ตัวอย่าง การ เขียน autobiography

หลายคนฝันอยากจะเรียนต่อแต่ติดปัญหาตรงที่ว่าทุนแต่ละประเทศขอยาก,เอาคะแนนสูง,ค่าครองชีพแพง, เรียนจบมาเกรดไม่ดี,ไม่มีประสบการณ์ทำงาน วันนี้ จขกท เลยขอแนะนำทุนที่เรียกได้ว่าของ่ายมาก แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้

จขกท เชื่อว่าการที่ได้เรียนต่อในต่างแดนเป็นอีกประสบการณ์ที่ดีนอกจากได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ เพื่อนใหม่แล้วชีวิตเราจะแข็งแกร่งมากขึ้นจากสิ่งที่เราต้องเจอต่อจากนี้คนเดียว

cr.//commondatastorage.googleapis.com/static.panoramio.com/photos/original/84249106.jpg

ทำไมต้องไต้หวัน?

- เรียนฟรี พร้อมมีเงินให้ทุกเดือน อันเรื่องจริงและเท่าที่ทราบมาก็ทุกที่เลยนะคะแล้วแต่ว่าจะมากหรือน้อยในเมืองหลวงประมาณ15,000ดอลล่าไต้หวัน สำหรับปริญญาตรี ต่างจังหวัดก็อาจจะประมาณ6,000 ดอลล่าไต้หวัน — ใกล้ไทยคิดถึงบ้านนั่งเครื่องไม่กี่ชั่วโมงถึงเลย ประมาณ3ชั่วโมงเท่านั้นก็ได้กลับบ้านมาหาพ่อแม่แปปๆเหมือนนั่งรถไปประจวบเลยคะ — ได้ภาษาที่3 นั่นก็คือภาษาจีน แน่นอนว่าการไปใช้ชีวิตที่ไต้หวันเป็นปียังไงก็ต้องได้ภาษากลับมาแน่นอน บางมหาลัยมีการสอนพื้นฐานภาษาจีนให้ในหลักสูตรด้วยคะ ภาษาจีนเป็นอีกภาษาที่คนใช้กันกว้างขวางมากๆมีติดตัวไว้นี่รับรองว่าเป็นประโยชน์ในอนาคตอย่างแน่นอน — ไม่ต้องใช้ทุนคืนหรือทำงานใช้ทุนแต่อย่างใด ใช่แล้วคะฟังไม่ผิดเลย หลายๆมหาลัยในต่างประเทศมักมีข้อผูกมัดต่างแต่ที่ไต้หวันนี่ชิวมาก — ขั้นตอนง่ายคู่แข่งน้อยใช้Toeicสมัครยังได้เลย อีกปัญหาหลักของหลายคนที่อยากไปต่อนอก แต่ต้องสอบ TOFEL, IELTSซึ่งค่อนข้างแพงและบางที่เกณฑ์การใช้คะแนนค่อนข้างสูงทำให้รู้สึกว่าฝันตัวเองนั้นไกลเกินเอื้อมแต่สำหรับที่นี่ TOEIC พอ จบ ไม่เพียงแค่นั้นบางที่รับเริ่มต้นที่500คะแนนถือว่าน้อยมากๆและเป็นคะแนนที่ทุกคนสามารถทำได้ไม่ไกลเกินไป — Taiwan เป็นเมืองที่ปลอดภัย ธรรมชาติงดงาม มาที่นี่สบายใจเรื่องความปลอดภัยได้แน่นอนคะ — ค่าเงินคิดง่าย เพราะบาทหนึงของเรากะของเค้าค่อนข้างไล่ๆกัน ค่าครองชีพไม่แพงสุดท้ายยังไงก็ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้กินใช้จ่าย หากอยู่ในเมืองหลวงก็แน่นอนว่าค่าครองชีพค่อนข้างสูงกว่าต่างจังหวัดโดยค่าครองชีพที่เค้าให้มาทุกเดือนเชื่อว่าทางมหาลัยต้องคำนวณมาแล้วว่าไม่มากและน้อยไปคะ — Statement น้อยก็ขอทุนได้ ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมีเงินหลายแสนหลายล้าน เอาจริงๆเค้ากำหนดมาคร่าวๆประมาณ 4,000–5,000US คะ — ไม่ต้องสอบ ไม่ต้องสัมภาษณ์ หลายๆที่เป็นแบบนี้จริงๆคะ แค่ส่งเอกสารพื้นฐานต่างๆ Recommend letter, Research Proposal,คะแนนTOEICและประวัติส่วนตัว บางที่อาจจะเป็นStudy Plan ก็ขึ้นอยู่กับมหาลัยและเงื่อนไขการเปิดรับในรอบนั้นๆ

-ทุนเปิดบ่อย ให้เยอะ เรียกว่าเปิดทุกเทอมเลยคะ แต่ช่วงเวลาของแต่ละมหาลัยอาจจะต่างกันไปนะคะ บางที่อาจจะเป็นทุน50%แล้วแต่เงื่อนไขคะ — เกรดไม่ดี ไม่มีประสบการณ์ทำงาน อันนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยคะ สมัครได้และมีคนได้ทุนด้วยนะคะแต่อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กะเงื่อนไขของมหาลัยแต่ละที่

ปล. อันนนี้คือข้อมูลคร่าวๆอาจจะไม่ได้ครอบคลุมกับทุกๆสถาบันที่ไต้หวันนะคะ ………………………………………………………………………………………………………………………. มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

เนื่องจาก จขกท ไม่ใช่คนเก่งอะไรจึงมองหามหาลัยที่เงื่อนไขน้อยๆ คนแข่งขันกันน้อย เพราะการไปมหาลัยดังๆ หรือให้ค่าครองชีพเยอะๆแน่นอนว่าเราต้องไปแข่งขันกะคนอีกมากมาย แหมม ใครๆก็อยากได้คนเก่งๆทั้งนั้นเนอะ

cr.//wikimapia.org/1874391/National-Formosa-University-entrance

มหาลัยที่ จขกท เลือกไปคือ National Formosa University เป็นมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัดหน่อย กฎเกณฑ์และเอกสารมีดังนี้คะ

1.ใบสมัคร

2.ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลดังนี้ ส่งตัวจริงค่าตรวจประมาณ1,500บาท โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลลำปาง

3.Photocopy of diploma or certificate of the highest academic degree

4.สำเนาบัตรประชาชน และ Passport (Verification of Nationality)

5. Original Copy of Transcript 6. Certification for Language Proficiency คะแนนขั้นต่ำดังนี้คะ ยึดตัวจริงส่งตัวจริงไปนะคะ TOEFL ITP 460 TOEFL iBT 51 TOEFL CBT 147 TOEFL PBT 467 TOEIC 500 IELTS 4.0

7.Financial Support Statement ย้อนหลัง6เดือนสามารถใช้ของพ่อแม่ได้คะ แนะนำให้แนบ Bank guarantee ไปด้วย 8. Autobiography ขั้นต่ำ1,000 คำ พิมพ์ได้ทั้งแบบภาษาจีนหรืออังกฤษได้หมดคะ

9.Study Plan(For graduate program applicants only) เขียนเป็น Research proposal อันนี้ในส่วนของ ปริญญาโทนะคะ

10.Recommendation Letters จดหมายจากอาจารย์2ท่านคะ ไม่มีฟอร์มตายตัวเขียนยังไงก็ได้คะ ไม่ปั้มตรามหาลัยยังได้เลยคะ5555

……………………………………………………………………………………

โดยจะเปิดทั้งหมด 2 รอบต่อปี Application Deadlines i. Spring � Deadline: Nov. 30th. � All postal mails must be postmarked by Nov. 30th � Application received after the deadline will be considered in the second echelon. i. Fall � Deadline: May 31st � All postal mails must be postmarked by May 31st � Application received after the deadline will not be processed. Note: Applicants who are qualified for Spring may enroll in February every year. Applicants who are qualified for Fall may enroll in September every year.

เอกสารที่เตรียมไปปั้มตราที่กงศุลไทยและไต้หวัน ใบรับรองแพทย์, ใบเกรด, ใบสำเร็จการศึกษา, ใบรับรองสภานภาพทางการเงิน เอาจริงๆไม่ต้องปั้มก็มีคนได้ทุนนะคะ หรือ หากติดขัดไม่ทันเวลาก็สามารถเขียนหนังสือ แนบไปประกอบได้คะ ถึงอย่างไรครวทำให้ถูกตามขั้นตอนเค้าได้ดีที่สุดคะ

เสร็จแล้วนำส่งไปรษณีย์คะ บางช่วงมีส่วนลดจ่ายแค่700บาทเองคะอ้างอิงจากเดือนพฤษจิกายน 2559 มีหลายราคาต้องลองสอบถามที่ ที่ทำการไปรษณีย์

เมื่อจดหมายถึงแล้วเค้าจะมีเมลล์ส่งมาบอกว่าเค้าได้รับแล้วและประกาศผลก็ส่งมาทางเมลล์เช่นกันคะ

…………………………………………………………………………………..

เทคนิคส่วนตัวจะนำไปใช้ก็ไม่ว่ากันจร้าา 1 ให้เลือกมหาลัยที่คนสมัครน้อยเพราะเกรณฑ์การรับไม่ยากมากแต่ข้อเสียคือได้เงินแต่ละเดือนน้อย555 โดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นมหาลัยที่แข่งขันสูงมักจะให้ส่งกรอกเอกสารออนไลน์ แต่ถ้าเป็นที่คนน้อยๆเค้าจะให้ส่งไปรษณีย์

2 เขียนวิจัยไม่ต้องหัวข้อปังๆก็ผ่านได้คะ เอาแค่คิดว่าไม่ซ้ำใครถ้าซ้ำก็เจาะจงลงไปเช่น ในประเทศไทย ต่อท้าย เพื่อตีวงเข้ามา เขียนในเรื่องที่สนใจ ไม่มีฟอร์มนะคะ อารมณ์แบบวิจัยบทเดียว ของ จขกท มีแต่บทนำ,วัตถุประสงค์,ประโยชน์และอ้างอิง

3 ประวัติส่วนตัวเขียนไปเลยคะขายตัวเองเยอะให้เค้าเห็นว่าเราอยากเรียนนะ และย่อหน้าสุดท้ายอาจจะทิ้งไว้ว่าสิ่งที่เราเรียนไปเราจะนำไปใช้ประโยขน์อะไรต่อยอด อาจจะแทรกๆในเนื้อหา ว่าทำไมอยากเรียน ยอๆ ประเทศไปนิดนึงบ้างก็ดีคะ เอาง่ายๆว่ามีไรที่ขายตัวเองได้ใส่ไปเลยคะ เขียนให้เค้ารู้สึกว่าเรามี Passion ที่อยากเรียนกับเค้า

4 จดหมายจากอาจารย์แนะนำว่าลองหาอาจารย์ท่านที่มีตำแหน่งสูงๆหรือเป็นDoctorได้ยิ่งดีคะ ครวประทับตรามหาลัย ลงท้ายด้วยข้อมูลที่สามารถติดต่ออาจารย์กลับได้ จะได้ดูน่าเชื่อถือ

5 วิจัยครวมีอ้างอิงเยอะ จขกท ใช้วิธีการไปศูนย์หนังสือ หรือ ห้องสมุดแล้วลองหาหนังสือที่มีหัวข้อและสารบัญเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องของเรา แล้วเอาหนังสือเค้ามาอ้างอิง เพือความรวดเร็วคะ555 จริงๆหาจากเว็บประกอบได้แต่ให้เน้นในส่วนของหนังสือจะดีกว่าน่าเชื่อถือกว่า …………

cr.//www.thenewslens.com/article/36351

………………………………………………………………………………….

ส่วนใครอยากได้แนวทางตัวอย่างการเขียนนั้นตามด้านล่างนี้เลยคะ

Autobiography

自傳 ※請以中文或英文扼要敘述個人家庭、學經歷背景等個人簡介。

Please write a 1000-word self introduction in Chinese or English.

My name is Miss ……. “……” is my nickname. I am…….. years old, born

I have been living in Bangkok, Thailand since I was born. My father works as a lecturer for the ………. He teaches about computer maintenance and repair, and electronics. My mother is self-employed. She has a small real estate business that provides rooms and houses for rent, located at Latprow Road and Jaransanidwong Road. I also have one younger sister. She is twenty-one years old. She is studying Food Business.

I am a recent graduate of ………, with a Bachelor of ……… My major is ….. I work as a ……….

For secondary school and high school, I attended the ……., a vocational college located in …… province. I majored in piano but I also studied a wide variety of subjects.

I began studying piano and electone when I was six years old. I learned saxophone and oboe as well. (Oboe is one of the western woodwind instruments.) In time, I got a chance from ……..

For university, I passed several university admissions including Slipakorn University (major: …..); Suan Sunandha Rajabhat University (major: …..);Burapha University (major;..) and Banditpatanasilp Institute (major: ….).

My mother advised me to select the last one because I got a full scholarship as a talented student. While attending university I received opportunities from my teachers and …….. in many events. For example, joining contemporary at the government house of Thailand for Her Loyal Highest Princess Sririntron; ……..

Beyond learning music, I’ve also learned how to teach children. The university provided interesting subjects such as teaching students by using psychology, music composition, and much more.

While studying in the university I found out that I really love business knowledge. So I read many books related to business and self-development.

After that I decided to establish my small ice cream shop. I sell various flavors of homemade ice cream served with jelly, waffle, and other toppings that customers can select. I gained much experience by operating this business. For example, I learned how to deal with the customers; how to manage the finances; and how to make customers satisfied with my products and services.

I absolutely worked hard while I studied in university, and I continue to do so, because I love to use my ability and adapt to any job. Because I am hard-working, I earned good grades every semester. My grade point average was over 3.20.

Personally, I believe that good management can enable people to accomplish many things in life. In my last year of university, I got to be a teacher trainee at a primary school called ……… School and at a high school called ….. School (both of these in one year). It was a good experience to teach many kinds of students. I learned to help them figure out their problems, and to encourage them.

Finally, my work and discipline resulted in my finishing my degree with a GPA of 3.42

Post-graduation, I am still working as a musician and teacher. For almost eight years I have taught both adults and children. More than 700 people!

It makes me proud of myself to be a part of a student’s success. One thing I really like to do is teach piano and hand crafts to special needs children and other people who lack opportunities, because I believe that knowledge and opportunity are more important than money, and that people should share with one another.

I can say that I feel fulfilled in my music career path and would like to now make my other dream come true: I would like to obtain a scholarship to study abroad to increase my knowledge and experiences and share them with other people in Thailand.

In my free time, I love to study language to increase my ability to read, write, and speak English. I have been learning Chinese language as well since the middle of 2016 because I am aware that Chinese language is important to communicate and do business with people in China, Taiwan, Hong Kong, and Singapore. More importantly, if I get an opportunity to study in Taiwan, I’ll be able to understand more and more of the local people, and the lessons.

I am keen not only on languages but also on reading business books, newspapers, and self-development topics on the internet because I believe it could help me to learn new things and perspectives as well.

Sometimes when I am free from work and study I like to travel. I have visited more than 12 countries around the world and I have absolutely fallen in love with my journey. After finishing a trip I love to share my experiences. I’ve written a blog you can visit (……… It includes a lot of information and travelers tips for many cities that I visited.

In my point of view, we can accumulate new inspirations, ideas, knowledge, and experiences by putting ourselves into new places. Travel is not so much about resting and charging your energy as it is about learning about local culture, history, and ways of life — and so much more.

I hope that my autobiography has shown that I am hard-working, friendly, flexible, easygoing, open-minded, and eager to learn new things. I am confident that I can adjust myself to study abroad and live with foreigners easily, and I also love to share and exchange my country’s culture, knowledge, and attitude with people.

My goal is study abroad in Taiwan toward a Master’s degree in Business Administration because Taiwan is a wonderful country both culturally and naturally. Taiwan is well known for business administration, and has outstanding opportunities for me to learn numerous specialties.

I would like to apply the knowledge I obtain in Taiwan in my country, and share it with students of a new generation. I am confident that I can use the experience that I get from National Formosa University to develop my community and country in the future.

申請人簽章 Applicant’s Signature: …………………………………………………………………………

Research Proposal

Name: Email: Research Title: Using E-commerce Strategy to Succeed in Business in Thailand

Introduction:

In the last several years, many kinds of businesses have been expanding rapidly. New business models large and small have more competition. Many companies also have developed business connections all around the world to expand their reach and increase their revenue. It is not easy to accomplish their business without using marketing strategies, because every investment has risks — not only enterprise expenses but also the potential to waste time and resources should the business fail.

In Thailand, a large number of companies have already closed due to the economic slump that the owners could not weather. Therefore, the entrepreneur must be adept at marketing in order to attract customers and increase profits on the sale of merchandise and services. Ten years ago, off-line marketing was more effective than online marketing at providing information to consumers because back then, consumers did not have the easy access to technology that they have today. With just one click, people can touch the world.

Currently, online marketing is becoming very well known and interesting. Particularly, electronic commerce (commonly known as e-commerce) has become a preferred method for trading and facilitation of trade in products and services. Using computer networks, the entrepreneur can benefit in many ways, such as reducing expenses, transferring money automatically 24/7, exchanging goods and services with no barrier of time and distance, and using electronic shopping systems instead shop assistants.

Social media use among the population of Thailand is quite high. For example, in 2016, approximately 41 million Thai people use Facebook, placing Thailand 8th in the world and 3rd in Southeast Asia. The average use of the online application 83.7 minutes per person per day. According to Thailand Social Awards Survey, Thai people are quite interested in social networks, and their popularity is predicted to continue at this rate or even accelerate. Consequently, e-commerce is a fascinating way for entrepreneurs to promote and sell their products and services through the internet. Applying e-commerce strategies can help entrepreneurs take advantage of the strongest points of e-commerce to strengthen their businesses and also increase market share. Furthermore, businesses that engage in e-commerce can benefit from online market research data as well.

Purpose of study:

• To learn about e-commerce strategies • To study aspects of e-commerce that can increase profits • To Investigate comments from consumers • To identify the types of social networks that are most effective

Expected benefit and application:

• To acknowledge and understand the strategies of e-commerce, and the benefits for business owners who would like to apply e-commerce in their business models
• To educate people who are interested in e-commerce marketing

Conclusion:

Having knowledge of e-commerce strategy can bring help entrepreneurs excel in business. Moreover, e-commerce is a useful alternative for expanding the business. Using e-commerce strategy is helping entrepreneurs gain profit and advantage over their competition