วิธีออกแบบห้องนอน ควรวางเฟอร์นิเจอร์ตรงไหนดี มาดูเทคนิคการครีเอต Layout สำหรับตกแต่งห้องนอน ทำยังไงให้ออกมาลงตัว ห้องนอน ถือเป็นห้องที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของบ้าน เพราะนอกจากจะใช้นอนหลับพักผ่อนแล้ว บางคนยังใช้ทำงาน อ่านหนังสือ และที่ดูทีวีประจำอีกต่างหาก ซึ่งถ้าหากใครอยากออกแบบห้องนอนให้สวย ดี มีประสิทธิภาพ และตรงตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำเทคนิคการครีเอต Layout สำหรับออกแบบห้องนอนมาฝากแล้วค่ะ 1. ดูจากไลฟ์สไตล์และการใช้งาน เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับการออกแบบห้องนอนก็คือ การคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าหากใครใช้ห้องนอนทำงานด้วย ก็ควรมีโต๊ะทำงานแทนโต๊ะข้างเตียง ถ้าหากใครใช้ห้องนอนเป็นพื้นที่พักผ่อนอย่างเดียว ก็ไม่ควรมีโทรทัศน์เพราะจะรบกวนการนอน สำหรับคนที่ชอบมองวิวทิวทัศน์ ก็มีติดผ้าม่าน 2 ชั้นทั้งแบบทึบแสงและโปร่งแสง ไว้ช่วยลดความร้อน แต่ก็ยังมองเห็นภายนอกได้ สำหรับคนที่มีของที่อยากได้หลายอย่าง อันนั้นดูดีอันนี้ก็อยากได้ ให้ลิสต์รายชื่อของทั้งหมดออกจาก จากนั้นจัดลำดับความสำคัญโดยเรียงจากความจำเป็นในการใช้ เช่น จำเป็นมาก จำเป็นน้อย และไม่จำเป็น ก็ช่วยให้ตัดส่วนที่จำเป็นต้องซื้อออกไปได้ง่ายขึ้น 2. ออกแบบให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก ห้องนอนที่ดีควรออกแบบให้มีพื้นที่ว่างมากพอสำหรับการเดินไปยังจุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ การจัดเฟอร์นิเจอร์ให้ชิดติดผนังฝั่งใดฝั่งหนึ่ง พร้อมทั้งเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม เช่น การหันหัวเตียงนอนชิดตรงกลางผนังฝั่งเดียว แล้วเหลือพื้นที่รอบ ๆ เตียงเอาไว้ หรือการตั้งตู้โชว์ไว้บริเวณมุมใดมุมหนึ่งห้องเพื่อลดการใช้พื้นที่และไม่กีดขวางทางเดิน ซึ่งเทคนิคนี้เป็นวิธีที่โรงแรมส่วนใหญ่นำมาใช้ในการออกแบบห้องแบบ เพราะจะนอกจากจะทำให้ภายในห้องดูกว้างขวางขึ้น อีกทั้งยังปลอดโปร่งเหมาะกับการพักผ่อนอีกด้วย 3. วางแผนให้ครอบคลุมกับสิ่งจำเป็น เวลาออกแบบห้องนอน คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่เตียงนอนว่า ต้องวางตรงไหน ใช้ขนาดเท่าไร และหันหัวไปทางทิศใด แต่อย่าลืมว่านอกจากเตียงนอนแล้ว ก็ยังมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นที่ต้องนำมาจัดวางด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะข้างเตียง ตู้เก็บของ โทรทัศน์ และเก้าอี้ ฉะนั้นตอนออกแบบก็อย่าลืมเผื่อที่ว่างสำหรับของใช้ที่จำเป็นเหล่านี้ด้วย 4. เลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสเกลห้อง ขนาดและฟังก์ชันของของที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งห้องนอน เป็น 2 สิ่งที่มาคู่กัน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากขนาดพื้นที่ เพราะถ้าห้องนอนมีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ก็จะให้ห้องนอนดูอึดอัดคับแคบ อีกทั้งยังดูรกแถมกินพื้นที่ แต่หากเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ใช้ของเล็ก ๆ แม้ห้องจะกว้างขวางแต่ก็ทำให้ห้องนอนดูโล่งเกินไป 5. ตำแหน่งและทิศทางก็สำคัญ ห้องนอนเป็นห้องที่ไว้ใช้สำหรับพักผ่อน ดังนั้นพยายามเลือกห้องที่อยู่บริเวณมุมบ้าน เพราะมีหน้าต่างจากผนังทั้งสองฝั่ง อยู่ติดกับระเบียงหรือสวน ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องนอนสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติแล้ว ยังทำให้มองเห็นความงดงามของวิวนอกหน้าต่าง ที่จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก นอนหลับได้ง่ายขึ้น เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ทุกคนก็น่าจะได้เคล็ดลับในการออกแบบห้องนอนให้สวยงาม เป๊ะปังกันไปพอสมควรแล้ว เอาเป็นว่าใครมีแผนจะออกแบบหรือรีโนเวทห้องนอนใหม่เร็ว ๆ นี้ ก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ตามสะดวกเลยนะคะ หลังจากผ่านการฝึกขั้นต้นมาครบ 3 เดือนแล้ว ได้เรียนรู้การควบคุมกล้ามเนื้อ รู้จักความปวดระหว่างฝึกและการปวดแบบ DOMS มีความคุ้นเคยกับท่าฝึกว่าควรยกอย่างไรพอสมควร ทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะสร้างกล้ามเนื้อแบบที่เราต้องการแล้วครับ ระยะเวลาในการสร้างกล้ามเนื้อ ก่อนอื่นเราจะต้องมีเป้าหมายก่อนว่าจะต้องเพิ่มกล้ามเนื้อหรือ lean body mass มากแค่ไหน ถึงจะดูได้สัดส่วนอย่างที่เราต้องการ ถ้าคุณยังคิดไม่ออก ลองใช้วิธีแบบผมก็ได้ครับ
ที่นี้พอได้เป้าหมายขนาดกล้ามเนื้อที่ต้องการแล้วก็มาดูว่าเราจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างกล้ามเนื้อ โดยปกติจะในเวลา 1 เดือนในเราสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ 1-2% (บางคนอาจได้มากกว่านี้) เช่น ถ้าผู้ชายสูง 170 ซม. น้ำหนัก 50 กก. มีไขมัน 8% ต้องการได้หุ่นแบบนักกีฬาจะต้องมี lean body mass เท่าไหร่และใช้ระยะเวลาอย่างน้อยกี่เดือน สูง 170 น้ำหนัก 50 กก. ไขมัน 8% = ปัจจุบันมี lean mass 46 กก. (50 - 50 x 8%) ควรมีกล้ามเนื้อ/lean body mass = 70 กก. (170-100) จะต้องเพิ่มกล้ามเนื้ออีก 24 กก. (70-46) คำนวณได้จาก 46 x 2% (เดือนละ 2%) = 0.92 กก. แล้วเอามาหารด้วย 24 จะได้เท่ากับ 26 เดือน... นานเนอะ วิธีออกแบบโปรแกรมฝึก โดยจะเน้นไปที่สัดส่วนของแต่ละกล้ามเนื้อและขนาดกล้ามเนื้อที่ด้อยกว่าส่วนอื่น (Weak-point) โดยจะเพิ่มท่าฝึกให้มากขึ้น เพิ่มเซตมากขึ้น ทำให้ต้องแบ่งวันออกอย่างน้อย 3-4 วัน เช่น |