Share:
การใช้ยาเสพติดในวัยรุ่นเป็นปัญหาที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากยาเสพติดอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ได้มากมาย ทั้งการเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต ปัญหาด้านสุขภาพ หรือแม้แต่การก่ออาชญากรรม จากผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เพียงแค่ตัวผู้เสพหรือครอบครัวเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด แต่รวมถึงคนในสังคมและประเทศชาติด้วย ดังนั้น เพื่อการป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้ การหมั่นสังเกตพฤติกรรมหรือสัญญาณเตือนการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรใส่ใจ ปัญหายาเสพติดในวัยรุ่นนั้นอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัว การเรียน ความรัก สิ่งแวดล้อม แบบอย่างในสังคม หรือแม้แต่ความอยากรู้อยากลองและความคึกคะนองในวัยรุ่น จากปัจจัยเหล่านี้ครอบครัวหรือผู้ปกครองจึงมีส่วนอย่างยิ่งที่จะคอยดูแลลูกหลานให้ห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ การรับทราบปัญหาการใช้ยาเสพติดของวัยรุ่นให้เร็วที่สุดก็เป็นสิ่งสำคัญและมีผลต่อการดูแลรักษาและป้องกันการกลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำเป็นอย่างมาก
สัญญาณการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่นมีอะไรบ้าง ?
การหมั่นสังเกตและดูแลเอาใจใส่ของพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นสิ่งสำคัญที่จะเล็งเห็นปัญหายาเสพติดในครอบครัว โดยสัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าวัยรุ่นมีการใช้ยาเสพติด มีดังนี้
การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและอารมณ์
ยาเสพติดนั้นสามารถส่งผลต่อร่างกายและอารมณ์ได้โดยตรง ผู้ปกครองจึงอาจเห็นลักษณะภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
- รูม่านตาขาย กลอกตาอย่างรวดเร็ว ตาแดง
- ความอยากอาหารมากเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลถึงขนาดและน้ำหนักตัว
- ลมหายใจมีกลิ่นที่แปลกไป
- ท่ายืนหรือเดินดูไม่นิ่ง ไม่มั่นคง
- มีปัญหาในการพูด อย่างพูดช้าหรือเร็วผิดปกติ หรือพูดไม่ชัด
- ภาวะไฮเปอร์หรืออยู่ไม่นิ่ง
- เฉื่อยชา หรือกระสับส่าย
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย โกรธง่าย เครียด หรือเกิดภาวะซึมเศร้า
การเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม
ยาเสพติดนั้นไม่ส่งผลแค่เพียงร่างกายและอารมณ์เท่านั้น
แต่อาจรวมถึงความคิดและพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปด้วย ดังนี้
- มีปัญหาด้านการเรียน อย่างผลการเรียนตก หรือขาดเรียนบ่อย
- มีวิธีการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น นอนมากขึ้น เก็บตัว ไม่ค่อยพูดคุย หรือพูดน้อยลง เป็นต้น
- นอนหลับเป็นเวลานาน
- เปลี่ยนกลุ่มเพื่อน
- มีกระดาษ หลอด ไม้ขีด ไฟแช็ก หรือมีเข็มฉีดยา ขวดยา หรือแผงอยู่ภายในห้อง โดยที่ไม่ได้มีอาการป่วย
- ไม่ค่อยพูดคุย หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อน หรือครอบครัวอย่างเคย
- มีท่าทางที่น่าสงสัย มีความลับ
- ตอบสนองช้า ตัดสินใจไม่ได้ ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
- ใช้เงินมากขึ้น โกหก หรือขโมยของ
- สวมเสื้อแขนยาวเพื่อปกปิดรอยเข็มฉีดยา หรือสวมแว่นกันแดดอยู่เสมอ
- ไม่ทำตามกฎหรือข้อตกลงของบ้าน หรือโรงเรียน
สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำเมื่อมีการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่น
เมื่อผู้ปกครองทราบถึงการใช้ยาเสพติดของวัยแล้ว ควรหาวิธีในการรับมืออย่างเหมาะสม โดยอาจทำได้ ดังนี้
- สอบถามถึงปัญหาที่เกิด และพูดคุยอย่างใจเย็น ใช้เหตุผล และควรชี้ให้เห็นถึงโทษและผลกระทบของยาเสพติด ใช้วิธีที่สร้างสรรค์ที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- ทำความเข้าใจในตัวเด็กวัยรุ่น เพราะถึงแม้ว่ายาเสพติดจะเป็นสิ่งที่อันตรายแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเด็กคนนั้นจะต้องเป็นคนไม่ดีเสมอไป
- เข้ารับการช่วยเหลือทางการแพทย์ โน้มน้าวและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ
โดยอีกสิ่งที่จะช่วยในการเยียวยาการติดยาเสพติดในวัยรุ่น คือการรับทราบปัญหานี้โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพ อารมณ์ สังคม ทั้งของตัวเด็กและคนรอบข้าง นอกจากนี้ การมอบความรัก ความอบอุ่น รวมทั้งการดูแลเอาใจใส่ และการเป็นแบบอย่างที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยป้องกันการใช้ยาเสพติดในวัยรุ่นได้
Share:
1. การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ นิสัย ความประพฤติ และบุคลิกภาพ
– เป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิดง่าย เอาแต่ใจขาดเหตุผล
– ขาดเรียน ชอบหนีโรงเรียน หรือขาดงานบ่อย ๆ จนผิดปกติ
– ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อถือไม่ได้
– ความคิดเชื่องช้า สติปัญญาเสื่อมลง ความจำเสื่อม มีผลให้การเรียน หรือการทำงานบกพร่อง
– พูดจาเชื่อถือไม่ได้ พูดไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อม ขาดความรับผิดชอบ
– มักเก็บตัวเงียบ ๆ หลบซ่อนตัวเอง ทำตัวปกปิดลึกลับ
– ชอบเข้าห้องน้ำนาน ๆ
– พบอุปกรณ์เกี่ยวกับการเสพยา เช่น หลอดฉีดยา เข็มฉีดยา กระดาษซองตะกั่ว ซากก้านไม้ขีดจำนวนมาก เศษกระดาษไหม้ไฟ หลอดกาแฟตัดเป็นท่อนสั้น ฯลฯ
– พูดจาก้าวร้าว ดื้อรั้น ผิดไปจากเดิม
– ไม่สนใจความเป็นอยู่ของตนเอง แต่งกายไม่เรียบร้อย สกปรกไม่ค่อยอาบน้ำ
– มีข้ออ้างในการออกนอกบ้านเสมอ ชอบเที่ยวเตร่กลับบ้านผิดเวลา
– ทรัพย์สินในบ้านสูญหายบ่อย เพราะจะขโมยเอาไปขายเพื่อซื้อยาเสพ
– เกียจคร้าน ไม่ชอบทำงาน
– ง่วงเหงาหาวนอน นอนตื่นสายผิดปกติ
– มีอาการวิตกกังวล เศร้าซึม สีหน้าจะหมองคล้ำ
2. อาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
– สุขภาพร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม ซีดเหลือง ไม่มีแรง อ่อนเพลียง่าย
– ริมฝีปากเขียวคล้ำ แห้งแตก
– ตาแดงก่ำ รูม่านตาขยาย
– น้ำมูกไหล เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวแรง
– บริเวณแขน ตามข้อพับ หัวไหล่ มีรอยแผล รอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ (ร่องรอยการฉีดยาเสพติดเข้าเส้น)
– มีรอยแผลเป็นที่บริเวณแขน ท้องแขน อันเนื่องมาจากใช้ของมีคมกรีดเป็นทาง ๆ
– ผิวหนังหยาบกร้าน เป็นแผลผุพอง อาจมีน้ำหนอง น้ำเหลืองคล้ายโรคผิวหนัง
– ชอบใส่เสื้อแขนยาว และสวมแว่นตากรองแสงสีเข้ม เพื่อปิดร่องรอย และอาการจากการเสพยาเสพติด
3. ลักษณะของอาการขาดยา
– หาวนอนบ่อย จามคล้ายคนเป็นหวัด น้ำมูก น้ำตาไหล
– กระสับกระส่าย กระวนกระวาย หายใจถี่ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อาจถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
– เหงื่อออกมากผิดปกติ
– ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเสียวในกระดูก ม่านตาขยายโตขึ้น ตาพร่าไม่สู้แดดมีอาการดิ้นทุรนทุราย
– มีอาการสั่น หรือเป็นตะคริวตามมือแขนขา หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง
– มีอาการชัก เกร็ง ไข้ขึ้นสูง ความดันโลหิตสูง
– หัวใจเต้นแรงและถี่ผิดปกติ
– นอนไม่หลับ
– เพ้อ คลุ้มคลั่ง อาละวาด ควบคุมตนเองไม่ได้