมาต้งั ฉากใหช้ ิดกนั 1.3 พบั ทบริมท้งั สองขา้ งเขา้ กนั 1.4 ตลบสนั ทบกลบั มาทางขวามือใหเ้ ป็ นเสน้ โคง้ ทแยง โดยใหป้ ลายโคง้ ทแยงลงมาเกินจากมุมสนั ทบประมาณ 1 ชม. 1.5 ทาอีกขา้ งทีเ่ หลือเหมือนกนั 1.6 พบั กลีบตอ่ มา นามาสวมหุม้ สนั ทบและคอ่ ยๆ ส่งกลีบใหส้ ูงข้ึน ½ ซม. จนถึงกลีบท่ี 10 1.7 กลีบที่ 11 ส่งกลีบเทา่ กบั กลีบท่ี 10 พอกลีบต่อๆ มาคอ่ ยลดต่าลงจนถึงกลีบท่ี 20 จะได้ 1 หยกั ทา ท้งั หมด 5 หยกั โดยเยบ็ เป็นแผงยาว เยบ็ ฝี เขม็ บนและล่างเท่ากนั 1.8 นากลีบสุดทา้ ยมาสวมหุม้ สนั ทบของกลีบแรก เยบ็ ตรึงให้เรียบรอ้ ย

58

2. จานรองแจกันกลีบกหุ ลาบ 1. วธิ ีพบั กลีบใชว้ ิธีเดียวกบั ลาตวั แจกนั เยบ็ ฝีเขม็ บนฝีเขม็ เดียว เยบ็ ใหเ้ ป็นแผงยาว กดให้เป็นจานวน

วงรีเท่ากบั กน้ แจกนั 2. วางใบตองหงาย 3 แผน่ ควา่ 3 แผน่ วางสลบั ทางอ่อนแขง็ ตรึงดอกจนั ตรงกลางตดั เป็นวงรีให้

เท่ากบั รอยฝีเขม็ ของตวั จานรอง

1. พบั ริมใบตองต้งั ฉาก 2. ตลบสนั ทบมาทาง 3. ดา้ นซา้ ยพบั ตลบเช่น 4. เยบ็ กลีบซอ้ นกนั เรียง

ใหช้ ิดกนั แลว้ พนั ทบคร่ึง เป็นเสน้ โคง้ เดียวกนั แผงยาว

วิธีพับกลีบดอกจอก 1. ฉีกใบตองกวา้ ง 2 นิ้ว ผ่งึ ใหใ้ บตองน่ิม พบั ทบหนา้ นวลเขา้ หากนั 2. จบั สนั ทบดา้ นล่างซา้ ยเฉียงมาทางขวาเลก็ นอ้ ย 3. จบั สนั ทบดา้ นล่างขวาเฉียงไขวม้ าทางซา้ ย ซ่ึงจะไดร้ ่องปลายมนตรงกลางกลีบ 4. พบั ริมสนั ทบทางดา้ นซา้ ยทแยงไขวม้ าทางขวา จะเกิดร่องอีก 1 ร่อง 5. พบั ริมสนั ทบดา้ นขวาไขวไ้ ปดา้ นซา้ ย จะเกิดร่องอีก1 ซ่ึงใน 1 กลีบน้นั จะมีอยู่ 3 ร่อง

ข้นั ตอนการพับกลบี ดอกจอก

1. พบั ริมใบตองเขา้ หากนั 2. จบั จบี ดา้ นล่างทางซา้ ย 3. จบั จีบดา้ นล่างทางขวา ไขวม้ าทางขวา ไขวม้ าทางซา้ ย

59

4. พบั ริมซา้ ยยกแยงมาทาง 5. พบั ริมขวาทแยงมาทาง วธิ ีพบั กลีบกหุ ลาบแย้ม

1. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 นิ้ว จานวน 80 ชิ้น 2. พบั วิธีเดียวกบั กลีบกหุ ลาบ 3. นากลีบกุหลาบที่พบั แลว้ มาสวมกบั อีกกลีบ 4. กลีบใหม่ให้สวมเขา้ ทางดา้ นซา้ ยมือ ใหส้ นั ทแยงออกขา้ งนอก 5. เยบ็ แผงยาวเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 3 ½ น้ิว 6. ซอ้ นใบตอง 6 ช้นั วางสลบั ทางอ่อนแขง็ ตดั เป็นวงกลมขนาด 3 ¾น้ิว นามาสอยมุดน้าให้ ตดิ กบั ตวั จาน

6. จะไดก้ ลีบดอกจอก

วิธีถกั ตะขาบแบน 1. ฉีกใบตองกวา้ ง ½ ชม. แบ่งคร่ึงใหเ้ ป็ น 2 ช้ินๆ ละประมาณ ¼ซม. 2. จบั ใบตองดา้ นซา้ ยมือใหส้ ีเขยี วของใบตองอยดู่ า้ นบน พบั ทบตามเสน้ ใบตอง ใหส้ ่วนท่สี ้นั อยู่

ดา้ นล่าง 3. มือดา้ นขวาจบั ใบตองใหส้ ีเขียวอยดู่ า้ นบน พบั ส่วนส้นั ใหอ้ ยดู่ า้ นล่างเช่นกนั จากน้นั นาใบตอง

ทางดา้ นขวามือ สอดคลอ้ งกบั ใบตองดา้ นซา้ ยมือ ดึงให้ชิดกบั ริมของใบตอง จบั ใบตองเสน้ ยาวทางดา้ น ขวามือโคง้ ใหเ้ ป็ นห่วงสอดข้นึ ไปในเสน้ ดา้ นซา้ ยมือ ดึงใหช้ ิด จบั เสน้ ยาวทางดา้ นซา้ ยลงมาใหช้ ิดเช่นกนั

4. จากน้นั เปล่ียนมือมาจบั ทางดา้ นขวามอื และถกั ในลกั ษณะเดียวกบั ทางดา้ นซา้ ยมือ 5. ถา้ ความยาวของตวั ตะขาบยงั ยาวไม่พอกใ็ หต้ ่อใบตอง โดยฉีกใบตองใหม้ ีขนาดเท่ากบั ¼ซม. สอดตอ่ ในชิ้นใบตองที่ส้นั สุด โดยหนั ใหส้ ีของใบตองเหมือนกบั สอดปลายเกบ็ ไวด้ า้ นหลงั ของตวั ตะขาบ

60

ข้นั ตอนการถกั ตะขาบแบน

1. ฉีกใบตอง 2 เส้น 2. มอื ซา้ ยจบั ใบตอง 3. ดึงใบตองดา้ น 4. ต่อตวั ตะขาบ ให้สอด 5. สุดความยาวของตวั

เส้นละ ¼ ซม. ตาม ทบให้ดา้ นสีเขียว ดา้ นขวามือให้ชิด ใบตองทางดา้ นหลงั ตวั ตะขาบ เกบ็ ปลายโดย

ความยาวของใบตอง ของใบตองอยดู่ า้ น จบั ใบตองทางดา้ น ตะขาบใหด้ า้ นนวลใบตอง ดึงปลายใบตองสอดเขา้

บนมือขวาจบั ใบตอง ขวาเป็นห่วง สอดเขา้ ข้ึน แลว้ กถ็ ดั เช่นเดียวกนั ไปในห่วง ดงั ให้แน่น

เช่นเดียวกบั มือซา้ ย ไปดา้ นซา้ ยดึงดา้ นซา้ ย ท้งั 2 ขา้ ง

คลอ้ งใบตองดา้ นซา้ ย ใหช้ ิด จากน้นั ทาห่วง

ดา้ นซา้ ยสอดเขา้ ไปใน

ห่วงดา้ นซา้ ยสอดเขา้ ไป

ในห่วงขวาแลว้ ดึงดา้ นขวา

ให้ชิดทาเช่นน้ีจนสุดใบตอง

วิธีทาช่อกก 1. ตดั ลวดเบอร์ 26 ยาว 3 น้ิว จานวน 75 เสน้ 2. ฟลอร่าเทปตดั แบง่ คร่ึง นาไปพบั กบั ลวดเหลือปลายไว้ ½ น้ิว ดน้ โคนปล่อยลวดไว้ 1 น้ิว 3. นาลวดท่พี นั ฟลอร่าเทปแลว้ มาแบง่ เป็ น 3 ส่วน 3.1 ช่อขนาดเล็กใชล้ วด 15 เสน้ 3.2 ช่อขนากลาง ใชล้ วด 20 เสน้ 3.3 ช่อขนาดใหญ่ ใชล้ วด 25 เสน้ 4. ลวดแตล่ ะเสน้ มามดั รวมกนั 5. นากา้ นมะพรา้ ว 2 กา้ น เสน้ ลวดใหญ่ 1 เสน้ เสียบเขา้ กบั โคนกระจุกลวดแลว้ ใชด้ า้ ยมดั ลงมาให้

แน่น 6. ทากาวตรงทพี่ บั ดา้ ยพนั ดว้ ยสาลีให้เป็นกระเปาะ พนั ดว้ ยฟลอร่าเทป 3 รอบ จากน้นั พนั ต่อลงมา

ใหย้ าวพอประมาณ 7. จดั คลี่กา้ นลวดออกใหเ้ ป็นทรงกลมเสียบดว้ ยดอกมะละ

61

8. ส่วนท่ีเหลืออีก 2 ช่อ ใหท้ าเช่นเดียวกนั ข้นั ตอนการประกอบช่อกก

1. อุปกรณ์ประกอบดว้ ย 2. นาลวดท่ีพนั ดว้ ย 3. สาลีหุม้ ทากระเปาะ 4. พนั ฟลอร่าเทป ลวดเบอร์ 26 กา้ น ฟลอร่าเทป มดั ดว้ ย มะพร้าว สาลี ฟลอร่าเทป ดา้ ย พนั ใหแ้ น่น ตรงกลาง ใหแ้ น่น คีมตดั ลวด

เอกสารอ้างอิง พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ด์ิ งานใบตองวจิ ิตร ตองนวลมวลบุปผา สานกั พมิ พแ์ ม่บา้ น

ลาดบั ท่ี รายช่ือ

5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 50 การเลือกใชว้ สั ดุเหมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน แบบประเมนิ ผลภาคปฏิบตั ิ 30 คะแนน การเลือกวสั ดุอุปกรณ์ การปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอน ชื่องาน ความร่วมมือในการปฏิบตั ิงาน ผลงาน ความสนใจและต้งั ใจ 20 คะแนน การตรงต่อเวลา 62 การเก็บความสะอาดสถานท่ี

การปฏิบตั ิงานทนั ตามกาหนด การนาเสนอผลงานกลุ่ม

ความสาเร็จของผลงาน รวมคะแนน

63

แบบสังเกตความสนใจในการปฏิบัตงิ านกลุ่ม

คาชี้แจง 1. ใหห้ วั หนา้ กลุ่มเป็นผสู้ งั เกตความสนใจในการปฏิบตั งิ านกลุ่ม 2. ใหท้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องการปฏบิ ตั ิงาน ใหต้ รงกบั ความเป็ นจริง

ชื่อผถู้ ูกสงั เกต กลุ่มที่

ระดบั ความสนใจในการปฏิบตั ิงาน

ลาดบั ท่ี พฤติกรรมที่สงั เกต นอ้ ย ปานกลาง มาก

1 ความร่วมมือในการกาหนดหนา้ ทขี่ องสมาชิกในกลุ่ม (1) (2) (3) 2 การแสดงความคิดเห็นในการวางแผนการทางาน 3 การรบั ฟังความคดิ เห็นจากสมาชิกในกลุ่ม 4 ความต้งั ใจทางานที่ไดร้ บั มอบหมายจากกลุม่ 5 ความร่วมมือในการปรบั ปรุงผลงานใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม 6 ความร่วมมือในการรักษาความสะอาด

รวม รวมคะแนนทไี่ ด้

ลงชื่อ หวั หนา้ กลุ่ม () //

64

ใบงานท่ี 3 หน่วยที่ 2 รหัสวชิ า 20406-2002 สอนคร้ังท่ี 4 ชื่อวิชา งานแกะสลกั ชื่อหน่วย การสร้างสรรคร์ ูปแบบ เวลารวม 15 ชว่ั โมง ช่ือเร่ือง การประดิษฐแ์ จกนั จานวน 5 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนกั เรียนนกั ศกึ ษาเน้ือหาน้ีแลว้ นกั เรียนสามารถ 1. เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในงานประดิษฐ์แจกนั รูปแบบต่างๆ ได้ 2. อธิบายวธิ ีการประดิษฐแ์ จกนั รูปทรงตา่ งๆ ได้ 3. นากลีบแบบตา่ งๆ มาประดิษฐแ์ จกนั ไดห้ ลายรูปแบบ

สมรรถนะรายหน่วย - ประดิษฐแ์ ละตกแต่งงานใบตองในโอกาสตา่ งๆ

วัสดุ ใบตองตานี หยวกกลว้ ย เสน้ หวาย ใบกระบือ จมูกกลว้ ยไมซ้ ีซ่า กลว้ ยไมส้ ีขาว ดอก บานไม่รูโ้ รยสีม่วง ใบเฟิร์นมะขาม ลวดเบอร์ 24 ฟลอร่าเทป กา้ นมะพรา้ ว ตะปูหมุด ดว้ ยเบอร์ 60 สีเขียว แดง เขม็ เบอร์ 9 กรรไกร คีมตดั ลวด

ลาดับข้นั การปฏบิ ตั ิงาน

ข้นั ตอนการทา 1. ตดั หยวกกลว้ ยสูง 2 ½ น้ิว กวา้ ง 5 น้ิว ใชม้ ีดเฉือนดา้ นกวา้ งท้งั 2 ดา้ นเพอ่ื ใหต้ ้งั ได้ 2. เกลาลบเหล่ียมดา้ นขา้ งท้งั 2 ดา้ น บวกหยวกกลว้ ยดน้ ขา้ งใหเ้ ป็นร่อง 3. นาเสน้ วายมดั ดว้ ยลวดมดั กบั ตวั หยวกกลว้ ยท้งั ดา้ น 4. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 ¼ นิ้ว จานวน 115 ช้ิน พบั กลีบคอมา้ แปลงโดยเยบ็ 2 ฝีเขม็ พรอ้ มกนั เป็ นแผงยาว เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 4½ นิ้วสูง 5½น้ิว 5. ซอ้ นใบตอง 6 ช้นั วางสลบั ทางใบตองอ่อนแขง็ ตดั แบบกลีบบวั จานวน 24 กลีบดามดว้ ย ลวดเบอร์ 24 โดยใหล้ วดอยตู่ รงกลางระหวา่ งใบตองช้นั ท่ี 3 และช้นั ท่ี 4 6. ใบกระบือตดั เสน้ กลางใบออก ผ่งึ ไวส้ กั ครู่ นามาเยบ็ กลีบกุหลาบตดิ ลงในแบบ

65

ใบงานที่ 3 หน่วยการเรียนท่ี ......2............. รหัส ...3406-2112......วิชา ..เทคนิคงานใบตอง........ จานวน .................2 ....หน่วยกติ ช่ือหน่วย.....การสรา้ งสรรคร์ ูปแบบ.................... จานวนชั่วโมงรวม....12.... ช่ัวโมง ช่ือเรื่อง.........การประดิษฐ์แจกนั ................................. จานวน....................4......ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั ศึกษาเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์แจกนั รูปแบบตา่ งๆ ได้ 2. นกั ศึกษาอธิบายวธิ ีการประดิษฐ์แจกนั ทรงตา่ งๆ ได้ 3. นกั ศกึ ษานากลีบตา่ งๆ มาประดิษฐแ์ จกนั ไดห้ ลายรูปแบบ 4. นกั ศกึ ษามีกิจนิสยั ทดี่ ีในการปฏบิ ตั ิงาน

วัสดุและอุปกรณ์ ใบตองตานี หยวกกลว้ ย เสน้ ทวาย ใบกระบอื จมูกกลว้ ยไมซ้ ีซ่า กลว้ ยไมส้ ีขาว ดอกบานไม่รู้โรยสี

ม่วง ใบเฟิ ร์นมะขาม ลวดเบอร์ 24 ฟลอร่าเทป กา้ นมะพรา้ ว ตะปูหมุด ดา้ ยสีเขยี ว แดง เบอร์ 60 เขม็ เบอร์ 9 กรรไกร คมี ตดั ลวด

ลาดบั ข้นั ในการปฏบิ ตั งิ าน

ข้นั ตอนการทา 1. ตดั หยวกกลว้ ยสูง 2 ½นิ้ว กวา้ ง 5 นิ้ว ใชม้ ีดเฉือนดา้ นกวา้ งท้งั 2 ดา้ นเพอ่ื ใหต้ ้งั ได้ 2. เกลาลบเหล่ียมดา้ นขา้ งท้งั 2 ดา้ น บวกหยกวกกลว้ ยดา้ นขา้ งใหเ้ ป็นร่อง 3. นาเสน้ หวายมดั ดว้ ยลวดมดั กบั ตวั หยวกกลว้ ยท้งั ดา้ นล่าง และดา้ นบน (หูกระเชา้ ดดั ใหไ้ ดร้ ูปทรง) 4. ฉีกใบตองกวา้ ง 1¼น้ิว จานวน 115 ช้ิน พบั กลีบคอมา้ แปลงโดยเยบ็ 2 ฝีเขม็ พร้อมกนั เป็นแผง

ยาว เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 4 ½นิ้ว สูง 5 ½น้ิว 5. ชอ้ นใบตอง 6 ช้นั วางสลบั ทางใบตองอ่อนแขง็ ตดั แบบกลีบบวั จานวน 24 กลีบ ตามดว้ ยลวด

เบอร์ 24 โดยใหล้ วดอยตู่ รงกลางระหวา่ งใบตองช้นั ท่ี 3 และช้นั ท่ี 4 6. ใบกระบือตดั เสน้ กลางใบออก ผ่งึ ไวส้ กั ครู่ นามาเยบ็ กลีบกุหลาบตดิ ลงในแบบใบตองทเ่ี ตรียมไว้ 7. แบบกลีบบวั ทีเ่ ยบ็ กลีบกุหลาบเสร็จแลว้ นามาเยบ็ แบบดว้ ยกลีบกลว้ ยไมส้ ีขาว จานวน 12 กลีบ

ส่วนอีก 12 กลีบ ไม่ตอ้ งเยบ็ 8. เยบ็ แบบดอกกลมดว้ ยจมูกกลว้ ยไมส้ ีม่วง 6 ดอก

66

9. เยบ็ แบบกลีบหวั ใจดว้ ยกลว้ ยไมส้ ีขาวจานวน 6 กลีบ สาหรับทาดอกไม้ 2 ดอก 10. ฟลอรลั โฟมสาหรับจดั ดอกไมส้ ด ลบเหล่ียมใหม้ นนาไปแช่น้า วิธีประกอบตัวกระเช้า 1. กลีบคอมา้ แปลงที่เยบ็ เป็นแผงยาว นามาตดั ส่วนโคนกลีบออกใหห้ ่างจากฝีเขม็ ล่างประมาณ 1 ซม. 2. นามาเยบ็ ตอ่ กนั โดยเยบ็ ฝีเขม็ บนก่อน จากน้นั จงึ เยบ็ ฝีเขม็ ดา้ นล่าง 3. ตวั กลีบทีเ่ ยบ็ เสร็จแลว้ นามาเขา้ กบั ตวั หุ่นตรึงดว้ ยตะปหู มุด 4. นากลีบบวั ท่ีเยบ็ กลว้ ยไมข้ าวมาตดิ โดยรอบ 12 กลีบ นากลีบทเี่ หลืออีก 12 กลีบติดสบั หวา่ งกบั ช้นั ที่ 1 5.ซอ้ นใบตอง 2 ช้นั ตดั เท่ากบั ตวั กน้ กระเชา้ ตรึงดว้ ยตะปูหมุดโดยรอบ 6. ฟลอรัลโฟมสาหรบั จดั ดอกไมส้ ด นามาใส่ในตวั กระเชา้ ปักยดึ ดว้ ยไมก้ ลม 2 อนั ข้นั ตอนการประกอบตัวกระเช้า

1. เยบ็ กลีบคอมา้ แปลง 2. ตดั ใบตองส่วนปลาย 3. สอดกลีบคอมา้ แปลง 4. เยบ็ ตรึงดา้ นบนและ ยาวเป็นแผง เยบ็ ตรึง หวั ทา้ ย ท่ไี ม่ใชอ้ อก ตอ่ เป็นทรงกระเชา้ ดา้ นล่างกระเชา้

5. วางหยวกกลว้ ย 6. นากลีบบวั ทีเ่ ยบ็ แบบไว้ ทใ่ี ส่หูหวายแลว้ ลงในใบ มาตดิ โดยรอบ 2 ช้นั

67

ใบตองทเี่ ยบ็ เป็ นกระเชา้ วิธีจัดดอกไม้

1. ดอกกลมทเี่ ยบ็ แบบแลว้ นามาเขา้ กบั กา้ นมะพร้าวและลวดโดยใหเ้ หลือปลายลวดไวส้ าหรับเสียบ ตวั ดอก

2. ดอกกลีบรูปหวั ใจ นามาเขา้ ดอก 1 ดอกใช้ 3 กลีบ 3. ปักก่ิงบานบรุ ีท่มี ุมซา้ ยใหส้ ูงประมาณ 6½ น้ิว ปักทางขวามือ 1 ก่ิง ความสูง¾ ของกิ่งทางดา้ น ซา้ ยมือ 4. ใบเฟิร์นมะขามปักแซมใหต้ ่ากวา่ ก่ิงบานบุรีโดยรอบ 5. ปักดอกกลม 5 ดอก ทางดา้ นซา้ ยมือใหด้ อกขนาดเลก็ อยสู่ ่วนบนดอกท่ี 2 และ3 ปักยน่ื ออกมา ดา้ นหนา้ ปักดอกใหญ่ 2 ดอกอยคู่ ู่กนั ส่วนดอกกลีบหวั ใจปักอยตู่ รงจดุ ศูนยก์ ลางเอนไปดา้ นขวามอื จากน้นั ปักดอกกลมอีก 1 ดอกทางขวามือลกั ษณะการจดั เป็นรูปตวั C 6. นานกมามดั ตดิ กบั หูกระเชา้ บนดอกที่ 1 ส่วนอีก 1 ตวั ตดิ กบั ดอกหวั ใจ วธิ ีพบั กลบี คอม้าแปลง 1. เลือกใบตองทางยาวและร้ิวตรง ฉีกกวา้ ง 1¼ นิ้ว จานวน 110 ช้ิน พบั ริมแขง็ ลงมาต้งั ฉาก 2. พบั ริมอ่อนลงมาชิดกบั ริมดา้ นแขง็ 3. พบั ทบคร่ึงท้งั 2 ขา้ งเขา้ หากนั โดยใหป้ ลายกลีบขีดและแหลม 4. ควา่ กลีบลงใหด้ า้ นสนั ตรงของใบตองอยดู่ า้ นบน พบั ริมใบตองลงมาใหช้ ิดกบั ริมใบตองอีกดา้ น หน่ึงจากน้นั ทบริมดา้ นขวาทบข้ึนต้งั ฉากอีก 1 คร้ัง 5. พบั ดา้ นหลงั เช่นเดียวกบั ดา้ นหนา้ 6. นากลีบมาสวมสอดเขา้ ทางปากแหลม จบั สนั ใบตองพบั โคง้ ใหถ้ ึงมุมกลบั คลา้ ยกบั กลีบกหุ ลาบ แยม้ แบง่ ระยะให้พอดีเยบ็ ฝีเขม็ ดา้ นบน 7. จบั สนั ใบตองใหต้ รงยาวลงมาประมาณ 5 นิ้ว เยบ็ ฝีเขม็ ดา้ นล่าง 8. เยบ็ เช่นน้ีจนไดค้ วามยาวตามตอ้ งการ * จะต่างกนั ท่กี น้ กระเชา้ จะสอบเล็กนอ้ ย

ข้นั ตอนการพับกลบี คอม้าแปลง

68

1. ฉีกใบตองกวา้ ง 1½ 2. พบั ทบคร่ึงท้งั 2 ขา้ งเขา้ 3. ควา่ กลีบลง พบั ริมใบตอง น้ิว พบั ริมใบตองทาง หากนั ใบตองลงมาใหช้ ิดกบั ริมใบ อ่อนชิดกบั ริมใบตอง ตองอีกดา้ นหน่ึง ดา้ นแขง็

4. พบั ตลบใบตองกลบั มา 5. พบั ดา้ นหลงั ชิดกบั ริม 6. พบั ตลบใบตองกลบั ไป

ดา้ นขวามือ ใบตอง ดา้ นซา้ ย

7. นากลีบทพี่ บั มาสวมสอด 8.จบั สนั ใบตองพบั โคง้ ใหถ้ ึง 9. เยบ็ ตรึงดว้ ยดา้ ย (ดา้ นหลงั )

เขา้ ทางปากแหลม มุมกลีบ

69

10. เยบ็ ฝีเขม็ ระยะห่างเทา่ กนั วิธีทากลีบบวั (ดา้ นหนา้ ) 1. วางใบตองสลบั ทางใบตอง 6 ช้นั ตดั แบบกลีบบวั ขนาดกวา้ ง 1 ¼นิ้ว ยาว 2 ¼น้ิว ตามดว้ ยลวดเบอร์ 24 โดยวางลวดอยรู่ ะหวา่ งใบตองช้นั ท่ี 3 และ 4 เยบ็ ตรึงดว้ ยดา้ ยโดยรอบ 2. ใบกระบอื ตดั เสน้ กลางใบออก ผ่งึ ไวป้ ระมาณ 10-15 นาที เพอ่ื ใหใ้ บ นุ่ม 3. นาใบกระบอื พบั จากซา้ ยทแยงลงมาทางดา้ นขวา 1 ใน 3 ส่วน 4. พบั ดา้ นขวามาทางซา้ ยให้ชิดพอดีกบั สนั ทบ นาแบบใบตองสอดเขา้ ใน กลีบใบกระบอื เยบ็ ตรึงใหต้ ดิ กนั

5. พบั กลีบกหุ ลาบจากใบกระบอื โดยพบั ริมท้งั 2 ขา้ งลงมาต้งั ฉาก 6. พบั ทบสองขา้ งเขา้ หากนั 7. ตลบสนั ทบกลบั มาทางขวาใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ ดา้ นหลงั ทาเช่นเดียวกบั ดา้ นหนา้ 8. นากลีบมาหุม้ สนั ทบในแบบใบตอง ใหป้ ลายกลีบลู่ตามลาตวั ขลิบสนั ทบดา้ นล่างใหห้ ุม้ ไดพ้ อดี เยบ็ ทีละดา้ นๆ ละ 9 กลีบ 9. กลีบกลว้ ยไมส้ ีขาวกลีบใหญ่ พบั ทบซา้ ยขวาเยบ็ ติดในแบบใหก้ ลีบอยตู่ รงกลาง 10. เยบ็ กลีบกลว้ ยไมช้ ้นั ที่ 2 อีก 2 กลีบใหส้ บั หวา่ งกบั กลีบกลว้ ยไมก้ ลีบแรก เยบ็ จนเตม็ ในแบบ กลีบซ่ึงในแตล่ ะช้นั จะเพม่ิ กลว้ ยไมท้ ีละ 1 กลีบ จะลดลงเม่ือถึงโคนกลีบ 11. ดา้ นหลงั กลีบตดั ใบตอง 2 ช้นั ขนาดเทา่ แบบปิ ดรอยฝีเขม็ โดยไม่ตอ้ งเยบ็ กลีบกลว้ ยไม้ ทาเช่นน้ี 12 กลีบ 12 ส่วนกลีบทเี่ หลืออีก 12 กลีบ ใชใ้ บตองปิ ดท้งั หนา้ และหลงั

1.แบบกลีบบวั ท่ีเยบ็ 2. พบั ใบกระบือเสียบ 3. พบั กลีบดา้ นขวา 4. นาแบบใบตองสอด มาทางซา้ ยใหช้ ิดพอดี เขา้ ในกลีบใบกระบอื เป็นอนั ดบั ยอด พบั กลีบทางซ้าย สนั ทบ

ทแยงมาทางขวา 1 ใบ

70

3 ส่วน

5. เยบ็ ตรึงใหต้ ิดกนั 6. พบั กลีบกหุ ลาบใบ 7. พบั ทบกลีบท้งั 2 ขา้ ง 8. ตลบสนั ทบกลีบให้

กระบือ โดยพบั ริมท้งั 2 เขา้ หากนั ใหเ้ ป็นเสน้ โคง้

ขา้ งเขา้ หากนั

9. นากลีบท่พี บั เยบ็ หุม้ 10. ตดั ปลายกลีบกลว้ ย 11 พบั กลีบกลว้ ยไม้ 12. เยบ็ กลีบกลว้ ยไม้ สนั ทบแบบใบตอง ให้ ใหเ้ สมอกนั พบั กลีบทบ ทบขวา ขวา ตรึงติดกบั แบบ เติมแบบใบตองท้งั 2 ซา้ ย ใบตองช้นั ท่ี 1 1 กลีบ ขา้ ง

13. เยบ็ กลีบกลว้ ยไมข้ าว ช้นั ท่ี 14. เยบ็ กลีบกลว้ ยไมข้ าว ช้นั ที่

2 สบั หวา่ งกบั กลีบช้นั ท่ี 1 3 สบั หวา่ งกบั กลีบช้นั ที่ 2 จน

กลีบครบเตม็ แบบ

วธิ ีเย็บดอกไม้กลมกล้วยไม้ซีซ่า

1. ชอ้ นใบตอง 6 ช้นั สลบั ทางอ่อนแขง็ หงาย 3 ช้นั คว่า 3 ช้นั ตดั เป็น

เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางขนาด 1 นิ้ว จานวน 2 ดอก

71

เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางขนาด 1½นิ้ว จานวน 2 ดอก

เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางขนาด 2 นิ้ว จานวน 2 ดอก

2. นาแบบใบตองแต่ละขนาดมาเยบ็ ดว้ ยจมูกกลว้ ยไมซ้ ีซ่า เริ่มเยบ็ จากริมนอกสุด เยบ็ รอบวงกลม

3. เยบ็ ช้นั ที่ 2 โดยวางกลีบใหต้ ่าลงเล็กนอ้ ย แต่ละกลีบวางสบั หวา่ งกบั ช้นั ที่ 1

4. เยบ็ ช้นั ท่ี 3 เช่นเดียวกบั ช้นั ที่ 2

5. ตรึงดอกบานไม่รู้โรยสีม่วงเป็นเกสร โดยเยบ็ ตรึงข้นึ ลงทซ่ี อกกลีบดา้ นขา้ ง 2-3 จุด รอบๆ ดอกเยบ็

ดว้ ยกลีบกลว้ ยไมซ้ ีซ่าจานวน 6 ดอก

6. ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 2 น้ิว จานวน 2 ชิ้น นามาเยบ็ ดว้ ยจมูกกลว้ ยไมแ้ วนดา้ เช่นเดียวกบั จมูก

กลว้ ยไมซ้ ีซ่า

7. นากา้ นมะพรา้ วและลวดเบอร์ 24 มาพนั ดว้ ยฟลอร่าเทปโดยใหเ้ หลือปลายลวดดา้ นบนไว้

ประมาณ 1 ชม. เพอื่ เสียบดอกบานไม่รู้โรยใหต้ ิดกบั ดอก

ข้นั ตอนการเยบ็ แบบดอกไม้

1. ตดั แบบใบตองตามขนาด 2. พบั ทบใบตองซอ้ นกนั ประมาณ 6 ช้นั ตรึงตรองกลางใบตองใหแ้ น่น เยบ็ จมูกกลว้ ยไมซ้ ีซ่าเป็นกลีบที่ 1

3. เยบ็ เรียงรอบแบบใบตองกลม 4. เยบ็ กลีบจมูกกลว้ ยไมซ้ ีซ่า

เป็ นช้นั ที่ 1 ช้นั ที่ 2 สบั หวา่ งกบั กลีบช้นั ที่ 1

เยบ็ โดยรอบจนเตม็

วธิ ีเยบ็ แบบกลบี หัวใจ

1. ตดั แบบใบตอง 6 กลีบตามดว้ ยลวดโดยรอบ

2. นาแบบแตล่ ะแบบมาเยบ็ ดว้ ยกลีบกลว้ ยไมข้ าว โดยเริ่มเยบ็ จากมุมหยกั จนสุดโคนกลีบ

72

3. นาแบบกลีบรูปหวั ใจ 3 กลีบ มดั เขา้ กบั กา้ นธรรมรกั ษา พนั ดว้ ยฟลอร่าเทป

วธิ ีทาก้านลวด 1. ตดั กา้ นมะพรา้ วยาว 12-15 นิ้ว 2 อนั 2. ตดั ลวดเบอร์ 24 ยาวเทา่ กบั กา้ นไม้ 3. นากา้ นไมเ้ สน้ ลวดประกบคูก่ นั โดยใหเ้ สน้ ลวดดา้ นบนยาวกวา่ กา้ นไม้ 1.5 ซม. พนั ดว้ ยฟลอร่า

เทปจนสุดปลายไม้ (เวลาพนั ฟลอร่าเทปใหด้ ึงฟลอร่าเทปรดั และพนั ไปพรอ้ มกนั )

ข้นั ตอนการเกลาหยวกกล้วย

1. ตดั หยวกกลว้ ยเป็ นท่อน 2. เกลาลบเหลี่ยม 5. ใส่หูกระเชา้ ดว้ ยหวาย

3. เกลาเป็นรูปร่างที่ตอ้ งการ 4. บากเฉือนหยวกกลว้ ย วางต้งั ได้ ท้งั 2 ขา้ ง ใส่หูกระเชา้ ดว้ ยหวาย พนั ดว้ ยลวด ตรึงมดั รอบใหแ้ น่น

เอกสารอ้างองิ

ลาดบั ท่ี รายชื่อ พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ด์ิ งานใบตองวจิ ิตร ตองนวลมวลบปุ ผา สานกั พมิ พแ์ ม่บา้ น

5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 50 การเลือกใชว้ สั ดุเหมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน แบบประเมนิ ผลภาคปฏิบตั ิ 30 คะแนน การเลือกวสั ดุอุปกรณ์ การปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอน ชื่องาน ความร่วมมือในการปฏิบตั ิงาน ผลงาน ความสนใจและต้งั ใจ 20 คะแนน การตรงต่อเวลา 73 การเก็บความสะอาดสถานท่ี

การปฏิบตั ิงานทนั ตามกาหนด การนาเสนอผลงานกลุ่ม

ความสาเร็จของผลงาน รวมคะแนน

74

แบบสังเกตความสนใจในการปฏิบัตงิ านกลุ่ม

คาชี้แจง 1. ใหห้ วั หนา้ กลุ่มเป็นผสู้ งั เกตความสนใจในการปฏิบตั งิ านกลุ่ม 2. ใหท้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องการปฏบิ ตั ิงาน ใหต้ รงกบั ความเป็ นจริง

ชื่อผถู้ ูกสงั เกต กลุ่มที่

ระดบั ความสนใจในการปฏิบตั ิงาน

ลาดบั ท่ี พฤติกรรมที่สงั เกต นอ้ ย ปานกลาง มาก

1 ความร่วมมือในการกาหนดหนา้ ทขี่ องสมาชิกในกลุ่ม (1) (2) (3) 2 การแสดงความคิดเห็นในการวางแผนการทางาน 3 การรบั ฟังความคดิ เห็นจากสมาชิกในกลุ่ม 4 ความต้งั ใจทางานที่ไดร้ บั มอบหมายจากกลุม่ 5 ความร่วมมือในการปรบั ปรุงผลงานใหถ้ ูกตอ้ งสวยงาม 6 ความร่วมมือในการรักษาความสะอาด

รวม รวมคะแนนทไี่ ด้

ลงชื่อ หวั หนา้ กลุ่ม () //

75

แผนการจัดการเรียนรู้

หน่วยท่ี.................3............................จานวน...............3.5.............ช่ัวโมง สัปดาห์ที่ ..............1................... ชื่อวชิ า........งานใบตอง.................................................................................................................................... ชื่อหน่วย....เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง................................................................................................... ชื่อเร่ือง.......การประดิษฐก์ ระทงลอย , พานขนั หมาก, พานขนั หม้นั ............................................................... 1. สาระสาคญั

งานประดิษฐด์ อกไมใ้ บตอง เป็นเอกลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมของไทยที่มีมาชา้ นาน สาหรับใชใ้ นงาน พธิ ีต่างๆ ของสามญั ชน จนถึงพระราชพธิ ีสาคญั ของพระมหากษตั ริย์ ในสมยั ก่อนงานใบตองประดิษฐข์ ้ึน โดยใช้ส่วนประกอบของตน้ กล้วย เช่นใบกล้วย และกาบกล้วยมาประดิษฐ์เป็ นบายศรี กระทงดอกไม้ กระทงลอย แจกนั พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ซ่ึงประดิษฐม์ าจากใบตอง โดยใชศ้ ลิ ปะเขา้ มาช่วย ในการพบั กลีบตา่ งๆ และเยบ็ ข้นึ มาเป็ นรูปร่างต่างๆ 2. สมรรถนะประจาหน่วย

ประดิษฐแ์ ละตกแต่งงานใบตองในโอกาสต่างๆ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้

1.อธิบายรูปแบบงานแต่ละชนิด ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. อธิบายการทารูปแบบมาผสมผสานกนั ได้ 3. อธิบายข้นั ตอนการประดิษฐช์ ้ินงานทสี่ รา้ งสรรคไ์ ด้ 4. อธิบายวสั ดุ อุปกรณ์ใชใ้ นงาน แตล่ ะงานไดถ้ ูกตอ้ ง และใชว้ สั ดุทดแทนได้ 5. บอกวธิ ีการรักษาชิ้นงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 6. อธิบายการนาช้ินงานแตล่ ะชนิดไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 7. รู้จกั พ่งึ ตนเองในการทางานและแกป้ ัญหาได้ 8. มีสติ รู้ตวั รูค้ ิด รูท้ า รู้ปฏบิ ตั ิ ตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ฯ 4. สาระการเรียนรู้ 1. การวางแผนการประดิษฐก์ ระทงลอย 2. การวางแผนการประดิษฐพ์ านขนั หมาก 3. การวางแผนการประดิษฐพ์ านขนั หม้นั 4. การเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ 5. การตกแตง่ กระทงลอย

76

6. การตกแต่งพานขนั หมาก พานขนั หม้นั หน่วยการเรียนที่ ......3............. แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ....3...... จานวน .................2 ....หน่วยกิต จานวนช่ัวโมงรวม....12... ช่ัวโมง รหัส ...3406-2112......วชิ า ..เทคนิคงานใบตอง........ ชื่อหน่วย.....เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง...........

ชื่อเรื่อง.........การประดิษฐก์ ระทงลอย,พานขนั หมาก, พานขนั หม้นั ... จานวน............................ช่ัวโมง

สาระสาคญั งานประดิษฐด์ อกไมใ้ บตอง เป็นเอกลกั ษณ์ทางวฒั นธรรมของไทยท่ีมีมาชา้ นาน สาหรับใชใ้ นงาน

พธิ ีต่างๆ ของสามญั ชน จนถึงพระราชพธิ ีสาคญั ของพระมหากษตั ริย์ ในสมยั ก่อนงานใบตองประดิษฐข์ ้ึน โดยใช้ส่วนประกอบของตน้ กล้วย เช่น ใบกล้วย และกาบกล้วยมาประดิษฐ์ เป็ นบายศรี กระทงดอกไม้ กระทงลอย แจกนั พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ซ่ึงประดิษฐม์ าจากใบตอง โดยใชศ้ ิลปะเขา้ มาช่วย ในการพบั กลีบตา่ งๆ และเยบ็ ข้ึนมาเป็ นรูปร่างตา่ งๆ จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายรูปแบบงานแตล่ ะชนิด ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. อธิบายการทารูปแบบมาผสมผสานกนั ได้ 3. อธิบายข้นั ตอนการประดิษฐช์ ้ินงานทส่ี รา้ งสรรคไ์ ด้ 4. อธิบายวสั ดุอุปกรณ์ใชใ้ นงาน แต่ละงานไดถ้ ูกตอ้ ง และใชว้ สั ดุทดแทนได้ 5. บอกวธิ ีการรกั ษาชิ้นงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 6. อธิบายการนาชิ้นงานแตล่ ะชนิดไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 7. มีมนุษยส์ มั พนั ธ์ รูจ้ กั สามคั คกี นั ช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั 8. รู้จกั พ่งึ ตนเองในการทางาน และแกป้ ัญหาได้

เนือ้ หาสาระ 1. การวางแผนการประดิษฐก์ ระทงลอย 2. การวางแผนการประดิษฐพ์ านขนั หมาก 3. การวางแผนการประดิษฐพ์ านขนั หม้นั 4. การเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ 5. การตกแตง่ กระทงลอย 6. การตกแต่งพานขนั หมาก พานขนั หม้นั 7. ประโยชน์การนาไปใช้

77

กิจกรรมการเรียนรู้การสอน ช้ันเตรียม

1. ครูซักถามนกั ศึกษาเกี่ยวกบั งานประเพณีของไทยท่ีมีงานใบตองเขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง นกั ศึกษาร่วม สนทนา

2. ครูและนกั ศึกษาร่วมสนทนากนั ถึงเรื่องการเลือกวสั ดุในการประดิษฐ์กระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั โดยการนาความรู้จากการเรียนวชิ าต่างๆ มาประยกุ ตใ์ ช้ ข้นั สอน

3. ครูให้นักศึกษาระดมสมอง ออกแบบกระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั และให้เลือก รูปแบบท่ถี ูกใจทส่ี ุด นามาอธิบายใหเ้ พอ่ื นฟัง

4. นกั ศกึ ษาดูแบบของงานท้งั 3 ช้ิน และช่วยกนั ช้ีแนะ และร่วมกนั วางแผน หนา้ ทรี่ ับผดิ ชอบในการ ประดิษฐง์ านต่างๆ

5. ครูแจกใบความรู้ นกั ศกึ ษาส่งตวั แทนรบั เอกสาร และช่วยกนั ศกึ ษาใบงาน 6. นักศึกษาร่วมกนั ปฏิบตั ิงาน ตามรูปแบบที่ช่วยกนั เลือก ครูใหค้ าช้ีแนะ ลงมือปฏิบตั ิตามงานที่ แบ่งตามความรบั ผดิ ชอบ ข้นั สรุป 7. นกั ศึกษานาเสนอผลงานที่ปฏิบตั ิ 8. ครูสรุปผลการปฏบิ ตั งิ านจากการสงั เกต การนาเสนอ และช้ีแนะเพม่ิ เตมิ 9. ครูและนกั ศกึ ษาช่วยกนั ประเมินผลงานสาเร็จ ช่วยกนั ช้ีแนะใหเ้ ห็นขอ้ ดี และสิ่งที่บกพร่องและ ช้ีแนะส่ิงท่คี วรแกไ้ ขเพม่ิ เติม 10. ตรวจรายงาน ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือสิ่งพมิ พ์ ใบความรู้ การประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ใบงาน การประดิษฐภ์ าชนะ พานขนั หมาก พานขนั หม้นั 2. ส่ือโสตทศั น์ ตวั อยา่ งของจริงทีป่ ระดิษฐข์ ้ึนจากผา้ การวัดผลประเมินผล 1. วธิ ีวดั

- สงั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน

78

- ตารางแบบฝึกหดั 2. วธิ ีวดั - แบบบนั ทึกการสงั เกตพฤตกิ รรม

- แบบตรวจงาน 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 การประเมินคุณภาพ

- การสงั เกตพฤติกรรม 20 คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น 10 คะแนนข้นึ ไป - การตรวจแบบฝึกหดั และแบบทดสอบ 30 คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น 15 คะแนนข้นึ ไป 3.2 ผลการประเมิน

ช่วงคะแนน ระดบั คะแนน 45-50 9 35-44 8 25-34 7 15-24 6 0-14 5

บันทึกผลหลงั การจัดการเรียน นกั ศึกษาร่วมกนั ประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ไดง้ านทม่ี ีความสวยงาม

ออกแบบโดยใชเ้ ทคนิคของงานใบตอง รูปแบบต่างๆ ไดห้ ลายรูปแบบ

79

ใบประเมนิ ผลก่อนเรียน – หลงั เรียน

ก่อนเรียน 1. ประเมินผลตามจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม โดยใชแ้ บบประเมินภาคปฏบิ ตั ิ 2. สงั เกตการคน้ ควา้ รูปแบบการประดิษฐก์ ระทงลอย การประดิษฐพ์ านขนั หมาก การประดิษฐพ์ าน ขนั หม้นั 3. สงั เกตการปฏบิ ตั งิ าน ความสนใจใฝ่ เรียน กระตอื รือร้น 4. การเตรียมความพรอ้ มทจี่ ะเรียน เตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์

ขณะเรียน 1. สงั เกตการณ์ร่วมตอบคาถาม 2. สงั เกตความสนใจในการเลือกรูปแบบของชิ้นงาน 3. สงั เกตการปฏิบตั ิชิ้นงานในการลงมือประดิษฐก์ ระทงลอย การประดิษฐพ์ านขนั หมาก การ ประดิษฐพ์ านขนั หม้นั โดยการปฏิบตั ิงานอยา่ งต้งั ใจ มีระเบียบ ประณีต 4. สงั เกตการณ์ใชว้ สั ดุอยา่ งประหยดั ใชอ้ ุปกรณ์ถูกตอ้ งกบั ช้ินงาน 5. การร่วมกนั เกบ็ ทาความสะอาดบริเวณท่ปี ฏบิ ตั งิ าน การเกบ็ วสั ดุอุปกรณ์ การตรงตอ่ เวลาในการ ปฏบิ ตั ิงาน

หลงั เรียน 1. สงั เกตการร่วมมือกนั ขณะปฏิบตั ิงาน 2. การเขียนรายงานแต่ละบคุ คล 3. ตรวจผลงานสาเร็จ โดยใหผ้ เู้ รียนมีส่วนร่วม

80

ใบความรู้ที่ 3 หน่วยที่ 3 รหัสวิชา 20406-2002 ภาคเรียนที่ 1/2559 ช่ือวิชา งานใบตอง ชื่อหน่วย เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง เวลารวม 7 ชว่ั โมง ช่ือเร่ือง การประดิษฐก์ ระทงลอย, พานขนั หมาก, พานขนั หม้นั จานวน 7 ชวั่ โมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์ทัว่ ไป 1. มีความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั งานประดิษฐจ์ ากใบตอง

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธิบายหรือบอกหลกั ของการประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั 2. สามารถเลือกวสั ดุอุปกรณ์ท่จี ะนามาประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ได้ 3. บอกวธิ ีการนาไปใชร้ ะหวา่ งพานขนั หมากและพานขนั หม้นั ไดถ้ ูกตอ้ ง 4 สามารถออแบบและสร้างสรรคง์ านไดม้ ากมายหลายรูปแบบ 5. มีความรับผดิ ชอบ มีความพรอ้ มในการเรียน มีความต้งั ใจในการปฏบิ ตั ิงาน มีความสามคั คใี นหมู่ คณะ ปฏบิ ตั ิงานเสร็จตามเวลา

สมรรถนะรายหน่วย -ประดิษฐแ์ ละตกแต่งงานใบตองในโอกาสตา่ งๆ

2. เนือ้ หาสาระ กระทงลอย ตวั กระทงใชใ้ บตองพบั เป็ นกลีบแบบต่างๆ นามาเยบ็ ประกอบกนั โดยใชผ้ กั ตบชวามดั

และตดั เป็ นตวั หุ่นกระทง เพอื่ ใหท้ รงตวั และลอยน้าไดม้ ีดอกไมแ้ ลใบไมอ้ ่ืนๆมาประดบั ตกแตง่ ใหส้ วยงามใน ตัวกระทง 1 ใบ อาจจะมี ช้ันเดียว 2 ช้ัน หรือ 3 ช้ัน ก็แล้วแต่ความเหมาะสม ในตัวกระทงช้ันบน ประกอบดว้ ย การปักหรือการเรียงแบบดอกไม้ ธูปเทียน ในการปักธูปเทียนน้ัน อาจจะปักเทียนตรงกลาง ปัก ธูปโดยรอบเทียน 3 ดอก 5 ดอก 7 ดอก หรือ 9 ดอก โดยให้ธูปอย่ตู ่ากว่าเทียน การลอยกระทงถือเป็ น ประเพณีประจาชาตไิ ทย ซ่ึงเกิดข้ึนคร้งั แรกในสมยั กรุงสุโขทยั เป็ นราชธานี ประมาณ 700 ปี มาแลว้ ซ่ึงจดั กนั ในคืนวนั เพญ็ เดือน 12 ของทุกปี

การจดั พานที่ใช้ในงานแต่งงาน การแตง่ งานตามแบบประเพณีไทยน้นั มีความเป็นมาเน่ืองจากชายหญงิ ท่ีมีอายุ 17 ปี บริบูรณ์แลว้ ต่าง

กม็ ีความรักใคร่ชอบพอกนั จึงจะมีการหม้นั หมายกนั ไวก้ ่อนท่ีจะแต่งงาน ซ่ึงมีเหตุผลวา่ เป็ นการประกาศให้ ทราบ โดยทวั่ ไปวา่ ชายและหญิงคูน่ ้ีต่างก็เป็นคูห่ มายซ่ึงกนั และกนั ภายหนา้ ก็จะแตง่ งานอยกู่ ินกนั เป็ นสามี

81

ภรรยาอยา่ งถูกตอ้ ง ดงั น้นั เม่ือชายหญิงเกิดรักใคร่ชอบพอกนั เป็ นเวลาอนั สมควรแลว้ ผูใ้ หญ่ฝ่ ายชายก็จะส่ง เถา้ แก่ไปเจรจาสู่ขอต่อพอ่ แม่ หรือผูป้ กครองของฝ่ ายหญิงดว้ ยวาจาก่อน ถา้ ไม่มีการขดั ขอ้ งใดๆ ก็จะไปหา ฤกษ์ เพอ่ื ทาพธิ ีในข้นั ตอ่ ไป พานเชิญขนั หมากจะจดั แบบใด ยอ่ มแลว้ แตผ่ จู้ ดั จะออกแบบ แตค่ วรใหเ้ หมาะสม กบั พานทเ่ี ตรียมไว้ ส่วนดอกไมแ้ ละใชจ้ ดั น้นั ควรเป็ นดอกไม้ ใบไมท้ ี่มีชื่อและความหมายท่ีดี เป็ นสิริมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอกเฟ่ื องฟ้ า ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ใบแกว้ ใบ มะยม คนเชิญขนั หมากในสมยั ก่อนนิยมจดั หมากพลูใส่ประกอบอยู่ในพานดว้ ย จะใช้เป็ นจานวนความ เหมาะสมกบั แบบและขนาดของพานที่จะใชจ้ ดั เป็ นสาคญั แต่ปัจจุบนั น้ีคนไทยไม่นิยมกินหมากเหมือน สมยั ก่อน บางคร้งั พานเชิญขนั หมากจึงไม่จดั หมากพลูใส่ลงไปดว้ ย ไม่ถือวา่ เป็ นการผดิ แตอ่ ยา่ งใด

เม่ือเสร็จพธิ ีทางศาสนาแลว้ แขกที่มาในงานร่วมรับประทานอาหารเป็ นที่เรียบร้อย จะจดั น้าพระ พทุ ธมนตห์ รือน้าสงั ขเ์ ป็นรายการต่อมา หรืออาจจะไวจ้ ดั ในตอนเยน็ ก่อนงานเล้ียงก็ได้ ซ่ึงยอ่ มแลว้ แต่เจา้ ภาพ ในพิธีรดน้าสงั ขน์ ้ันจะตอ้ งใชพ้ านรับน้าสังขจ์ านวน 1 คู่ 2 พาน ท่ีมีขนาดเท่ากนั และแบบก็ตอ้ งเหมือนกนั ดว้ ย ขนาดพานทจี่ ะใชน้ ้นั ตอ้ งใหเ้ หมาะสมกบั แขกทจี่ ะมารดน้า ถา้ แขกจานวนมากกต็ อ้ งรบั น้ามาก จะตอ้ งใช้ พานใหญ่เพื่อเก็บน้าได้ แบบในการจดั จะใชแ้ บบใดก็ได้ย่อมข้ึนอยู่กบั ผูจ้ ดั จะออกแบบหรือเจา้ ภาพจะ ออกแบบ แตม่ ีขอ้ ควรคานึงถึงอยา่ งยงิ่ คือ พานรับน้าสังขไ์ ม่ควรจดั แบบทรงสูง เพราะจะทาให้และถา้ เปี ยก น้ามากเป็นเวลานานๆ อาจจะพงั ทลายลงมาไดง้ า่ ย เน่ืองจากหุ่นที่ยดึ ดอกไมจ้ ะใชข้ ้ีเลื่อยเพราะวา่ ดูดซึมน้าได้ ดีกว่าวสั ดุอื่นๆ แต่ถา้ ไม่ใชข้ ้ีเล่ือยก็สามารถใชก้ า้ นผกั ตบแทนได้ ดอกไม้ ใบไมท้ ่ีใชจ้ ดั พานรับน้าสังขน์ ้ัน ควรจะมีชื่อและความหมายที่ดี ที่เป็ นมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ดอก เฟื่องฟ้ า ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท ฯลฯ

เม่ือแตง่ งานกนั แลว้ ต่อมากจ็ ะตอ้ งมีการกราบไหวญ้ าตผิ ใู้ หญ่ทเี่ คารพนบั ถือของท้งั สองฝ่ ายปัจจุบนั น้ีเนื่องจากเวลาไม่อานวยเท่าที่ควร การไหวญ้ าติผูใ้ หญ่จึงจดั ทาในวนั แต่งงาน โดยการหาช่วงเวลาอัน เหมาะสมท่ีญาตผิ ใู้ หญอ่ ยกู่ นั พรอ้ มเพรียง และในการไหวญ้ าติผใู้ หญ่ของท้งั สองฝ่ ายน้ีจะตอ้ งใชพ้ าน ดอกไม้ ธูปเทียนแพ เรียกวา่ “พานไหวผ้ ใู้ หญ่” ซ่ึงกเ็ ป็ นพานท่จี ดั ใหม้ ีดอกไม้ ธูปเทียนแพ จดั อยา่ งสวยงามอยใู่ นพาน เดียวกนั นนั่ เอง

การแตง่ งานตามประเพณีไทยน้นั สามารถแบ่งไดเ้ ป็ น 2 ข้นั ตอนดว้ ยกนั คือ ข้นั ตอนการทาพิธีหม้นั ก่อน และข้นั ตอนต่อมาเป็ นการทาพธิ ีแต่ง ซ่ึงในปัจจุบนั น้ีท้งั สองข้นั ตอนเป็ นเวลาต่อเนื่องในวนั เดียวกนั เลย กไ็ ด้ ยอ่ มแลว้ แตท่ ้งั สองฝ่ ายจะตกลงกนั ดงั น้ันในงานแต่งงานดงั กล่าวน้ีจะเห็นไดว้ า่ จะตอ้ งใชพ้ านดอกไม้ ต่างๆ ตามโอกาสและหนา้ ท่ีใชส้ อยจานวนหลายพานดว้ ยกนั เช่น พานเชิญขนั หมาก (พานขนั หมาก) ขนั หม้นั (พานของหม้นั ) ขนั สินสอด (พานสินสอด) พานรบั น้าสงั ข์ พานไหวผ้ ใู้ หญ่

พานเชิญขันหมาก หมายถึง พานดอกไมข้ นาดกะทดั รัดที่ฝ่ ายหญิงจดั เตรียมไวเ้ พือ่ สาหรับเชิญ ขนั หมากที่ฝ่ ายชายยกมาเพ่ือจะทาพิธีท่ีบ้านฝ่ ายหญิง การจัดพานน้ีจะต้องใช้ดอกไม้ ใบไม้ที่มีช่ือและ ความหมายท่ีเป็ นสิริมงคล นอกจากน้ียงั มีหมาก พลู จดั ประกอบอยใู่ นพานน้ีดว้ ย วธิ ีการใชพ้ านประเภทน้ี

82

ฝ่ ายหญิงจะตอ้ งเตรียมจดั หาเด็กผูห้ ญิงท่ีมีรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู แต่งตวั ใหเ้ รียบร้อยสวยงาม เป็ นผถู้ ือพาน เชิญขนั หมากออกมาตอ้ นรับ พรอ้ มกบั กล่าวคาเชิญขนั หมากใหเ้ ขา้ ประตูบา้ นได้ เม่ือฝ่ ายชายไดร้ บั คาเชิญแลว้ ก็จะให้เถา้ แก่เดินมาหยบิ หมากพลูท่ีอยใู่ นพานเชิญขนั หมากน้นั เก็บเอาไว้ จากน้นั ก็จะให้รางวลั เป็ นซองสี ชมพู (มีน้าเงิน) แก่ผถู้ ือพานเชิญขนั หมากน้นั ดว้ ย แลว้ จงึ เคลื่อนขบวนขนั หมากเขา้ มาในบา้ นฝ่ ายหญิงเพ่อื จะ ทาพธิ ีตามข้นั ตอนตอ่ ไป

พานขันหมาก หมายถึง พานท่ีจดั ตกแต่งเคร่ืองขนั หมากต่างๆ ลงไปให้สวยงามถูกตอ้ งตาม ประเพณีไทย เพ่อื ใชส้ าหรับการแต่งงานแบบไทย โดยฝ่ ายชายจะตอ้ งจดั เตรียมยกไปยงั บา้ นฝ่ ายหญิงตาม ฤกษท์ ี่หาไว้ การจดั พานขนั หมากควรจะตอ้ งใชพ้ านขนาดใหญ่ตามความเหมาะสมเพื่อจดั หมาก พลู ของ มงคลสี่อย่าง ได้แก่ ข้าวตอก ข้าวเปลือก ถั่วเขียว และงาดา นอกจากน้ียงั ใช้ดอกไม้ใบไม้ท่ีมีช่ือและ ความหมายที่ดีที่เป็ นสิริมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท ฯลฯ วธิ ีการใชพ้ านขนั หมาก ก่อนจะใชพ้ านขนั หมากเพอ่ื เขา้ พิธีในขวนขนั หมาก น้นั ควรจะใชผ้ า้ บางๆ หรือผา้ ลูกไมโ้ ปร่งๆ ห่อหุ้ม หรือจะทาท่ีครอบมีลกั ษณะเป็ นรูปกรวยก็ได้ แล้วแต่ ความชอบ ถา้ ใชใ้ นข้นั ตอนการหม้นั เรียววา่ ขันหมากหม้ัน และถา้ ใชใ้ นข้นั ตอนการแต่ง เรียกว่า ขันหมาก แต่ง

พานของหม้ัน หมายถึง พานดอกไม้ขนาดเล็กหรือปานกลางท่ีจัดไวใ้ ช้สาหรับวางของหม้ัน ซ่ึง อาจจะเป็ นแหวน สร้อย กาไล ตา่ งหู หรืออ่ืนๆ ยอ่ มแลว้ แต่จะตกลงกนั ไว้ ทางฝ่ ายชายจะตอ้ งเป็ นผูจ้ ดั เตรียม นามาทาพธิ ีที่บา้ นฝ่ายหญงิ ดอกไมใ้ บไมท้ ่ีใชจ้ ดั น้นั ควรจะตอ้ งมีชื่อและมีความหมายที่ดีที่เป็ นสิริมงคลดว้ ย เช่นดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท ฯลฯ วธิ ีการใชพ้ านของหม้นั ก่อนจะใชค้ วรนาของมงคลสี่อยา่ ง ไดแ้ ก่ ขา้ วตอก ขา้ วเปลือก ถว่ั เขียว และงาดา ใส่ ลงในพานน้ันดว้ ย แต่ถา้ พิธีหม้นั เป็ นวนั เดียวกบั วนั แต่งงานซ่ึงมีพานขนั หมากอยแู่ ลว้ ก็ไม่ตอ้ งจดั ใส่ลงใน พานของหม้นั อีกก็ได้ เพราะวา่ ในพานขนั หมากก็มีของมงคลส่ีอยา่ งอยแู่ ลว้ จากน้นั ใชผ้ า้ ลูกไมโ้ ปร่งๆหรือผา้ อยา่ งอื่นท่ีสวยๆ ห่อหุ้มหรือคลุมพานอีกคร้ังหน่ึง หรืออาจจะไม่ใช่คลุมเลยก็ได้ แลว้ แต่ความชอบของผใู้ ช้ เป็ นสาคญั

พานสินสอด หมายถึง พานดอกไมข้ นาดกลางที่จดั ไวส้ าหรับใส่เงินสินสอดใชใ้ นประเพณีการแต่งงาน แบบไทย ฝ่ ายชายเป็ นผจู้ ดั เตรียมเงินสินสอดซ่ึงเป็ นทรัพยส์ ินที่ฝ่ ายชายให้แก่บิดามารดาหรือผูป้ กครองฝ่ าย หญิง จะเป็นจานวนเงินเท่าใดน้นั ยอ่ มแลว้ แต่ทต่ี กลงกนั ไว้ ดอกไม้ ใบไมท้ ี่ใชจ้ ดั พานสินสอดน้ีควรมีช่ือและ ความหมายท่ีดีเป็นสิริมงคล เหมือนกบั พานของหม้นั วธิ ีการใชพ้ านสินสอด ฝ่ ายชายเป็ นผจู้ ดั คนถือพานน้ีไป พรอ้ มกบั พานของหม้นั

พานรับนา้ สังข์ หมายถึง พานดอกไมท้ ่จี ดั ไวเ้ พอื่ ใชส้ าหรบั รองรับน้าพระพทุ ธมนต์ หรือน้าสังขใ์ นพธิ ีรด น้าสังขใ์ นวนั แต่งงาน ซ่ึงจะเป็ นเวลาตอนเชา้ หรือเยน็ ก็ได้ แลว้ แต่เจา้ ภาพ การจดั พานรับน้าสงั ขจ์ ะใชพ้ าน ขนาดใดน้นั ยอ่ ยข้ึนอยกู่ บั จานวนแขกที่จะมารดน้าสงั ขว์ า่ มีจานวนมากนอ้ ยเพยี งใด ดอกไม้ ใบไมท้ ใ่ี ชจ้ ดั พาน น้ีควรจะมีชื่อและความหมายที่ดีเป็ นสิริมงคล เช่น ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ

83

ใบเงนิ ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท ฯลฯ วธิ ีการใชพ้ านรับน้าสงั ข์ ใชต้ ้งั วางไวต้ รงหนา้ คู่บ่าว-สาว คน

ละ 1 พาน ตอนเขา้ พธิ ีรดน้าสงั ข์ พานไหว้ผู้ใหญ่ หมายถึง พานดอกไมธ้ ูปเทยี นแพทีจ่ ดั ไวเ้ พอื่ ใชส้ าหรับไหวญ้ าตผิ ใู้ หญ่ที่เคารพนับ

ถือของฝ่ ายเจา้ บ่าวและเจา้ สาวหลงั จากแต่งงานกนั แลว้ แต่ปัจจุบนั น้ีเน่ืองจากเวลาว่างไม่อานวยเท่าที่ควร ฉะน้ันส่วนใหญ่จึงนิยมจดั การไหวญ้ าติผูใ้ หญ่ของท้งั สองฝ่ ายให้เสร็จในวนั แต่งงานน้ันเลย การจดั พาน ประเภทน้ีควรใชแ้ บบเรียบง่าย ประกอบดว้ ยกระทงดอกไมท้ ่ีจดั ดอกไมใ้ ส่ในกระทงให้เรียบร้อย วางอยบู่ น ธูปเทยี นแพทจ่ี ดั ดอกไมใ้ หส้ วยงามตามความเหมาะสม วธิ ีการใชพ้ านไหวผ้ ูใ้ หญ่ ให้ใชจ้ านวน 1 พาน โดย หญงิ ชายคู่แต่งงานน้นั ช่วยกนั ถือและคลานเขา้ ไปกราบญาตผิ ใู้ หญข่ องท้งั สองฝ่ ายจนครบทุกท่าน (ตอ้ งเปิ ด กรวยท่ีครอบกระทงดอกไมด้ ว้ ย)

ข้นั ตอนต่าง ในการจดั พานดอกไม้สด 1. ข้นั เตรียม หมายถึง การเตรียมทาบางสิ่งบางอย่างท่ีจาเป็ นไวล้ ่วงหน้า เพ่ือใชใ้ นการจดั พาน ต่อไปดงั น้ี

1.1 การออกแบบ การจดั พานแต่ละคร้งั น้นั ควรจะตอ้ งมีการออกแบบไวล้ ่วงหนา้ ก่อนเสมอ 1.2 การเตรียมหุ่น การจดั พานจะตอ้ งมีการเตรียมหุ่นไวล้ ่วงหนา้ ก่อนปักทกุ คร้ัง หุ่น

สามารถทาไดจ้ ากวสั ดุหลายๆ อยา่ ง ไดแ้ ก่ ดินเหนียว ทราย ข้เี ลื่อย กา้ นผกั ตบชวา ตน้ กลว้ ย ฯลฯ การทาหุ่นทีใ่ ชใ้ นการจดั พานมีอยหู่ ลายวธิ ีดว้ ยกนั เช่น การป้ัน การเกลา และการก่อ การป้ัน เช่น หุ่นจากดินเหนียว การเกลา เช่น หุ่นจากกา้ นผกั ตบชวา ตน้ กลว้ ย หวั เผอื ก หวั มนั เทศ มะละกออ่อน การก่อ เช่น หุ่นจากข้ีเลื่อย ทราย เป็ นตน้ 1.3 การเตรียมดอกไมแ้ ละใบไม้ การจดั พานแต่ละแบบน้นั จะตอ้ งมีการเตรียมดอกไมห้ รือ ใบไมส้ าหรับจดั พานไวล้ ่วงหนา้ ซ่ึงมีอยหู่ ลายวธิ ีดว้ ยกนั ดงั ต่อไปน้ี 1.3.1 การคดั เลือกขนาดของดอกไม้ เช่น ดอกรัก คดั ขนาดดอกไวเ้ ป็ นพวกๆ ตามลาดบั เล็ก กลาง ใหญ่ 1.3.2 การตดั แต่งขนาดของดอกไม้ เช่น การตดั ดอกบานไม่รูโ้ รย ใหม้ ีขนาดดอกเทา่ ๆ กนั 1.3.3 การตดั ใบไมเ้ พอื่ ใชพ้ บั กลีบในการจดั พานบางแบบ เช่น ใบแกว้ ใบกระบือ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ฯลฯ 1.3.4 การเสียบไมก้ ลดั หรือไมไ้ ผ่ เพอื่ ต่อเป็ นกา้ นดอกสาหรบั ปัก เช่น การเสียบไมก้ ลดั ตรง ก่ึงกลางดน้ ใตด้ อกบานไม่รูโ้ รย 1.3.5 การประดิษฐด์ อกไม้ เช่น ดอกขา่ ประดิษฐจ์ ากกลีบกุหลาบ ดอกดาวเรือง ขนาดเล็ก ๆ

84

ประดิษฐจ์ ากกลีบดอกดาวเรือง 1.3.6 การเย็บแบบรู ปต่างๆ เช่น รู ปใบไม้ รูปกลีบดอกไม้และอื่นๆ สาหรับเป็ น ส่วนประกอบของการจดั พานบางแบบ 1.3.7 การประดิษฐส์ ่ิงอ่ืนๆ ที่เป็ นส่วนประกอบของการจดั พานบางแบบ เช่น ร้อยมาลัย รอ้ ยอุบะ ร้อยเฟื่อง ฯลฯ 1.3.8 การยอ้ มสีดอกไม้บางอยา่ ง เช่น การยอ้ มสีดอกบานไม่รู้โรย กาบพลบั พลึง กลีบ กลว้ ยไม้ ฯลฯ 2. ข้นั ทา หมายถึง ข้นั ตอนในการปักหรือจดั และแต่ง จนกระทง่ั สาเร็จเป็ นรูปทรงตามแบบท่ีออกไว้ ซ่ึงมีอยหู่ ลายวธิ ีดงั ต่อไปน้ี 2.1 การปัก หมายถึง การยดึ ดอกไมห้ รือใบไมใ้ หต้ ิดกบั หุ่นที่จะทาพาน โดยการปักดว้ ยไมก้ ลดั ไม้ ไผ่ เข็มหมุด หรือลวดตวั ยู ซ่ึงมีวิธีการปักได้หลายแบบดว้ ยกนั จะเลือกใชว้ ิธีการใดน้ันยอ่ มแลว้ แต่ความ เหมาะสมของการจดั พานแต่ละแบบ เช่น การปักจากดา้ นบนลงมาขา้ งล่าง การปักจากดา้ นล่างข้ึนขา้ งบน หรือการปักจากตรงก่ึงกลางที่เป็ นลายก่อน 2.2 การจดั หมายถึง การวางดอกไมห้ รือใบไมพ้ ร้อมกบั การจดั แต่งให้เป็ นรูปทรงตามไปดว้ ย เช่น การจดั พานโดยวธิ ีการใชข้ ้ีเล่ือยกลบทบั กา้ นดอกไมว้ นเป็ นช้นั ๆ จะไดร้ ูปทรงตามตอ้ งการ 2.3 การปักและจดั หมายถึง การจดั พานอีกวธิ ีหน่ึงโดยใชก้ ารปักและจดั ไปดว้ ยพรอ้ มๆ กนั เช่น การ จดั พานโดยใชแ้ ทง่ ดินเหนียวเป็นแกนหรือหุ่น 3. ท่ยี ดึ ดอกไมเ้ ม่ือถอนออกจากหุ่น เช่น ไมก้ ลดั ไม่ไผ่ เขม็ หมุด ลวดตวั ยู ควรลา้ งให้สะอาด วางไว้ ให้สะเด็ดน้าสักครู่ ใช้ผา้ ซับให้แห้งอีกคร้ังหน่ึง แล้วผ่ึงแดดให้แห้ง จึงเก็บใส่กล่องหรือภาชนะอื่นที่ เหมาะสม เพอ่ื เกบ็ ไวใ้ ชใ้ นคร้งั ตอ่ ไป 4. ดอกไม้ ใบไมห้ รือสิ่งอื่นๆ ที่ใชป้ ระกอบในการจดั พานน้ัน เม่ือแยกออกมาแลว้ ท้ิงในที่ท้ิงขยะ ใหถ้ ูกตอ้ ง เพอื่ จะไดย้ อ่ ยสลายตามข้นั ตอนตอ่ ไป ประโยชน์ของพานดอกไม้สด พานดอกไมส้ ดมีอยมู่ ากมายหลายประเภท สามารถจะใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลายงาน และหลายโอกาส ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ใชบ้ ูชาพระ เช่น ต้งั ประดบั โตะ๊ หมู่บชู า ห้ิงพระ หนา้ หระประธานในโบสถ์ 2. ใชเ้ ป็นเครื่องพทุ ธบูชาเพอื่ สกั การะในงานวนั สาคญั ต่างๆ ทางพุทธศาสนา เช่น วนั วสิ าขบูชา วนั อาสาฬบชู า ฯลฯ 3. ใชถ้ วายพระอุปัชฌายแ์ ละพระคูส่ วดในงานอุปสมบท

85

4. ใชถ้ วายพระภกิ ษุสงฆใ์ นงานทาบญุ โอกาสพเิ ศษแทนช่อดอกไมโ้ ดยทวั่ ๆไป 5. ใชถ้ วายพระพรในวนั เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั หรือวนั เฉลิมพระ ชนมพรรษาสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ 6. ใชต้ ้งั หนา้ พระบรมฉายาลกั ษณ์ หรือพระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ 7. ใชถ้ วายเป็นเคร่ืองราชสกั การะพระบรมราชานุสรณ์ในวนั สาคญั ต่างๆ ของพระมหากษตั ริย์ เช่น วนั จกั รี วนั ปิ ยมหาราช วนั พระเจา้ ตากสินมหาราช 8. ใชไ้ หวค้ รู อาจารย์ ในวนั ไหวค้ รู และวนั ครู 9. ใชร้ องรบั น้าพระพทุ ธมนตห์ รือน้าสงั ขใ์ นงานแต่งงานแบบประเพณีไทย 10. ใชร้ องรบั น้าในพธิ ีรดน้าขอพรผใู้ หญ่ หรือผอู้ าวโุ สในโอกาสตา่ งๆ 11. ใชต้ ้งั ประดบั ตกแตง่ โตะ๊ รบั แขกแบบไทยๆ แก่แขกทีม่ าเยอื น 12. ใช้ต้งั ประดับตกแต่งโต๊ะ อาหารในงานเล้ียงที่จดั อยา่ งเป็ นพิธีการระดับชาติท่ีเน้นวฒั นธรรม ไทย 13. ใชต้ ้งั ประดบั ตกแต่งตามมุมหอ้ งรับแขกอยา่ งเป็นพธิ ีการ 14. ใชต้ ้งั ประดบั ทโี่ ตะ๊ ประชุม หรือสมั มนา หรืออภปิ ราย ทจ่ี ดั อยา่ งเป็ นพธิ ีการ เนน้ ศิลปวฒั นธรรม แบบธรรมไทยๆ 15. ใชต้ ้งั ประดบั ตกแต่งสถานทีต่ ่างๆ 16. ใชร้ องรับหรือส่วนประกอบกบั ของใชบ้ างอยา่ งใหด้ ูสวยงาม และสะดุดตา เช่น พานใส่แป้ ง กระแจะ พานใส่ที่กดป่ ุมไฟฟ้ าสาหรบั เปิ ดป้ ายหรือพธิ ีตา่ งๆ 17. ใชใ้ นพธิ ีการแต่งงานตามแบบประเพณีไทย 18. ใชส้ าหรบั นาไปกราบบดิ ามารดา หรือญาติผใู้ หญ่ หรือครูบาอาจารยใ์ นวนั สาคญั ต่างๆ 19. ใชส้ าหรับเป็นส่วนประกอบในท่าราของไทย เช่น ราเบกิ โรง ราอวยพร ฯลฯ 20. ใชต้ ้งั ประกอบในพธิ ีบวงสรวงเทพยดาและส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิตา่ งๆ 21. ใชต้ ้งั ประดบั บนยอดศรีตน้ บางแบบ 22. ใชต้ ้งั ประดบั หนา้ ศพพระภิกษแุ ทนการจดั ดอกไมแ้ บบอ่ืนๆ ทว่ั ไป 23. ใชน้ าไปกราบคารวะศพพระภกิ ษชุ ้นั ผใู้ หญ่แทนพวงหรีด

86

ใบความรู้ท่ี 3 หน่วยการเรียนที่ ......3.............

รหัส ...3406-2112......วชิ า ..เทคนิคงานใบตอง........ จานวน .................2 ....หน่วยกิต

ช่ือหน่วย.....เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง........... จานวนช่ัวโมงรวม....12.. ช่ัวโมง

ชื่อเรื่อง.........การประดิษฐก์ ระทงลอย, พานขนั หมาก,พานขนั หม้นั ... จานวน..................12......ชั่วโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั ของการประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั 2. สามารถเลือกวสั ดุอุปกรณ์ทจี่ ะนามาประดิษฐก์ ระทงลอย พานขนั หมาก พานขนั หม้นั ได้ 3. บอกวธิ ีการนาไปใชร้ ะหวา่ งพานขนั หมาก และพานขนั หม้นั ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. สามารถออกแบบและสร้างสรรคง์ านไดม้ ากมายหลายรูปแบบ 5. มีความรบั ผดิ ขอบ มีความพร้อมในการเรียน มีความต้งั ในในการปฏิบตั งิ าน มีความสามคั คีในหมู่

คณะ ปฏบิ ตั ิงานเสร็จตามเวลา

เนือ้ หาสาระ กระทงลอย ตวั กระทงใชใ้ บตองพบั เป็นกลีบแบบตา่ งๆ นามาเยบ็ ประกอบกนั โดยใชผ้ กั ตบชวามดั

และตดั เป็นเป็นตวั หุ่นกระทง เพอ่ื ใหท้ รงตวั และลอยน้าไดด้ ี มีดอกไมห้ รือใบไมอ้ ่ืนๆ มาประดบั ตกแต่งให้ สวยงาม ในตวั กระทงหน่ึงใบ อาจจะมีช้นั เดียว 2 ช้นั หรือ 3 ช้นั ก็แลว้ แต่ความเหมาะสม ในตวั กระทงช้นั บน ประกอบดว้ ยการปักหรือการเรียงแบบดอกไม้ ธูปเทียน ในการปักธูปเทียนน้ันอาจจะปักเทียนตรงกลาง ปักธูปโดยรอบเทียน 3 ดอก 5 ดอก 7 ดอก หรือ 9 ดอก โดยให้ธูปอยตู่ ่ากวา่ เทียน การลอยกระทงถือเป็ น ประเพณีประจาชาตไิ ทย ซ่ึงเกิดข้ึนคร้งั แรกในสมยั กรุงสุโขทยั เป็ นราชธานี เม่ือประมาณ 700 ปี มาแลว้ ซ่ึง จดั กนั ในคนื วนั เพญ็ เดือน 12 ของทกุ ปี

การจดั พานท่ีใช้ในงานแต่งงาน การแต่งงานตามแบบประเพณีไทยน้ันมีความเป็ นมาเน่ืองจากชายหญิงท่ีมีอายุ 17 ปี บริบูรณ์ แลว้ ต่างก็มีความรักใคร่ชอบพอกนั จึงจะมีการหม้นั หมายกนั ไวก้ ่อนท่จี ะแตง่ งาน ซ่ึงมีเหตุผลวา่ เป็ นการประกาศ ให้ทราบโดยทวั่ ไปวา่ ชายและหญิงคู่น้ีต่างก็เป็ นคู่หมายซ่ึงกนั และกนั ภายหนา้ ก็จะแต่งงานอยกู่ ินกนั เป็ น สามีภรรยาอยา่ งถูกตอ้ ง ดงั น้นั เม่ือชายหญงิ เกิดรักใคร่ชอบพอกนั เป็ นเวลาอนั สมควรแลว้ ผใู้ หญฝ่ ่ายชายก็จะ ส่งเถา้ แก่ไปเจรจาสู่ขอตอ่ พอ่ แม่ หรือผปู้ กครองของฝ่ ายหญิงดว้ ยวาจาก่อน ถา้ ไม่มีการขดั ขอ้ งใดๆ ก็จะไป หาฤกษก์ าหนดวนั หม้นั อยา่ งเป็ นพธิ ีการต่อไป ซ่ึงฝ่ายชายจะตอ้ งนาขนั หมากหม้นั ขนั ของหม้นั ขนั สินสอด ไปทาพธิ ียงั บา้ นฝ่ายหญิง ส่วนทางดา้ นฝ่ายหญงิ ก็จะตอ้ งจดั เตรียมพานเชิญขนั หมากหม้นั ไวร้ อรับตามฤกษ์

87

ในช่วงต่อมาเมื่อชายหญิงคูน่ ้ีไดม้ ีโอกาสดูนิสยั ใจคอของกนั และกนั ชวั่ ระยะเวลาหน่ึงจนเป็ นท่ีเพยี งพอแลว้ ฝ่ ายชายก็จะเป็นผไู้ ปหาฤกษเ์ พอื่ จะทาพธิ ีแต่งงาน ซ่ึงฝ่ายชายกจ็ ะตอ้ งจดั ขนั หมากแต่งมายงั บา้ นฝ่ ายหญิงใน ตอนเชา้ ตามฤกษ์ ส่วนฝ่ายหญิงก็จะตอ้ งจดั เตรียมพานเชิญขนั หมากแต่งไวร้ อรับตามฤกษเ์ ช่นกนั แต่ถา้ ใน กรณีทจี่ ดั พธิ ีหม้นั และพธิ ีแต่งในวนั เดียวกนั กส็ ามารถจะใชพ้ านเชิญขนั หมากพานเดียวกนั ไดเ้ ลย ขนั หมาก หม้นั กบั ข้นั หมากแตง่ ก็สามารถจะใชข้ นั เดียวกนั ไดเ้ ช่นกนั พานเชิญขนั หมากหม้นั มกั จะนิยมใชพ้ านขนาด ค่อนขา้ งเล็กกะทดั รดั ไม่ควรใชพ้ านขนาดใหญ่ จะตอ้ งใหเ้ ด็กผหู้ ญิงเป็ นผูถ้ ือเพอ่ื ตอ้ นรับ พร้อมกบั กล่าวคา เชิญขนั หมากใหเ้ ขา้ ประตบู า้ นได้ ขนั หมากของฝ่ายชายจงึ จะเคลื่อนเขา้ มา ขนั หมากหม้ัน, ขันสินสอด ขันหมากหม้ัน

ขนั หมากหม้ันทางฝ่ ายชายจดั ข้ึนเพ่ือนาของหม้นั ไปหม้นั หมายทางฝ่ ายหญิง โดยมีผูใ้ หญ่เป็ นผู้ นาไปพร้อมเจา้ บา่ ว ส่ิงของทจ่ี ดั ใส่ในขนั หม้นั ตามประเพณีนิยม คือ ใบรัก เลือกใบท่ีสมบูรณ์ 8 ใบ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก อยา่ งละ 8 ใบ ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบสีแดงอยา่ งละ 8 ดอก จดั เรียงใหส้ วยงามในขนั น้า พานรอง เอากล่องแหวนหรือเงนิ ทองวางไวด้ า้ นบนสุด พร้อมดว้ ยถุงถว่ั ถุงงาน บางแห่งใชห้ มากพลู จีบเรียงลาดับไปดว้ ย บางแห่งใชพ้ ลูเป็ นใบๆ และหมากเป็ นผลเรียงลาดับลงไปแต่ ปัจจุบนั มกั จะตดั หมากกับพลูออก เรียกขนั หม้นั ประดิษฐ์ดอกไมส้ ด ตกแต่งขนั ให้สวยงาม ดอกไมท้ ี่ใช้ ประดบั และตกแต่ง ลว้ นมีช่ือที่เป็ นมงคล และมีความหมาย เช่น ดอกรกั ดอกบานไม่รู้โรย ดอกกุหลาบ ส่วนประกอบต่างๆ ทีป่ ระดษิ ฐ์ขนึ้ สาหรับตกแต่งขันหม้นั

1. ตงุ้ ตง้ิ ผกู หอ้ ยรอบปากขนั 2. มาลยั ซีกรอ้ ยดว้ ยกุหลาบ รัดรอบขนั 3. กรวยใบตองเยบ็ เป็ นฝาปิ ดขนั หม้นั 4. ผา้ โปร่งสีชมพูอ่อนสวยสอดด้ิน หรือผา้ ตาดสีทอง ผืนสี่เหล่ียม ใชห้ ่อขนั หมากรวบชายข้ึนไป ดา้ นบนแลว้ ผกู รัดดว้ ยโบวใ์ หเ้ รียบรอ้ ย (ถา้ ไม่ใชก้ รวยใบตองเป็ นฝาปิ ด จะใชผ้ า้ ตาดสีทอง หรือสีชมพูคลุม ขนั ใหช้ ายหอ้ ยลงดา้ นล่างกไ็ ด)้ ขนั สินสอด ขันสินสอด ทาแบบเดียวกบั ขนั หม้นั สาหรับฝ่ ายชายนาเงินสินสอดมามอบให้ฝ่ ายหญิงในวนั พิธี แต่งงาน คาถามทา้ ยหน่วย 1. งานประเพณีลอยกระทง เริ่มมีมาแต่สมยั ใด 2. สมยั สุโขทยั เรียกงานประเพณีลอยกระทงวา่

88

3. ใบไมท้ ีส่ ามารถนามาตกแตง่ กลีบหกั คอมา้ ใหส้ วยงามข้นึ คือ ใบ 4. ขา้ วตอก ขา้ วเปลือก ถว่ั เขยี น งาดา ใส่อยใู่ นพานใด 5. ดอกไม-้ ใบไม้ ที่มีชื่อเป็นสิริมงคล ท่ีควรนามาจดั ไวใ้ นพานขนั หมากคอื ใบ

เอกสารอ้างองิ จนั ทนา สุวรรณมาลี การจดั พาน สานกั พมิ พโ์ อเดียนสโตร์ 2539 พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ด์ิ งานใบตองวจิ ิตร ตองนวลบุปผา สานกั พมิ พแ์ ม่บา้ น สมพร ยงิ่ เจริญ การจดั ดอกไมส้ ด บริษทั 21 เซ็นจูรี จากดั 2540

89

แบบทดสอบก่อนเรียนแผนการเรียนรู้ท่ี 3 วชิ างานใบตอง รหสั วชิ า 20406-2002

คาส่ัง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. งานประเพณีลอยกระทงเริ่มมีมาแต่สมยั ใด................................................................................................ 2. งานประเพณีลอยกระทง ตรงกบั วนั ..................................................ค่า เดือน......................................... 3. กลีบท่นี ิยมนามาทาตวั กระทง ไดแ้ ก่กลีบ................................................................................................ 4. ใบไมท้ นี่ ิยมนามาทากลีบตกแต่งไดแ้ ก่ ใบ.............................................................................................. .................................................................................................................................................................... 5. การแต่งงานตามประเพณีไทย สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็ น........................ข้นั ตอนไดแ้ ก่............................. 6. พานขนั หมาก หมายถึง........................................................................................................................... 7. ของท่ีใส่ไวใ้ นพานขนั หมาก คือ............................................................................................................. 8. พานของหม้นั (พานขนั หม้นั ) หมายถึง.................................................................................................. 9. พานสินสอด หมายถึง............................................................................................................................. 10. พานขนั หมาก พานขนั หม้นั พานสินสอด เป็นพานทฝี่ ่ายใดเป็นฝ่ ายเตรียม.........................................

เอกสารอา้ งอิง จนั ทนา เพชรสงคราม. งานใบตอง.กรุงเทพมหานคร: บริษทั โรงพมิ พไ์ ทยวฒั นาพานิช จากดั , 2537. อาชีวศกึ ษา, กรม. ใบงานการประดิษฐใ์ บตองและแกะสลกั 1. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พค์ ุรุสภาพ ลาดพรา้ ว ,2542. เรณู ขาเลิศ, การประดิษฐ์เครื่องใช้ด้วยใบตอง.กรุงเทพฯ: บริษทั สานกั พมิ พโ์ คมทอง จากดั .2537.

90

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

ประกอบแผนการสอนท่ี 3 วิชาเทคนิคงานใบตอง รหัส 3406-2112 ช้ันประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง เวลา 10 นาที

1. สมยั สุโขทยั

2. ข้นึ 15 ค่า เดือน 12

3. กลีบหกั คอมา้ กลีบกุหลาบ

4. ใบโกศล ใบสโนวด์ รอป ใบกวนอิม ใบหมากแดง

5. 2 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ พธิ ีหม้นั พธิ ีแต่ง

6. พานที่จดั ตกแต่งเครื่องขนั หมากต่างๆ ลงไปใหส้ วยงาม ถูกตอ้ งตามประเพณีไทย

7. หมาก พลู ขา้ วตอก ขา้ วเปลือก ถว่ั เขียว งาดา ยอดรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ใบเงิน ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท

8. พานดอกไมข้ นาดกลาง หรือเล็ก จดั ไวส้ าหรับวางแหวน สรอ้ ย กาไล ตา่ งหู

9. พานดอกไมข้ นาดกลาง จดั ไวส้ าหรบั ใส่เงินสินสอด ใชใ้ นประเพณีการแต่งงานแบบไทย

10. ฝ่ายชาย

91

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนแผนการเรียนรู้ที่ 3

วชิ างานใบตอง รหสั วชิ า 20406-2002 คาสั่ง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. งานประเพณีลอยกระทงเร่ิมมีมาแตส่ มยั ใด.................สุโขทยั ................................................................. 2. งานประเพณีลอยกระทง ตรงกบั วนั ......ข้ึน 15 ค่า เดือน 12................................................................... 3. กลีบท่ีนิยมนามาทาตวั กระทง ไดแ้ ก่กลีบ.............หกั คอมา้ กลีบกุหลาบ................................................ 4. ใบไมท้ ี่นิยมนามาทากลีบตกแต่งไดแ้ ก่ ใบโกศล.......ใบสโนวด์ รอฟ..ใบกวนอิม..ใบหมากแดง............ 5. การแต่งงานตามประเพณีไทย สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น..........2......ข้นั ตอนไดแ้ ก่..พธิ ีหม้นั พธิ ีแตง่ ....... 6. พานขนั หมาก หมายถึงพานทจี่ ดั ตกแตง่ เครื่องขนั หมากตา่ งๆ ลงไปใหส้ วยงาม ถูกตอ้ งตามประเพณีไทย 7. ของทใ่ี ส่ไวใ้ นพานขนั หมาก คือ...หมาก พลู ขา้ วตอก ขา้ วเปลือก ถวั่ เขยี ว งาดา ยอดรกั ดอกบานไม่รู้โรย ดอกดาวเรือง ดอกกหุ ลาบ ใบเงนิ ใบทอง ใบนาก ใบมะยม ใบสวาท............................................................ 8. พานของหม้นั (พานขนั หม้นั ) หมายถึง พานดอกไมข้ นาดกลาง หรือเล็ก จดั ไวส้ าหรับวางแหวน สร้อย กาไล ต่างหู..................................................................................................................................................... 9. พานสินสอด หมายถึง พานดอกไมข้ นาดกลาง จดั ไวส้ าหรับใส่เงินสินสอด ใชใ้ นประเพณีแต่งงานแบบ ไทย………………………………………………………………………………………………………….. 10. พานขนั หมาก พานขนั หม้นั พานสินสอด เป็ นพานทฝ่ี ่ ายใดเป็ นฝ่ายเตรียม..ฝ่ายชาย.................................

เอกสารอา้ งอิง จนั ทนา เพชรสงคราม. งานใบตอง.กรุงเทพมหานคร: บริษทั โรงพมิ พไ์ ทยวฒั นาพานิช จากดั , 2537. อาชีวศึกษา, กรม. ใบงานการประดิษฐ์ใบตองและแกะสลกั 1. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พค์ ุรุสภาพ ลาดพร้าว ,2542. เรณู ขาเลิศ, การประดิษฐ์เคร่ืองใช้ด้วยใบตอง.กรุงเทพฯ: บริษัทสานักพมิ พ์โคมทอง จากดั .2537.

92

แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

ประกอบแผนการสอนท่ี 3 วิชาเทคนิคงานใบตอง รหัส 3406-2112 ช้ันประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง เวลา 10 นาที

1. งานประเพณีลอยกระทงเร่ิมมีมาแต่สมยั ใด................................................................................................ 2. งานประเพณีลอยกระทง ตรงกบั วนั ..................................................ค่า เดือน......................................... 3. กลีบทน่ี ิยมนามาทาตวั กระทง ไดแ้ ก่กลีบ................................................................................................ 4. ใบไมท้ น่ี ิยมนามาทากลีบตกแต่งไดแ้ ก่ ใบ.............................................................................................. .................................................................................................................................................................... 5. การแตง่ งานตามประเพณีไทย สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็ น........................ข้นั ตอนไดแ้ ก่............................. 6. พานขนั หมาก หมายถึง........................................................................................................................... 7. ของทใี่ ส่ไวใ้ นพานขนั หมาก คอื ............................................................................................................. 8. พานของหม้นั (พานขนั หม้นั ) หมายถึง.................................................................................................. 9. พานสินสอด หมายถึง............................................................................................................................. 10. พานขนั หมาก พานขนั หม้นั พานสินสอด เป็นพานท่ีฝ่ายใดเป็นฝ่ ายเตรียม.........................................

93

ใบงานท่ี 4 หน่วยที่ 3 รหัสวชิ า 20406-2002 สอนคร้ังท่ี 5-6 ช่ือวชิ า งานใบตอง ชื่อหน่วย การสร้างสรรคร์ ูปแบบ เวลารวม 35 ชว่ั โมง ชื่อเร่ือง การประดิษฐก์ ระทงลอย จานวน 10 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนกั เรียนศึกษาเน้ือหาน้ีแลว้ นกั เรียนสามารถ 1. เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในงานประดิษฐก์ ระทงลอยจากใบตองได้ 2. อธิบายวธิ ีการประดิษฐก์ ระทงลอยรูปแบบตา่ งๆ จากใบตองได้ 3. ประดิษฐก์ ระทงลอยไดห้ ลายรูปแบบ 4. เพอ่ื ใหม้ ีกิจนิสยั ทีด่ ี ตรงต่อเวลา มีความสามคั คี

สมรรถนะรายหน่วย ประดิษฐแ์ ละตกแต่งงานใบตองในโอกาสตา่ งๆ

วสั ดุและอปุ กรณ์ ใบตองตานี ดอกบานไม่รูโ้ รยสีม่วง สีขาว ดอกพดุ ดอกเฟ่ือฟ้ า กา้ นผกั ตบ สนฉตั ร เชือกฟาง ลวด

เบอร์ 24 ไมก้ ลดั ตะปูหมุด ธูป เทยี น ฟลอร่าเทป มีด กรรไกร ดา้ ยเบอร์ 60 สีเขยี ว สีม่วง ลาดับข้นั การปฏบิ ตั ิ

94

ใบงานท่ี 4 หน่วยการเรียนที่ ......3.............

รหัส ...3406-2112......วิชา ..เทคนิคงานใบตอง........ จานวน .................2 ....หน่วยกติ

ช่ือหน่วย.....เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง............ จานวนช่ัวโมงรวม....12... ชั่วโมง

ช่ือเร่ือง.........การประดิษฐก์ ระทงลอย............................................... จานวน....................4......ชว่ั โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั ศกึ ษาเตรียมวสั ดุ – อุปกรณ์ ในการประดิษฐก์ ระทงลอยไดถ้ ูกตอ้ ง 2. นกั ศึกษาอธิบายวธิ ีการประดิษฐก์ ระทงลอยรูปแบบต่างๆได้ 3. นกั ศึกษานากลีบตา่ งๆ มาประดิษฐก์ ระทงลอยไดห้ ลายรูปแบบ 4. นกั ศกึ ษามีกิจนิสยั ท่ีดีในการปฏบิ ตั ิงาน

วสั ดุและอปุ กรณ์ ใบตองตานี ดอกบานไม่รูโ้ รยสีม่วง, สีขาว ดอกพดุ ดอกเฟ่ืองฟ้ า กา้ นผกั ตบ สนฉัตร เชือกฟาง ลวด

เบอร์ 24 ไมก้ ลดั ตะปหู มุด ธูป เทียน ฟลอร่าเทป มีด กรรไกร ดา้ ยสีเขยี ว, ม่วง เบอร์ 60 ลาดบั ข้นั ในการปฏิบตั งิ าน

95

ข้นั ตอนการทา 1. ตดั ผกั ตบชวาเป็นท่อนสูงท่อนละ 6 นิ้ว นามามดั รวมกนั เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 11 นิ้ว 2. เกลาหุ่นกลมแป้ นหนา้ ตดั ตรงกน้ มน ทดลองนาไปลอยน้าใหห้ ุ่นกระทงต้งั ตรง 3. ฉีกใบตองกวา้ ง 1¼ นิ้ว จานวน 180 กลีบ เยบ็ กลีบคอมา้ ลายเปี ยเป็ นแผงยาวสาหรับขอบกระทง

ช้นั ใน 4. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 น้ิว 125 กลีบ กวา้ ง 1.5 นิ้ว 125 กลีบ และ 2 นิ้ว 125 กลีบ พบั กลีบผกาซ้อน

ตบั ละ 3 กลีบ สาหรับตดิ รอบกระทง 5 ช้นั 5. เยบ็ แบบกลีบบวั ดอกพดุ 27 กลีบ 6. เยบ็ แบบกลีบบวั สีม่วง 15 กลีบ ตดั 3 ขนาดๆ เลก็ 4 กลีบ ขนาดกลาง 5 กลีบ ขนาดใหญ่ 7 กลีบ 7. ทาดวงดาว 27 ดวง 8. ดอกบานไม่รูโ้ รย ตดั ดอกใหม้ ีขนาดเท่ากนั เสียบดว้ ยไมก้ ลดั

วิธีประกอบตัวกระทง 1. กลีบคอมา้ ลายเปี ยท่ีเยบ็ เป็ นแผงยาว ตดั ใบตองส่วนล่างท้งั 2 ดา้ นออกให้ห่างจากฝี เขม็ 1 ชม.

นามาสวมตอ่ กนั บนกลีบแรก 2. นาหุ่นกระทงสวมลงในกลีบใบตอง ยดึ ดว้ ยตะปูหมุด ปรบั ปากกระทงใหเ้ สมอกนั 3. ติดกลีบผกาโดยรอบกระทงช้นั ที่ 1 จานวน 25 ตบั ติดจนครบ 5 ช้นั ให้แต่ละช้นั ติดสับหวา่ งกนั

ทกุ ช้นั 4. ติดกลีบบวั ดอกพดุ 9 กลีบ แบ่งใหไ้ ด้ 9 ช่อง 5. ตดิ กลีบบวั ดอกพดุ ช้นั ท่ี 2 สบั หวา่ งกบั กลีบบวั ช้นั แรก 6. กลีบบวั อีก 9 กลีบ ติดใหต้ ่าลงสบั หวา่ งกบั ช้นั ที่ 2 โดยใหต้ รงกบั กลีบบวั ช้นั ท่ี 1 ติดดวงดาวดอก

พดุ ที่โคนกลีบบวั ทุกกลีบ 7. ซอ้ นใบตอง 4 ช้นั ตดั เทา่ กนั กน้ กระทง ปิ ดรอยตะปหู มุด 8. ปักดอกบานไม่รู้โรยสีม่วงเป็นกลีบดอกไม้ 4 กลีบ พน้ื กระทง 9. ปักดอกบานไม่รู้โรยสีขาวอีก 4 กลีบเช่นเดียวกนั ใหส้ บั หวา่ งกบั สีม่วง 10. กลีบบวั สีม่วงกลีบเลก็ 4 กลีบปักลงตรงกลางกระทง 11. กลีบบวั สีม่วงกลีบกลาง 5 กลีบ ปักรอบกลีบบวั รอบแรก 12. กลีบบวั สีม่วงกลีบใหญ่ 7 กลีบ ปักรอบกลีบบวั รอบสอง 13. เทยี น 9 น้ิว พนั กบั ไมก้ ลดั ใหเ้ ป็ นสามง่ามปักตรงกลางกระทงกลีบบวั ช้นั บน

96

14. ปักธูป 3 ดา้ นๆ ละ 3 ดอกใหด้ อกทอี่ ยใู่ นสุดสูงข้ึนดอกที่ 2 และ 3 ใหต้ ่าลงต่างระดบั กนั ข้นั ตอนการประกอบตัวกระทง

1.หุม้ กลีบคอมา้ ลายเปี ยเป็นตวั กระทง แตง่ 2. แบบกลีบบวั ดอกพดุ ดว้ ยดอกบานไม่รู้โรยขาว-ม่วงเตม็ กระทง ดา้ นบนตดิ กลีบผกาโดยรอบ สบั หวา่ งกนั 5 ช้นั แลว้ จึงนากลีบดอกบวั พดุ ติดสบั หวา่ งกนั ท้งั หมด 3 ช้นั

3. แบบกลีบบวั ดอกเฟ่ืองฟ้ าสีม่วง 3 ขนาดใหญ่ กลาง เลก็

วธิ ีพบั กลีบคอม้าลายเปี ย 1. เลือกใบตองทางยาวริ้วตรงฉีกกวา้ ง 1 นิ้ว

จานวน 60 ชิ้น พบั ริมแขง็ ลงมาต้งั ฉาก 2. พบั ริมดา้ นอ่อนลงมาต้งั ฉากชิดกบั ริมดา้ นแขง็ 3. พบั ทบคร่ึงท้งั 2 ขา้ งเขา้ หากนั โดยใหป้ ลายกลีบชิดและแหลม 4. คว่ากลีบลงใหด้ า้ นสนั ตรงของใบตองอยดู่ า้ นบน พบั ริมใบตองลงมาให้ชิดกบั ริมใบตองอีกดา้ น

หน่ึง 5. พบั ทบริมดา้ นขวาทบข้ึนต้งั ฉากอีกคร้งั 6. พบั ดา้ นหลงั เช่นเดียวกบั ดา้ นหนา้ 7 จบั สนั ใบตองพบั โคง้ ใหถ้ ึงมุม คลา้ ยกลีบกหุ ลาบแยม้ เฉพาะกลีบดา้ นหนา้ 8. พบั อีกกลีบมาสวมทบั บนกลีบแรก ทางดา้ นหลงั สนั กลีบ

97

ข้นั ตอนการพับกลีบคอม้าลายเปี ย

1. พบั ใบตองทางดา้ นซา้ ยมือ 2. พบั ใบตองทางดา้ นขวา 3. พบั ท้งั สองขา้ งเขา้ หากนั

ใหต้ ้งั ฉาก ลงมาชิดกบั ดา้ นซา้ ย

4. พลิกชายดา้ นหนา้ 5. พบั ทบลงมาอีกคร้งั 6. พบั ดา้ นหลงั เช่นเดียว 7. ตลบสนั ทบใบตอง ลงมาใหช้ ิดกบั เริ่ม ใบตอง หน่ึง กบั ดา้ นหนา้ ทแยงยอ้ นกลบั ทาง

ดา้ นขวา

8. นากลีบมาสวมสอด 9. ตลบสนั ทบใบตอง 10 . เยบ็ ตรึงดว้ ยดา้ ย 11. เยบ็ ต่อกนั เป็ นแผงยาว เขา้ ทางปากแหลม ทแยงตามกนั

12. ดา้ นหลงั 13. ดา้ นหนา้

98

วิธีพบั กลบี ผกาซ้อน 1. ฉีกใบตองกวา้ ง 1 น้ิว จานวน 42 ช้ิน 1.1 ฉีกใบตองกวา้ ง 1.5 น้ิว จานวน 42 ช้ิน 1.2 ฉีกใบตองกวา้ ง 2 น้ิว จานวน 42 ชิ้น 2. พบั ทบริมใบตองซา้ ยมาทางขวา 1 ใน 3 ส่วน พบั ริมขวาลงมาใหช้ ิดกบั ดา้ นซา้ ย 3. พบั สนั ทบริมขวาเขา้ มาต้งั ฉาก ลายริ้วทแยงซา้ ยและขวาเท่ากนั 4. พบั ใบตองแตล่ ะขนาดเหมือนกนั 5. นากลีบผกามาเรียงซอ้ นกนั กลีบเลก็ สุดอยหู่ นา้ ใหป้ ลายกลีบไล่ระดบั ลดหลน่ั ลงมา ตรึงดว้ ยดา้ ย

ลาดบั ท่ี รายช่ือ

5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 50 การเลือกใชว้ สั ดุเหมาะสมกบั การปฏบิ ตั ิงาน แบบประเมนิ ผลภาคปฏิบตั ิ 30 คะแนน การเลือกวสั ดุอุปกรณ์ การปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอน ชื่องาน ความร่วมมือในการปฏิบตั ิงาน ผลงาน ความสนใจและต้งั ใจ 20 คะแนน การตรงต่อเวลา 99 การเก็บความสะอาดสถานท่ี

การปฏิบตั ิงานทนั ตามกาหนด การนาเสนอผลงานกลุ่ม

ความสาเร็จของผลงาน รวมคะแนน

100

ใบงานท่ี 5 หน่วยที่ 3

รหัสวชิ า 20406-2002 สอนคร้ังที่ 7-8

ช่ือวิชา งานใบตอง

ชื่อหน่วย เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง เวลารวม 35 ชว่ั โมง

ช่ือเรื่อง การประดิษฐพ์ านขนั หมาก จานวน 10 ชวั่ โมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

คาชี้แจง

ใหน้ กั เรียนฝึกอบรมแบบและประดิษฐพ์ านขนั หมาก

จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม

เม่อื นักเรียนนักศึกษาเนอื้ หานี้แล้ว นกั เรียนสามารถ

1. เตรียมวสั ดุ- อุปกรณ์ในการประดิษฐพ์ านขนั หมากไดถ้ ูกตอ้ ง

2. บอกข้นั ตอนการประดิษฐพ์ านขนั หมากและวธิ ีการนาไปใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง

3. รูจ้ กั การนาวสั ดุทดแทนมาใชไ้ ด้

4. ปฏิบตั งิ านดว้ ยความต้งั ใจ เสร็จตามเวลาท่ีกาหนด

สมรรถนะรายหน่วย

ประดิษฐแ์ ละตกแต่งงานใบตองในโอกาสตา่ งๆ

วสั ดุ

ดอกบานไม่รูโ้ รยสีชมพู ดอกรกั สีขาว ดอกดาวเรือง ดอกกหุ ลาบมาลยั ใบเงนิ ใบทอง ใบนาก ใบพลู

ใบตองตานี หมาก ตน้ กลว้ ย ลวดเบอร์ 20 ขา้ วตอก ถวั่ ทอง งาดา ขา้ วเปลือก ถุงเงิน ถุงทอง พานทอง ผา้

ขาวบาง กรบอกฉีดน้า ถาด

ลาดบั ข้นั การปฏบิ ัติ

วิธีทา

1. จดั พาน

ตดั ดอกบานไม่รูโ้ รยสีชมพเู สียบกา้ นไมก้ ลดั จดั พานซ่ึงบรรจขุ ้ีเล่ือยเตม็ ปาก พานจดั เป็ นวงกลม

ประมาณ 2 หรือ 4 แถว ตรงกลางจดั ดว้ ยดอกรักสีขาว

2. เกลาตน้ กลว้ ยใหป้ ลายแหลมยาวประมาณ 9 นิ้ว นาใบตองหุม้ ใหม้ ิด

3. นาใบเงนิ 2 ใบ พนมเป็นยอดและช้นั ตอ่ ๆ มา ประกอบดว้ ยใบเงนิ ใบทอง และใบนาครวมท้งั หมด

อยา่ งละ 9 ใบ รอบทอ่ นกลว้ ยทเี่ กลาไวจ้ นเตม็ นาใบพลูจีบ 9 คา จดั วางรอบฐานกรวย

4. หมากลูกท้งั 4 ผล แกะเป็นกลีบดอกไมใ้ นส่วนท่ตี รงกนั ขา้ มกบั ข้วั ทาปนู สีแดง

101

ใบงานท่ี 5 หน่วยการเรียนที่ ......3.............

รหัส ...3406-2112......วิชา ..เทคนิคงานใบตอง........ จานวน .................2 ....หน่วยกติ

ช่ือหน่วย.....เทคนิคการประดิษฐง์ านใบตอง........... จานวนช่ัวโมงรวม...12.... ชั่วโมง

ช่ือเร่ือง.........การประดิษฐพ์ านขนั หมาก................................. จานวน....................4......ชว่ั โมง