การ ตลาด ย ค 4.0 ม ล กษณะ อย างไร

กลยุทธ์นี้ต้องการให้คุณดำเนินการสอบถามและวิจัยผลตอบกลับของลูกค้าแต่ละคน เสนอวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ ช่วยเหลือลูกค้าให้รอดพ้นจากปัญหาที่เผชิญอยู่ และเสนอขายสินค้าหรือบริการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวของลูกค้า

3. การอยู่ในวงจรของประสบการณ์ลูกค้า

การให้ความสนใจในประสบการณ์ของลูกค้าของคุณจะทำให้สามารถเข้าถึงสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ ซึ่งการรับฟังและตอบคำถามพวกเขานั้นจะช่วยคุณในการวางแผนการตลาดได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากสิ่งที่คุณได้เสนอให้ลูกค้าของคุณแล้ว คุณควรสอบถาม ติดตาม และค้นหาว่ามีอะไรอีกหรือไม่ที่ลูกค้าต้องการ และพวกเขากำลังประสบกับปัญหาอะไรอยู่บ้างหรือไม่ เพื่อจะได้หาคำตอบให้เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการที่ธุรกิจมีอยู่นั่นเอง

คุณควรใช้กลยุทธ์ดังกล่าวนี้คิดค้นหาวิธีการนำเสนอเพื่อการเข้าถึงลูกค้าที่ได้ผลดีที่สุด และช่วยพวกเขาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

กลยุทธ์ 5A ใช้ร่วมกับทักษะด้านการเก็บรวบรวมข้อมูลขั้นสรุปของลูกค้าของคุณ และแปลความหมายข้อมูลเหล่านั้นเพื่อทำการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่า คุณจะสามารถดูแลรักษาลูกค้าของคุณไว้ได้อย่างไร

4. การใช้แพลตฟอร์มทางการตลาดหลากหลายช่องทาง

คุณต้องตรวจสอบว่าช่องทางไหนที่ลูกค้าของคุณมักจะเข้ามาเห็นข้อมูลหรือข้อเสนอของคุณ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คุณจึงควรพิจารณาเว็บไซต์ อีเมล และลิงก์อิน เป็นต้น เพราะช่องทางเหล่านี้จะเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดในการวางสินค้าของคุณ ซึ่งความหลากหลายของแพลตฟอร์มเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ามีโอกาสพบข้อเสนอของคุณมากขึ้น แต่แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้น คุณจึงต้องออกแบบเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

คำถามหนึ่งที่คุณควรถามตัวเองก็คือ อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดลูกค้าให้มาที่แพลตฟอร์มนั้นๆ อะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นหรือต้องการทำ เมื่อคุณเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้วคุณก็จะสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดลูกค้าได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วยวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา และตามรูปแบบการใช้งานของแพลตฟอร์มนั้นๆ อีกด้วย

5. การทำการตลาดโดยการสร้างความผูกพันกับลูกค้า

การตลาดดังกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีศักยภาพ ผ่านความกระตือรือร้นและความเป็นลูกค้าเก่าของธุรกิจ นอกจากนี้ ยังรวมถึงคนกลางและบุคคลอื่นๆ ที่สนใจในสิ่งที่คุณกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ด้วย

วิธีการที่คุณจะสามารถสร้างความผูกพันกับพวกเขามักประกอบด้วยการสื่อสารที่ต่อเนื่อง การใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน ข้อเสนอของบริการหลังการขาย และการให้ลูกค้าใช้แพลตฟอร์มเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ของพวกเขา รวมถึงมีการตอบกลับพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ

คุณสามารถยืมแนวคิดบางอย่างของการตลาดแบบดั้งเดิมมาใช้ได้ โดยการให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณในร้าน

ยุคของการตลาด ได้พัฒนาเปลี่ยนยุค เปลี่ยนสมัยมาเรื่อยๆ สาเหตุหลักๆ มาจากการที่ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยหากเรามุ่งแต่ทำการตลาดไม่สอดคล้องกับยุคสมัยทางการตลาดที่เปลี่ยนไป ก็เท่ากับว่า การทำการตลาดของคุณประสิทธิภาพจะคงเหลือแค่ ศูนย์ เท่านั้น

เรามาทบทวนกันก่อนดีกว่าครับว่ายุคการตลาดที่ผ่านมามียุคอะไรบ้าง

ยุคที่ 1 เรียกว่า " การตลาด 1.0 " คือการตลาดที่มุ่งเน้นในการผลิตสินค้าให้มากที่สุด ปริมาณมากที่ สุด เพื่อให้เพียงพอต่อประชากรที่เพิ่มขึ้น ยุคที่ 2 เรียกว่า " การตลาด 2.0 " คือการตลาดที่มุ่งเน้นในเรื่องความต้องการของลูกค้า ส่วนปริมาณ จะถูกลดความสำคัญลงไปมาก ยุคที่ 3 เรียกว่า " การตลาด 3.0 " คือยุคของการตลาดที่กำลังจะผ่านไป เป็นการตลาดที่เน้นในเรื่อง จิตวิญญาณ ของลูกค้า มุ่งเสนอความรับผิดชอบต่อสังคม นอก เหนือไปจากความต้องการของลูกค้า ในยุคนี้เองที่การตลาดมุ่ง ในเรื่องการสร้าง "แบรนด์" เป็นหลัก เน้นภาพลักษณ์ของแบรนด์ รับผิดชอบต่อโลกมากขึ้น โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม

การ ตลาด ย ค 4.0 ม ล กษณะ อย างไร

และก็มาถึงยุค " การตลาด 4.0 " ที่เข้ามาแล้ว เป็นยุคแห่งความร่วมมือตอบสนองความต้องการของลูกค้า เป็นยุคของ การครอบคลุม ( Inclusivity ) ยุคแห่งความแปลกแยก แบบตัวใครตัวมันกำลังจะยุติลง อันเนื่องมาจากเทคโนโลยี Internet ที่ช่วยให้คนมีการรวมกลุ่มกันมากขึ้น จนทำให้ กระทบต่อผู้คนในโลกใบนี้ พลังอำนาจไม่ได้อยู่ในมือของปัจเจกบุคคล และ แต่อยู่ในอิทธิพลของกลุ่มสังคม

ดังนั้นในบทความนี้ผมจะมาสรุป ลักษณะของ " การตลาด 4.0 " ให้คุณได้ทราบ ว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่คุณจะได้ปรับตัวคุณ ปรับธุรกิจของคุณ ปรับการทำการตลาดของคุณ ให้สอดคล้องกับ ยุคการตลาด 4.0 นี้ และเป็นเรื่องแปลกน่ะครับ ที่คนในประเทศต่างรู้ว่า โลกนี้กำลังก้าวเข้าสู่การตลาด 4.0 แต่ เกือบ 80% ไม่ทราบว่า การตลาด 4.0 มีลักษณะเป็นอย่างไร จึงทำให้ทำการตลาดไม่ถูก ไม่ตรงจุด เอาล่ะครับเรามาเริ่ม กันเลยดีกว่า

1. พลังต่างๆ ที่สร้างผลกระทบการตลาด จะไม่อยู่ในมือของบุคคล หรือปัจเจกบุคคลอีกต่อไป แต่จะอยู่ใน พลังอำนาจของกลุ่มสังคม

ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า ทุกวันนี้ คนทั่วไปจะเชื่อสิ่งที่ไม่มีตัวตนมากขึ้น เช่นเชื่อการคอมเมนท์ ในสื่อสังคมออนไลน์มากกว่าเชื่อ บุคคลที่อยู่หน้าตนเสียอีก ยิ่งมีการร่วมกลุ่มกันมากขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ ก็จะยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น การเชื่อในตัวบุคคลจะน้อยลง แต่จะเชื่อในกลุ่มบุคคลแทน เป้าหมายทางการตลาด จะเปลี่ยนจาก เอกเทศ ( Exclusivity ) มาเป็น การครอบคลุม ( inclusivity ) มากขึ้น

ฉะนั้นหากคุณจะกำหนดเป้าหมายทางการตลาดเฉพาะของคุณเอง โดยไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมสร้างเป้าหมายด้วยกัน จะเป็นความคิดที่ผิดถนัดครับ ในยุคการตลาด 4.0 นี้ การแบ่งแยกอุตสาหกรรมต่างๆ ออกจากกันอย่างสิ้นเชิงนั้น กำลังจะหายไป การรวมตัว และการหลอมรวมกันของอุตสาหกรรมตั้งแต่ 2 ประเภทขึ้นไปจะมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีวัตถุประสงค์ และเป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อสนองความต้องการของลูกค้านั่นเอง

สังเกตุง่ายๆ ผมขอยกตัวอย่าง บัตรเครดิตก็แล้วกันน่ะครับ สมัยก่อนบัตรเครดิต หากเป็นของธนาคารใด ก็จะเป็นของธนาคารนั้นๆ ไป แต่ในยุคการตลาดที่ 4.0 นี้คุณจะเริ่มเห็น การรวมตัวกันของพันธมิตรบัตรเครดิตมากขึ้น เช่นบัตรเครดิต Visa ของค่าย ธนาคารกสิกรไทย ที่รวมกับ PTT Blue Card ของ ปตท. สามารถรับสิทธิพิเศษในการเติมน้ำมัน หรือดื่มกาแฟตามปั้มน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศเป็นต้น

2. การแข่งขันทางการตลาด เปลี่ยนจากแนวดิ่ง เป็นแนวระนาบ

อย่าเพิ่ง งง ไปน่ะครับ ผมกำลังหมายถึงอะไร คิดภาพตามครับ เทคโนโลยีอินเตอร์ทำให้เกิด ปรากฎการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้ว คือ สนามการแข่งขันระหว่างธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็ก เกิดความเท่าเที่ยมกัน ข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางการตลาดของบริษัทใหญ่ๆ จะไม่ได้เปรียบ ธุรกิจขนาดเล็กอีกต่อไปแล้ว

ขนาดของธุรกิจ จะไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการแข่งขันอีกต่อไป ต่อไปนี้ ยุคการตลาด 4.0 จะเป็นการแข่งขันแนบระนาบ ที่จะไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบอีกต่อไป ธุรกิจเล็กๆ ท้องถิ่น ที่เล็กกว่า ใหม่กว่า สามารถแข่งขันกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ได้อย่างสบาย การผูกขาดการตลาดของธุรกิจใหญ่ จะไม่มีอีกแล้ว

สาเหตุหลักมาจากเทคโนโลยี โดยเฉพาะอินเตอร์เน็ตครับ โดย คริส แอนเดอร์สัน ผู้แต่งหนังสือ " Long Tail " ที่กระฉ่อนโลก กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า การตลาดจะขยับหนีจากแบรนด์หลักที่ขายได้มากมาย ไปสู่แบรนด์ที่เป็นที่ต้องการของคนกลุ่มน้อย และขายได้ไม่มาก อินเตอร์เน็ต ทำให้บริษัท และแบรนด์ขนาดเล็ก ไม่มีข้อจำกัดทางกายภาพ การแข่งขัน และโลจิสติกส์ อีกต่อไปแล้ว

โดยสินค้า และผลิตภัณฑ์ของธุรกิจเล็กๆ เหล่านี้ จะมีคุณภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ของธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ว่ามีราคาต่ำกว่ามาก และทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ทีเจาะจงเข้าถึงเป้าหมายอย่างจัง และหนักหน่วง

3. เปลี่ยนจากยุคเฉพาะบุคคล มาสู่ยุคแห่งการรวมตัวทางสังคม

ผมพูดไม่ผิดครับ และทุกๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ก็คงจะรู้สึกบ้างแล้วว่า การรวมตัวทางสังคม หรือ " กลุ่ม " นั้นเริ่มมีอิทธิพลต่อชีวิตของคุณมากขึ้น ผลจากการที่ยุคนี้ มีการเชื่อมโยงคนถึงกันง่ายดายมากขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส สังคม Social Network เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคุณไม่มากก็น้อย และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ คนในโลกนี้ส่วนมากจะเชื่อถือ กลุ่มสังคมออนไลน์เหล่านี้มากกว่าตัวบุคคล ที่พบเห็นกันอยู่ตรงหน้าเสียอีก

การรวมตัวทางสังคม จะมีการช่วยเหลือกันภายใน จะรวมตัวกันเพื่อปกป้องสิทธิมากขึ้น สังคมเหล่านี้จะยิ่งมีบทบาทในการโน้มน้าวในมากขึ้น จนทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อ มีการพูดคุยในสังคมในเรื่องแบรนด์ บริษัท สินค้า ผู้บริโภคจะไม่ใช่เป้านิ่ง ที่ถูกธุรกิจจู่โจมด้วยสินค้า และการเอาเปรียบอีกต่อไป กลุ่มสังคมเหล่านี้พร้อมที่จะรวมกันโจมตี ผู้ที่เอาเปรียบตนให้จมดิน

โดยหากธุรกิจ คิดจะเอาเปรียบผู้บริโภค ด้วยสินค้า และผลิตภัณฑ์ที่ตนมีอยู่ ธุรกิจเหล่านี้จะถูกลงโทษด้วย กลุ่มสังคมที่มีการรวมตัวกันเพื่อปกป้องสิทธิ์ แค่ชั่วโมงเดียวก็จะถูกประนาม เป็นหมื่น เป็นแสน หรือไม่ก็เป็นล้านคนทีเดียว คิดดูสิครับจะได้เกิดใหม่ธุรกิจนี้

โดยเฉพาะบริษัท และแบรนด์ที่มีการอวดอ้างชื่อเสียง สรรพคุณ ของสินค้าของตนจนเว่อ และเกินจริง ไม่ต้องกังวลอะไรเลยครับ พวกที่อวดอ้างเหล่านี้จะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป ในโลกการตลาดดิจิตอล 4.0 นี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยครับ ที่ธุรกิจเหล่านี้ที่อวดอ้างเกินจริง จะซุกซ่อนจุดบกพร่อง และไม่สนคำร้องเรียนของลูกค้า ยิ่งซ่อนยิ่งโผล่ครับ ผมเตือนไว้ก่อน

เอาล่ะครับ ลักษณะการตลาด 4.0 พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้แหล่ะครับ คุณลองคิดพิจารณาดูว่าการตลาด ที่คุณใช้อยู่ขัด หรือสอดคล้องกับลักษณะเหล่านี้หรือไม่ หากขัดกัน ขอให้คุณปรับเปลี่ยนโดยด่วน ก่อนจะสายเกินไป

และโดยเฉพาะธุรกิจ ที่มุ่งแต่จะเอาเปรียบผู้บริโภค และหวังว่าเวลาจะช่วยลดกระแสลงเหมือนการตลาดยุคก่อนแล้วล่ะก้อ คุณคิดผิดมหันต์

การตลาด 4.0 มีลักษณะอย่างไร

Marketing 4.0 คือ การตลาดที่เอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคหรือลูกค้ามากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการใช้เทคโนโลยีก็คือ การเอาใจใส่ “ผู้คน” ค่ะ ยิ่งคุณนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในแบบที่ถึงใจผู้บริโภคได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น

Marketing 4.0 คืออะไร ให้อธิบาย พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

คือ การตลาดในยุคปัจจุบันที่มีการเอาเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค หรือลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีที่หลากหลายมาประยุกต์ใช้ ให้ได้ในแบบที่ถึงใจผู้บริโภคได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น การมีช่องทางให้ลูกค้าได้แสดงความคิดเห็น, รีวิวสินค้า, etc.

การตลาดยุค 5.0 มีลักษณะอย่างไร

ในยุคของการตลาด 5.0 คือยุคของการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Data-Driven และการให้ความสำคัญกับข้อมูลอย่าง Big Data เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล และใส่ใจกับการเก็บข้อมูลรวมถึง Insight เพื่อเข้าใจลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจุดนี้เอง จึงเป็นที่มาให้ทั้งธุรกิจและนักการตลาดต้องให้ความสำคัญกับ MarTech หรือ Marketing Technology ที่ให้ได้ ...

การตลาดในยุคปัจจุบัน เป็นอย่างไร

การตลาดยุคปัจจุบันเน้นเรื่องการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในช่องทาง Omni Channel เป็นสำคัญ โดยมุ่งที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์อย่างเท่าๆ กัน โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเป็นช่องทางใดมากกว่ากัน ตราบใดที่สามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีกลยุทธ์ทางการ ...