พร้อมเพย์ คือ บริการโอนเงิน-รับเงินที่ช่วยให้ทำธุรกรรมง่ายขึ้น โดยผูกบัญชีเงินฝากกับหมายเลขอ้างอิง เช่น หมายเลขบัตรประชาชนหรือเบอร์มือถือ นอกจากนี้ พร้อมเพย์ยังเป็นช่องทางสำคัญในการรับเงินสวัสดิการต่าง ๆ จากภาครัฐ เช่น การรับเงินตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท
อ่านต่อ
ธนาคารออมสิน แจ้งปรับเปลี่ยนเวลาเปิดให้บริการสาขาเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด เฉพาะสาขาที่เปิดบริการ 5 วัน เป็นเวลาเดียวกัน 9.00-15.00 น. ระหว่างวันที่ 16-30 เม.ย.63
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน การทำธุรกรรม การปฏิบัติงาน ตลอดจนการดำเนินชีวิตประจำวัน ขณะที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือ รวมทั้งการปรับปรุงการให้บริการและดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดตามสถานการณ์ ซึ่งธนาคารออมสิน มีภารกิจให้บริการทางการเงินตามปกติและในสถานการณ์ปัจจุบันได้ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนให้เข้าถึงบริการทางการเงินตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีช่องทางการให้บริการต่างๆ เช่น สาขา, แอพพลิเคชั่นส์ MyMo เครื่องให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ อินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เป็นต้น อีกทั้งต้องให้บริการภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยของการเสี่ยงติดเชื้อด้วย โดยในส่วนของสาขาธนาคารออมสินนั้น ได้ปรับเปลี่ยนเวลาตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับประกาศของรัฐบาล กรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สาขาของธนาคารออมสินที่เปิดให้บริการ 5 วันต่อสัปดาห์นั้น ปัจจุบันมีเวลาเปิด-ปิดให้บริการไม่พร้อมเพรียงกัน ซึ่งเกิดจากปริมาณการทำธุรกรรมและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ เช่น สาขาในตลาดสด ในพื้นที่ศูนย์ราชการ ย่านการค้า เป็นต้น รวมถึงสาขาที่เพิ่งแจ้งปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดเพื่อให้เป็นไปตามประกาศของรัฐบาล ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บริการสับสน ธนาคารออมสินจึงขอปรับเปลี่ยนเปิด-ปิดสาขาที่เปิดให้บริการ 5 วันต่อสัปดาห์เป็นกรณีพิเศษ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และให้เป็นเวลาเดียวกันทั้งหมด คือ เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 9.00-15.00 น. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16-30 เมษายน 2563
อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังคงสามารถใช้บริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบออนไลน์ต่างๆ ของธนาคารฯ ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ได้ขอความร่วมมือให้ยกเว้นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเดินทาง เพื่อใม่ให้การแพร่ระบาดขยายไปในวงกว้างและเป็นการร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมอีกด้วย
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน โทร.1115 หรือ ตามสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคาร ได้แก่ Website : www.gsb.or.th , Facebook และ Official Line : GSB Society #คลังรวมใจสู้ภัยโควิด19
ธนาคารกรุงเทพมีความห่วงใยในความเดือดร้อนของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด โดยมีมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกประเภท ทั้งลูกค้าธุรกิจ และลูกค้าบุคคล ผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการกำหนดเงื่อนไขให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และการพิจารณาให้สินเชื่อเพิ่มเติม เพื่อเป็นการแก้หนี้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ดูรายละเอียด
บัตรเครดิต
มาตรการช่วยเหลือที่ได้รับสิทธิอัตโนมัติ- ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5%
- ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 18% เป็น 16%
- ผ่อนผันไม่ต้องชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บ (Skip Payment) นาน 3 - 6 เดือน โดยพิจารณาจากผลกระทบที่ได้รับตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
- ลดดอกเบี้ยค้างชำระ โดยต้องชำระหนี้เป็นปกติ พิจารณาจากผลกระทบที่ได้รับตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อผ่อนชำระไม่เกิน 72 งวด คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 13% โดยพิจารณาจากผลกระทบที่ได้รับตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
- โอนภาระหนี้ไปผ่อนชำระ 36 เดือน อัตราดอกเบี้ย 14% ตามการพิจารณาของธนาคาร และใช้วงเงินคงเหลือได้ โดยพิจารณาตามประวัติการชำระและความสามารถในการชำระหนี้
- ขยายวงเงินลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่าเป็น 2 เท่า ชั่วคราว (สนใจเข้าร่วมมาตรการนี้ โทร. 0 2638 4000)
สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
- ลดค่างวด ตามความสามารถในการชำระหนี้ โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- ปรับลดค่างวด
- พักชำระเฉพาะเงินต้น และพิจารณาให้ชำระดอกเบี้ยเพียงบางส่วน
- พักชำระเฉพาะเงินต้น และพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การรวมหนี้สินเชื่อบ้านและสินเชื่อรายย่อยอื่น (Deconsolidation)
1. การรวมหนี้ภายในธนาคาร
การรวมหนี้ภายในธนาคาร (Debt Consolidation) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี หรือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 สงครามการค้า หรือภัยธรรมชาติ และยังคงมีศักยภาพในการชำระหนี้
คุณสมบัติของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ
- มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ กับธนาคารกรุงเทพ
- นำหนี้สินเชื่อรายย่อย (สินเชื่อบัตรเครดิตและ/หรือสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับมาจดจำนองลำดับถัดไปบนหลักประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีกับธนาคาร)
ธนาคารขอสงวนสิทธิ ในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระเบียบปฏิบัติของธนาคาร
2. การรีไฟแนนซ์โดยรวมหนี้ภายนอกธนาคาร
การรีไฟแนนซ์โดยรวมหนี้ภายนอกธนาคาร (Debt Consolidation) สินเชื่อบ้าน และ/หรือ สินเชื่อรายย่อย เพื่อช่วยบรรเทาภาระดอกเบี้ย ค่างวดการผ่อนชำระ
คุณสมบัติผู้กู้
เป็นลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี หรือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และยังคงมีศักยภาพในการชำระหนี้
รูปแบบการรวมหนี้
- กรณีมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงเทพ และมีสินเชื่อรายย่อย (บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล) กับธนาคารกรุงเทพและสถาบันการเงินอื่น
- กรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัย และมีสินเชื่อรายย่อย (บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล) กับสถาบันการเงินอื่น
หลักประกัน: ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัย
- กรณีมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารกรุงเทพ
จดจำนองลำดับถัดไปบนหลักประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมสินเชื่อรายย่อยที่นำมารวมหนี้ ฟรี ค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน - กรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยจากสถาบันการเงินอื่น
จดจำนองหลักประกันตามหลักเกณฑ์ปกติของธนาคาร คิดค่าธรรมเนียมประเมินหลักประกัน 3,000 บาท (ไม่รวม VAT)
ธนาคารขอสงวนสิทธิ ในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระเบียบปฏิบัติของธนาคาร
ลงทะเบียน
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME
สินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ SME เพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูธุรกิจ SME และมาตรการเสริมอื่นๆ จากธนาคารเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ดูรายละเอียด