แผนที่เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่แสดงลักษณะของพื้นผิวโลกลงบนวัสดุแบนราบด้วยการย่อขนาดให้เล็กลงโดยใช้มาตราส่วนและใช้สัญลักษณ์แทนสิ่งที่มีอยู่จริงบนพื้นผิวโลก
แผนที่เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญต่อการเรียนวิชาภูมิศาสตร์มาก เพราะการศึกษาวิชานี้จะต้องกล่าวสถานที่ต่างๆ บนพื้นผิวโลกเสมอ ถ้าเรารู้จักแต่ชื่อสถานที่เหล่านั้น แต่ไม่เคยไปสถานที่นั้นมาก่อน อาจนึกภาพไม่ออกว่าสถานที่นั้นตั้งอยู่ที่ใด มีสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร แผนที่จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถเข้าใจสิ่งที่ปรากฏในพื้นที่จริงได้ง่ายขึ้นและนำติดตัวไปใช้ได้สะดวก
การนำแผนที่มาใช้ในการศึกษาภูมิศาสตร์ผู้ใช้ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแผนที่ในด้านต่างๆ อาทิ ชนิดของแผนที่ องค์ประกอบของแผนที่ เพื่อที่จะสามารถอ่านและแปลความหมายของแผนที่นั้นๆ ได้
1.1.1 ชนิดของแผนที่
ชนิดของแผนที่ที่แบ่งได้หลายแบบแล้วแต่ว่าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ ในที่นี้จะแบ่งตามลักษณ์การใช้และแบ่งตามมาตราส่วนของแผนที่
- การแบ่งแผนที่ตามลักษณ์การใช้
พื้นที่โลกมีอาณาเขตและสิ่งที่ปรากฏบนพื้นผิวโลกหลากหลาย การแสดงรายละเอียดของทุกสิ่งทุกอย่างในแผนที่อาจทำได้สมบรูณ์ครบถ้วน จึงมีการทำแผนที่แสดงรายละเอียดรูปแบบต่างๆ แยกออกจากกันตามลักษณะการใช้ แบ่งได้ 3 ประเภท ได้แก่
แผนที่อ้างอิง เป็นแผนที่ที่ใช้สำหรับอ้างอิงข้อมูลในการทำเเผนที่ชนิดอื่นๆ
แผนที่เฉพาะเรื่อง เป็นเเผนที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงรายละเอียดเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
แผนที่เล่ม เป็นเเผนที่ที่นำแผนที่หลายๆชนิด มารวมเข้าไว้ในเล่มเดียวกัน
- การแบ่งแผนที่ตามมาตราส่วนของแผนที่
แผนที่ที่แบ่งตามขนาดของมาตราส่วน สำหรับประเทศไทยกรมแผนที่ทหารกำหนดไว้ดังนี้
แผนที่มาตราส่วนขนาดใหญ่ ได้แก่ แผนที่ที่มีมาตราส่วนเท่ากับหรือใหญ่กว่า 1:75000 ใช้สำหรับเขียนแผนที่ของพื้นที่ขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถบรรจุรายละเอียดที่ปรากฎในภูมิประเทศลงในแผนที่ได้มากตามที่ต้องการ
แผนที่มาตราส่วนขนาดกลาง
ได้แก่แผนที่มาตราส่วน 1:75000 ถึง 1:600000 ใช้เขียนแผนที่ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่เพื่อแสดงเฉพาะรายละเอียดที่สำคัญ
แผนที่มาตราส่วนขนาดเล็ก ได้แก่แผนที่ที่มีมาตราส่วนเท่ากับหรือเล็กกว่า 1:600000 มาตราส่วนขนาดเล็กใช้เขียนแผนที่ของบริเวณที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ จึงสามารถแสดงได้เฉพาะลักษณะที่สำคัญเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่ปรากฎในภูมิประเทศย่อมไม่สามารถเขียนลงในแผนที่ชนิดนี้ได้หมด
1.1.2 องค์ประกอบของแผนที่
การใช้แผนที่ให้ปฏิบัติงานได้ดีนั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ ของแผนที่ ได้แก่ ชื่อแผนที่ ชื่อภูมิศาสตร์ ทิศ มาตราส่วน สัญลักษณ์และสี
- ชื่อแผนที่ ชื่อแผนที่เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่บอกว่าแผนที่นั้นเป็นแผนที่แสดงข้อมูลอะไร เช่น แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เป็นแผนที่แสดงถนนสายสำคัญ แหล่งท่องเที่ยว ศาสนสถานและขอบเขตการปกครองย่อยของจังหวัดกาญจนบุรี
- ชื่อภูมิศาสตร์ คือ ตัวอักษรที่ใช้บอกชื่อเฉพาะที่มีความสำคัญในแผนที่ รูปแบบชื่อภูมิศาสตร์ที่นิยมใช้ในแผนที่ทั่วไป มีดังนี้
ชื่อภูมิศาสตร์ | รูปเเบบ | ตัวอย่าง |
ทวีป ประเทศ รัฐ เกาะใหญ่ และคาบสมุทร | ใช้ตัวตรง ภาษาอังกฤษ ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด | ทวีปเอเชีย ASIA ประเทศไทย THAILAND |
เมืองหลวง เมืองใหญ่ | ใช้ตัวตรง ภาษาอังกฤษตัวแรกใช้ตัวพิมพ์ใหญ่และต่อด้วยตัวพิมพ์เล็ก | กรุงเทพฯ Bangkok วอชิงตัน ดี.ซี. Washington D.C. |
- ทิศ แผนที่ต้องกำหนดทิศไว้ เพื่อให้ผู้ใช้แผนที่สามารถบอกความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ที่ปรากฎในแผนที่นั้นได้ถูกต้อง แนวทิศเหนือมีอยู่ 3 ชนิด คือ ทิศเหนือจริง ทิศเหนือแม่เหล็ก ทิศเหนือกริด
- มาตราส่วนแสดงให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางในเเผนที่กับระยะทางจริงบนผิวโลก เนื่องจากแผนที่เป็นภาพย่อส่วนของผิวโลกจึงจำเป็นต้องมีมาตราส่วนกำกับไว้ในแผนที่ด้วย มาตราส่วนที่นิยมใช้มี 3 ชนิด คือ มาตราส่วนคำพูด มาตราส่วนเส้น มาตราส่วนแบบเศษส่วน
- สัญลักษณ์สิ่งต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนผิวโลกและนำมาแสดงไว้บนแผนที่ ไม่สามารถแสดงเหมือนจริงได้ สัญลักษณ์แบ่งได้ 3 ประเภท คือ สัญลักษณ์ที่เป็นจุด สัญลักษณ์ที่เป็นเส้น สัญลักษณ์ที่เป็นพื้นที่
- สี สีที่ใช้เป็นมาตราในแผนที่มี 5 สี คือ
สีดำ ใช้แทนสิ่งต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น
สีแดง ใช้แทนถนนและรายละเอียดพิเศษอื่นๆ
สีฟ้า ใช้แทนบริเวณที่เป็นน้ำ
สีน้ำตาล ใช้แทนความสูง
สีเขียว ใช้แทนพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่ทางการเกษตร
1.1.3 แผนที่ภูมิประเทศ
แผนที่ภูมิประเทศเป็นแผนที่เเสดงข้อมูลลักษณะภูมิประเทศบนพื้นผิวโลก โดยจะแสดงระดับความสูง-ต่ำของภูมิประเทศด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ
การบอกระดับความสูง-ต่ำของภูมิประเทศจะใช้ระดับทะเลปานกลางเป็นเกณฑ์กำหนดความสูง ในเเผนที่นิยมแสดงระดับความสูง-ต่ำไว้ 4 รูปแบบ ดังนี้
- เส้นชั้นความสูงคือ เส้นสมมุติที่ลากผ่านบริเวณต่างๆของภูมิประเทศ ที่มีความสูงเท่ากัน โดยมีตัวเลขกำกับค่าระดับความสูงของเส้นชั้นความสูงนั้นๆ
- การใช้แถบสี คือ การจำแนกความแตกต่างของลักษณะภูมิประเทศทั้งที่เป็นพื้นดินและพื้นน้ำโดยใช้แถบสี
- เส้นลายขวานสับหรือเส้นลาดเขาเป็นเส้นขีดสั้นๆ เรียงกันตามทิศทางลาดของพื้นดินเพื่อแสดงรูปทรงของภูมิประเทศนั้นๆ หากเป็นพื้นที่ชันสัญลักษณ์ในแผนที่ภูมิประเทศจะแสดงด้วยเส้นขีดที่สั้นหนาและชิดกัน หากเป็นพื้นที่ลาดเทมักจะแสดงด้วยเส้นขีดยาวบางและห่างลายขวานสับแสดงให้ทราบเฉพาะความสูงของภูมิประเทศ ส่วนความสูงที่แผนที่กำหนดขึ้นเป็นตัวเลขไม่นิยมแสดงไว้แผนที่ที่แสดงด้วยเส้นลายขวานสับ
- การแรเงา เป็นการแสดงความสูงของภูมิประเทศอย่างหยาบๆ โดยเขียนหรือแรเงาพื้นที่ให้มีลักษณะเป็นภาพสามมิติหรือมีทรวดทรงขึ้น ส่วนใหญ่มักจะแรเงาให้มีลักษณะเหมือนกับว่ามีเงา ที่เกิดจากแสงที่ทำมุมประมาณ 45 องศา ส่องลงมาจากทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือทำให้ลาดเขาทางด้านตะวันออกและตอนใต้มีเงาเกิดขึ้น หากเป็นพื้นที่ลาดชันนิยมแสดงด้วยเงาสีเข้มและถ้าเป็นพื้นที่ลาดเทจะนิยมแสดงด้วยเงาบางๆ