ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวและหายใจเองได้ ให้จับตัวผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนตะแคง และทำการปฐมพยาบาลตามอาการที่เจอซึ่งจะกล่าวในภายหลัง
2. โทร
รีบโทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 โดยแจ้งอาการผู้ป่วย สถานที่เกิดเหตุ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้งเพื่อให้เจ้าเหน้าที่ติดต่อกลับหากที่หาที่เกิดเหตุไม่เจอ รวมถึงแจ้งรายละเอียดของผู้ป่วย เช่น อาการ สถานที่ที่พบ เส้นทางที่เดินทางมาได้สะดวก หากอยู่เพียงลำพัง อย่าทิ้งผู้ป่วยไปไหน ให้เปิดลำโพงโทรศัพท์ เพื่อสื่อสารและรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพ หากอยู่หลายคนให้ผู้อื่นเป็นคนโทร.แจ้ง หากแถวนั้นไม่มีเครื่อง AED ให้แจ้งเจ้าหน้าที่นำเครื่อง AED มาด้วย
ตัวอย่างการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ : พบผู้ป่วยหมดสติไม่หายใจ เป็นผู้ชายอายุประมาณ 45 ปี ที่หน้าโรงรับจำนำ ตลาดบางพลี ผมผู้พบเหตุ ชื่อนายสง่า เบอร์ติดต่อ 089-XXX-XXXX และให้นำเครื่อง AED มาด้วย
3. ปั๊ม
การกดหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้นขณะที่รอหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพ โดยให้คุกเข่าบริเวณข้างลำตัวผู้ป่วยในระดับไหล่ จัดท่าผู้ป่วยนอนหงายเพื่อเปิดทางเดินหายใจโดยการ ดันหน้าผาก – ดึงคางขึ้น และตรวจสอบการหายใจโดยการเอียงหูฟังแนบที่จมูกผู้ป่วย จากนั้นให้เริ่มช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ด้วยการกดหน้าอก โดยวางสันมือข้างที่ถนัดตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอกด้วยความลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ในอัตราเร็ว 100 – 120 ครั้งต่อนาที
ข้อแนะนำ : หากมีโอกาสได้เรียนให้พยายามซ้อมทำบ่อย ๆ เวลาทำจริงเราจะทำได้ด้วยความแรงและน้ำหนักที่ถูกต้อง
โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลโรงพยาบาลพันธมิตรยอดเยี่ยม Best Healthcare Provider Partnership Award 2022
Best Healthcare Provider Partnership Award เป็นรางวัลสำหรับโรงพยาบาลที่ประสบความสำเร็จและมีความเป็นเลิศในด้าน
อ่านเพิ่มเติมโรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Rising Star Sustainability Awards งาน SET Awards 2022
รางวัลสำหรับบริษัทที่มุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม ในงานประกาศรางวัล SET Awards 2022
อ่านเพิ่มเติมกิจกรรมวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2565
โรงพยาบาลพระรามเก้า จัดกิจกรรมถวายราชสักการะ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2565
แนวทางการปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญ โดยแต่เดิมมีคำแนะนำให้ทำตามลำดับ A-B-C (Airway-Breathing-Circulation) แต่ปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงลำดับขั้นตอนเป็น C-A-B (Chest compression-Airway-Breathing) เนื่องจากการกดหน้าอกก่อนจะทำให้มีเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนสำคัญ เช่น หัวใจและสมอง
เครดิต : สถานบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
การกู้ชีพ หมายถึง การปฏิบัติการเพื่อช่วยฟื้นการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ที่หยุดทำงานอย่างกระทันหัน เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นเองได้ตามปกติ แนวทางการปฏิบัติ ประกอบด้วย
1. การประเมินผู้ป่วยว่ายังรู้สึกตัวอยู่หรือไม่ โดยการเรียกผู้บาดเจ็บ หรือการเขย่าผู้บาดเจ็บเบาๆ หากไม่มีสติ คลำหาชีพจรไม่พบ ควรเรียกขอความช่วยเหลือหรือเรียกบริการการแพทย์ฉุกเฉินจากหน่วยงานต่าง ๆ ทันที โดยสามารถโทร 1669
2. การกดหน้าอกอย่างถูกต้องและทันท่วงที(CPR)สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บที่ควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้วยการทำ CPR สามารถสังเกตได้ดังนี้
4. การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นสูงอย่างมีประสิทธิภาพ
5. การดูแลภายหลังการช่วยฟื้นคืนชีพ
C : Chest compression คือการกดหน้าอก ปั๊มหัวใจช่วยให้ผู้บาดเจ็บมีการไหลเวียนของเลือดในร่างกายอีกครั้งหนึ่ง
ให้ผู้บาดเจ็บนอนราบกับพื้นแข็ง ๆ กดหน้าอกโดยจัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงายโดยผู้ช่วยเหลือนั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้างของผู้ป่วย วางส้นมือข้างหนึ่งตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก และวางอีกข้างทับประสานกันไว้ แขนสองข้างเหยียดตรง โดยให้แนวแขนตั้งฉากกับหน้าอกผู้ป่วยและเริ่มกดหน้าอกผู้ป่วย โดยกดลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว ความเร็วอย่างน้อย 100ครั้งต่อนาที ควรกดให้มีน้ำหนักเท่าๆกันในการกดแต่ละครั้ง
A : Airway หมายถึง การเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง เพราะโดยมากผู้บาดเจ็บที่หมดสติจะมีภาวะโคนลิ้นและกล่องเสียงตกลงไปอุดทางเดินหายใจส่วนบน
***ทั้งนี้ในการช่วยหายใจได้กำหนดข้อปฏิบัติให้เริ่มจากการกดหน้าอก(C)ไปก่อน 30 ครั้ง แล้วจึงสลับกับการช่วยหายใจ (B)2 ครั้ง ตามสูตร 30:2