ประณ ประนอมยอมความ ต อเต ม ข างบ าน

9 ขอ้ 51 (4) แก้ไขเพิม่ เตมิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ดว้ ยกำรไกล่เกลี่ย (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หนา้ | 14

(๑๑) ไมเ่ ปน็ ข้าราชการฝา่ ยตุลาการศาลยุตธิ รรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการฝ่ายตลุ าการ ศาลยตุ ธิ รรม

(๑๒) ไม่เป็นผู้พิพากษาสมทบตามพระราชบัญญัตศิ าลเยาวชนและครอบครัวและวิธพี ิจารณาคดี เยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง ประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ และพระราชบัญญัติจัดตงั้ ศาลแรงงานและวิธพี ิจารณาคดแี รงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒

ข้อ ๕๑/๑10 ผู้ขอขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมซ่ึงเคยเป็นข้าราชการตุลาการ จะต้องมี คุณสมบัติและไม่มลี กั ษณะต้องหา้ มตามขอ้ ๕๑ โดยมปี ระสบการณ์ในการพิจารณาพพิ ากษาคดีมาแลว้ ไม่ น้อยกวา่ ห้าปี ทั้งน้ี ให้ยกเว้นคุณสมบัตติ ามขอ้ ๕๑ (๓) และ (๔)

ให้นาความในวรรคหน่ึงมาใช้บังคับแก่ผู้ขอข้ึนทะเบียนผู้ประนีประนอมซึ่งเคยเป็นข้าราชการ ศาลยตุ ธิ รรมทมี่ ีประสบการณ์ในการปฏบิ ตั งิ านเก่ยี วกับการไกล่เกลยี่ มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ สบิ ปี

ในการแนบหลักฐานตามข้อ ๕๒ ของผู้ขอขึ้นทะเบียนตามข้อนี้ สานักส่งเสริมงานตุลาการ อาจจัดใหใ้ ช้เอกสารรบั รองอยา่ งอน่ื แทนก็ได้

ข้อ ๕๒ ให้ผู้ขอข้ึนทะเบียนยื่นคาขอขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมต่อผู้อานวยการ พร้อมแนบ หลกั ฐานดังตอ่ ไปน้ี

(๑) สาเนาทะเบียนบา้ น (๒) สาเนาบัตรประจาตวั ประชาชนหรือบัตรประจาตวั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั (๓) สาเนาแสดงคุณวุฒิ (๔) สาเนาหลกั ฐานรับรองการผ่านการอบรมหลักสตู รเทคนิคหรอื วิธกี ารไกลเ่ กล่ยี (๕) หลักฐานการรบั รองจานวนคดีท่ีไดป้ ฏิบตั งิ านดา้ นการไกลเ่ กลี่ย (๖) หนงั สือรับรองประสบการณ์ในการทางาน ในกรณีผู้ท่ีเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ประนีประนอมแล้วและประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนอีก อาจขอใชเ้ อกสารหลักฐานเดิมก็ได้ ให้ผู้อานวยการตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามและเอกสารหลักฐานของผู้ขอ ข้ึนทะเบียนแล้วเสนอต่อคณะกรรมการบรหิ ารงานไกล่เกล่ียประจาศาลเพ่ือกล่ันกรองและทาความเห็น เบ้ืองต้นเสนอต่อผู้รับผิดชอบราชการศาล หากผู้รับผิดชอบราชการศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม ใหด้ าเนินการเสนอชอื่ บคุ คลดงั กลา่ วเพ่อื ขึ้นทะเบยี นตามหมวดนี้

10 ข้อ 51/1 เพม่ิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกล่เกลยี่ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนกั สง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หน้า | 15

ในกรณีที่มีผู้ขอขึ้นทะเบียนหลายคนเกินกว่ากรอบอัตราผู้ประนีประนอมที่กาหนดตามข้อ ๕๐ วรรคสองและผู้ขอข้ึนทะเบียนเหล่าน้ันมีคุณสมบัติและความเหมาะสมใกล้เคียงกัน ให้ผู้รับผิดชอบ ราชการศาลพจิ ารณาผ้ทู ี่มคี วามพร้อมท่จี ะอุทศิ เวลาปฏบิ ัติหนา้ ที่ผปู้ ระนปี ระนอมกอ่ น

ข้อ ๕๓ ให้ผู้อานวยการรวบรวมรายช่ือผู้ขอขึ้นทะเบียนที่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเห็นควรให้ได้รับ การเสนอชื่อจดั ส่งไปยงั สานกั ส่งเสรมิ งานตลุ าการไมน่ ้อยกว่าเกา้ สิบวนั ก่อนวนั ที่ทะเบียนสน้ิ ผลตามขอ้ ๕๕11

การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประนีประนอมเพ่ิมเติมให้ทาได้เฉพาะเท่าท่ีจาเป็น เพ่อื ประโยชน์แก่ราชการศาลทีย่ งั ไม่มผี ปู้ ระนปี ระนอมท่ไี ด้รับการข้นึ ทะเบยี นปฏิบัตงิ านในศาลน้ันหรอื มี แต่ไมส่ ามารถปฏิบัตหิ น้าท่ีได้ โดยใหผ้ อู้ านวยการดาเนินการตามข้อ ๕๒ วรรคสามโดยอนโุ ลม

ข้อ ๕๔ ใหผ้ ู้อานวยการสานักส่งเสริมงานตุลาการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้วทาความเห็น เบ้ืองตน้ เสนอเลขาธิการ12

ในการพิจารณาให้ข้ึนทะเบียนบุคคลใดเป็นผู้ประนีประนอมให้เป็นดุลพินิจของเลขาธิการ คาวนิ ิจฉยั ของเลขาธกิ ารใหเ้ ปน็ ที่สดุ

ข้อ ๕๕ ให้ทะเบียนผู้ประนีประนอมสิ้นผลลงทุกสองปีนับแต่วันจัดทาทะเบียนโดยไม่ต้อง คานงึ วา่ ผ้มู ีช่ือในทะเบยี นได้รับการขึ้นทะเบยี นไว้ ณ เวลาใด

การท่ีทะเบียนผู้ประนีประนอมสิ้นผลตามวรรคหนึ่งไม่กระทบถึงการแต่งตั้งผู้ประนีประนอม ในคดีที่ได้ดาเนินการไปแล้วและให้ผู้ได้รับการแต่งต้ังนั้นปฏิบัติหน้าท่ีต่อไป เว้นแต่ผู้รับผิดชอบราชการ ศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาท่ีแต่งตั้งจะมีคาสั่งเป็นอย่างอื่น ให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวมีสิทธิได้รับ ค่าป่วยการและค่าใช้จา่ ยตามระเบียบที่กาหนด

ในกรณีที่การจัดทาทะเบียนใหม่ไม่แล้วเสร็จภายในกาหนดเวลาที่ทะเบียนเดิมได้สิ้นผล ให้ถือวา่ บคุ คลในทะเบียนเดิมยงั คงเป็นผปู้ ระนีประนอมท่ีขึ้นทะเบียนอยู่จนกว่าทะเบียนใหม่จะแลว้ เสรจ็

ข้อ ๕๖ ผู้ที่เคยมีช่ืออยู่ในทะเบียนผู้ประนีประนอมแล้วและไม่ได้เป็นผู้ที่เคยถูกจาหน่ายชื่อ ออกจากทะเบยี นผ้ปู ระนปี ระนอมเพราะเหตใุ ด ๆ นอกเหนอื จากการลาออกอาจขอข้ึนทะเบียนไดอ้ กี

ในกำรพิจำรณำเสนอช่ือผู้ที่เคยได้รับกำรขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมกับสำนักงำน ศำลยุตธิ รรม ให้ผู้รบั ผิดชอบรำชกำรศำลพจิ ำรณำผลกำรปฏิบตั ิงำนของบุคคลดงั กลำ่ วในรอบระยะเวลำ กำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ที่ในวำระข้ึนทะเบยี นทีผ่ ่ำนมำวำ่ ได้ปฏิบตั หิ น้ำที่ดว้ ยควำมตงั้ ใจ อทุ ิศเวลำมำปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ี ตำมที่ได้รับมอบหมำย ประพฤติตนและดำรงตนในฐำนะผู้ประนีประนอมอย่ำงเหมำะสมหรือไม่ และต้องปฏิบัติหนำ้ ทไ่ี กล่เกลยี่ ตลอดระยะเวลำในกำรขน้ึ ทะเบยี นทผี่ ำ่ นมำรวมไมน่ ้อยกวำ่ สีส่ ิบคดี 13

11 ขอ้ 53 วรรคหน่ึง แกไ้ ขเพ่มิ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎีกำวำ่ ดว้ ยกำรไกลเ่ กล่ยี (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560 12 ขอ้ 54 วรรคหน่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยข้อกำหนดของประธำนศำลฎกี ำว่ำดว้ ยกำรไกล่เกลยี่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 13 ขอ้ 56 วรรคสอง แก้ไขเพ่มิ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกลเ่ กลย่ี (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2565

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หน้า | 16

ข้อ ๕๗ เพ่ือประโยชน์แก่คู่ความในการแต่งตั้งผู้ประนีประนอม หากผู้รับผิดชอบราชการ ศาลเห็นสมควร อาจจัดให้มีบัญชีรายช่ือบุคคลที่ประสงค์จะทาหน้าท่ีผู้ประนีประนอมเพ่ือดาเนินการ ไกล่เกลี่ยในศาล บุคคลในบัญชีรายช่ือดังกล่าวอาจเป็นผู้ประนีประนอมที่ขึ้นทะเบียนอยู่หรือไม่ก็ได้ บุคคลในบัญชีรายชื่อดังกล่าวให้มีจานวนไม่เกินสี่เท่าของกรอบอัตรากาลังผู้ประนีประนอมที่กาหนดให้ สาหรับศาลนนั้ ตามขอ้ ๕๐ วรรคสอง

ในการจัดทาบัญชีรายช่ือดังกล่าว ให้คานึงถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประนีประนอม ที่จะขึ้นทะเบียนตามข้อ ๕๑ รวมทั้งประวัติและความประพฤติ ความพร้อมที่จะอุทิศเวลาปฏิบัติหน้าที่ ผู้ประนีประนอม ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนความต่อเน่ืองในการทางานและการพัฒนาทักษะ ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของบุคคลท่ีจะจัดให้อยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าว ในการนี้ผู้รับผิดชอบราชการศาล อาจจะดาเนินการตรวจสอบประวัติและความประพฤตติ ามความเหมาะสม

ในการพิจารณาจดั ให้บุคคลใดอยู่ในบัญชีรายชื่อดงั กล่าวใหเ้ ปน็ ดลุ พินิจของผู้รับผิดชอบราชการศาล โดยได้รบั ความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารงานไกลเ่ กล่ียประจาศาล

ขอ้ ๕๘ ให้บัญชีรายช่ือตามขอ้ ๕๗ มีวาระคราวละหนง่ึ ปี การที่บัญชีรายชื่อดังกล่าวครบวาระไม่กระทบถึงการแต่งต้ังผู้ประนีประนอมในคดีที่ได้ ดาเนนิ การไปแลว้ และให้ผู้ไดร้ ับการแต่งตั้งนนั้ ปฏบิ ัติหน้าที่ตอ่ ไป เว้นแต่คคู่ วามจะตกลงกันเป็นอย่างอ่ืน หรอื ผ้รู บั ผิดชอบราชการศาลหรอื องค์คณะผ้พู พิ ากษาทแี่ ต่งต้ังจะมีคาสง่ั เปน็ อย่างอืน่

สว่ นที่ ๒ การจาหน่ายช่อื ออกจากทะเบยี น

ข้อ ๕๙ ให้เลขาธิการจาหน่ายช่ือผู้ประนีประนอมออกจากทะเบียนผู้ประนีประนอม เมอื่ ปรากฏข้อเทจ็ จรงิ ดังต่อไปน้ี

(๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิหรือมลี กั ษณะตอ้ งห้ามตามข้อ ๕๑ (๔) ขาดการปฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ามทก่ี าหนดถงึ สามครั้งตดิ ต่อกันโดยไม่มีเหตอุ นั สมควร (๕) มีคาสง่ั ถอดถอนตามขอ้ ๒๒ (๓) (๖) กระทาผดิ หรือฝ่าฝืนตอ่ จรยิ ธรรมของผ้ปู ระนปี ระนอม ตามข้อ ๖๑ อย่างรา้ ยแรง

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุติธรรม หนา้ | 17

ข้อ ๖๐ ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อ ๕๙ (๑) และ (๒) ให้ผู้อานวยการทารายงาน เสนอต่อผรู้ บั ผดิ ชอบราชการศาลเพอื่ เสนอใหเ้ ลขาธิการพจิ ารณาจาหน่ายชอื่ โดยเร็ว

ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อ ๕๙ (๓) ถึง (๖) ให้ผู้อานวยการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรับฟังคาช้ีแจงของผู้ประนีประนอมที่เก่ียวข้อง เสร็จแล้วให้ทารายงานเสนอต่อคณะกรรมการ บรหิ ารงานไกล่เกลย่ี ประจาศาลเพอื่ พจิ ารณาและทาความเหน็ เบือ้ งตน้ เสนอตอ่ ผู้รบั ผิดชอบราชการศาล

ในกรณีท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลเห็นว่ามีเหตุตามวรรคสองให้เสนอเลขาธิการพิจารณา จาหน่ายช่ือโดยเร็ว แต่ถ้าเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นการกระทาผิดหรือฝ่าฝืนต่อจริยธรรม ของผู้ประนีประนอมอย่างไม่ร้ายแรงหรือมีเหตุอ่ืนใดอันสมควร ผู้รับผิดชอบราชการศาลอาจตักเตือน ผปู้ ระนีประนอมประจาศาลนั้นเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร และใหร้ ายงานเลขาธิการทราบกไ็ ด้

หมวด ๘ จริยธรรมสาหรับผปู้ ระนีประนอม

ข้อ ๖๑ ผู้ประนีประนอมต้องปฏิบัติและดารงตนตามประมวลจริยธรรมท่ีคณะกรรมการ ตลุ าการศาลยตุ ิธรรมกาหนด

หมวด ๙ ศนู ย์ไกลเ่ กลี่ยประจาศาล

ข้อ ๖๒ ให้มีศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาลตามความจาเป็น เพ่ือดาเนินงานไกล่เกลี่ยของศาล ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการนาวิธีการระงับข้อพิพาท ทางเลอื กโดยเฉพาะการไกลเ่ กลี่ยมาใช้อย่างแพรห่ ลาย

ข้อ ๖๓ ให้ศูนยไ์ กล่เกลย่ี ประจาศาลมอี านาจหนา้ ท่ดี ังต่อไปน้ี (๑) ดาเนินการเพ่ือให้มีการไกล่เกล่ียตามท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา มอบหมายหรือมีคาสงั่ (๒) สง่ เสริมและเผยแพร่วธิ กี ารระงับขอ้ พพิ าททางเลือก โดยเฉพาะการไกลเ่ กลย่ี (๓) จัดทาสารบบและสานวนคดีไกล่เกลีย่ (๔) จัดทาและรายงานข้อมูลและสถิติเก่ียวกับการดาเนินการไกล่เกล่ียของศาล ตลอดจน การประเมนิ ผลการดาเนนิ งานไกลเ่ กลีย่ ของศาล (๕) จัดทาบญั ชีผู้ประนีประนอมและประสานงานกบั ผู้ประนีประนอม (๖) รวบรวมผลการปฏบิ ตั งิ านของผู้ประนปี ระนอม (๗) ประสานงานกับหนว่ ยงานอื่นเกี่ยวกับการดาเนนิ วธิ ีการระงบั ขอ้ พพิ าททางเลือก (๘) ดาเนนิ การอ่นื ใดทีผ่ รู้ บั ผิดชอบราชการศาลมอบหมาย

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หน้า | 18

ข้อ ๖๔ ในกรณีท่ีศาลใดยังไม่มีตาแหน่งหัวหน้าศูนย์และเจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาล ใหผ้ ู้รบั ผิดชอบราชการศาลแต่งตัง้ หรือมอบหมายให้ข้าราชการศาลยตุ ธิ รรมคนหนึ่งทาหนา้ ทีเ่ ป็นหัวหน้า ศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลเพ่ือรับผิดชอบดูแลงานต่าง ๆ ของศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลให้เป็นไปโดย เรียบร้อย และอาจแต่งต้ังหรือมอบหมายให้ข้าราชการศาลยุติธรรม พนักงานราชการหรือลูกจ้าง ของสานักงานศาลยุติธรรมคนหน่ึงหรือหลายคนเป็นเจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลเพื่อช่วยเหลือ และดาเนนิ งานต่าง ๆ ของศูนย์ไกลเ่ กล่ยี ประจาศาล

หมวด ๑๐ คณะกรรมการบรหิ ารงานไกลเ่ กลยี่ ประจาศาล

ข้อ ๖๕ เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนางานไกล่เกล่ียของศาลอย่างต่อเน่ืองและมี ประสิทธิภาพ ให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานไกล่เกล่ียประจาศาล โดยประกอบด้วยบุคคลจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจานวนห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคนตามท่ี ผรู้ บั ผดิ ชอบราชการศาลเห็นสมควร

ขอ้ ๖๖ ให้คณะกรรมการบรหิ ารงานไกลเ่ กลี่ยประจาศาลมอี านาจหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนางาน ไกลเ่ กลี่ยของศาล (๒) กาหนดและวางแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ ตลอดจนกิจกรรมและการดาเนินงาน ไกล่เกลย่ี ของศาล โดยความเหน็ ชอบของผูร้ ับผดิ ชอบราชการศาล (๓) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเกี่ยวกับประเภทของคดีที่ให้ ศนู ยไ์ กล่เกลี่ยประจาศาลสนับสนุนเปน็ พเิ ศษใหม้ ีการไกล่เกลยี่ (๔) กล่ันกรองและให้ความเห็นเก่ียวกบั รายชื่อบคุ คลที่จะเสนอเพื่อข้ึนทะเบยี นผ้ปู ระนปี ระนอม (๕) กลั่นกรองและใหค้ วามเห็นชอบเกีย่ วกับการจัดทาบัญชีรายชื่อบุคคลท่ีประสงค์จะทาหน้าที่ ผู้ประนีประนอมตามข้อ ๕๗ วรรคสาม (๖) พิจารณาและทาความเห็นเกี่ยวกับการจาหน่ายช่ือผู้ประนีประนอมออกจากทะเบียน ตามขอ้ ๖๐ วรรคสอง (๗) ติดตามและประเมินผลเกี่ยวกับการดาเนินงานตามนโยบาย แผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ และการดาเนินงานต่าง ๆ ท่กี าหนดไว้ (๘) ศกึ ษาและวิเคราะหป์ ัญหาเกี่ยวกบั งานไกล่เกล่ยี ข้อพิพาทของศาล พรอ้ มท้ังใหข้ ้อเสนอแนะ และความเหน็ เกีย่ วกบั การแกไ้ ขปญั หาและการปรับปรุงการดาเนินงาน (๙) ดาเนินการอ่ืนใดตามที่ผู้รับผดิ ชอบราชการศาลมอบหมาย

สำนักส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หนา้ | 19

ข้อเสนอแนะ คาแนะนา และความเห็นเก่ยี วกบั การพัฒนางานไกลเ่ กลย่ี ของศาลใดที่จะเป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาระบบงานไกลเ่ กลย่ี ของศาลยุติธรรมทัง้ หลาย ให้แจง้ ให้สานกั ส่งเสริมงานตลุ าการทราบ14

ข้อ ๖๗ คณะกรรมการบริหารงานไกล่เกลี่ยประจาศาลอาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการ หรอื คณะทางาน เพอ่ื พิจารณาหรอื ปฏบิ ัติการอยา่ งหนง่ึ อยา่ งใดตามท่ีคณะกรรมการมอบหมายกไ็ ด้

หมวด ๑๑ บทเฉพาะกาล ข้อ ๖๘ ในวาระเริ่มแรก ให้ถือว่าทะเบียนผู้ประนีประนอมที่จัดทา ข้ึนตามระเบียบ คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าดว้ ยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๔๔ เปน็ ทะเบียนผู้ประนีประนอม ตามขอ้ กาหนดน้แี ละให้มีผลตอ่ ไปจนกระทง่ั ครบระยะเวลาตามระเบียบดงั กลา่ ว ในกรณีที่ทะเบียนผู้ประนีประนอมตามวรรคหน่ึงครบระยะเวลาและส้ินผลก่อนท่ีการจัดทา ทะเบียนผู้ประนีประนอมตามข้อกาหนดนี้จะแล้วเสร็จ ให้ถือว่าทะเบยี นผู้ประนีประนอมตามวรรคหนึ่ง ดังกลา่ วใช้บังคบั ต่อไปจนกว่าการจัดทาทะเบยี นผ้ปู ระนีประนอมตามข้อกาหนดน้จี ะแล้วเสรจ็ หากวันที่ทะเบียนผู้ประนีประนอมครบระยะเวลาสองปีไม่ตรงกับวันส้ินปีปฏิทิน เลขาธิการ อาจกาหนดใหท้ ะเบยี นผู้ประนีประนอมสิน้ ผลในวนั สิน้ ปปี ฏิทินก็ได้ ข้อ ๖๙ ในวาระเริ่มแรก มิให้นาข้อ ๕๑ (๑๒) มาใช้บังคับภายในเจ็ดปี นับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษา

14 ขอ้ 66 วรรคสอง แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำว่ำด้วยกำรไกลเ่ กล่ีย (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560