การเดินทาง, เชียงใหม่
ทางรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1(พหลโยธิน) แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 (สาย เอเซีย) ผ่านอยุธยา อ่างทอง
นครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยังพิษณุโลก แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านลำปาง ลำพูน ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กม. อีกทางหนึ่งคือ จาก นครสวรรค์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตากและลำปาง ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 696 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
ขับรถเที่ยว
การเดินทางไปไปเชียงใหม่มีหลายเส้นทาง แต่ปัจจุบันมีเส้นทางหลักที่ใช้กัน คือ เส้นทางหลวงสายเอเชีย ผ่าน จ. พระนครศรีอยุธยาอ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก จนกระทั่งไป จ. ลำปาง เมือถึง จ. ลำปาง ก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางหมาย เลข 11 ผ่าน อ.
ห้างฉัตร อ. แม่ทา อ. เมืองลำพูน อ. สารภี ถึงตัว เมีองเชียงใหม่ เส้นทางช่วงนี้ค่อข้างคดเคี้ยวและลาดชัน ดังนั้นควรขับรถด้วยความระมัดระวัง อีกทั้งยังไม่มีปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่อยู่ระหว่างทาง จึงควรเติมน้ำมันเต็มถังเมือถึง จ. ลำปาง จะอุ่นใจกว่า ที่เพิ่มความสะดวกมากขึ้นคือ ถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ที่เปิดใช้แล้ว ช่วยให้หลีกเลี่ยงการจราจรในตัวเมืองนครสวรรค์ได้ช่วงที่ควรระมัดระวังคือ จาก จ. กำแพงเพชร ถึง จ. ตาก ผิวถนนไม่เรียบ แม้จะซ่อมแซมเป็นระยะแต่ต้องระมัดระวัง
การขับรถเที่ยวในจังหวัด
เชียงใหม่มีพื้นที่กว้างใหญ่ จึงมีเส้นทางที่สามารถขับรถเที่ยวที่สามารถขับรถเที่ยวได้หลากหลาย ทั้งในตัว อ. เมืองและเส้นทางอื่น ๆ อ. เมือง ถ้าจะขบรถท่องเที่ยวในเมือง ไม่ควรใช้ความเร็วสูงโดยเฉพาะในเขตเมืองที่ถนนแคบเล็ก และเต็มไปด้วยทางวันเวย์โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าหรือภายในคูเมือง ถ้าขับเร็วเกินอาจเลยสถานที่ที่ต้องการไป และต้องไปวนรถไกล ทำให้เสียอารมณ์และเสียเวลา รอบเขตเมืองเก่ามีคูเมืองล้อมรอบ มีถนนสองสายคู่ขนานไปกับคเมือง เส้นที่ติดกับเมืองเก่าจะเป็นทางวันเวย์ซ้ายส่วนเส้นทางที่ติดกับคู่เมืองด้านนอกเป็นวันเวย์วนขวา มีจุดให้กลับรถทุกช่วงประมาณ 100 ม. ส่วนเส้นทางดอยสุเทพ-ปุย ทางาดยางอย่างดี แต่คดเคี้ยวและชัน จึงต้องระมัดระวังด้วยเส้นทางแม่ริม-สะเมิง-หางดง เส้นทางนี้น่าขับรถเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแล้วช่วงรอยต่อระหว่างแม่ริม-หางดง ระยะทางประมาณ 30 กม. ก็เป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา สามารถวิ่งชมทิวทัศน์ได้ถนนส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ได้รับการลาดยางอย่างดี ทั้งเส้นทางบนภูเขาไม่มีรถวน ยกเว้นเส้นทางบนภูเขาบางแห่งที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จะเป็นดินลูกรังขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ เช่น เส้นทางดอยปู่หมื่น หรือตามอำเภอรอบนอกอย่างแม่อาย เวียงแหง เมืองคอง ไชยปราการ บางแห่งเป็นเส้นทางในป่า จึงควรใช้เส้นทาป่า จึงควรถที่มีสมรรถนะดี ยิ่งเป็นรถขับเคลือนสี่ล้อได้จะดีมาก
ทางรถประจำทาง
มีทั้งรถประจำทางธรรมดาและรถปรับอากาศ บริการระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชม. รายละเอียดสอบถามได้ที่ สถานีขนส่งสายเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 โทร 0-2936-3670 และที่เชียงใหม่ โทร 0-5324-1449
ทางรถไฟ
มีรถด่วน และรถเร็ว ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ทุกวัน สอบถามรายละเอียดกำหนดการเดินรถได้ที่หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 0-2621-8701 และที่เชียงใหม่ โทร 05-3236094
ทางเครื่องบิน
บริษัทการบินไทย มีเครื่องบินแอร์บัส และโบอิ้ง บินประจำระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สำรองที่นั่ง โทร 02-280-0060 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 1566 และที่เชียงใหม่ โทร 053-201-5667
- ไทยแอร์ เอเชีย บินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน วันละ 8 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที สำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2515-9999
- นกแอร์ บินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน วันละ 9 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1381
- บางกอกแอร์เวย์ บินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทุกวัน วันละ 7 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1771
สายการบินโอเรียนท์ เอ็กเพรสแอร์ บริการเที่ยวบินจากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี และบริการเที่ยวบินภาคใต้ไปยังหาดใหญ่ และสุราษฎร์ธานีสำรองที่นั่ง และสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0 2229 4100 ต่อ 1 และที่เชียงใหม่ โทร 053-289-3389
เดินทางโดยรถส่วนตัว
- เส้นทางแรก จากกรุงเทพฯใช้เส้น ทางหลวงหมายเลข 32 หรือสายเอเชีย ผ่านอยุธยา ถึงนครสวรรค์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 1ไปกำแพงเพชร ผ่านตาก เมื่อถึงอำเภอเถิน แยกซ้ายเข้า ทางหลวง หมายเลข 106 ผ่านอำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ถึงเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 690 กิโลเมตร
- เส้นทางที่สอง จากกรุงเทพฯเดินทางตาม เส้นทางแรก ผ่านอำเภอเถินไปจนถึงจังหวัดลำปาง แยกซ้ายเข้าสู่ ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านอำเภอห้างฉัตร อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ผ่านอำเภอสารภี ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 695 กิโลเมต
เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
มีให้เลือกใช้บริการทั้งของเอกชนและ ของรัฐวิสาหกิจ จะนั่งรถธรรมดา หรือรถปรับอากาศตามแต่ชอบใจ ราคาก็แตกต่างกันไป ออกเดินทางจากกรุงเทพฯที่ สถานีขนส่งสายเหนือ หรือหมอชิตใหม่ ที่ถนนกำแพงเพชร 2 ถึงสถานีขนส่งอาเขต จังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน
เดินทางโดยรถไฟ
จากกรุงเทพฯ สถานีรถไฟหัวลำโพง วิ่งไปสุดทาง ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ มีรถวิ่งให้บริการทุกวัน ทั้งรถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษนครพิงค์ และรถด่วนพิเศษสปรินเตอร์ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางช้า-เร็วต่างกัน
เดินทางโดยเครื่องบิน
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ (low cost) และไม่ต่ำ อาทิเช่น สายการบินไทย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ และสายการบินแอร์เอเชีย ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ แต่ถ้าใครบ้านอยู่ใกล้ดอนเมือง ก็สามารถใช้บริการ สายการบินนกแอร์ ที่ออกจากสนามบินดอนเมืองได้
การเดินทางในเชียงใหม่
ถ้าใครไม่ได้ขับรถส่วนตัวไปเอง จะไปเที่ยวไหนก็นั่งรถ สองแถวสีแดงที่วิ่งอยู่ทั่วเมืองได้ โบกให้จอดให้ส่งได้ทุกที่ ไม่มีปรับค่าโดยสารตอนนี้ ก็น่าจะเริ่มต้นที่ 10 บาท ถูกแพงตามระยะทาง ต่อรองได้บ้างตามความสามารถ ส่วนบุคคล หรือจะเช่ารถขับก็มีให้เลือกหลายเจ้า หลายบริษัท ทั้งของไทยของเทศ
ความที่เชียงใหม่เจริญไม่ต่างจากกรุงเทพ การกินการอยู่ มีให้เลือกหลายหลากมากมาย แต่ถ้าต้องการลองลิ้มชิม อาหารพื้นเมือง หรืออยากรู้ว่าคนเมืองเขากินอยู่อย่างไร ก็แนะนำให้ไปเดินตลาด หรือกาดไม่ว่าจะเป็นกาดหลวง (ตลาดวโรรส) กาดประตูเชียงใหม่ และกาดสมเพชร เป็นต้น
ไปเชียงใหม่มาแล้ว ชอบหรือไม่อย่างไร เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ