- คุณอยู่ที่:
- บทความ
- Network - เครือข่ายและการเชื่อมต่อ
- รูปแบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ Computer Network (คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ค) 4 รูปแบบ
หมวดหลัก: บทความ หมวด: Network - เครือข่ายและการเชื่อมต่อ Network - เครือข่ายและการเชื่อมต่อ อัปเดตล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2565 14 พฤศจิกายน 2565
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คือเครือข่ายของการสื่อสารที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไปโดยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ โดยในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆในเครือข่ายจะใช้สายเคเบิลในการเชื่อมต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันโดยใช้เครือข่ายไร้สายหรืออินเทอร์เน็ตนั่นเอง โดยในการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการเชื่อมต่อ 4 แบบด้วยกัน
รูปแบบเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งได้ 4 แบบ ดังนี้
- เครือข่ายแบบบัส Bus topology (บัสโทโปโลยี) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันแบบเส้นตรงหรือแบบอนุกรมนั่นเอง โดยการเชื่อมต่อแบบบัสจะไม่ต้องอาศัยฮับหรือสวิตส์ในการควบคุมการส่งข้อมูลแค่อาศัยการแบ่งเวลาการส่งข้อมูลหรือใช้ความถี่ของสัญญาณเอา
- เครือข่ายรูปดาว Star Network (สตาเน็ตเวิร์ค) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นแบบดาวที่มีหลายๆแฉกโดยตรงกลางดาวจะมี ฮับเป็นตัวศูนย์กลางในการควบคุมการส่งข้อมูล โดยจะมีส่งข้อมูลได้เพียงโหนดเดียว จะไม่สามารถมีหลายๆโหนดส่งข้อมูลพร้อมๆกันได้เพราะป้องกันการชนกันของข้อมูล
- เครือข่ายแบบวงแหวน ring topology (ริงโทโปโลยี) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็นวงกลมโดยในการส่งข้อมูลก็จะส่งต่อๆกันไปจนกว่าจะเจอเครื่องปลายทาง โดยเครื่องคอมแต่ละเครื่องจะมีตัวตรวจสอบข้อมูลที่ส่งมาถ้าหากส่งข้อมูลมาเครื่องของตัวเองก็เก็บข้อมูลนั้นไว้แต่หากไม่ใช่ก็ส่งไปยังเครื่องถัดไป
- เครือข่ายแบบตาข่าย Mesh topology (เมซโทโปโลยี)เป็นการเชื่อต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยจะมีตัวเราเตอร์เป็นตัวช่วยในการคำนวนระยะทางอัตโนมัตเมื่อเครื่องนั้นจะส่งข้อมูลไปให้เครื่องปลายทาง โดยในการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายจะเชื่อมต่อเข้าหากับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีการติดต่อสื่อสารกัน
รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายมีมากมายให้ผู้ใช้งานได้เลือกและมีการใช้งานที่มีความเหมาสมไปในแต่ละที่แต่ละองค์กรหากองค์กรที่มีขนาดเล็กก็ใช้แบบบัสหรือแบบวงแหวนก็ได้แต่หากองค์กรที่ใหญ่ๆมีกำลังซื้อสักหน่อยก็สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายแบบดาวหรือแบบตาข่ายได้
ช่องทางการศึกษาเพิ่มเติมข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : Network
- หมวดหมู Network
- ข่าวสาร Network
- สอบถามเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- คู่มือสอนการสร้างเครือข่ายเลน
ตัวชี้วัด ง 3.1 ม.2/1 อธิบายหลักการเบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่ละชนิดได้ (K) 2) มีทักษะในการจำแนกแยกและยกตัวอย่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่ละชนิดได้ (P)
3) มีความระมัดระวัง รอบคอบ และมีระเบียบในการปฏิบัติ กิจกรรม (A)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หมายถึง การนำเอาคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป เพื่อให้สามารถสื่อสารระหว่างกันได้
ชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถจำแนกตามระยะทางของการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์การสื่อสารได้เป็น 4 ชนิดดังนี้
- เครือข่ายส่วนบุคคลหรือแพน (Personal Area Network: PAN)
- เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน (Local Area Network: LAN)
- เครือข่ายนครหลวงหรือแมน (Metropolitan Area Network: MAN)
- เครือข่ายบริเวณกว้างหรือแวน (Wide Area Network: WAN)
- Personal Area Network : PAN
เครือข่ายส่วนบุคคลหรือแพน เป็นการเชื่อมโยงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้งาน แพนที่ใช้ในปัจจุบันคือแพนไร้สาย (Wireless PAN: WPAN) มีการใช้งานอย่างแพร่หลายซึ่งการเชื่อมต่อแบบนี้จะใช้ในระยะไม่เกิน 10 เมตรเช่น ใช้เทคโนโลยีบลูทูท (Bluetooth technology) เชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้ากับหูฟังและไมโครโฟนไร้สาย ใช้คลื่นวิทยุเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์กับเมาส์หรือคีย์บอร์ดแบบไร้สาย ใช้อินฟราเรดหรือบลูทูทเชื่อมต่อพีดีเอกับเครื่องพิมพ์เข้าด้วยกัน
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแพน
- Local Area Network : LAN
เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันหรือพื้นที่เดียวกัน เช่นภายในบ้าน ภายในอาคาร หรือภายในองค์กรที่มีระยะทางไม่ไกลมากนัก แลนเป็นเครือข่ายที่แต่ละองค์กรดูแลและบริหารจัดการด้วยตนเอง ขอบเขตของแลนมีตั้งแต่เครือข่ายขนาดเล็กที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ภายในห้องเดียวกันไปจนถึงเครือข่ายขนาดปานกลางที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ระหว่างห้องหรือระหว่างอาคาร เช่น ระบบเครือข่ายภายในโรงเรียนหรือบริษัท
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแลน
- Metropolitan Area Network : MAN
เครือข่ายนครหลวงหรือแมน เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หรือแลนหลายเครือข่าย ที่ตั้งอยู่ในบริเวณไม่ไกลกันนักหรือภายในอาณาเขตของเมืองเดียวกันเข้าด้วยกันเช่น แลนของหน่วยงานเดียวกันที่ตั้งอยู่ในบริเวณต่างๆ ของเมือง แมนอาจสร้างขึ้นจากเครือข่ายเฉพาะขององค์กรเอง หรือใช้บริการสายวงจรสื่อสารที่เช่าจากผู้ให้บริการสัญญาณสื่อสารก็ได้ โดยที่เทคโนโลยีที่ใช้ในแมนอาจใช้สายนำสัญญาณ เช่น ไฟเบอร์ออปติก หรือแบบไร้สาย เช่นการใช้คลื่นไมโครเวฟ ในปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีไวแมกซ์ (WiMax)ในแมน ตัวอย่างของแมน เช่น การเชื่อมโยงแลนระหว่างหลายๆ วิทยาเขตของสถานศึกษาที่อยู่ใกล้เคียงกันเข้าด้วยกัน
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแมน
- Wide Area Network: WAN
เครือข่ายบริเวณกว้างหรือแวน เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในระยะห่างไกลเช่น เชื่อมโยงระหว่างจังหวัด ระหว่างประเทศ หรือระหว่างทวีปการสร้างแวนจึงต้องพึ่งพาระบบบริการเครือข่ายสาธารณะ เช่น วงจรเช่าจากผู้ให้บริการสัญญาณสื่อสารข้ามทวีป วงจรสื่อสารผ่านดาวเทียม แวนจึงเป็นเครือข่ายที่ใช้กับองค์กรที่มีสาขาห่างไกลและต้องการเชื่อมสาขาเหล่านั้นเข้าด้วยกัน เช่น ธนาคารที่มีสาขาทั่วประเทศใช้งานแวนเชื่อมโยงบริการต่างๆ ระหว่างสาขา
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแวน
นอกจากนี้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ยังสามารถแบ่งตามลักษณะการให้บริการ เป็น 2 ชนิด คือ
- เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ (client-server network)
- เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer to Peer network: P2P)
1. เครือข่ายแบบรับ-ให้บริการ (client-server network)
เป็นเครือข่ายที่มีเครื่องบริการที่มีประสิทธิภาพและความเร็วสูงรองรับการขอใช้บริการจากเครื่องรับบริการ สามารถให้บริการเครื่องรับบริการหลายเครื่องในเวลาเดียวกัน ทำให้สะดวกในการบริหารจัดการ บำรุงรักษาทรัพยากรของระบบตัวอย่างเครื่องบริการ เช่น เครื่องบริการไฟล์ (file server) เครื่องบริการงานพิมพ์ (print server) เครื่องบริการเมล (mail server)
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแบบ client-server network
ข้อดี (Advantages) | ข้อเสีย (Disadvantages) |
|
|
- เครือข่ายระดับเดียวกัน (Peer to Peernetwork: P2P)
เป็นเครือข่ายที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งเป็นเครื่องรับและให้บริการในขณะเดียวกัน และสามารถใช้งานทรัพยากรของเครื่องอื่นได้เท่าเทียมกัน โดยไม่มีเครื่องใดเครื่องหนึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องบริการโดยเฉพาะ
รูปแสดงตัวอย่างการเชื่อมต่อแบบ Peer to Peernetwork: P2P
ข้อดี (Advantages) | ข้อเสีย (Disadvantages) |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Peer-to-Peer Networks VS Client/Server Networks | |
Peer-to-Peer Networks | Client/Server Networks |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีดังนี้
- การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน (Sharing of peripheral devices)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้ใช้ สามารถใช้อุปกรณ์ รอบข้างที่ต่อพ่วงกับระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเครื่องพิมพ์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม สแกนเนอร์ โมเด็ม เป็นต้น ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพง เชื่อมต่อพ่วงให้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
- การใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกัน (Sharing of program and data)
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรม และข้อมูลร่วมกันได้ โดยจัดเก็บโปรแกรมไว้แหล่งเก็บข้อมูล ที่เป็นศูนย์กลาง เช่น ที่ฮาร์ดดิสก์ของเครื่อง File Server ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมร่วมกัน ได้จากแหล่งเดียวกัน ไม่ต้องเก็บโปรแกรมไว้ในแต่ละเครื่อง ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนั้นยังสามารถรวบรวม ข้อมูลต่าง ๆ จัดเก็บเป็นฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้สารสนเทศ จากฐานข้อมูลกลาง ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร ์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องเดินทางไปสำเนาข้อมูลด้วยตนเอง เพราะใช้การเรียกใช้ข้อมูล ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์นั่นเอง เครื่องลูก (Client) สามารถเข้ามาใช้ โปรแกรม ข้อมูล ร่วมกันได้จากเครื่องแม่ (Server)หรือระหว่างเครื่องลูกกับเครื่องลูกก็ได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บโปรแกรม ไม่จำเป็นว่าทุกเครื่องต้องมีโปรแกรมเดียวกันนี้ในเครื่องของตนเอง
- สามารถติดต่อสื่อสารระยะไกลได้ (Telecommunication)
การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เป็นเครือข่าย ทั้งประเภทเครือข่าย LAN , MAN และ WAN ทำให้คอมพิวเตอร์ สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล ระยะไกลได ้โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทางด้านการติดต่อสื่อสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีการให้บริการต่าง ๆ มากมาย เช่น การโอนย้ายไฟล์ข้อมูล การใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) การสืบค้นข้อมูล (Serach Engine)
- สามารถประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจได้ (ฺBusiness Applicability)
องค์กรธุรกิจ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น เครือข่ายของธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการบิน ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจหลักทรัพย์ สามารถดำเนินธุรกิจ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองความพึงพอใจ ให้แก่ลูกค้าในปัจจุบัน เริ่มมีการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Internet เพื่อทำธุรกิจกันแล้ว เช่นการสั่งซื้อสินค้า การจ่ายเงินผ่านระบบธนาคาร เป็นต้น
- ความประหยัด
นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อย่างเช่นในสำนักงานหนึ่งมีเครื่องอยู่ 30 เครื่อง หรือมากกว่านี้ ถ้าไม่มีการนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้ จะเห็นว่าต้องใช้เครื่องพิมพ์อย่างน้อย 5 – 10เครื่อง มาใช้งาน แต่ถ้ามีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้แล้วละก้อ ก็สามารถใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องพิมพ์ประมาณ 2-3 เครื่องก็พอต่อการใช้งานแล้ว เพราะว่าทุกเครื่องสามารถเข้าใช้เครื่องพิมพ์เครื่องใดก็ได้ ผ่านเครื่องอื่น ๆ ที่ในระบบเครือข่ายเดียวกัน
- ความเชื่อถือได้ของระบบงาน
นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ ถ้าทำงานได้เร็วแต่ขาดความน่าเชื่อถือก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มาใช้งาน ทำระบบงานมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือของข้อมูล เพราะจะมีการทำสำรองข้อมูลไว้ เมื่อเครื่องที่ใช้งานเกิดมีปัญหา ก็สามารถนำข้อมูลที่มีการสำรองมาใช้ได้ อย่างทันที