ตัวต้านทาน (Resistor)
ตัวต้านทาน (Resistor) มีมากมายแตกต่างกันทั้งขนาดและรูปร่าง แต่ก็ทำหน้าที่
อย่างเดียวกันคือ จำกัดกระแส (Limit curent) ซึ่งแบ่งออกเป็นพวกใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
ตัวต้านทานชนิดค่าคงที่ (Fixed Resistor)
ตัวต้านทานที่พบเห็นได้ง่ายในวงจรมักจะเป็นตัวต้านทานชนิดค่าคงที่ ตัวอย่างของตัวต้าน
ทานแบบนี้แสดงให้เห็นดังรูป
|
รูปตัวอย่างตัวต้านทานชนิดค่าคงที่แบบต่างๆ |
ตัวต้านทานที่มีค่าคงที่เหล่านี้บางชนิดทำมาจากคาร์บอนเคลือบด้วยพลาสติกหรือเซรามิค
แข็งสีดำหรือสีน้ำตาล ตัวต้านทานบางแบบทำด้วยสารจำพวกโลหะออกไซด์ ตัวต้านทานชนิดนี้โดยทั่วไป
จะมีค่าผิดพลาดน้อย (Tolerance) หรือมีค่าความถูกต้องเชื่อถือได้ตามที่บอกค่าไว้ที่ตีเป็นได้สูง
ตัวต้านทานคงที่ชนิดลวดพัน (wire wound) ตัวต้านทานชนิดนี้ทำมาจากลวดความต้านทานพันรอบ
แกนฉนวน ซึ่งทำด้วยสารจำพวกเซรามิค ตัวต้านทานชนิดนี้มีลักษณะสมบัติพิเศษคือสามารถทนต่อ
การไหลของกระแสผ่านตัวมันได้สูงกว่าตัวต้านทานแบบอื่น สัญญลักษณ์ของตัวต้านทานชนิดค่าคงที่
|
รูปสัญญลักษณ์ของตัวต้านทานชนิดค่าคงที่ |
ตัวต้านทานชนิดเลือกค่าได้ (Topped Resistor)
ตัวต้านทานบางชนิดอาจมีการเลือกค่าใดค่าหนึ่งได้ โดยปกติตัวต้านทานชนิดนี้จะมีหลายขั้วแยกออกมา
เป็นปุ่มหรือขั้ว การเลือกค่าตัวต้านทานทำโดยวิธีแยกสายหรือโผล่สายออกมาภายนอกที่เรียกว่า แท๊ป (Tap)
การแท๊ปสายอาจทำได้มากกว่าหนึ่งที่ดังรูป
|
รูปสัญญลักษณ์ของตัวต้านทานชนิดเลือกค่าได้ |
ตัวต้านทานชนิดปรับค่าได้ (Variable Resistor)
บางครั้งเราจำเป็นต้องเปลี่ยนค่าความต้านทานบ่อย ๆ เช่น ใช้ปรับความดังวิทยุ-โทรทัศน์
ปรับเสียงทุ้ม เสียงแหลมในวงจรไฮไฟ ปรับความสว่างของหลอดไฟ ปรับแต่งเครื่องวัด
ตัวต้านทานชนิดนี้จะมีหน้าคอนแทคสำหรับใช้การหมุนเลื่อนหน้าคอนแทคในการปรับค่าตัว
ต้านทาน เพื่อเป็นการสะดวกต่อการปรับค่าความต้านทาน จึงมักมีแกนยื่นออกมาหรือมีส่วนที่จะทำให้หมุน
ปรับค่าได้ ที่ปลายแกนยื่นสามารถประกอบติดกับลูกบิดเพื่อให้หมุนได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ในบางระบบอาจทำเป็นรูปเกือกม้า โดยไม่ต้องมีแกนหมุนยื่นออกมาแต่ปรับค่าได้
โดยใช้ไขควงหรือวัสดุดื่นสอดเข้าในช่องแล้วหมุนหน้าคอนแทค คอนแทคจะเลื่อนไปทำให้ค่าความตีเนทาน
เปลี่ยน
|
รูปตัวต้านทานชนิดปรับทำได้ |
ภาษาช่างที่ใช้เรียกตัวต้านทานชนิดปรับค่าได้ว่า โวลุ่ม (Volume)
สัญญลักษณ์ของตัวต้านทานชนิดปรับค่าได้
ตัวต้านทานไวความร้อน (THERMISTOR)
ตัวต้านทานแบบนี้มีค่าความต้านทานเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ ส่วนมากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น
ความต้านทานจะลดลง
|
สัญญลักษณ์ของเทอร์มิสเตอร์ |
ตัวต้านทานไวแสง (light dicrearing resistor) ใช้อักษรย่อ LDR ตัวต้านทานชนิดนี้
จะเปลี่ยนค่าความต้านทานเมื่อความเข้มของแสงตกกระทบเปลี่ยนแปลง โดยปกติเมื่อความ
เข้มของแสงมีค่ามากกว่าความต้านทานจะมีค่าลดลง
รหัสสี
หน่วยที่ใช้วัดค่าความต้านทานเรียกว่าโอห์มจากนิยามความต้านทานหนึ่งโอห์มหมายความว่า
เมื่อป้อนแรงดันคร่อมตัวต้านทานหนึ่งโวลท์แล้วมีค่ากระแสไหลผ่านหนึ่งแอมแปร์ตัวต้านทานนั้นจะมีค่า
หนึ่งโอห์ม
|
โครงสร้างและขนาดของตัวต้านทานที่ทนกำลังงานได้ต่างกัน |
เครื่องมือที่ใช้วัดหาค่าความต้านทานเรียกว่า โอห์มมิเตอร์(ohmmiter) แต่เมื่อใช้ตัวต้านทานใน
วงจรอิเลคทรอนิคส์ ในการที่จะวัดตัวต้านทานที่อยู่ในวงจรทำได้ยาก เพราะไม่สะดวกต่อการวัด
ดังนั้นผู้ผลิตจึงกำหนดสัญญลักษณ์สีแทนค่าความต้านทาน
ค่าตัวต้านทานกำหนดด้วยแถบสีสามสีที่พิมพ์ติดอยู่บนตัวต้านทานและการกำหนดค่าความผิดพลาด
(tolerance) โดยปกติมีค่าเช่นน้อยกว่า 5% หรือน้อยกว่า 10% จะใช้แถบสีแถบที่สี่เป็นตัวบอก
|
แสดงแถบสีของตัวต้านทาน |
แถบสีสองสีแรกคือแถบสีแถบ A และแถบ B เป็นตัวเลขที่บอกค่าความต้านทานของตัวต้านทานที่
เป็นตัวเลขนัยสำคัญ (Significuntdigit) ส่วนในแถบ C เป็นตัวที่จะบอกให้ทราบว่า มีจำนวน 0 ต่อท้ายอยู่
จำนวนเท่าใด หรือกล่าวได้ว่าเป็นตัวคูณ (multiplier) ด้วยสิยก กำลังค่าของแถบสีแถบ C ส่วนในแถบสีแถบ
D นั้น จะเป็นสีทองหรือแถบสีเงิน แถบสีทองมีความหมายเป็นค่าผิดพลาดได้ไม่เกิน 5% ส่วนแถบสีเงิน
จะบอกความหมายเป็นค่าความผิดพลาด 10% ถ้าในแถบสี D มิได้พิมพ์สีใดไว้
ให้ถือว่ามีค่าความผิดพลาดได้
ไม่เกิน 20% ค่าความผิดพลาดจะเป็นช่วงที่บอกว่าค่าความต้านทานจะผิดพลาดไปจากค่าที่อ่านจากแถบสี
มากน้อยเพียงใด
สีแต่ละสีที่ใช้เป็นสัญญลักษณ์ที่แทนค่าตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งมีค่า 0 ถึง 9 ดังตาราง
แถบสี | ตัวเลขเทียบเท่า | ตัวคูณ | ความคลาดเคลื่อน |
ดำ | 0 | 1 | - |
น้ำตาล | 1 | 10 | - |
แดง | 2 | 100 | - |
ส้ม | 3 | 1,000 | - |
เหลือง | 4 | 10,000 | - |
เขียว | 5 | 100,000 | - |
น้ำเงิน | 6 | 1,000,000 | - |
ม่วง | 7 | 10,000,000 | - |
เทา | 8 | 100,000,000 | - |
ขาว | 9 | 1,000,000,000 | - |
ทอง | - | 0.1 | - |
เงิน | - | 0.01 | - |
ไม่มีสี | - | 0.01 | - |
ตัวอย่างที่ 1 จงอ่านค่าความต้านทานของตัวต้านทานในรูป
แถบสี | A | B | C | D |
สี | น้ำเงิน | แดง | ส้ม | ไม่มีสี |
ตัวเลข | 6 | 2 | 3 | ค่าผิดพลาด 20% |
ตัวอย่าง 2. จงอ่านแถบสีของตัวต้านทานในรูป |
แถบสี | A | B | C | D |
สี | ม่วง | เขียว | แดง | ทอง |
ตัวเลข | 7 | 5 | 2 | ค่าผิดพลาด 5% |
เรียบเรียงจาก : หนังสืออิเลกทรอนิกส์ เล่ม 1 หน้าที่ 33