ว ธ การออกแบบเวท ห องประช ม 3 d

วิธีออกแบบห้องนอน ควรวางเฟอร์นิเจอร์ตรงไหนดี มาดูเทคนิคการครีเอต Layout สำหรับตกแต่งห้องนอน ทำยังไงให้ออกมาลงตัว

ว ธ การออกแบบเวท ห องประช ม 3 d

ห้องนอน ถือเป็นห้องที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของบ้าน เพราะนอกจากจะใช้นอนหลับพักผ่อนแล้ว บางคนยังใช้ทำงาน อ่านหนังสือ และที่ดูทีวีประจำอีกต่างหาก ซึ่งถ้าหากใครอยากออกแบบห้องนอนให้สวย ดี มีประสิทธิภาพ และตรงตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตละก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำเทคนิคการครีเอต Layout สำหรับออกแบบห้องนอนมาฝากแล้วค่ะ

1. ดูจากไลฟ์สไตล์และการใช้งาน

เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างสำหรับการออกแบบห้องนอนก็คือ การคำนึงถึงลักษณะการใช้งาน เช่น ถ้าหากใครใช้ห้องนอนทำงานด้วย ก็ควรมีโต๊ะทำงานแทนโต๊ะข้างเตียง ถ้าหากใครใช้ห้องนอนเป็นพื้นที่พักผ่อนอย่างเดียว ก็ไม่ควรมีโทรทัศน์เพราะจะรบกวนการนอน สำหรับคนที่ชอบมองวิวทิวทัศน์ ก็มีติดผ้าม่าน 2 ชั้นทั้งแบบทึบแสงและโปร่งแสง ไว้ช่วยลดความร้อน แต่ก็ยังมองเห็นภายนอกได้

สำหรับคนที่มีของที่อยากได้หลายอย่าง อันนั้นดูดีอันนี้ก็อยากได้ ให้ลิสต์รายชื่อของทั้งหมดออกจาก จากนั้นจัดลำดับความสำคัญโดยเรียงจากความจำเป็นในการใช้ เช่น จำเป็นมาก จำเป็นน้อย และไม่จำเป็น ก็ช่วยให้ตัดส่วนที่จำเป็นต้องซื้อออกไปได้ง่ายขึ้น

2. ออกแบบให้มีพื้นที่เดินได้สะดวก

ห้องนอนที่ดีควรออกแบบให้มีพื้นที่ว่างมากพอสำหรับการเดินไปยังจุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ การจัดเฟอร์นิเจอร์ให้ชิดติดผนังฝั่งใดฝั่งหนึ่ง พร้อมทั้งเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม เช่น การหันหัวเตียงนอนชิดตรงกลางผนังฝั่งเดียว แล้วเหลือพื้นที่รอบ ๆ เตียงเอาไว้ หรือการตั้งตู้โชว์ไว้บริเวณมุมใดมุมหนึ่งห้องเพื่อลดการใช้พื้นที่และไม่กีดขวางทางเดิน ซึ่งเทคนิคนี้เป็นวิธีที่โรงแรมส่วนใหญ่นำมาใช้ในการออกแบบห้องแบบ เพราะจะนอกจากจะทำให้ภายในห้องดูกว้างขวางขึ้น อีกทั้งยังปลอดโปร่งเหมาะกับการพักผ่อนอีกด้วย

ว ธ การออกแบบเวท ห องประช ม 3 d

3. วางแผนให้ครอบคลุมกับสิ่งจำเป็น

เวลาออกแบบห้องนอน คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสไปที่เตียงนอนว่า ต้องวางตรงไหน ใช้ขนาดเท่าไร และหันหัวไปทางทิศใด แต่อย่าลืมว่านอกจากเตียงนอนแล้ว ก็ยังมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นที่ต้องนำมาจัดวางด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะข้างเตียง ตู้เก็บของ โทรทัศน์ และเก้าอี้ ฉะนั้นตอนออกแบบก็อย่าลืมเผื่อที่ว่างสำหรับของใช้ที่จำเป็นเหล่านี้ด้วย

4. เลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสเกลห้อง

ขนาดและฟังก์ชันของของที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งห้องนอน เป็น 2 สิ่งที่มาคู่กัน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากขนาดพื้นที่ เพราะถ้าห้องนอนมีขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ก็จะให้ห้องนอนดูอึดอัดคับแคบ อีกทั้งยังดูรกแถมกินพื้นที่ แต่หากเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ใช้ของเล็ก ๆ แม้ห้องจะกว้างขวางแต่ก็ทำให้ห้องนอนดูโล่งเกินไป

5. ตำแหน่งและทิศทางก็สำคัญ

ห้องนอนเป็นห้องที่ไว้ใช้สำหรับพักผ่อน ดังนั้นพยายามเลือกห้องที่อยู่บริเวณมุมบ้าน เพราะมีหน้าต่างจากผนังทั้งสองฝั่ง อยู่ติดกับระเบียงหรือสวน ซึ่งนอกจากจะทำให้ห้องนอนสว่างด้วยแสงจากธรรมชาติแล้ว ยังทำให้มองเห็นความงดงามของวิวนอกหน้าต่าง ที่จะช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก นอนหลับได้ง่ายขึ้น

เอาล่ะ มาถึงตอนนี้ทุกคนก็น่าจะได้เคล็ดลับในการออกแบบห้องนอนให้สวยงาม เป๊ะปังกันไปพอสมควรแล้ว เอาเป็นว่าใครมีแผนจะออกแบบหรือรีโนเวทห้องนอนใหม่เร็ว ๆ นี้ ก็ลองนำไปปรับใช้กันได้ตามสะดวกเลยนะคะ

หลังจากผ่านการฝึกขั้นต้นมาครบ 3 เดือนแล้ว ได้เรียนรู้การควบคุมกล้ามเนื้อ รู้จักความปวดระหว่างฝึกและการปวดแบบ DOMS มีความคุ้นเคยกับท่าฝึกว่าควรยกอย่างไรพอสมควร ทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะสร้างกล้ามเนื้อแบบที่เราต้องการแล้วครับ

ระยะเวลาในการสร้างกล้ามเนื้อ ก่อนอื่นเราจะต้องมีเป้าหมายก่อนว่าจะต้องเพิ่มกล้ามเนื้อหรือ lean body mass มากแค่ไหน ถึงจะดูได้สัดส่วนอย่างที่เราต้องการ ถ้าคุณยังคิดไม่ออก ลองใช้วิธีแบบผมก็ได้ครับ

  • ถ้าไม่ได้ต้องการให้มองเห็นขนาดกล้ามเนื้อออกมาอย่างชัดเจน แต่เน้นสุขภาพดี ระบบเผาผลาญดี ให้ใช้ส่วนสูงลบ 100 แล้วคูณด้วย 0.9 สำหรับผู้ชาย (ไขมัน 10%) และส่วนสูงลบ 110 แล้วคูณด้วย 0.8 สำหรับผู้หญิง (ไขมัน 20%) ตัวอย่าง ผู้ชายสูง 170 ซม. (170-100)x0.9 = lean body mass ควรมี 63 กก. ผู้หญิงสูง 160 ซม. (160-110)x0.8 = lean body mass ควรมี 40 กก.
  • ถ้าต้องการให้มองเห็นขนาดกล้ามเนื้อออกมาอย่างชัดเจนแบบนักกีฬา/นายแบบ ให้ใช้ส่วนสูงลบ 100 สำหรับผู้ชาย และลบ 110 สำหรับผู้หญิง ตัวอย่าง ผู้ชายสูง 170 ซม. (170-100) = lean body mass ควรมี 70 กก. ผู้หญิงสูง 160 ซม. (160-110) = lean body mass ควรมี 50 กก.
  • หรือถ้าต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อมากๆแบบนักเพาะกาย ก็ให้ใช้ส่วนสูงลบ 100 แล้วบวก 10 (เป็นอย่างน้อยสำหรับผู้ชายครับ) ตัวอย่าง ผู้ชายสูง 170 ซม. (170-100+10) = lean body mass ควรมี 80 กก.
  • ทั้งหมดเป็นการคำนวณเป้าหมายแบบคร่าวๆนะครับ

ที่นี้พอได้เป้าหมายขนาดกล้ามเนื้อที่ต้องการแล้วก็มาดูว่าเราจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการสร้างกล้ามเนื้อ โดยปกติจะในเวลา 1 เดือนในเราสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ 1-2% (บางคนอาจได้มากกว่านี้) เช่น ถ้าผู้ชายสูง 170 ซม. น้ำหนัก 50 กก. มีไขมัน 8% ต้องการได้หุ่นแบบนักกีฬาจะต้องมี lean body mass เท่าไหร่และใช้ระยะเวลาอย่างน้อยกี่เดือน

สูง 170 น้ำหนัก 50 กก. ไขมัน 8% = ปัจจุบันมี lean mass 46 กก. (50 - 50 x 8%) ควรมีกล้ามเนื้อ/lean body mass = 70 กก. (170-100) จะต้องเพิ่มกล้ามเนื้ออีก 24 กก. (70-46) คำนวณได้จาก 46 x 2% (เดือนละ 2%) = 0.92 กก. แล้วเอามาหารด้วย 24 จะได้เท่ากับ 26 เดือน... นานเนอะ

วิธีออกแบบโปรแกรมฝึก โดยจะเน้นไปที่สัดส่วนของแต่ละกล้ามเนื้อและขนาดกล้ามเนื้อที่ด้อยกว่าส่วนอื่น (Weak-point) โดยจะเพิ่มท่าฝึกให้มากขึ้น เพิ่มเซตมากขึ้น ทำให้ต้องแบ่งวันออกอย่างน้อย 3-4 วัน เช่น