Honda City โฉมล่าสุด เปิดตัวเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 เมื่อปลายปี 2019 โดยเริ่มต้นในรุ่นซีดาน 4 ประตู จากนั้นต่อมาในปลายปี 2020 ได้เปิดตัวรุ่น แฮทช์แบ็ก 5 ประตู และรุ่นซีดานไฮบริด e:HEV และเมื่อไม่นานที่ผ่านมา กลางปี 2021 ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็กไฮบริด e:HEV ก็ได้เปิดตัวขึ้นมาเป็นโฉมล่าสุด
Honda City รุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ก
ปัจจุบัน Honda City มีด้วยกันทั้งหมด 4 แบบ และในแต่ละแบบก็มีรุ่นย่อยที่แยกออกมาอีกหลายรุ่น และวันนี้ ใครที่สนใจในรถรุ่นนี้และตัดสินใจไม่ถูกว่า Honda city รุ่นไหนคุ้ม เราได้รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดของทั้ง 4 รุ่นมาไว้ให้แล้ว ที่นี่ เทียบกันแบบจุดต่อจุด
รุ่นย่อยและราคา
ฮอนด้าซิตี้แต่ละรุ่นนั้น มีโมเดลย่อยที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีชื่อรุ่นที่ใช้เหมือนกันนั่นก็คือ S, V, SV และ RS ซึ่งในรุ่นแฮทช์แบ็กนั้นจะมีรุ่นย่อยที่เป็น S+ เพิ่มขึ้นมา
รุ่นย่อย SedanHatchbackSedan e:HEVHatchback e:HEVS579,500---S+-599,000--V609,000---SV665,000675,000--RS739,000749,000839,000849,000
โดยการใช้ชื่อรุ่นเดียวกันนั้น เป็นเพราะติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกัน แต่ทั้งนั้น ความที่เป็นประเภทรถที่แตกต่างกันจึงมีราคาที่แตกต่างกัน รถแฮทช์แบ็กจะให้ความอเนกประสงค์มากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานของห้องโดยสารให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น เบาะหลังสามารถพับได้ และแน่นอนว่าสำหรับไฮบริดนั้น ราคาที่แพงกว่าคือสมรรถนะของเครื่องยนต์นั่นเอง
มิติตัวถัง
สำหรับโครงสร้างตัวถังรถ Honda City เทียบรุ่นซีดานและซีดานไฮบริด มีขนาดเดียวกันในทุกมิติ และรุ่นแฮทช์แบ็กกับแฮทช์แบ็กไฮบริดก็ใช้โครงสร้างเดียวกัน
มิติตัวถังSedan /e:HEVHatchback / e:HEVความกว้าง (มม.)1,748ความยาว (มม.)4,5534,349ความสูง (มม.)1,4671,488ระยะฐานล้อ (มม.)2,589น้ำหนัก (กก.)1,150 - 1,1651,170 - 1,179
เครื่องยนต์
สำหรับเครื่องยนต์ในรุ่นซีดานและแฮทช์แบ็ก ใช้ตัวเดียวกันคือ เครื่องยนต์ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1 ลิตร 988 ซีซี ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20
เครื่องยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นธรรมดา
ส่วนในรุ่น e:HEV เป็นเครื่อง เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซี ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500 – 5,000 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด E20 แบตเตอรี่ Lithium-ion
เครื่องยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นไฮบริด
เครื่องยนต์ e:HEV ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,500 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
สีตัวถังรถ
สำหรับสีตัวถังของฮอนด้าซิตี้แต่ละรุ่น มีจำนวนสีให้เลือก 6 สีเท่ากัน แต่มีสีทั้งหมด 10 แบบ ซึ่งบางสีก็มีในบางรุ่น ไม่มีในบางรุ่น ดังนี้
สีตัวถังรถSedanHatchbackSedane:HEVHatchback e:HEVแดงอิกไนต์ Ignite Red Metallicเฉพาะรุ่น RSเฉพาะรุ่น RSOOขาวแพลทินัม Platinum White Pearlเฉพาะรุ่น RS / SVเฉพาะรุ่น RS / SVOOขาวทาฟเฟต้า Taffeta Whiteเฉพาะรุ่น RS / SVเฉพาะรุ่น S+XXดำคริสทัล Crystal Black PearlOOOOเงินลูนาร์ Lunar Silver MetallicOXOXเทาโมเดิร์นสตีล Modern Steel MetallicOXOXเทาเมทิเออรอยด์ Meteoroid Gray MetallicXOXOเทาโซนิค Sonic Gray PearlXOXOน้ำเงินออบซิเดียน Obsidian Blue MetallicXXOOรวมจำนวนสี
สรุปคือสีหลักที่มีอยู่ในทุกรุ่นย่อยมีเพียงสีดำคริสทัลเท่านั้น และสีน้ำเงินจะมีเฉพาะรุ่นไฮบริดทั้ง 2 รุ่นเท่านั้น
ดูเพิ่มเติม
>> Honda City Hatchback e:HEV 2021 เปิดตัว เพิ่ม 1 หมื่นบาท จากโฉมซีดาน ราคา 849,000 บาท
>> Honda CR-V ปี 2021 BLACK EDITION แต่งเข้มให้รุ่น 5 ที่นั่ง
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
Honda City เทียบรุ่นทั้ง 4 แบบ ในส่วนของอุปกรณ์ภายนอกนั้น ทุกรุ่นมีสิ่งที่เหมือนกันหมดได้แก่อุปกรณ์ดังนี้
- ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
- เสาอากาศแบบครีบฉลาม
- ไล่ฝ้ากระจกหน้า-หลัง
- ระบบ Idle Stop
ภายนอกของ ฮอนด้า ซิตี้รุ่นธรรมดา
ภายนอกของ ฮอนด้า ซิตี้รุ่นไฮบริด
และนอกจากนี้ ฮอนด้าซิตี้ เปรียบเทียบอุปกรณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น มีดังนี้
อุปกรณ์มาตรฐานภายในรุ่นย่อย Sedan (S/V/SV/RS) Hatchback (S+/SV/RS) Hybrid (RS)SS+VSVRSไฟหน้า แบบโปรเจคเตอร์ LEDกระจังหน้าโครเมียมGloss Blackกันชนหน้า สไตล์สปอร์ตแบบ RSXXXXOสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss BlackXXXXOมือจับเปิดประตูด้านนอกสีเดียวตัวรถโครเมียมGloss Blackไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LEDXXXXOกระจกมองข้างพับด้วยมือปรับไฟฟ้าปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัวสีกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถสีดำสปอร์ตล้อกระทะ 15 นิ้วอัลลอย 15 นิ้วอัลลอย 16 นิ้ว
อุปกรณ์มาตรฐานภายใน
เปรียบเทียบ Honda City แต่ละรุ่น ส่วนของอุปกรณ์ภายในนั้น ทุกรุ่นมีสิ่งที่เหมือนกันหมดได้แก่อุปกรณ์ดังนี้
- เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
- ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ
- ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ
- พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
- ปุ่ม ECON และไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด
- ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
- ช่องเก็บเอกสารด้านหลังเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
- ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร และห้องสัมภาระท้าย
- กุญแจรีโมตพร้อมสวิตช์เปิดฝากระโปรงท้าย
- กระจกมองหลังแบบตัดแสง
ภายในของ ฮอนด้า แบบซีดาน
ภายในของ ฮอนด้า แบบแฮทช์แบ็ก
และนอกจากนี้ อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น มีดังนี้
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกรุ่นย่อย Sedan (S/V/SV/RS) Hatchback (S+/SV/RS) Hybrid (RS)SS+VSVRSสีภายในดำทูโทน รุ่นซีดาน / ดำ ุรุ่นแฮทช์แบ็กดำวัสดุหุ้มเบาะผ้าหนังแท้ และวัสดุหนังสังเคราะห์หนังกลับ/ผ้า/วัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้ายสีแดงวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano BlackXOXOOมือจับเปิดประตูด้านในสีเดียวตัวรถโครเมี่ยมระบบปรับอากาศOOอัตโนมัติPaddle ShiftXXXXOช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่งด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และ ด้านหลัง 2 ตำแหน่งMulti Information DisplayOOมาตรวัดเรืองแสงสีขาวมาตรวัดเรืองแสงสีแดงแผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าพนักเท้าแขนด้านหน้าXXOOOพนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วXXXXOราวมือจับ33334
และในส่วนของเบาะนั่งด้านหลังแบบอัลตราซีทแยกพับแบบ 60:40 แน่นอนว่ามีอยู่ในรุ่นแฮทช์แบ็กช์ทุกรุ่น
สำหรับรุ่นไฮบริดทั้ง 2 รุ่น ยังมีส่วนที่แตกต่างจากรุ่นอื่นนั่นคือ มีเพิ่มมาตรวัดดีไซน์ใหม่ พร้อมหน้าจอ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบช่วยชะลอความเร็วที่พวงมาลัยที่มาแทนที่ Paddle Shift เดิม
ระบบเครื่องเสียง
ในส่วนของระบบเครื่องเสียงนั้น ทุกรุ่นมีสิ่งที่เหมือนกันหมดได้แก่ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
เปรียบเทียบ Honda City แต่ละรุ่น ในส่วนระบบเครื่องเสี่ยงที่แตกต่างกันดังนี้
ระบบเครื่องเสียงรุ่นย่อย Sedan (S/V/SV/RS) Hatchback (S+/SV/RS) Hybrid (RS)SS+VSVRSระบบเครื่องเสียงวิทยุOOOหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlayรองรับการเชื่อมต่อ Smart PhoneXXXOOรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง SIRIXXXOOช่องเชื่อมต่อ USB11122จำนวนลำโพง44448ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECTXXXXO
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของ Honda City ทุกรุ่นมี ระบบพื้นฐานที่ติดตั้งในทุกรุ่น ได้แก่อุปกรณ์ดังนี้
- ถุงลมคู่หน้า และด้านข้างคู่หน้า
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
- ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- กุญแจแบบ Wave Key
- ไฟเบรกดวงที่ 3
ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยที่แตกต่างของฮอนด้าซิตี้ เปรียบเทียบในแต่ละรุ่น เป็นดังนี้
ระบบความปลอดภัยรุ่นย่อย Sedan (S/V/SV/RS) Hatchback (S+/SV/RS) Hybrid (RS)SS+VSVRSม่านถุงลมด้านข้างXXXXOกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับXXXOO
สำหรับรุ่นไฮบริดทั้ง 2 รุ่น ยังมีส่วนที่แตกต่างจากรุ่นอื่นนั่นคือ มีเพิ่มระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบ Auto Brake Hold พ่วงด้วยระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยรีโมต Engine Remote Start ระบบล็อกรถอัตโนมัติ Walk Away Auto Lock และเพิ่มกล้องแสดงภาพมุมอับสายตา Honda LaneWatch รวมถึงติดตั้งเพิ่ม อุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว TPRK ด้วย
ระบบ Honda SENSING ที่มีในรุ่นไฮบริดทั้ง 2 แบบ
นอกจากนี้พิเศษคือ มีระบบ Honda SENSING ประกอบด้วย
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam
- ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS
- ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC
สรุปเปรียบเทียบ Honda City แต่ละรุ่น
เราจะเห็นได้ว่า นอกจากเรื่องของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นธรรมดาและไฮบริดที่เห็นได้อย่างชัดเจน ยังมีในส่วนของรูปแบบที่เป็นซีดานและแฮทช์แบ็ก ดังนั้นในการเลือกว่า Honda city รุ่นไหนคุ้ม เราสามารถเลือกให้ตรงข้ามต้องการของคุณได้เลย
Honda City Hatchback ให้ความอเนกประสงค์มากกว่า
ใครที่ชอบเดินทางบ่อย ๆ ไปกับครอบครัว Honda City รุ่นแฮทชแบ็กก็จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ หรือต้องการใช้งานทั่วไป เน้นเดินทางในเมืองและไม่เน้นขนสัมภาระ ซีดานก็จะเป็นคำตอบของโจทย์คุณได้เช่นเดียวกัน ให้คุณลองหาคำตอบเรื่องประเภทของตัวถังก่อนว่าชอบแบบ 4 ประตูหรือ 5 ประตู จากนั้นให้ไปเลือกอีกทีว่าอยากได้แบบรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา หรือแบบไฮบริด ซึ่งรุ่นไฮบริดนั้น มีส่วนที่เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น ในด้านอุปกรณ์และสมรรถนะทุกอย่าง แตกต่างกันที่ซีดานและแฮทชแบ็กเท่านั้น ไม่มีรุ่นย่อยให้เลือกเหมือนธรรมดา
ต้องการออปชั่นจัดเต็ม ความปลอดภัยครบชุด สมรรถนะเป็นเลิศ เลือกแบบไฮบริด
หากต้องการใช้งานทั่วไป และอยากราคาที่ถูกมากกว่า ในรุ่นธรรมดาจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมีตัวเลือกรุ่นย่อยที่หลากหลาย แต่ในรุ่นไฮบริดจะมีเพียงรุ่นท็อปอย่าง RS เพียงเท่านั้น และราคาที่สูงมากกว่า แต่ก็แลกมากับความคุ้มที่มากกว่าเพราะมีความครบครันในทุกด้านทั้งสมรรถนะและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยที่มีให้แบบจัดเต็มด้วย Honda SENSING
และนี่คือข้อมูลของ Honda City ทุกรุ่น ฉบับละเอียด ลองเลือกให้โดนใจคุณ แบบไหนที่ใช่ที่สุด เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านของคุณ หรือหากมองหาตัวเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดกว่า เข้าไปเลือกซื้อ Honda City มือสองได้ ที่ Chobrod ตลาดรถมือสองออนไลน์ชั้นนำของไทย