จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา (เล่ม 120/ตอนที่ 95 ก/หน้า 1/2 ตุลาคม 2546) |
รัฐสภาไทย |
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
24 กันยายน 2546 |
พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี |
24 กันยายน 2546 |
2 ตุลาคม 2546 (ราชกิจจานุเบกษา: เล่ม 120/ตอนที่ 95 ก/หน้า 1/2 ตุลาคม 2546) |
30 มีนาคม 2547 (เมื่อพ้นหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ) [1] |
•
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม[2] |
ดูในบทความ |
ดูในบทความ |
30 ตุลาคม 2545 ขั้นรับหลักการ ให้รับหลักการ[3] |
26 มีนาคม
2546 ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา[4] |
26 มีนาคม 2546 ขั้นสุดท้าย ให้เสนอวุฒิสภาพิจารณาต่อได้[4] |
4 เมษายน
2546 ขั้นรับหลักการให้รับหลักการ[5] |
ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา |
ขั้นสุดท้าย |
การคุ้มครองเด็ก • สวัสดิภาพของเด็ก |
ห้องสมุดกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เป็นกฎหมายไทย ประเภทพระราชบัญญัติ ร่างขึ้นโดยคณะรัฐมนตรีไทยในสมัยพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร และตราขึ้นโดยรัฐสภาไทยในสมัย อุทัย พิมพ์ใจชน เป็นประธานรัฐสภา โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ ทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2546 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2546 และมีผลใช้บังคับในอีกหนึ่งร้อยแปดสิบวันถัดมา คือ วันที่ 30 มีนาคม 2547 แทนที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 294
การยกร่าง[แก้]
ชั้นสภาผู้แทนราษฎร[แก้]
การเสนอร่างพระราชบัญญัติ ในปลาย พ.ศ. 2545 มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กถึงแปดฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 คือ[3]
ที่ | ผู้เสนอ | ชื่อร่างพระราชบัญญัติ |
1. | คณะรัฐมนตรี | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
2. | นิภา พริ้งศุลกะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะ | "ร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน พ.ศ. ..." |
3. | ปวีณา หงสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | "ร่างพระราชบัญญัติสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และครอบครัว พ.ศ. ..." |
4. | ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ และศรคม ฦๅชา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
5. | กัญจนา ศิลปอาชา และจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
6. | อำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะ | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
7. | พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
8. | สลิลทิพย์ ชัยสดมภ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." |
วาระที่หนึ่ง ขั้นรับหลักการ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 2 ครั้งที่ 24 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันที่ 30 ตุลาคม 2545 ที่ประชุมมีมติให้รับหลักการของร่างพระราชบัญญัติทั้งแปด หลักการ คือ ให้มีกฎหมายคุ้มครองเด็ก[3] นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งแปดรวมกัน ประกอบกรรมาธิการทั้งสิ้นสามสิบห้าคน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 190 และให้แปรญัตติร่างพระราชบัญญัติทั้งแปดภายในเจ็ดวัน[6]
วาระที่สอง ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา แม้ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้แปรญัตติร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวภายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2545 แต่มีการปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติก่อนในช่วงขึ้นปีใหม่ ต่อมา เมื่อคณะกรรมาธิการรวมร่างพระราชบัญญัติทั้งแปดฉบับเข้าเป็นร่างฉบับเดียวกัน ให้ชื่อว่า "ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ..." แล้ว สภาผู้แทนราษฎรจึงให้นำขึ้นพิจารณาใหม่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 3 ครั้งที่ 15 วันที่ 26 มีนาคม 2546 โดยที่ประชุมพิจารณาชื่อร่าง คำปรารภ แล้วเรียงมาตราตามลำดับจนจบร่าง
วาระที่สาม ขั้นสุดท้าย ในการประชุมครั้งเดียวกันกับวาระที่สอง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติให้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อวุฒิสภาได้ เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการในชั้นสภาผู้แทนราษฎร[4]
ชั้นวุฒิสภา[แก้]
วาระที่หนึ่ง ขั้นรับหลักการ ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญทั่วไป) วันที่ 4 เมษายน 2546 ที่ประชุมวุฒิสภาอภิปราย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แถลงตอบ เสร็จแล้ว ที่ประชุมมีมติให้รับหลักการ คือ ให้มีกฎหมายคุ้มครองเด็ก[7] ในการนี้ ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ประกอบกรรมาธิการยี่สิบเจ็ดคน แล้วกำหนดให้แปรญัตติภายในสิบห้าวัน[5]
อย่างไรก็ดี ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญทั่วไป) วันที่ 25 เมษายน 2546 คณะกรรมาธิการขอขยายเวลาพิจารณาออกไปอีกสามสิบวัน จากเดิมให้พิจารณาถึงวันที่ 27 เมษายน 2546 และที่ประชุมอนุมัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศ้กราช 2540 มาตรา 174[8]
วาระที่สอง ขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา
วาระที่สาม ขั้นสุดท้าย
โครงสร้าง[แก้]
พระราชบัญญัตินี้ ประกอบด้วยมาตราทั้งหมดแปดสิบแปดมาตรา แบ่งเป็นสิบเอ็ดหมวด ดังต่อไปนี้
ที่ | ชื่อหมวด | มาตรา |
1. | - (หมวดนิรนาม) | 1-6 |
2. | หมวด 1 คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก | 7-21 |
3. | หมวด 2 การปฏิบัติต่อเด็ก | 22-31 |
4. | หมวด 3 การสงเคราะห์เด็ก | 32-39 |
5. | หมวด 4 การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก | 40-47 |
6. | หมวด 5 ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก | 48-50 |
7. | หมวด 6 สถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู | 51-62 |
8. | หมวด 7 การส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา | 63-67 |
9. | หมวด 8 กองทุนคุ้มครองเด็ก | 68-77 |
10. | หมวด 9 บทกำหนดโทษ | 78-86 |
11. | บทเฉพาะกาล | 87-88 |
ภาพรวม[แก้]
เหตุผล[แก้]
เหตุผล ของพระราชบัญญัตินี้ คือ
"...โดยที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 294 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน สาระสำคัญและรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก ไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน สมควรกำหนดขั้นตอนและปรับปรุงวิธีการปฏิบัติต่อเด็กให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้เด็กได้รับการอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และมีพัฒนาการที่เหมาะสม อันเป็นการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันครอบครัว รวมทั้งป้องกันมิให้เด็กถูกทารุณกรรม ตกเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม และสมควรปรับปรุงวิธีการส่งเสริมความร่วมมือในการคุ้มครองเด็กระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตตินี้"
คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก[แก้]
การคุ้มครองเด็ก[แก้]
พระราชบัญญัติดังกล่าวคุ้มครองเด็ก คือ บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่สมรส โดยมีการจดทะเบียนสมรสชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว แต่ไม่นับรวมการสมรสโดยพฤตินัย
เด็กในกระบวนการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพหรือส่งเสริมความประพฤติตามพระราชบัญญัตินี้ จะต้องมีอายุไม่ครบ 18 ปีบริบูรณ์ แต่หากเข้าสู่กระบวนการนี้แล้ว แม้จะอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว ก็ถือว่าบุคคลนั้นยังมีสิทธิได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพหรือส่งเสริมความประพฤติต่อไป[9]
หัวใจของบทบาทของผู้ปกครองอยู่ที่มาตรา 23 ซึ่งบัญญัติว่า[10]
"ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนและพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนมิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ"
กองทุนคุ้มครองเด็ก[แก้]
ความผิดอาญา[แก้]
กรณีการห้ามเด็กออกจากบ้านหลัง 22.00 นาฬิกา พ.ศ. 2554[แก้]
โฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า แนวคิดการห้ามเด็กออกจากบ้านเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองโนยบายลดอาชญากรรมในกรุงเทพมหานคร 20% ภายใน 6 เดือนของรัฐบาล[11]
พลตำรวจตรีอำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเสนอให้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัตินี้ ห้ามเด็กออกจากบ้านหลัง 22.00 นาฬิกา [12] เพื่อลดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเด็ก โดยมีพื้นที่เฝ้าจับตา คือ สถานบันเทิง และร้านให้บริการคอมพิวเตอร์ โดยใช้มาตรการคือ หากพบเด็กอยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสม โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะนำตัวไปยังโรงพัก เพื่อทำประวัติและเรียกผู้ปกครองมารับกลับบ้าน[12] รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่ามาตรการดังกล่าวช่วยปกป้องเด็ก ซึ่งอาศัยความตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก หากพบเด็กคนใดฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาทำประวัติและเชิญผู้ปกครองมาพบ ผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กกระทำความผิดมากกว่า 1 ครั้ง มีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท[13]
มาตรการดังกล่าวได้รับการตอบรับทั้งสนับสนุนและคัดค้าน โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเรียกมาตรการนี้ว่า "เคอร์ฟิวเด็ก" และเห็นว่าอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก เช่น อาจถูกตำรวจรีดไถ หรือมีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ทำอันตรายต่อเด็ก ส่วนนักวิชาการและองค์การสิทธิมนุษยชนเห็นว่าอาจละเมิดสิทธิและเสรีภาพของเด็ก บางคนยืนยันว่าตำรวจไม่มีอำนาจออกคำสั่งเช่นนี้ เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติ ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ต้องหาฐานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเสียเอง[14] สำหรับฝ่ายที่เชื่อว่าตำรวจนครบาลสามารถใช้อำนาจตามพระราชบัญญัตินี้บังคับใช้นโยบาลดังกล่าว อ้างอำนาจตามกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ และกฎกระทรวงที่ออกโดยอาศัยอำนาจคำสั่งคณะปฏิวัติที่ 249 [15]
ตัวแทนตำรวจนครบาล กล่าวว่า ตำรวจมีแนวคิดควบคุมโต๊ะสนุกเกอร์ ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านเกม และสถานบันเทิง ซึ่งจะดำเนินการในกรณีที่พบเด็กในสถานที่ดังกล่าวโดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วยเท่านั้น[16]
จากสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสวนดุสิตโพล ร้อยละ 62.87 เห็นว่าสามารถแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากเด็กและเยาวชนได้ ร้อยละ 67.41 คิดว่ารัฐบาลมีสิทธิควบคุมความประพฤติของเยาวชนของประเทศ ร้อยละ 68.15 เห็นว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการคุ้มครองเด็ก และร้อยละ 65.91 เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ส่วนร้อยละ 52.27 เห็นว่ากระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก[17]
เชิงอรรถ[แก้]
- ↑ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 2
"พระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป"
- ↑
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง
"ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้..."
- ↑ 3.0 3.1 3.2 "ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาต่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ...". (2545, 12 ธันวาคม 2545). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 119, ตอนที่ 100 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "บันทึกการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 26 มีนาคม พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา". (2545, 12 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 119, ตอนที่ 100 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ 5.0 5.1 "ประกาศวุฒิสภา เรื่อง ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาต่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ...". (2546, 13 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 120, ตอนที่ 38 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ "บันทึกการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 2 ครั้งที่ 24 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 30 ตุลาคม พุทธศักราช 2545 ณ ตึกรัฐสภา". (2545, 12 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 119, ตอนที่ 100 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ "บันทึกการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา". (2546, 8 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 120, ตอนที่ 37 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ "บันทึกการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา". (2546, 22 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 120, ตอนที่ 41 ง). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. เข้าถึงเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2554.
- ↑ สคช.จังหวัดพิจิตร. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 Archived 2008-06-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. สืบค้น 30-1-2554.
- ↑ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 Archived 2010-07-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก. สืบค้น 30-1-2554.
- ↑ //www.bangkokpost.com/print/216468[ลิงก์เสีย]
- ↑ 12.0 12.1 เจาะประเด็น: กฎเหล็ก..เคอร์ฟิวเด็ก 18 ปี. (17 มกราคม 2554). สืบค้น 30-1-2554.
- ↑ ชุมทางอีสาน ประจำวันที่ 20 มกราคม 2554[ลิงก์เสีย]. แนวหน้า. (20 มกราคม 2554). สืบค้น 13-2-2554.
- ↑ เคอร์ฟิวเด็กคือดาบ 2 คม. (18 มกราคม 2554). สืบค้น 30-1-2554.
- ↑ ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 19 – 01 – 2554[ลิงก์เสีย]
- ↑ ตำรวจย้ำเคอร์ฟิวเด็กแค่ 4 จุดร้านเน็ต-เกม-โต๊ะสนุก-สถานบันเทิง. (27 มกราคม 2554). สืบค้น 30-1-2554.
- ↑ ดุสิตโพลชี้คนชอบเคอร์ฟิวเด็ก Archived 2011-01-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. โพสต์ทูเดย์. (16 มกราคม 2554). สืบค้น 30-1-2554.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก - ห้องสมุดกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา Archived 2011-03-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประกาศ
- สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาต่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ... ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2545
- วุฒิสภา เรื่อง ตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาต่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ... ลงวันที่ 10 เมษายน 2546
- บันทึกการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
- ชุดที่ 21 ปีที่ 2 ครั้งที่ 24 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ 30 ตุลาคม พุทธศักราช 2545 ณ ตึกรัฐสภา
- ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 26 มีนาคม พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา
- บันทึกการประชุมวุฒิสภา
- ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา
- ครั้งที่ 19 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พุทธศักราช 2546 ณ ตึกรัฐสภา