4. ผู้เล่นสำรองสามารถเข้าเล่นได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องแจ้งต่อผู้บันทึกผู้จับเวลา โดยผู้เล่นในสนามได้ออกจากสนามเรียบร้อยแล้ว ในกรณีนี้จะใช้รวมถึงการเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูด้วย ผู้เล่นทุกคนจะสามารถเข้าหรือออกจากสนามได้เฉพาะในส่วนบริเวณเส้นเปลี่ยนตัวของฝ่ายตนเองเท่านั้น
ในระหว่างการขอเวลานอก การเข้าสนามจะสามารถเข้าได้เฉพาะในช่วงเขตการเปลี่ยนตัว โดยการอนุญาตจากผู้ตัดสิน
หมายเหตุ ผู้เล่นที่ออกหรือเข้าสนามโดยไม่ถูกต้องจะถูกทำโทษตามกติกาการผิดระเบียบการเปลี่ยนตัว นอกจากการออกนอกสนามโดยไม่ตั้งใจ
5. การเปลี่ยนตัวที่ไม่ถูกต้องจะถูกลงโทษโดยการส่งลูกกินเปล่า ณ จุดที่ผู้เล่นสำรองได้เข้าสนาม และลงโทษผู้เล่นที่เข้าไปในสนาม โดยการให้พัก 2 นาที ถ้าการเปลี่ยนตัวที่ไม่ถูกต้องได้ทำในขณะหยุดการแข่งขัน ผู้เล่นนั้นจะถูกสั่งพัก 2 นาที และเริ่มเล่นใหม่โดยการส่ง ณ จุดที่การเล่นได้หยุดลงตามความเหมาะสมถ้ามีการกระทำใด ๆ เกี่ยวกับการไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา หรือการก้าวร้าวอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนตัวที่ผิดระเบียบ หรืออื่น ๆ ผู้เล่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ หรือให้ออกจากการแข่งขันตามความเหมาะสม
6. ถ้าผู้เล่นเข้าไปในสนามเกินจำนวนซึ่งเป็นการผิดกติกานั้น ผู้เล่นนั้นจะถูกสั่งพัก 2 นาที และผู้เล่นอื่นอีก 1 คน จะต้องออกจากสนามไป 2 นาทีด้วย เช่นกัน
ถ้าผู้เล่นที่ถูกสั่งพักเข้าไปในสนามขณะช่วงเวลาสั่งพัก เขาจะต้องออกจากสนามและถูกสั่งพักเพิ่มอีก 2 นาที และผู้เล่นอื่นอีก 1 คน จะต้องออกจากสนามเพื่อไปพักในช่วงเวลาการสั่งพักด้วย โดยเจ้าหน้าที่ของทีมจะต้องเป็นผู้กำหนดว่าจะให้ใครออกจากสนาม
7. ผู้เล่นแต่ละทีมที่อยู่ใสนามทุกคนจะต้องใส่เสื้อที่มีสีเดียวกัน แต่ต้องแตกต่างจากสีเสื้อของผู้รักษาประตูทั้งสองทีม ผู้เล่นจะต้องใส่เสื้อที่มีหมายเลขตั้งแต่ 1-20 โดยให้หมายเลข 1, 12 และ 16 เป็นหมายเลขของผู้รักษาประตู ซึ่งที่ด้านหลังเสื้อมีขนาดสูงอย่างน้อย 20 เซนติเมตร และที่ด้านหน้ามีขนาดสูงอย่างน้อย 10 เซนติเมตร หมายเลขเสื้อนี้จะต้องมีสีที่แตกต่างจากสีเสื้อผู้เล่นควรสวมรองเท้ากีฬา และห้ามผู้เล่นสวมกำไล นาฬิกา แหวน สร้อยคอ ต่างหู แว่นตาที่ไม่มีกรอบนอกหรือเชือกที่จะทำให้แน่น และอุปกรณ์ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้เล่นอื่น ๆ ผู้เล่นที่ไม่สามารถถอดสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าว จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงเล่นจนกว่าจะถอดออกให้เรียบร้อยหัวหน้าทีมของแต่ละทีม จะต้องสวมปลอกแขนที่มีขนาดกว้าง 4 เซนติเมตร ที่แขนท่อนบน และสีของปลอกแขนจะต้องแตกต่างจากสีเสื้อด้วย
ผู้รักษาประตู
1. ผู้รักษาประตูจะต้องไม่เปลี่ยนเป็นผู้เล่นในสนาม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในสนามอาจเปลี่ยนเป็นผู้รักษาประตูได้ ซึ่งผู้บันทึก/ผู้จับเวลา จะต้องได้รับแจ้งเสียก่อน ถ้าผู้เล่นในสนามจะเข้าแทนผู้รักษาประตู โดยผู้เล่นในสนามที่จะเปลี่ยนเข้าแทนผู้รักษาประตู จะต้องเปลี่ยนเสื้อก่อนที่จะเข้าไป ณ บริเวณเขตการเปลี่ยนตัว
หมายเหตุ ผู้เล่นในสนามที่เข้าแทนผู้รักษาประตู สามารถกลับเข้ามาเป็นผู้เล่นในสนามได้ทุกเวลา
ผู้รักษาประตูสามารถกระทำดังต่อไปนี้
2. ถูกลูกบอลด้วยส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในขณะที่อยู่ในลักษณะการป้องกันภายในเขตประตู
3. เคลื่อนที่ไปพร้อมกับลูกบอลภายในเขตประตู โดยปราศจากข้อจำกัดผู้รักษาประตู
4. ออกจากเขตประตูโดยมิได้นำลูกบอลออกมา และสามารถเข้าร่วมเล่นในสนามบริเวณเขตสนามเล่นได้ โดยต้องปฏิบัติตามกติกาเช่นเดียวกับผู้เล่นในสนามคนอื่น ๆการจะพิจารณาว่าผู้รักษาประตูได้ออกจากเขตประตูเมื่อทันทีที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ถูกพื้นสนามนอกเส้นเขตประตู
5. ในลักษณะที่ทำการป้องกัน และไม่สามารถครอบครองลูกบอลได้อย่างสมบูรณ์ เขาสามารถออกจากเขตประตูและเล่นลูกนอกนั้นได้อีก
ห้ามผู้รักษาประตูกระทำการดังต่อไปนี้
6. ทำการป้องกันในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อคู่ต่อสู้
7. เจตนาทำให้ลูกบอลข้ามออกนอกเส้นประตู ในลักษณะที่สามารถครอบครองลูกบอลนั้นได้
8. ออกจากเขตประตูพร้อมกับลูกบอล
9. ถูกลูกบอลนอกเขตประตูภายหลังจากได้ส่งลูกบอลจากประตูไปแล้วนอกจากลูกบอลจะได้ถูกผู้เล่นคนอื่น ๆ ก่อน
10. ถูกลูกบอลที่วางหรือกลิ้งอยู่นอกเส้นเขตประตูในขณะที่ตัวอยู่ในเขตประตู
11. นำลูกบอลที่วางหรือกลิ้งอยู่นอกเส้นเขตประตูเข้าไปในเขตประตู
12. กลับเข้าไปในเขตประตูพร้อมกับลูกบอล
13. ถูกลูกบอลด้วยเท้าหรือขา ในขณะที่ลูกบอลกำลังเคลื่อนไปในสนามเล่น หรือในขณะที่ลูกบอลวางอยู่ในเขตประตู
14. สัมผัสหรือข้ามเส้นเขตรักษาประตู (เส้น 4 เมตร) ก่อนที่ลูกบอลจะออกจากมือผู้ยิงลูกโทษในขณะที่มีการยิงลูกโทษ
หมายเหตุ ในขณะที่ผู้รักษาประตูยืนที่พื้นด้วยเท้าหนึ่งหลังเส้นเขตผู้รักษาประตู (เส้น 4 เมตร) เขาสามารถที่จะเคลื่อนเท้า หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายล้ำเหนือเส้นได้
เขตประตู
1. ผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับการอนุญาตให้เข้าไปในเขตประตูได้ ซึ่งเขตประตูนั้นให้รวมถึงเส้นเขตประตูด้วย การพิจารณาการเข้าเขตประตูนั้นให้ดูจากผู้เล่นในสนามถูกเส้นหรือพื้นสนามในเขตประตูด้วยส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
2. ผู้เล่นในสนามเข้าไปในเขตประตู จะถูกพิจารณาตัดสินดังนี้
2.1 ส่งลูกกินเปล่า ถ้าผู้เล่นในสนามเข้าไปในเขตประตูขณะที่กำลังครอบครองลูกบอลอยู่
2.2 ส่งลูกกินเปล่า ถ้าผู้เล่นในสนามที่ไม่ได้ครอบครองลูกบอลเข้าไปในเขตประตู และทำให้เกิดการได้เปรียบ
2.3 ยิงลูกโทษ ถ้าผู้เล่นในสนามของฝ่ายป้องกันเข้าไปในเขตประตู และได้เปรียบฝ่ายรุกที่ครอบครองลูกบอล
3. ผู้เล่นในสนามที่เข้าไปในเขตประตูจะยังไม่ถูกทำโทษ
3.1 ถ้าเข้าไปในเขตประตูภายหลังจากการเล่นลูกบอล และไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบ
3.2 ถ้าเข้าไปในเขตประตูระหว่างหรือภายหลังจากการพยายามป้องกันและไม่เกิดการได้เปรียบคู่ต่อสู้
4. ลูกบอลที่อยู่ในเขตประตูเป็นของผู้รักษาประตู ห้ามผู้เล่นในสนามคนอื่น ๆ ถูกลูกบอลขณะที่ลูกบอลวางหรือกลิ้งอยู่บนพื้นสนามในเขตประตู หรือในขณะที่ผู้รักษาประตูครอบครองลูกบอลอยู่ แต่จะอนุญาตให้เล่นลูกบอลในขณะที่ลูกบอลลอยอยู่ในอากาศเหนือเขตประตูได้
5. ลูกบอลที่อยู่ในเขตประตู ผู้รักษาประตูจะต้องส่งกลับออกมาเข้าสู่การเล่น
6. การเล่นจะคงดำเนินต่อไป ถ้าเป็นลักษณะการป้องกันของฝ่ายรับโดยลูกบอลได้ถูกผู้เล่นฝ่ายป้องกัน และผู้รักษาประตูได้รับลูกนั้นหรือลูกหยุด อยู่ในเขตประตู
7. ถ้าผู้เล่นเจตนาส่งลูกบอลกลับเข้าไปในเขตประตูของตนเอง ผู้ตัดสินจะพิจารณาตัดสินดังนี้
7.1 ได้ประตู ถ้าลูกบอลเข้าประตู
7.2 ยิงลูกโทษ ถ้าผู้รักษาประตูถูกลูกบอลและลูกบอลไม่เข้าประตู
7.3 ส่งลูกกินเปล่า ถ้าลูกบอลเข้าไปอยู่ในเขตประตูหรือออกนอกเส้นประตู
7.4 การเล่นจะดำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลได้กระดอนกลับออกมาในสนามอีกโดยไม่ได้ถูกผู้รักษาประตู
8. ลูกบอลที่กลับออกมาจากเขตประตูเข้าเขตสู่การเล่น จะถือว่าอยู่ในการเล่นต่อไป
การเล่นลูกบอล
อนุญาตให้ผู้เล่นกระทำดังนี้
1. ขว้าง จับ หยุด ผลัก ตี หรือฟาดลูกบอลด้วยมือทั้งสอง (แบมือหรือกำมือ) โดยการใช้มือ แขน ศีรษะ ลำตัว ต้นขา และเข่า
2. จับลูกบอลไว้ได้ไม่เกิน 3 วินาที แม้ในขณะที่ลูกบอลวางอยู่บนพื้น
3. ถือลูกบอลและก้าวได้ไม่เกิน 3 ก้าว ถ้าก้าว 1 ก้าวให้พิจารณาการกระทำดังนี้
3.1 ผู้เล่นยืนด้วยเท้าทั้งสองบนพื้นยกเท้าหนึ่งและวางลงอีกครั้งหรือเคลื่อนเท้าหนึ่งจากที่หนึ่งไปยังที่อื่น ๆ
3.2 ถ้าผู้เล่นสัมผัสพื้นด้วยเท้าเพียงข้างเดียว และจับลูกบอล โดยใช้เท้าอีกข้างหนึ่งสัมผัสพื้น
3.3 หลังจากที่ผู้เล่นได้กระโดดและสัมผัสพื้นด้วยเท้าข้างเดียวแล้วกระโจนด้วยเท้าเดิม หรือสัมผัสพื้นด้วยเท้าอื่น ๆ
3.4 หลังจากที่ผู้เล่นกระโดดและสัมผัสพื้นด้วยเท้าทั้งสองพร้อมกันแล้วยกเท้าข้างหนึ่ง และวางเท้านั้นลงอีก หรือเคลื่อนเท่าหนึ่งจากที่หนึ่งไปยังที่อื่น ๆ
หมายเหตุ ถ้าเท้าหนึ่งเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังที่อื่น อนุญาตให้ลากเท้าอีกเท้าหนึ่งไปยังที่ของเท้าแรกได้
4. ในขณะยืนหรือวิ่ง
4.1 กระดอนลูกบอลครั้งหนึ่งและจับด้วยมือด้วยหรือสองมือ
4.2 กระดอนลูกบอลซ้ำด้วยมือเดียว (การเลี้ยงลูกบอล) หรือกลิ้งลูกบอลไปบนพื้นสนามซ้ำ ๆ ด้วยมือเดียว หลังจากนั้นจึงจับลูกบอลหรือเก็บลูกบอลขึ้นมาอีกด้วยมือเดียวหรือสองมือในขณะที่จับลูกบอลด้วยมือเดียวหรือสองมือนั้น จะทำได้ภายใน 3 วินาที หรือหลังจากก้าวไม่เกิน 3 ก้าว การกระดอนหรือเลี้ยงลูกบอลไปบนพื้น ผู้เล่นสามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ เมื่อลูกบอลถูกผู้เล่นคนอื่นหรือถูกประตูผู้เล่นสามารถที่จะปัด กระดอน และจับลูกบอลได้อีก
5. ส่งลูกบอลจากมือหนึ่งไปยังมืออีกข้างหนึ่ง
6. เล่นลูกบอลในขณะที่กำลังคุกเข่า นั่ง หรือนอนอยู่บนพื้นไม่อนุญาตให้ผู้เล่นกระทำดังนี้
7. ถูกลูกบอลมากกว่า 1 ครั้ง นอกจากลูกบอลได้ไปถูกผู้เล่นอื่น หรือเสาประตูการพยายามครอบครองลูกบอลพลาด (Fumbling) จะไม่ถูกลงโทษ
หมายเหตุ ลูกบอลพลาด หมายถึงการที่ผู้เล่นพยายามที่จะจับหรือหยุดลูกบอล แต่พลาดจากการครอบครอง
8. ถูกลูกบอลด้วยเท้าหรือขาซึ่งอยู่ต่ำกว่าเข่าลงไป ยกเว้นในกรณีที่คู่ต่อสู้ได้ขว้างลูกบอลมาถูกผู้เล่น แต่อย่างไรก็ตาม การทำผิดอย่างนี้จะไม่ถูกลงโทษถ้าไม่เป็นการทำให้เกิดการได้เปรียบกับผู้เล่นหรือทีมของเขา
9. ทิ้งตัวลงเล่นลูกบอลในขณะที่ลูกบอลวางอยู่บนพื้นหรือกำลังกลิ้งอยู่ แต่กติกาข้อนี้จะต้องไม่นำไปใช้กับผู้รักษาประตูในขณะที่อยู่ในเขตประตูของตนเอง
10. เจตนาทำให้ลูกบอลออกนอกเส้นข้างหรือเส้นประตูกติกาข้อนี้จะต้องไม่นำไปใช้กับผู้รักษาประตูในขณะที่พยายามที่จะครอบครอง