ในช่วงเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงที่อุณหภูมิสูงที่สุดในรอบปี ซึ่งการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมินี้เอง มีส่วนทำให้ร่างกายของเราร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการ หรือภาวะต่าง ๆ ตามมา นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เราควรรักษาอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อเลี่ยงอาการ หรือภาวะผิดปกติต่าง ๆ Show โดยวันนี้ โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จะมาแบ่งปันความรู้ และวิธีการดูแลสุขภาพในช่วงฤดูร้อนด้วยตัวเองตามหลักของศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากบทสัมภาษณ์ พท.ป.ภัคภร บูรณสันติกูล ประจำวิวัฏฏะคลินิก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ให้ทุกคนได้ทราบกัน ความร้อนที่สะสมภายในร่างกายอาจทำให้เกิดความเจ็บป่วย ไม่สบายเนื้อ-สบายตัว เช่น ปวดศีรษะ วิงเวียน อ่อนเพลีย หน้ามืด เจ็บในช่องปากและลำคอ พบแผลร้อนในช่องปาก เกิดอาการท้องผูก ขับถ่ายลำบาก ทำให้ผิวพรรณแห้งกร้านไม่สดใส เกิดสิวอักเสบขึ้นตามใบหน้า หรือเกิดฝีอักเสบตามลำตัวได้ค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น หากร่างกายของเรามีความร้อนสะสมมากก็จะส่งผลเสียทำให้อวัยวะต่าง ๆ ถูกทำลายจนทำหน้าที่ผิดปกติไป เมื่อร่างกายเกิดการอักเสบบ่อยครั้ง ก็อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยภายในอย่างรุนแรง (เช่น เกิดเนื้องอก หรือมะเร็ง เป็นต้น) โดยสภาพอากาศร้อนในไทย ยังสามารถมีผลต่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และสามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บตามมา อย่างคาดไม่ถึงได้ เช่น:
‘ธาตุเจ้าเรือน’ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ก่อนที่เราจะมาเรียนรู้ว่าเราสามารถดูแลสุขภาพของเราตามหลักของธาตุเจ้าเรือนได้อย่างไร เราอาจจะต้องทำความรู้จักธาตุเจ้าเรือนกันก่อนสักเล็กน้อย โดยธาตุเจ้าเรือนแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ค่ะ แต่ละธาตุก็จะมีความจำเพาะโดดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้:
ช่วงฤดูร้อน ธาตุไฟในร่างกายมีการกำเริบมากกว่าปกติหรือไม่ เพราะอะไร?ในช่วงฤดูร้อน (ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. – ปลายเดือน พ.ค.) จะเป็นช่วงเวลาที่สมุฏฐานธาตุไฟ (ปิตตะ) กำเริบ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นช่วงที่โลกโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ และประเทศไทยทำมุมตั้งฉากตรงกับดวงอาทิตย์พอดี สภาพอากาศจึงร้อนอบอ้าวมากกว่าปกติ ร่างกายเกิดการสะสมความร้อนเพิ่มขึ้น (หรือ ธาตุไฟกำเริบ) ซึ่งหากไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้จนหมดก็จะทำให้พบปัญหาสุขภาพดังนี้ เช่น เกิดอาการร้อนใน-เป็นแผลในช่องปากบ่อยครั้ง เกิดสิวหรือผดผื่นคันได้ง่าย ท้องผูก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว เกิดภาวะนอนหลับยาก-นอนหลับไม่สนิท เป็นต้น อาหาร ผัก ผลไม้ และสมุนไพรที่ช่วยลดธาตุไฟในร่างกายการเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการดับพิษร้อน และ ลดการสะสมของความร้อนภายในร่างกาย ซึ่งรายการอาหารที่แนะนำมีดังนี้ค่ะ
นอกจากนี้กลุ่มผัก-ผลไม้ และ น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น ก็จัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดธาตุไฟในร่างกายได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น :
มีอาหารที่ควรเลี่ยงเพื่อลดธาตุไฟในร่างกายหรือไม่?อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงช่วงนี้ ได้แก่ อาหารรสจัด (เผ็ดจัด-หวานจัด-มันจัด-เค็มจัด) เพราะจะไปกระตุ้นธาตุไฟให้กำเริบมากขึ้น ทำให้เกิดอาการร้อนใน อักเสบ แผลหายช้าได้ค่ะ การดูแลสุขภาพโดยทั่วไป เพื่อลดธาตุไฟในร่างกาย ทำได้อย่างไรบ้าง?
การรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ด้วยหลักการของธาตุเจ้าเรือนนี้ ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนรักสุขภาพ โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมตามแต่ละชนิดของธาตุเจ้าเรือน, เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารแสลงต่อโรค และรับประทานสมุนไพรที่เหมาะต่อธาตุเจ้าเรือน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง บรรเทาอาการเจ็บป่วยต่างๆ และ ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับคืนสู่ภาวะปกติค่ะ สำหรับผู้ที่สนใจตรวจสอบวิเคราะห์ธาตุเจ้าเรือนและปรึกษาแนวทางการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรบําบัด สามารถติดต่อเพื่อนัดหมายได้ที่ วิวัฏฏะคลินิก โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ Call Center 02-080-5999 หรือ LINE: @psuv ค่ะ |