ลำดับนั้นพระพุทธองค์ทรงรำพึงถึงธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ปางก่อนว่า เมื่อได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ย่อมแสดงธรรมโปรดแก่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวง และทรงพิจารณาต่อไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณว่า จะมีผู้ใดเข้าถึงพระธรรมคุณที่ตรัสรู้ได้บ้างหรือไม่ ทรงเห็นว่า บุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางจำพวกสอนได้ บางจำพวกสอนไม่ได้ Show
พระพุทธองค์ได้ทรงตรึกตรอง ทรงคำนึงว่าธรรมที่พระองค์ตรัสรู้นี้ ลึกซึ้งมาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม จึงยังทรงมิได้รับคำทูลอารธนาทีเดียว แต่ได้ทรงพิจารณาโดยพระญาณก่อนว่า เวไนยสัตว์ นั้นจำแนกเหล่าที่จะรองรับพระสัทธรรมได้เพียงใด จำนวนเท่าใด ทรงจำแนกด้วยพระญาณว่าเหล่าเวไนยสัตว์บุคคลที่จะรับพระสัทธรรมได้และไม่ได้มีอยู่ ๔ จำพวก เปรียบได้ดังดอกบัวสี่เหล่า อันหมายถึง ปัญญา วาสนา บารมี และอุปนิสัย ที่สร้างสมมาแต่อดีตของบุคคล ซึ่งบัว ๔ เหล่านั้น คือ บัวประเภทที่ ๑ ดอกบัวที่พ้นน้ำแล้ว รอแสงพระอาทิตย์จะบานวันนี้ บัวประเภทที่ ๒ ดอกบัวที่ปริ่มน้ำ จะบานวันพรุ่งนี้ บัวประเภทที่ ๓ ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ยังอีก ๓ วันจึงจะบาน บัวประเภทที่ ๔ ดอกบัวที่เพิ่งงอกใหม่จากเหง้าในน้ำ จะยังไม่พ้นภัยจากเต่าและปลา ซึ่งบัวแต่ละประเภทนั้นเปรียบได้ดังนี้ ๑. อุคฆฏิตัญญู คือ พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็วเปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที ๒. วิปจิตัญญู คือ พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติมจะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป ๓. เนยยะ คือ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิเมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง ๔. ปทปรมะ คือ พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิแม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน อันดอกปทุมานั้นมีหลายหลากต่างชนิดกันไป เหมือนดังเหล่าเวไนยสัตว์ที่จะได้รู้ธรรมนั้นเช่นกัน ทั้งผู้มีกิเลสมาก ผู้มีกิเลสปานกลาง ผู้มีกิเลสน้อยเบาบาง ผู้มีอินทรีย์แก่กล้า ฯลฯ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นศาสนาไหน ทั้งของไทย จีน หรือเทพต่างศาสนา หรือไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องของความเชื่อ เช่น เทพในศาสนาพราหมณ์ ฮินดูนั้น คนไทย สายมู ก็ให้ความเคารพนับถือ และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิถึชีวิตอย่างผสานกันอย่างลงตัว และวันนี้เรามีบทความเกี่ยวกับ 10 เทพเจ้าหลักของศาสนาฮินดูที่คนสายมูเตลูหลายคนเคารพนับถือ และการขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเราต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมา เทพองค์ไหนให้พรเรื่องใด หากอยากจะได้ดังพรที่ขอ ต้องไหว้เทพองค์ใด และสถานที่กราบไหว้ที่ใด วันไหน เวลาใด รวมถึงสิ่งสักการะที่ต้องจัดเตรียม มากันค่ะ สายมู ทั้งหลายอยากปังเรื่องไหน เราต้องไหว้เทพองค์ไหน ทั้งเรื่อง ความรัก การเงิน การงาน ที่ไหนดี บทความนี้จะบอกรายละเอียดในการขอพรของเทพทั้ง 10 ให้ได้ขอพรกันตามปรารถนะ เทพทั้ง 10 องค์1. พระแม่ลักษมีภาพจาก https://www.bkkdowntown.com/th/shrines/Lakshmi-Shrineพระแม่ลักษมี เป็นเทพในศาสนาฮินดูอีกหนึ่งองค์ที่หลายคนนิยมเดินทางไปสักการะ เพราะถือว่าพระแม่ลักษมี เป็นเทพแห่งความงดงาม ความร่ำรวย มั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ พระองค์จะประทานความสำเร็จในการทำธุรกิจ การลงทุน การค้าการขาย ผู้ที่ศรัทธาจะถือกันว่าเป็น เทพนารีผู้อำนวยโชค มีความเมตตาปราณี ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะเจรจาเรื่องธุรกิจให้สำเร็จ หรือให้ความรักสมหวังราบรื่น ขอให้บูชาพระแม่ลักษมี เพราะเป็นเทพแห่งความรัก การเจรจา ธุรกิจ นอกจากนี้ยังมี “วันวาราลักษมี วรัทตัม” ถือเป็นอีกหนึ่งวันมงคลทางศาสนาฮินดู ในการบูชาพระศรีลักษมีเทวี หรือพระแม่ลักษมี เทวีแห่งความงดงาม มั่งคั่ง และอุดมสมบูรณ์ โดยจะบูชาขอเรื่องความรัก ความสมหวังให้ได้พบเจอคู่ครองที่สุขสมอารมณ์หมาย ในขณะเดียวกันเพื่อให้เกิดความปรองดองภายในครอบครัว ร่ำรวยเงินทอง ตามคติความเชื่อของชาวฮินดูนั่นเอง วิธีไหว้พระแม่ลักษมี จะใช้ธูป 9-16 ดอก พร้อมด้วยของสำหรับบูชาพระแม่ลักษมี ดังนี้
*ควรบูชาในวันศุกร์ และก่อนทำพิธีไหว้ควรอาบน้ำและแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ใส่ชุดสีสันสดใส โดยเฉพาะโทนสีแดงหรือชมพู สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระแม่ลักษมี
มูลนิธิวัดลักษมีนารายัน บ้านของพระเจ้า นนทบรีศาลพระแม่ลักษมี ปทุมวัน“โอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา (3 จบ) โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์ (3 จบ) โอม มหาลักษะ มิไย นะโม นะมะหะ โอม วิษณุ ปรียาไย นะโม นะมะหะ โอม ธะนะ ประทาไย นะโม นะมะหะ โอม วิศวา จะนันไย นะโม นะมะหะ ยา เทวี สะระวะ ภูเตชุ ลักษมี รูเปนะ สัม สะถิตา นะมัส ตัสไย นะมัส ตัสไย นะมัส ตัสไย นะโม นะมะหะ” คาถาบูชาพระแม่ลักษมี แบบย่อ (ทางพราหมณ์) “โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะมะหะ” หรือ “โอม พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ ทุติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ ตะติยัมปิ พระลักษมี อิตถีเทวะ เมตตัญจะ มหาลาโภ” 2. พระตรีมูรติเป็นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เป็นการอวตารรวมของพระเจ้าสูงสุดทั้งสามพระองค์ คือ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ โดยคำว่า ตรีมูรติ มาจากคำว่า ตรี หมายถึงสาม และคำว่า มูรติ หมายถึงรูปแบบ จึงหมายถึงรูปแบบของพระเจ้า ถือว่าเป็นเทพแห่งการงาน ครอบครัว สุขภาพ พระตรีมูรติ (พระทัตตาเตรยะ) มีความหมายว่า รูปสาม ซึ่งหมายถึง การรวมมหาเทพทั้ง 3 ที่ได้รับการนับถือ ทั้งศาสนาฮินดู และศาสนาพราหมณ์ คือ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ ซึ่งการรวมอานุภาพของมหาเทพทั้ง 3 พระองค์ ไว้ในองค์เดียวกัน ผู้บูชาย่อมจะบังเกิดความเป็นสิริมงคล และความสมบูรณ์พูนผลในชีวิต พระตรีมูรติที่ถูกต้องตามเทวลักษณะจะต้องมี 3 เศียรเท่านั้น และสามารถบันดาลพรให้ผู้ที่ทำความดีได้ทุกอย่าง ไม่เพียงแต่ประทานความรักเท่านั้น คนไทยมักเชื่อว่า พระทัตตาเตรยะ หรือ พระตรีมูรติ เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของการประทานพรความรัก แต่ความจริงแล้วพระตรีมูรติ จะประทานพรให้กับผู้ที่ทำความดีได้ทุกประการ วิธีไหว้พระตรีมูรติ
*สำหรับคนที่มีคู่ ให้เพิ่มเทียน 1 คู่ประกบกัน เพื่อเปรียบเสมือนคู่รักที่จะไม่แยกจากกัน *ควรบูชา คือ วันพฤหัสบดี เวลา 9.30 น. และ 21.30 น. สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระตรีมูรติ
พระตรีมูรติมหาเทพ รัชดาภิเษกศาลพระตรีมูรติ ราชประสงค์ (Central Word)สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติที่ยิ่งใหญ่ ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติดี ผู้ปฏิบัติชอบทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้ามากราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้ (อธิษฐานขอพรเพียงข้อเดียว) เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงมาบังเกิดแด่ข้าพเจ้า ตุมหากัง และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า ทีฆายุกา มหาเดชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ปัญจวีสติ ภยันตะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสตีติ พระตรีมูรติ ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์ 3. พระพิฆเนศพระพิฆเนศ เป็นเทพในศาสนาฮินดู และเป็นอีกหนึ่งที่พึ่งทางจิตใจของคนไทยหลายคน ถือได้ว่าเป็นเทพเจ้าที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน มีความเชื่อว่าองค์พระพิฆเนศจะช่วยขจัดอุปสรรคทั้งปวง อีกทั้งยังช่วยให้ประสบความสำเร็จ สุขสมหวังดั่งปรารถนา เป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ บูชาง่าย จึงเป็นที่นิยมของคนไทยในปัจจุบัน วิธีไหว้พระพิฆเนศ
โอม พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ ทุติยัมปิ พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ ตะติยัมปิด พระพิฆเณศวร สิทธิประสิทธิเม มหาลาโภ คาถาบูชาพระพิฆเนศ (แบบสั้น) โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา (สามารถท่องได้ตั้งแต่ 3,5,7,9 จบ แล้วแต่ตามสะดวก) สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระพิฆเนศ
4. พระแม่อุมาหรืออุมาเทวี พระแม่อุมาผู้เป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด และเป็นเทวีแห่งอำนาจบารมีและวาสนาอันสูงสุด หากใครหมั่นบูชาพระองค์อย่างสม่ำเสมอ พระองค์จะทรงประทานยศถาบรรดาศักดิ์ และความเป็นใหญ่ให้แก่ผู้นั้น วิธีไหว้พระแม่อุมา
โอม เจ มาตา กี โอม ชยะ มาตา กี โอม ไชย มาตา กี โอม ชยะ ศรี ปารวตี มาตา โอม ไจ มาตา ปารวตี โอม มหาอุมาเทวี นมัส โอม มหาศักติ ปารวตี มาตา โอม ศรี มหาอุมาเทวี นะมะฮา โอม ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา เจ นะมะฮา โอม ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ ทุติยัมปิ ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ ตะติยัมปิ ตัสสะ ปารวตี กาลี ทุรคา ปิยัง มะมะ สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระแม่อุมา
5. พระกฤษณะเทพแห่งความรัก การปกครอง การปกป้องดูแล ผู้ที่บูชาพระกฤษณะอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลให้ชีวิตมีความรุ่งเรือง และอยู่เย็นเป็นสุข มีความรักที่อบอุ่นสมหวัง วิธีไหว้พระกฤษณะ
ฮะเร กฤษณะ ฮะเร กฤษณะ กฤษณะ กฤษณะ ฮะเร ฮะเร ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ รามะ รามะ ฮะเร ฮะเร สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระกฤษณะ
วัดเทพมณเพียร6. พระแม่สุรัสวดีชายาแห่งพระพรหมผู้สร้างโลก คือ พระแม่สุรัสวดี พระองค์จะประทับอยู่ในวิมาน ณ สวรรค์ชั้นพรหม หรือ พรหมโลก เป็นมหาเทวีหนึ่งในเทวีสูงสุด ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นเทพแห่ง ความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า และความรอบรู้ด้านศิลปะ วิธีไหว้พระแม่สุรัสวดี
** คาถาบูชาพระแม่สุรัสวดี โอม ศรี สวัสวตี เจ นะ มะ ฮา โอม สรัสวตี อิตถีเมตตัญจะ เทวะปัญจะเร ภะวันตุเม ทุติยัมปิ สรัสวตี อิตถีเมตตัญจะ เทวะปัญจะเร ภะวันตุเม ตะติยัมปิ สรัสวตี อิตถีเมตตัญจะ เทวะปัญจะเร ภะวันตุเม (ที่มา : http://www.xn--12c2c0a4db3n.com/article/12/) สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระแม่สุรัสวดี
7. พระพรหม(ที่มา : https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2415211)พระผู้สร้างโลกและให้กำเนิดสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาล มีความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณเกี่ยวกับพระพรหมว่า ผู้ใดสักการะบูชาพระพรหม จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย มีโชคลาภในด้านการเงิน การงาน สุขภาพ วิธีไหว้พระพรหม 1. กำยานและธูปใช้ได้ทุกกลิ่น 2. ผลไม้แนะนำเป็นกล้วย มะพร้าว สาลี่ ชมพู่ 3. ดอกไม้กลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น ดอกมะลิ ดอกบัว 4. ของต้องห้ามถวาย คือ เนื้อสัตว์ทุกชนิด โอมปะระเมสะนะมัสการัม องการะนิสสะวะ รัง พรหมเรสสะยัม ภูปัสสะวะวิษณุ ไวยะทานะโมโทติลูกปัม ทะระมา ยิกยานัง ยะไวยะลา คะมุลัม สะทา นันตะระ วิมุสะตินัน นะมัตเต นะมัตเตร จะ อะการัง ตโถวาจะ เอตามาตาระยัต ตะมัน ตะรามา กัตถะนารัมลา จะสะระวะ ปะติตัม สัมโภพะกลโล ทิวะทิยัม มะตัมยะ คาถาบูชาพระพรหม (แบบย่อ) โอม อหัม ปรัหมา อัสมิ ผู้ใดสักการะและบูชาพระพรหม จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหลาย (ที่มา : https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2415211) สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระพรหม
8. พระนารายณ์คือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ เป็นหนึ่งใน 3 มหาเทพสูงสุด อันได้แก่ พระพรหม-พระวิษณุ-พระศิวะ พระวิษณุ ทรงมีเทวานุภาพขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง พระองค์ทรงคุ้มครองทุกสรรพชีวิต ทรงบันดาลอำนาจวาสนาแก่มนุษย์ทุกคนที่ระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ อสูรและเหล่ามารทุกตนล้วนแล้วแต่เกรงกลัวอานุภาพแห่งพระองค์ ถือว่าเป็นเทพแห่ง ความรุ่งเรือง มีคนเมตตา วิธีไหว้พระพรหม
2. ธูป กำยาน เครื่องหอม ****แนะนำใช้กลิ่นมะลิ ไม้จันทร์ หรือไม้กฤษณา ห้ามสีดำล้วน หากมีสีดำควรมีลายทอง โอม ศรี มัณ นารายะณายะ นะมะห์ (สามจบ) โอม นะโม ภะคะวะเต วาสุเทวายะ (สามจบ) โอม วิษณุเว นะมะห์ (สามจบ) โอม ศานตะการัม ภุชะคะศะยะนัม ปัทมะนาภัม สุเรศัม วิศวาธารัม คะคะนะสัมทะริศัม เมฆะวะระณัม ศุภางคัม ลักษมีกานธัม กามะละนะยะนัม โยคิภี ธยานะกัมยัม วันเทวิษณุม ภะวะภะยาหะรัม สะระวะ โลกัย กะนาทัม ฯ (หนึ่งจบ) โอม สะศางขะจักกะรัม สะกิริตะ กุณทะลัม สะปิตะวัสตรัม สะระสีรูเหษะณัม สะหาระวักษะสถะละ เกาสะตุภะ ศะริยัม นะมามิ วิษณุม ศิระสา จตุรภุชัม ฯ (หนึ่งจบ) โอม นารายะนายะ วิทมะเห วาสุเทวายะ ธีมะหิ ตันโน วิษณุ ประโจทะยาต (หนึ่งจบ) (ที่มา : https://dhamma.mthai.com/cult/5021.html) สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระนารายณ์
9. พระศิวะ(ที่มา : https://www.prachachat.net/prachachat-hilight/news-859311)“พระศิวะ” หรือ “พระอิศวร” องค์เทพผู้เปี่ยมไปด้วยอำนาจ มีพระแม่อุมาเป็นมเหสีเอก และบุตรคือ พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร ตามตำนานเล่าว่า พระองค์ถือกำเนิดจากพระเวทและพระธรรมช่วยกันเนรมิตขึ้นมาเพื่อสร้างโลก พระศิวะได้รับพลังให้มีอิทธิฤทธิ์สูงสุด สามารถประทานพรให้บุคคลใดก็ได้ มีความกรุณาต่อทุกชีวิตในไตรโลก ผู้ที่ได้รับพรจากพระองค์ จะสมหวังดังปรารถนาทุกประการ วิธีไหว้พระศิวะ
สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรพระศิวะ
เริ่มท่องบทสวดพระศิวะ โดยเริ่มจากการท่อง “โอม นะมัส ศิวายะ” ทั้งหมด 3 จบ ต่อด้วยกล่าวบทสรรเสริญพระศิวะ โอม กระปูระเคารัม กรุณาวะตารัม สัมสาระสารัม ภุชะเคน ทระหารัม สะทาวะสันตัม หะริทะยาระวินเท ภะวัมภะวาณิ สะหิตัม นะมามิ เมื่อสวดคาถาบูชาพระศิวะเรียบร้อย ให้ขอพรในสิ่งที่ตนเองปรารถนา สิ่งที่ขอจากพระศิวะ ควรเป็นเรื่องราวดีๆ สิ่งดีๆ ไม่ควรขอในเรื่องที่ผิดศีลธรรม ใครก็ตามที่มาพรกับพระศิวะจะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม จึงจะทำให้อำนาจของพระศิวะช่วยบันดาลให้พรที่คุณขอนั้นสำเร็จทุกประการ (ที่มา : https://www.wongnai.com/articles/worshiping-lord-shiva) 10. ท้าวจตุโลกบาลเทวดาทั้งผู้อยู่ใกล้ชิดมนุษย์และคอยประทานพร ช่วยเหลือมนุษย์ ที่มั่นรักษาศีล ทำความดี สร้างกุศล “ท้าวจตุโลกบาล” หรือ ท้าวมหาราชทั้ง 4 ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา หรือสวรรค์ชั้นที่ 1 ที่อยู่ใกล้มนุษย์มากที่สุด โดยทั้ง 4 มหาราช มีหน้าที่การปกครองในแต่ละทิศ โดยสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา นับเป็นสถานที่ พิเศษกว่ามนุษย์โลกด้านความเป็นอยู่และความสุข ดามาจรเทพชั้นนี้เรียกรวมกันว่า “จตุมหาราชิกเทวดา” เป็นเทพด้านโรคาภัยทั้งปวง ด้านอุบัติเหตุจากการเดินทาง วิธีไหว้ท้าวจตุโลกบาล
ตั้งนะโม (3 จบ) ปุริมัง หิสัง ธะตะรัฎ โฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก ปิจฉิเมนะ วิรูปักโย กุเวโร อุตตะรัง หิสัง จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา ทัททัฬหะมานะ อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุโน สถานที่และตำแหน่งสำหรับบูชาและขอพรท้าวจตุโลกบาล
เกสร พลาซ่า(ลุมพินี)เทพเจ้าที่พวกเรา สายมู เคารพนับถือนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทพองค์ไหน ขอให้เราเลือกบูชาตามสิ่งที่อยากจะขอพรจากท่าน เลือกสถานที่และของบูชาได้ตามสะดวก เพื่อให้การขอพรของเราสบายใจผู้ขอมากทึ่สุด และเราสมหวังในสิ่งที่เราอยากได้ด้วย |