กรมบัญชีกลางปรับเพิ่มค่ารักษาทางทันตกรรม ระบุเพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน หวังช่วยให้ผู้มีสิทธิสวัสดิการข้าราชการและบุคคลในครอบครัวเข้าถึงการรับบริการมากขึ้น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป คาดจะใช้งบเพิ่มขึ้นปีละ 410 ล้านบาท ขณะที่ปี 58 ใช้งบด้านทันตกรรม 1,170 ล้านบาท รวมเป็นเงินเฉพาะทันตกรรมประมาณปีละ 1,580 ล้านบาท นายมนัส
แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้ปรับอัตราค่าบริการสาธารณสุข ในส่วนค่าบริการทางทันตกรรม ฟันเทียมถอดได้และอุปกรณ์เพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว รวมถึงจะช่วยให้เข้าถึงการรับบริการทางทันตกรรมได้มากขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป "กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงอัตราค่าบริการสาธารณสุขใหม่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งได้ปรับปรุงค่าบริการและเพิ่มรายการเกี่ยวกับทันตกรรม ฟันเทียมถอดได้และอุปกรณ์ ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นรายการที่มีการใช้บริการจำนวนมาก และมีความจำเป็นในการรักษา ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 410 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 ใช้งบประมาณในด้านทันตกรรมเป็นเงิน 1,170 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 1.76 ของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด" นายมนัส กล่าว ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ประกาศกำหนด รายการ อัตรา
และเงื่อนไขการเบิกจ่ายอัตราค่าบริการทางทันตกรรมฟันเทียมถอดได้และอุปกรณ์ สำหรับสถานพยาบาลของทางราชการ ประกอบด้วย 1.เพิ่มรายการค่าบริการ 11 รายการ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อการรักษา และ 2.ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการ จำนวน 46 รายการ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับโครงสร้างต้นทุนของสถานพยาบาล และลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว รายการและอัตราค่าบริการทางทันตกรรมใหม่ ที่ให้เบิก อาทิเช่น รายการ หน่วย อัตราเดิม (บ.) อัตราใหม่ (บ.) 1.ถอนฟันน้ำนม/ฟันแท้ ซี่ 170 200 2.ผ่าตัดฟันคุดหรือฟันฝังโดยกรอกระดูกและฟัน ซี่ 600 1,000 3.ผ่าตัดและอุดปลายราก (retrograde) ฟันหลัง ซี่ 860 1,480 4.อุดฟันชั่วคราว ซี่ 200 240 5.ขูดหินน้ำลายทั้งขากรรไกร (บนหรือล่าง) ครึ่งปาก - 140 6.เพดานเทียมพร้อมฟันปลอมบางส่วนถอดได้สำหรับผู้ใหญ่Adult definitive obturator with upper Temporary Plate ชิ้น - 6,210 7.เพดานเทียมพร้อมฟันปลอมถอดได้ทั้งปากสำหรับผู้ใหญ่Adult definitive obturator with upper Temporary Plate ชิ้น - 4,850 8.Dental upper & lower casts (เพื่อการจัดฟันในเด็กปากแหว่งเพดานโห่ว) ครั้ง - 590
- ข่าว
- มนัส แจ่มเวหา
- กรมบัญชีกลาง
- ทันตกรรม
- สวัสดิการข้าราชการ
- ทำฟัน
- ข้าราชการ
- 843 views
สิทธิการรับบริการ ของโรงพยาบาลทันตกรรม
สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลด้วยบัตรประชาชน (ประเภทผู้ป่วยนอก)
การใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงค่ารักษาด้วยบัตรประชาชน สำหรับผู้มีสิทธิที่เบิกกับกรมบัญชีกลาง
สิทธิประกันสังคม
กรณีทันตกรรม (อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุดและใส่ฟันเทียม)
ผู้ประกันตนมีสิทธิเข้ารับการบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลใดก็ได้ในกรณี อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด โดยสำรองเงินจ่ายไปก่อนและนำหลักฐานมาขอเบิกเงินคืนได้ในอัตราปีละไม่เกิน 900 บาท/ปี (เงื่อนไขการเบิกเงินเป็นไปตามประกาศประกันสังคม) และมีสิทธิใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานอคริลิก (พลาสติก) 1-5 ซี่ ในวงเงินไม่เกิน 1,300 บาท ตั้งแต่ 6 ซี่ขึ้นไปจะเบิกได้ไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่วันที่ใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ฐานอคริลิก ครึ่งปากบน 2,400 บาท ครึ่งปากล่าง 2,400 บาท ทั้งปาก 4,400 บาท
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์กรณีทันตกรรม
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม
2. ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน
3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาบัตรรับรองสิทธิฯ
4. กรณีขอรับเงินทางธนาคาร ให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้สิทธิการรักษาทางทันตกรรม
สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิบัตรทอง
สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือที่ถูกเรียกว่า ” บัตรทอง หรือ บัตร 30 บาท “ อันเป็นหลักประกันด้านสุขภาพภายใต้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 โดยรัฐบาลให้มีการจัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้คนไทยได้เข้าถึงบริการ ด้านการเพทย์และสาธารณสุข การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต
ผู้ที่สามารถใช้สิทธิบัตรทอง- ผู้ที่มีสัญชาติไทย
- ผู้มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
- ผู้ที่ไม่มีสิทธิประกันสุขภาพอื่น เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
- บัตรประจำตัวประชาชน กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ให้ใช้ใบเกิดหรือเอกสารที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง (เพื่อรับรองการใช้สิทธิ)
- บัตรโรงพยาบาลทันตกรรม หรือ บัตรนัดหมายตรวจ
- ใบส่งตัวจากสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด (ถ้ามี)
สิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บัตรทอง) ผู้รับบริการจะได้รับการคุ้มครองในรายการรักษา มีดังนี้: อุดฟัน / ถอนฟัน / ขูดหินปูน / ผ่าฟันคุด / การให้ฟลูออไรด์เสริมในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ / การรักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม/การเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และการใส่ฟันเทียม(ฐานพลาสติก)
เงื่อนไขการเข้ารับบริการผู้รับบริการที่มีสิทธิบัตรทอง เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร – นำบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนก่อนเข้ารับบริการ (ทุกครั้งที่รับบริการ) สามารถรับการรักษาตามสิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมที่สปสช.กำหนด
ผู้รับบริการที่มีสิทธิบัตรทอง นอกเขตพื้นที่กรุงเทพฯ หรือ ต่างจังหวัด – นำบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบและยื่นหนังสือใบส่งตัวจากสถานพยาบาล/หน่วยงานต้นสังกัด(ก่อนเข้ารับบริการ) กรณีไม่มีหนังสือใบส่งตัว แต่มีความจำเป็นต้องรับการรักษาเร่งด่วน (ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถาม)
หน่วยงานที่รับผิดชอบ: ศูนย์ประสานสิทธิการรักษาฯ ชั้น1อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ 50 พรรษา โทร.02-2007777 (เบอร์ภายใน1033)