รายละเอียด หมวด: หน้าแถวและแนวทาง ฮิต: 39710
ความหมาย ความพร้อมเพรียงกัน ความปรองดองกัน
สำนวน “สามัคคีคือพลัง”
ข้อคิด
“มิตรภาพ งอกเงยได้ด้วยความจริงใจ”
“อย่าอยู่เฉย ๆ เพราะคิดว่าตัวเองทำได้เล็กน้อย แต่จงทำเท่าที่ทำได้”
“อย่าให้ความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นตัวบั่นทอนมิตรภาพอันดี ที่มีต่อกัน”
ประโยชน์ของความสามัคคี
1.งานและกิจการต่าง ๆ ของกลุ่มสำเร็จลุล่วงไปอย่างดี
2.รู้จักที่จะแบ่งปันและเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
3.ชีวิตมีความสุข ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
4.เป็นคนใจกว้าง พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของคนรอบข้าง
5.เป็นที่ยอมรับของคนอื่น
โทษของการไม่มีความสามัคคี
1.งานและกิจการต่าง ๆ
เกิดความเสียหาย ล้มเหลว
2.เกิดความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักเสียสละ
3.ชีวิตไม่มีความสุข
4.ไม่เป็นที่ยอมรับของคนอื่น
“ด้วยว่ามีคนสอง สามคนประชุมกันที่ไหน ในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น” ( มธ 18 : 20 )
“จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าใฝ่สูง แต่จงถ่อมใจลงยอมทำการต่ำ อย่าถือว่าตัวฉลาด” ( รม 12 : 16 )
“จงมีใจถ่อมทุกอย่างและใจอ่อนสุภาพ อดทนนานและอดกลั้นต่อกันและกัน ด้วยความรัก จงเพียรพยายามให้คงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน…..” ( อฟ 4 : 2 – 3 )
“ท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กัน เหมือนดังที่พระเจ้า ได้ทรงโปรดอภัยโทษให้แก่ท่านในพระคริสต์นั้น” ( อฟ 4 : 32 )
“จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่งบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น” ( คส 3 : 16 )
“เหตุฉะนั้นจงหนุนใจกันและต่างคนต่างจงก่อกันขึ้น ตามอย่างที่ท่านกำลังทำอยู่นั้น” ( 1 ธส 5 : 11 )
เรื่องสั้น
ชาวนาสองคน
ในกาลครั้งหนึ่ง ชาวนาสองคนต่างพยายามจะผ่านซึ่งกันและกันไป เลื่อนของเขาก็เลยเกี่ยวพันกัน คนหนึ่งก็ร้องขึ้นว่า “จงหลีกหนีทางให้ข้า” คนหนึ่งก็ร้องขึ้นว่า “จงหลีกทางให้ข้า เพราะว่า ข้าต้องไปในเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้” อีกคนหนึ่งก็พูดว่า
“แกนั่นแหละให้ทางข้า เพราะว่า ข้าต้องกลับบ้านให้เร็วทีสุดเท่าที่จะทำได้”
เขาทั้งสองเถียงกันอยู่เช่นนั้นเป็นเวลานาน ชาวนาคนที่สามมาเห็นเข้าก็บอกว่า
“ถ้าหากท่านทั้งสองเร่งรีบกันมากขนาดนั้น ถ้างั้นต่างคนต่างก็ให้ทางกันคนละหน่อยจะดีกว่า”
นิทานเรื่องนี้สอนว่า “ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ งานใหญ่ก็จะสำเร็จลงได้”
พฤติกรรมที่ปรารถนาให้ผู้เรียนบฏิบัติ
+ ให้รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม
+ เปิดใจกว้าง พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
+ มีความอดทน และรู้จักให้อภัยคนอื่น เพราะทำงานกับคนหมู่มาก เป็นธรรมดาที่จะต้องมีความคิดเห็นขัดแย้ง แตกต่างกันออกไป
สัมพันธภาพที่ดี ที่อบอุ่นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันในครอบครัว เพราะหากครอบครัวของคุณมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน จะส่งผลให้สุขภาพใจของทุกคนในบ้านแข็งแรงอีกด้วย
และหากพ่อแม่ มีสัมพันธภาพที่ดีต่อลูก ๆ ก็จะทำให้พวกเขาอยากที่จะพูดคุย แบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตให้เราฟัง และเมื่อเกิดอะไรขึ้นไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์ ทุกคนก็จะนึกถึงบ้านเป็นสถานที่แรกเสมอ
กลับกันหากครอบครัวไหนมีสัมพันธภาพในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร ก็จะส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนในบ้านเป็นลำดับแรก ๆ ทุกคนในบ้านก็คงจะไม่ค่อยอยากที่จะอยู่บ้าน และพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้ออกไปอยู่ข้างนอก และหากไม่จำเป็นจริง ๆ บ้านคงเป็นสถานที่สุดท้ายที่จะเลือกกลับมาเยือนใช่มั้ยล่ะคะ
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ครอบครัวของคุณเองมีสัมพันธภาพที่ดี ที่อบอุ่น วันนี้เราจึงได้นำเอา 5 วิธี ที่จะช่วยทำให้สัมพันธภาพของคนในครอบครัวดี และอบอุ่นยิ่งขึ้นมาฝากกันค่ะ
ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง...
4 วิธี การสร้างสัมพันธภาพที่อบอุ่นในครอบครัว
1. เอาใจใส่กันเสมอ
หากคุณพ่อคุณแม่เอาใจใส่ ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเสมอ
ไม่ปล่อยปละละเลยกัน เวลาไม่เข้าใจกันก็คุยกันด้วยเหตุผล ยอมรับข้อเสีย และยอมปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็จะช่วยให้ความมั่นคงด่านแรกของครอบครัวแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
แต่หากครอบครัวไหน คุณพ่อคุณแม่ไม่ดูแลเอาใจใส่กัน ทะเลาะเบาะแว้ง และไม่มีใครยอมใคร ความสัมพันธ์ด่านแรกก็ถือว่าสั่นคลอนไปมากกว่าครึ่งแล้วใช่ไหมละค่ะ และหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ในวันนึงชีวิตคู่ของคุณพ่อคุณแม่ครอบครัวนี้ ก็อาจจะมาถึงจุดแตกหักก็เป็นได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่ดีแน่
ครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันจะส่งผลให้เด็ก ๆ เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัย รู้สึกว่าพวกเขาได้รับความรักความอบอุ่นไม่มากพอ หรือคิดว่าตัวเองไม่ได้รับมัน สิ่งนี้เองจะเป็นรอยร้าวรอยใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในจิตใจของทุกคนในบ้าน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการมีสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวอย่างแน่นอน
2. ความเข้าใจ
การที่สมาชิกแต่ละคนในบ้านพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกนึกคิด นิสัย ตัวตน และความต้องการของกันและกัน และค่อย ๆ ปรับจูนหาตรงกลางที่พอดีสำหรับทุกคนในบ้าน หาจุดที่ทำให้ทุกคนได้ทำ ได้เป็น
ในสิ่งที่ต้องการภายใต้ขอบเขตที่ทุกคนในบ้านยอมรับได้
รับฟังความคิดเห็นของกัน และกัน เข้าใจ และคอยให้กำลังใจกันอยู่เสมอ สิ่งนี้จะช่วยสร้าง และเชื่อมโยงสายใยแห่งความผูกพัน เชื่อใจ และความรักของคนในครอบครัวให้เข้ามาผูกกันอย่างแน่นแฟ้น และมั่นคงมากยิ่งขึ้น
3. การพูด
การพูดที่จะช่วยทำให้สัมพันธภาพของคนในครอบครัวดี และอบอุ่นมากยิ่งขึ้นคือการพูดคุยด้วยความให้เกียรติซึ่งกัน และกัน คอยถามสารทุกข์สุบดิบกันอยู่เสมอ เมื่อใครทำสิ่งไหนได้ดี
หรือประสบความสำเร็จในการทำอะไรก็คอยพูดชื่นชม หรือหากใครทำบางสิ่งที่ผิดพลาดล้มเหลวก็ค่อยปลอบโยน คอยสอนสิ่งที่ถูกต้อง และคอยให้กำลังใจกันอยู่เสมอ
4. ใช้เวลาร่วมกัน
พยายามหาเวลาในแต่ละวันให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างน้อยในหนึ่งวันก็ควรจะมีเวลาสักหนึ่งช่วงที่ถือเป็นเวลาครอบครัว ที่คนในบ้านจะได้มารวมตัวกัน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือสิ่งที่ได้พบเจอมาในแต่ละวันให้กันฟัง
การทำแบบนี้ทุกคนในบ้านก็จะได้รู้ความเป็นไปของกัน และกัน เป็นการสร้างความสนิทสนม ความไว้เนื้อเชื่อระหว่างกัน ให้มีมากยิ่งขึ้น และแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เมื่อทุกคนในบ้านสนิทใจกัน เชื่อใจกัน พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ก็จะทำให้เวลาเด็ก ๆ หรือคนในบ้านมีปัญหา หรือเรื่องที่ไม่สบายใจ ก็จะเลือกมาปรึกษากับคนในครอบครัวมากกว่าจะไปปรึกษาเพื่อน หรือไปลองผิดลองถูกเองคนเดียว
และนี่ก็คือสิ่งสำคัญ 4 อย่างที่ทุกคนในครอบครัวควรทำ เพื่อที่จะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีสัมพันธภาพที่อบอุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนื้ ทางสถาบันก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณไม่มากก็น้อยนะคะ
ที่ BrainFit
เรามีคอร์สฝึกสมองทุกด้านทั้งแบบฝึกที่สถาบัน และแบบออนไลน์ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานสมองที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะด้านการเคลื่อนไหว การมอง การฟัง สมาธิ รวมถึงเรื่องอารมณ์ ให้พวกเขามีสมองที่แข็งแรงพร้อมเรียนรู้ และต่อยอดสิ่งต่าง ๆ ในอนาคต
คอร์สปิดเทอม เดือน ตุลาคม 2565
------------------
ติดต่อทดลองเรียน ฟรี!
02-656-9938 / 02-656-9939 / 02-656-9915
091-774-3769
LINE: @brainfit_th
อ้างอิง: 40plus.posttoday.com