ข้อ ใดเป็น แนวทาง แก้ไขปัญหา ที่ เกิด จากการใช้พลังงานที่ ได้ ผล ระยะ ยาว

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือกับแนวคิด Sandbox CMU Model

 

          “ทำไมตอนเกิดโควิด 19 คนเชียงใหม่ถึงใส่หน้ากากกันได้เต็มเมืองอย่างสบาย ก็เพราะเขาซ้อมใส่กันตอนมีหมอกควันมาหลายปีแล้วไง” วิทยากรท่านหนึ่งบรรยายในการประชุมจัดทำและทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2561 - 2565 และการทบทวนแผนรอบนี้ได้ยกระดับปัญหา PM2.5 มาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่จังหวัดต้องเร่งแก้ไข

ปัญหาหมอกควันกระทบคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจภาคเหนือ

          จริง ๆ แล้วปัญหาหมอกควันภาคเหนือมีมานานนับ 10 ปี แต่รุนแรงขึ้นมากในช่วง 2 - 3 ปีหลัง ภาคเหนือจะถูกปกคลุมด้วยหมอกควันระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน ทำให้ช่วงนั้นหลายจังหวัดในภาคเหนือติดอันดับเมืองที่มีมลพิษทางอากาศแย่ที่สุดในโลก สาเหตุของปัญหาคือ การเผาพื้นที่เกษตรและไฟป่าในภาคเหนือทำให้เกิดหมอกควันข้ามแดนเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาซากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ขยายพื้นที่ปลูกในที่สูง เผาอ้อยเพื่อเก็บเกี่ยว และเผาตอซังข้าวในพื้นที่ราบเพื่อเตรียมเพาะปลูกรอบต่อไป การเผาถูกมองว่าเป็นวิธีที่คุ้มค่าที่สุด เพราะต้นทุนต่ำ ใช้เวลาน้อย และทำได้ง่าย นอกจากนั้น ยังมีการเผาตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านในพื้นที่สูง ตามความเชื่อว่าจะทำให้ผลผลิตพืชป่า อาทิ หญ้า เลี้ยงสัตว์ ผักหวาน และเห็ดเผาะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ล่าสุดฤดูหมอกควันปี 2563 นอกจากจะมาเร็วกว่าทุกปีแล้ว ปัญหายังทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะปรากฏจุดความร้อนในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพิ่มขึ้นมาก สะท้อนว่าเกิดการลักลอบเผาอันเนื่องมาจากปัญหาที่ค่อนข้างซับซ้อนในแต่ละพื้นที่ แม้แต่พื้นที่ใกล้เมืองเชียงใหม่อย่างดอยสุเทพก็สามารถมองเห็นควันไฟได้แทบทุกวัน

 

          หมอกควันกระทบต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพของคน และเศรษฐกิจภาคเหนือในวงกว้าง สถิติจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคผิวหนัง และโรคที่เกี่ยวกับดวงตาเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ครัวเรือนมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าซื้ออุปกรณ์ป้องกันมลพิษ ธุรกิจห้างร้านและร้านอาหารต่างได้รับผลกระทบโดยทั่วกัน เพราะลูกค้าลดการออกจากบ้าน ภาคการท่องเที่ยวก็เช่นกัน เมื่อเข้าสู่ฤดูหมอกควัน จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยจะลดลงอย่างรวดเร็วเพราะเป็นกลุ่มที่รับรู้สถานการณ์จากสื่อต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีก่อนก็ชะลอลง คาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวลดลงไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ลดลงมากเนื่องจากโควิด 19 เป็นหลัก แต่หากไม่เกิดโควิด 19 หมอกควันคงเป็นประเด็นร้อนของภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง และเมื่อมองไปข้างหน้า ภายใต้การท่องเที่ยวภายในประเทศที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว หากเจอฤดูหมอกควันที่รุนแรง หลายธุรกิจคงสะดุดกันอีกรอบ

วัน “ห้ามเผา” และแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว

          การแก้ไขปัญหาหมอกควันเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ ฤดูหมอกควันที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อควบคุมการเผา สำหรับมาตรการระยะสั้น แต่ละจังหวัดประกาศเพิ่มวันห้ามเผา เช่น เชียงใหม่ห้ามเผาช่วง 10 มกราคม - 30 เมษายน 2563 รวม 111 วัน เพิ่มขึ้นจาก 60 วันในปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ ส่วนมาตรการระยะยาวได้สนับสนุนการจัดตั้งป่าชุมชนภายใต้ พ.ร.บ. ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เพื่อให้ชุมชนวางแผนอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากป่าได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวเพิ่งเริ่มใช้ ทำให้ชุมชนที่เข้าร่วมมีไม่มาก จึงต้องการการประชาสัมพันธ์และการขยายผลเพิ่มอีก ส่วนการส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ยังต้องการการเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร เครื่องมือ และการจัดสรรงบประมาณเพิ่ม นอกจากนั้น ยังพบอุปสรรคอีกหลายอย่างทำให้การแก้ไขปัญหาไม่บรรลุผลเท่าที่ควร เช่น ในบางพื้นที่ได้รับความร่วมมือน้อย ยังมีการชิงเผาก่อนกำหนด เกิดการลักลอบเผาพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า การเข้าดับไฟยังทำได้จำกัด เนื่องจากหลายพื้นที่เข้าถึงยากและห่างไกล จึงต้องรอรอบเวลาดาวเทียมทำให้การรายงานจุดความร้อนล่าช้า และมีการปะทุซ้ำจากไฟใต้ดิน สิ่งสำคัญจากปัญหาที่กล่าวมาคือ การขาดแรงจูงใจให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา

          ปัญหาที่รุนแรงขึ้นทำให้หลายภาคส่วนในพื้นที่รวมตัวออกมาเคลื่อนไหว เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขอย่างจริงจัง องค์กรที่เข้ามามีบทบาท เช่น สภาลมหายใจเชียงใหม่ เกิดจากการรวมตัวของภาคประชาชนและเอกชนที่เข้าไปช่วยภาครัฐพัฒนาคุณภาพอากาศของเมือง ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาจากต้นตอควันพิษ ทั้งในชนบทและในเมืองผ่านโครงการต่าง ๆ รวมทั้งขับเคลื่อนให้คนในสังคมได้ตระหนักและลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง ส่วนในภาควิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้จัดตั้งคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ เป็นการรวมตัวของคณาจารย์ผู้ชำนาญในหลายสาขาวิชา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ดำเนินงานศึกษาวิจัย เสนอแนวทาง และถ่ายทอดนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหา รวมถึงเริ่มขับเคลื่อน “CMU model” ให้เป็นโมเดลต้นแบบการพัฒนา

 

           “CMU model” เป็นต้นแบบเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างเป็นรูปธรรม มีการทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม โดยมีคณะทำงานลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริงเพื่อทำความเข้าใจต้นเหตุของปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จากนั้นจึงสร้างเป็นโมเดลให้เห็นภาพรวมในการขับเคลื่อนและคัดเลือกโครงการย่อยที่ประยุกต์ใช้ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมเข้าไปพัฒนาแต่ละด้านตามที่พื้นที่ต้องการ โดยพื้นที่นำร่องจะเลือกจากพื้นที่ที่มีปัญหาจริงและมีความพร้อมของผู้นำชุมชนและเครือข่ายในพื้นที่

          หากถอดแนวคิดของ CMU model การแก้ปัญหาเน้น 3 ด้านหลัก คือ (1) การรับมือและป้องกัน เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เริ่มจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ อย่างในพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีการพัฒนา CMU mobile application เพื่อรายงานสถานการณ์ PM2.5 และระบุตำแหน่งห้องปลอดฝุ่นที่มีเครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA Filter PM2.5 เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรสามารถเข้าไปใช้บริการ นอกจากนี้ ยังได้ถ่ายทอดนวัตกรรมทำหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศ DIY ให้แก่ผู้ที่สนใจไปประดิษฐ์ใช้ (2) การเฝ้าระวังการเกิดไฟ เพื่อลดปริมาณการเกิดหมอกควัน โดยติดตั้งเครื่องตรวจติดตามข้อมูลฝุ่นละอองขนาดเล็กและไฟป่าด้วยระบบเซ็นเซอร์แบบต้นทุนต่ำ และเครื่องตรวจจับความร้อนหรือการเกิดไฟโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ (Thermal Imaging UAVs) ตัวอย่างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย คณะทำงานได้ประสานความร่วมมือกับอุทยานแห่งชาติ และส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ รวมทั้งดำเนินโครงการฟื้นฟูป่าดอยสุเทพควบคู่กัน (3) การพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตแบบองค์รวม เพื่อให้ชาวบ้านอยู่กับป่าได้ โดยมุ่งพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และเสริมสร้างความรู้ให้ตระหนักถึงปัญหาหมอกควันและวางแนวทางแก้ไข

 

          ตัวอย่างพื้นที่นำร่องการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตแบบองค์รวมที่บ้านป่าตึงงาม ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา คณะทำงาน CMU model ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจความต้องการของชาวบ้าน และดำเนินโครงการหลายด้าน ทั้งการส่งเสริมอาชีพที่ชาวบ้านต้องการและพร้อมจะปรับเปลี่ยน เช่น การเลี้ยงไก่ไข่แบบปล่อย และการเลี้ยงไก่กระดูกดำ พร้อมยกระดับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ร่วมกับส่งเสริมให้ใช้แอปพลิเคชัน “ผ่อดีดี” เพื่อเฝ้าระวังโรคทั้งในคนและสัตว์อีกทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อเป็นรายได้อีกทาง สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม ได้เลือกดำเนินโครงการพัฒนาระบบเซ็นเซอร์แบบต้นทุนต่ำเพื่อติดตามฝุ่นละอองและไฟป่า มีการประเมินคาร์บอนเครดิตในป่าชุมชนและพัฒนาเรือนเพาะชำชุมชนผลิตกล้าไม้ท้องถิ่น เพื่อบรรเทาหมอกควันในระยะยาว ในด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ได้เลือกดำเนินโครงการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์และระบบกรองน้ำดื่มสะอาด ด้านสังคมและสาธารณสุข เลือกดำเนินโครงการพัฒนาการศึกษาและทักษะการเรียนรู้เพื่อลดปัญหา PM2.5 และรักษ์ป่าอนุรักษ์ รวมถึงเสริมสร้างความรู้ด้านมลพิษหมอกควันและสารเคมีเกษตรแก่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการทุกด้านไปพร้อมกันจะเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาหมอกควันอย่างยั่งยืน

 

          โดยสรุป งานวิเคราะห์และวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหมอกควันในภาคเหนือส่วนใหญ่ชี้ว่า หัวใจของการแก้ปัญหาหมอกควันคือ การดึงเอาชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม แนวคิดแบบ “CMU model” ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของภาควิชาการทั้งในด้านงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีหลากหลายสาขาวิชา ตลอดจนการยอมรับและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการในพื้นที่นำร่องแล้ว ซึ่งถ้าประสบความสำเร็จน่าจะสามารถเป็นตัวอย่างในการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป

>> ดาวน์โหลด PDF Version
>> อ่าน e-Magazine

ข้อใดเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้พลังงานฟุ่มเฟือยที่เหมาะสมที่สุด

ข้อใดเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้พลังงานฟุ่มเฟือยที่เหมาะสมที่สุด รณรงค์ให้สร้างบ้านที่ประหยัดพลังงาน เพิ่มค่าไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด สร้างเขื่อนเพื่อเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้า

แนวทางการแก้ปัญหาพลังงานมีอะไรบ้าง

1. ประหยัดการใช้พลังงาน 2. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน สังเกตฉลากเหล่านี้: ฉลากประสิทธิภาพสูง, ฉลากเขียว (Green Label), ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5, Energy star. 3. ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเปลี่ยนกรณีที่ไม่มีประสิทธิภาพ

ข้อใดเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด

9 วิธีอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน.
1. ประหยัดการใช้สิ่งต่างๆ ในบ้าน ... .
2. ใช้ซ้ำ สำหรับสิ่งของที่สามารถใช้ได้ ... .
3. รีไซเคิลวัสดุต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ... .
4. ซ่อมแซมสิ่งที่ชำรุด ถ้าไม่เสียอย่าเพิ่งทิ้ง ... .
5. ทดแทนวัสดุที่เป็นมลพิษด้วยของจากธรรมชาติ ... .
6. ป้องกันไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย.

แนวทางการอนุรักษ์พลังงานข้อใดสําคัญที่สุด

1. การใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่าโดยการสร้างค่านิยมและจิตใต้สำนึกการใช้พลังงาน 2. การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าจะต้องมีการวางแผนและควบคุมการใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดมีการลดการสูญเสียพลังงานทุกขั้นตอน มีการตรวจสอบและดูแลการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา เพื่อลดการรั่วไหลของพลังงาน เป็นต้น

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv Terjemahan แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip lmyour แปลภาษา ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษาอาหรับ-ไทย Bahasa Thailand app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม พจนานุกรมศัพท์ทหาร ยศทหารบก ภาษาอังกฤษ สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครอง ส่วนท้องถิ่น แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีทั้งหมดกี่ภาค มัจจุราชไร้เงา 1 mono29 มัจจุราชไร้เงา 1 pantip มัจจุราชไร้เงา 3 pantip รายชื่อวิทยานิพนธ์ นิติศาสตร์ 2563 ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาอิสลามเป็นไทย ่้แปลภาษา Google Drive กรมการปกครอง กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ที่อยู่สมุทรปราการ ภาษาอังกฤษ ประปาไม่ไหล วันนี้ มหาวิทยาลัยรามคําแหง เปิดรับสมัคร 2566 มัจจุราชไร้เงา 2 facebook ราคาปาเจโร่มือสอง สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น หนังสือราชการ ส ถ หยน ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ อาจารย์ ตจต Google Form Info arifureta shokugyou de sekai saikyou manga online legendary moonlight sculptor www.niets.or.th ประกาศผลสอบ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf