6ความหลากหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ปรองดองสมานฉันท์ ความหลากหลายทางสังคมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดินแดนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนแต่ละชาติ ซึ่งมีลักษณะวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีการดำเนินชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป
ดังนั้นการศึกษาลักษณะทางด้านสังคมและวัฒนธรรมของประชาชนในประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียน ทำให้รู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และสิ่งแวดล้อมของประชาชนในแต่ละประเทศ ให้มีประโยขน์ต่อการติดต่อ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมของชาติ สร้างความภาคภูมิใจในประเทศชาติของตนและภูมิภาคร่วมกัน
- ประเทศบรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam) เมืองหลวงคือ บันดาร์เสรีเบกาวัน ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ระบบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การเมืองค่อนข้างมั่นคง รายได้เฉลี่ยต่อคนเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ผู้ส่งออกและมีปริมาณสำรองน้ำมันอันดับ 4 ในอาเซียน
- ประเทศกัมพูชา (Combodia) เมืองหลวงคือ พนมเปญ ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท ระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ ค่าจ้างแรงงานต่ำที่สุดในอาเซียน มีทรัพยากรธรรมชาติหลากหลายและสมบูรณ์
- ประเทศอินโดนิเซีย (Indonesia) เมืองหลวงคือ จาการ์ตา ใช้ภาษาอินโดนิเซียเป็นภาษาราชการ ประชากรประกอบด้วยชนพื้นเมืองหลายกลุ่ม มีภาษามากกว่า 583 ภาษา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจำนวนประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ประเทศลาว (Laos) เมืองหลวง คือ เวียงจันทร์ ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวลาวลุ่ม ลาวเทิง ลาวสูง ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ระบบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
- ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) เมืองหลวง คือ กัวลาลัมเปอร์ ใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์ จีน อินเดีย ชนพื้นเมืองเกาะบอร์เนียว ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา มีปริมาณสำรองน้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย-แปซิฟิก มีปริมาณแก๊สธรรมชาติมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย-แปซิฟิก
- ประเทศเมี่ยนมา หรือพม่า (Myanmar) เมืองหลวงคือ เนปยีดอ ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ เป็นประชากรหลายเผ่าพันธุ์มีเชื้อชาติหลักๆ คือ พม่า ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง ยะไข่ จีน มอญ อินเดีย ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ระบบการปกครองแบบเผด็จการทางทหาร ปกครองโดยรัฐบาลทหาร มีพรมแดนเชื่อมต่อกับจีนและอินเดีย ค่าจ้างแรงงานต่ำเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน มีปริมาณแก๊สธรรมชาติเป็นจำนวนมาก
- ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) เมืองหลวงคือ มะนิลา ใช้ภาษาตากาล็อก และภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์ จีน อินโดนิเซีย ชนพื้นเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก การปกครองแบบประชาธิปไตยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข แรงงานทั่วไปมีความสื่อสารรู้ภาษาอังกฤษได้
- ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) เมืองหลวงคือ สิงคโปร์ ใช้ภาษามาเลย์ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลาง เพื่อติดต่องานและใช้ในชีวิตประจำวัน ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา และศาสนอิสลาม มีการปกครองแบบสาธารณรัฐ (ประชาธิปไตยแบบรัฐสภามีสภาเดียว) โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร รายได้เฉลี่ยต่อคนเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน แบะอะรดะย 15 ของโลก แรงงานทีทักษะสูง
- ประเทศเวียดนาม (Vietnam) เมืองหลวงคือ ฮานอย ใช้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม เขมร ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน มีการปกครองระบบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองเดียว มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย-แปวิฟิก
- ประเทศไทย (Thailand) เมืองหลวง คือ กรุงเทพมหานคร ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการคมนาคมด้านต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง
อ้างอิง หนังสือรายวิชาหน้าที่พลเมือง 1-2 สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ปรองดองสมานฉันท์
เพิ่มเติม
นิกายสำคัญของพระพุทธศาสนา
๑. นิกายเถรวาท หรือ หินยาน เป็นนิกายเก่าแก่ที่สุด ยึดถือพระธรรมวินัยเดิมอย่างเคร่งครัด หินยาน เป็นนิกายของภิกษุฝ่ายใต้ของอินเดีย บางทีเรียก “ทักษิณนิกาย” (นิกายฝ่ายใต้) คือ “เถรวาท” ซี่งมุ่งสอนให้พระสงฆ์ปฏิบัติเพื่อดับกิเลสของตนเองก่อน และห้ามเปลี่ยนแลงแก้ไขพระธรรมวินัยอย่างเด็ดขาด คำว่า “หินยาน” เป็นคำที่ฝ่ายมหายานตั้งให้ แปลว่า “ยานเล็ก” ส่วนภิกษุฝ่ายใต้เรียกตัวเองว่า “เถรวาท”หมายถึง ผู้ปฏิบัติตามพุทธบัญญัติอย่างเที่ยงตรง นิกายนี้มีผู้นับถือมากในประเทศศรีลังกา พม่า ลาว ไทย และกัมพูชา
๒. นิกายมหายาน ภิกษุบางรูปไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับสังคายนามาตั้งแต่ครั้งแรก และเหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นกับหลายสังคายนา มีกลุ่มแยกตัวทำสังคายนาต่างหาก เป็นการ แตกแยกทางความคิดและนิกายมหายาน เป็นนิกายของภิกษุฝ่ายเหนือของอินเดีย บาทีเรียก “อุตรนิกาย” (นิกายฝ่ายเหนือ) บ้าง “อาจารยวาท” บ้าง ซึ่งมีจุดมุ่งสอนให้ระงับดับกิเลส ทั้งยังได้แก้ไขคำสอนในพระพุทธศาสนา ให้ผันแปรไปตามลำดับ พวกนี้เรียกลัทธิของตนว่า “มหายาน” ซึ่งแปลว่า “ยานใหญ่” อาจพาประชาชนให้ข้ามวัฏสงสาร คือ ความทุกข์จาการเวียนว่ายตายเกิดได้คราวละมาก ๆ นิกายนี้ได้เข้าไปเจริญรุ่งเรื่องอยู่ในประเทศทิเบต จีน มองโกเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม
๓. นิกายวัชระยาน เกิดจากพระพุทธศาสนามหายาน ที่แยกออกเป็นนิกายประมาณ ๔ นิกาย คือ
- นิกายศูนยวาทหรือมาธยมิก ผู้ก่อ ตั้งคือ คุรุนาคารชุน
- นิกายวิชญานวาทหรือโยคาจาร ผู้ก่อตั้ง คือ ท่านไมตรีนาถ
- นิกายจิต อมตวาท
- นิกายพุทธตันตระหรือมนตรยานซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นวัชระยาน